คือเห็นกระแสดราม่ากันเหลือเกิน กับนนท์-ธีร์
เลยมีอยากเล่าให้ฟังเพราะผมเคยมีเหตุการณ์ประมาณนี้
สมัยผมเรียนมหาวิทยาลัย ตอนปี 2 ผมเริ่มสนิทกับเพื่อนผู้ชายคนนึง สมมุติว่าชื่อเจละกัน
อาจจะเพราะเราชอบเล่นเกมส์เหมือนกัน อยู่หอเดียวกันและเรียนคณะเดียวกัน
เลยสนิทกัน หลังเลิกเรียนก็มาตีปังย่า(เกมส์กอล์ฟออนไลน์) เขาเลยชวนเล่นด้วยกัน หลังๆมาก็จะมีอีกคนมาเล่นด้วย ซึ่งคือน้องของเจ สมมุติว่าชื่อ เค
ก็เล่นไปด้วยกันนานๆก็เริ่มสนิทกันครับ ก็แซวกันสนุกสนาน เห้ยกากวะ นู้บวะ เทพวะ อะไรแบบนี้ตามภาษาเด็กเกรียนติดเกมส์ ก็เฮฮากันไป
อ่อลืมบอกไป ผมเป็นเกย์นะครับแต่ชีวิตจริงผมไม่เปิดเผย เพื่อนๆก็ไม่รู้
ทีนี้ตอนปิดเทอม เจ้าเคมันก็มาอยู่ที่หอไอ้เจ ที่หอผมเนี่ยใช้เน็ตwifi คือ 3วันดี 4วันร้าย เวลาเน็ตเน่าก็บ่นกัน ชวนกันไปเล่นร้านเกมส์ใต้หอ
ทีนี้เจ้าเคมันดุเหมือนเริ่มติดผมมากเลยนะ แบจะไปกินข้าวก็โทรชวนผม กลางคืนก็โทรชวนให้ผมไปนอนห้องมัน(ที่หอมีโทรศัพท์ภายใน) มันให้ไอ้เจโทรมาชวนผม พอผมตกลงจะไปนอนด้วยมันก็เฮเสียงลั่นเลย ตอนนั้นผมก็งงๆว่ามันเป็นรึเกย์รึเปล่า ตอนนั้นมันอายุ 16 แตกเนื้อหนุ่มเปรี๊ยะๆเลยละ
แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดเหมือนน้องคนนึง ตอนไปนอนมันก็บอกพี่...กลางคืนระวังผมกอดนะครับ ผมติดหมอนข้าง ปรากฏว่าตอนหลับกลางคืนตื่นมามันนอนกอดผมอยู่จริงๆด้วย คือตอนนั้นจากไม่คิดอะไรเริ่มจะคิดแล้วละ 555+ อ่อลืมบอกว่าที่ห้องไอ้เจเนี่ยมันเป็นห้องที่มีเตียงคู่นะครับ
แต่มันอยู่คนเดียว เพราะพ่อไอ้เจอยู่จังหวัดถัดไปจากที่มหาวิทยาลัยอยู่ พ่อมันเป็นทหารยศนายพัน พ่อกับแม่ไอ้เจก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ
แต่เจมันเคยเล่าให้ฟังว่ามันไม่ค่อยถูกกับพ่อมันเท่า เพราะพ่อมันออกแนวเผด็จการ กลับมาถึงก็สั่งๆด่าๆ ทุกคนในบ้าน
คือมันมาอยู่ประมาณ 2เดือนกว่าๆนะครับ ช่วงปิดเทอมใหญ่ ไปกินข้าวด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน
เล่นถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ที่ผมนอนหลับอยู่ เจ้าเคมันอาบน้ำเสร็จมันก็เดินออกมา เอาหมอนมาตีผม พี่ตื่นอาบน้ำไปเล่นเกมส์กัน
มันออกขี้อ้อนหน่อยนะครับ อาจจะเพราะเป็นน้องคนสุดท้อง หลังๆนี่เล่นเอาหมอนตีกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงนี่เรื่องปกติเลยครับ
ยิ่งอยู่ด้วยกันความสงสัยผมที่คิดว่ามันเป็นเกย์ก็ลดลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่มันติดผมยังกับอะไรดี นอนกอดผมทุกคืน
แต่พอได้ฟังชีวิตมันแล้วน่าสงสารครับ เป็นเด็กขาดความอบอุ่นทั้งๆที่มีพ่อแม่ครบ
พ่อก็ทะเลาะกับแม่ตลอด มันบอกมันพยายามไม่กลับบ้าน เลิกเรียนมาก็ไปเล่นบอล กลับมาก็เข้าห้องเล่นเกมส์
แต่เจอพ่อด่าทุกวัน ปิดเทอมมันเลยมาอยู่ที่หอไอ้เจตลอดเลย กลายเป็นว่าพอมันมาผมก็ต้องไปนอนที่หอไอ้เคทุกคืน
เป็นแบบนี้จนผมจบมหาวิทยาลัยเลย
ผมจบมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เจ้าเคมันก็โทรมาปรับทุกข์บ่อยๆ ล่าสุดที่โทรมาเพราะว่าโดนรีไทน์
