คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ทำไมซองกระสุนปืนยิงแบบกลส่วนใหญ่มักทำแบบใส่กระสุนไม่เกิน 30 นัด สังเกตไม่ว่าปืนกลมือหรือไรเฟิลจู่โจม ซองกระสุนแบบใส่ด้านล่างส่วนใหญ่มักทำกัน 30 นัด ถ้าจะทำซองใส่เกินกว่านั้นทำได้มั้ย ?
ตอบ ปืนไรเฟิลจู่โจม ส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้กระสุนขนาด 5.56 × 45 มม. nato เป็นหลัก
และใช้ " STANAG magazine" เป็นหลัก เนื่องจาก มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุด
ซึ่งมีขนาดบรรจุ 20 นัด , 30 นัด , 40 นัด และ 50 นัด
และมี ขนาดบรรจุ 100 นัด " Drum magazin " และ 60 นัด " Casket magazin "
" STANAG " หรือชื่อเต็ม " Standardization Agreement " คือข้อตกลงร่วมกันที่จะใช้อาวุธ
สัญญาณการสื่อสาร และอุปกรณ์มาตรฐานเดียวกันเพื่อให้ประเทศต่างๆสามารถช่วยเหลือสนับสนุนแก่สมาชิกได้ง่ายขึ้น
ซึ่ง ปืนไรเฟิลจู่โจมมากกว่า 80 % ทั่วโลก จะสามารถใช้ STANAG magazine ได้
แม้ไม่ใช่ชาติพันธมิตร หรือสมาชิก NATO ก็มีการใช้ เพราะเหตุผลในเรื่องการหายุทธปัจจัยทดแทนในสงคราม
ที่เจ้าของกระทู้ถามมาว่า ทำไมส่วนใหญ่มักทำแบบใส่กระสุนไม่เกิน 30 นัด
ก็เพราะเหตุผลทางด้านน้ำหนัก ความคล่องตัว ไปจนถึงขีดจำกัดของการเกิดการ Cooking off
เพราะหากเกินนี้ น้ำหนักจะมากเกินขีดจำกัดความคล่องตัวของภารกิจของทหารราบ
และมีโอกาสเกิด Cooking off ในอาวุธประจำกาย
อีกทั้งจากการทดสอบของของ NATO แม็กกาซีนขนาด 30 นัด
มีความเหมาะสมแก่การเป็นอาวุธประจำกายมากที่สุด
และที่ถามว่า ถ้าจะทำซองใส่เกินกว่านั้นทำได้มั้ย
ตอบว่าทำได้ครับ ตามด้านบน แม็กกาซีน มีขนาดบรรจุ 20 นัด , 30 นัด
40 นัด และ 50 นัด ไปจนถึง 100 นัด แล้วแต่ภารกิจนั้นๆว่าต้องการขนาดไหน
พันโทโอม
ตอบ ปืนไรเฟิลจู่โจม ส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้กระสุนขนาด 5.56 × 45 มม. nato เป็นหลัก
และใช้ " STANAG magazine" เป็นหลัก เนื่องจาก มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุด
ซึ่งมีขนาดบรรจุ 20 นัด , 30 นัด , 40 นัด และ 50 นัด
และมี ขนาดบรรจุ 100 นัด " Drum magazin " และ 60 นัด " Casket magazin "
" STANAG " หรือชื่อเต็ม " Standardization Agreement " คือข้อตกลงร่วมกันที่จะใช้อาวุธ
สัญญาณการสื่อสาร และอุปกรณ์มาตรฐานเดียวกันเพื่อให้ประเทศต่างๆสามารถช่วยเหลือสนับสนุนแก่สมาชิกได้ง่ายขึ้น
ซึ่ง ปืนไรเฟิลจู่โจมมากกว่า 80 % ทั่วโลก จะสามารถใช้ STANAG magazine ได้
แม้ไม่ใช่ชาติพันธมิตร หรือสมาชิก NATO ก็มีการใช้ เพราะเหตุผลในเรื่องการหายุทธปัจจัยทดแทนในสงคราม
ที่เจ้าของกระทู้ถามมาว่า ทำไมส่วนใหญ่มักทำแบบใส่กระสุนไม่เกิน 30 นัด
ก็เพราะเหตุผลทางด้านน้ำหนัก ความคล่องตัว ไปจนถึงขีดจำกัดของการเกิดการ Cooking off
เพราะหากเกินนี้ น้ำหนักจะมากเกินขีดจำกัดความคล่องตัวของภารกิจของทหารราบ
และมีโอกาสเกิด Cooking off ในอาวุธประจำกาย
อีกทั้งจากการทดสอบของของ NATO แม็กกาซีนขนาด 30 นัด
มีความเหมาะสมแก่การเป็นอาวุธประจำกายมากที่สุด
และที่ถามว่า ถ้าจะทำซองใส่เกินกว่านั้นทำได้มั้ย
ตอบว่าทำได้ครับ ตามด้านบน แม็กกาซีน มีขนาดบรรจุ 20 นัด , 30 นัด
40 นัด และ 50 นัด ไปจนถึง 100 นัด แล้วแต่ภารกิจนั้นๆว่าต้องการขนาดไหน
พันโทโอม
แสดงความคิดเห็น
ทำไมซองกระสุนปืนยิงแบบกลส่วนใหญ่มักทำแบบใส่กระสุนไม่เกิน 30 นัด