กลับไปบ้านก็พ่อด่าเช้าด่าเย็นจนต้องหนีออกจากบ้าน ไอ้เจก็โทรหาผมว่าช่วยคุยกับน้องมันหน่อย
เพราะตอนนี้มันไม่ฟังใครแล้ว กำลังจะโทรไปพอดี เจ้าเคก็โทรมายืมตัง 500 ผมบอกว่าตังน่ะให้ได้
แต่ทำอะไรผิดต้องไปแก้ไขให้ถูก และก็ไปขอโทษที่บ้านด้วยที่ทำให้เขาผิดหวัง มันก็รับปาก
ผ่านไปพักนึงมันบอกว่ามันจะบวช ผมต้องไปงานบวชมันให้ได้ ก็โอเคปิดร้านไปงานบวช
ตอนนี้มันลาสิกขาออกมาแล้ว กำลังเรียนปี 1 ใหม่อยู่ เห็นบอกจะตั้งใจเรียน
ทำไมผมเล่าเรื่องต่างๆเยอะแยะ เพราะผมอยากบอกว่าชีวิตจริงคนเราบางทียิ่งกว่าละคร
สัปดาห์ที่แล้วผมด่าทีมงานไปเยอะนะ แต่สัปดาห์นี้พอฟังเหตุผลผมก็นึกถึงเจ้าเคเลย
แม้ว่าบางอย่างทีมงานคนเขียนบทจะใส่บทเว่อร์เพื่อจงใจให้คนเข้าใจผิดก็ตาม
อย่างนั่งมองหน้าแล้วยิ้ม การถึงเนื้อถึงตัวทั้งๆที่รู้ว่าธีร์เป็นเกย์ การวาดภาพมุ้งมิ้งระหว่างผู้ชาย ซึ่งยอมรับว่ามันไม่ใช่
แต่ผมอินกับการแสดงของนนท์นะ นนท์ส่งอารมณ์ได้ดีมากๆ ส่วนบทไปโทษคนเขียนบทเถอะครับ
อย่าอินจนแยกแยะไม่ออก แล้วพาลไปบอกว่าจะไม่ติดตามผลงานของแบงค์ แยกให้ออก ละครกับชีวิตจริง
ฝากไว้เท่านี้แหละครับ
จากกรณี ธีร์-นนท์ ผมมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง
เลยมีอยากเล่าให้ฟังเพราะผมเคยมีเหตุการณ์ประมาณนี้
สมัยผมเรียนมหาวิทยาลัย ตอนปี 2 ผมเริ่มสนิทกับเพื่อนผู้ชายคนนึง สมมุติว่าชื่อเจละกัน
อาจจะเพราะเราชอบเล่นเกมส์เหมือนกัน อยู่หอเดียวกันและเรียนคณะเดียวกัน
เลยสนิทกัน หลังเลิกเรียนก็มาตีปังย่า(เกมส์กอล์ฟออนไลน์) เขาเลยชวนเล่นด้วยกัน หลังๆมาก็จะมีอีกคนมาเล่นด้วย ซึ่งคือน้องของเจ สมมุติว่าชื่อ เค
ก็เล่นไปด้วยกันนานๆก็เริ่มสนิทกันครับ ก็แซวกันสนุกสนาน เห้ยกากวะ นู้บวะ เทพวะ อะไรแบบนี้ตามภาษาเด็กเกรียนติดเกมส์ ก็เฮฮากันไป
อ่อลืมบอกไป ผมเป็นเกย์นะครับแต่ชีวิตจริงผมไม่เปิดเผย เพื่อนๆก็ไม่รู้
ทีนี้ตอนปิดเทอม เจ้าเคมันก็มาอยู่ที่หอไอ้เจ ที่หอผมเนี่ยใช้เน็ตwifi คือ 3วันดี 4วันร้าย เวลาเน็ตเน่าก็บ่นกัน ชวนกันไปเล่นร้านเกมส์ใต้หอ
ทีนี้เจ้าเคมันดุเหมือนเริ่มติดผมมากเลยนะ แบจะไปกินข้าวก็โทรชวนผม กลางคืนก็โทรชวนให้ผมไปนอนห้องมัน(ที่หอมีโทรศัพท์ภายใน) มันให้ไอ้เจโทรมาชวนผม พอผมตกลงจะไปนอนด้วยมันก็เฮเสียงลั่นเลย ตอนนั้นผมก็งงๆว่ามันเป็นรึเกย์รึเปล่า ตอนนั้นมันอายุ 16 แตกเนื้อหนุ่มเปรี๊ยะๆเลยละ
แต่เราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ คิดเหมือนน้องคนนึง ตอนไปนอนมันก็บอกพี่...กลางคืนระวังผมกอดนะครับ ผมติดหมอนข้าง ปรากฏว่าตอนหลับกลางคืนตื่นมามันนอนกอดผมอยู่จริงๆด้วย คือตอนนั้นจากไม่คิดอะไรเริ่มจะคิดแล้วละ 555+ อ่อลืมบอกว่าที่ห้องไอ้เจเนี่ยมันเป็นห้องที่มีเตียงคู่นะครับ
แต่มันอยู่คนเดียว เพราะพ่อไอ้เจอยู่จังหวัดถัดไปจากที่มหาวิทยาลัยอยู่ พ่อมันเป็นทหารยศนายพัน พ่อกับแม่ไอ้เจก็จะมาเยี่ยมบ่อยๆ
แต่เจมันเคยเล่าให้ฟังว่ามันไม่ค่อยถูกกับพ่อมันเท่า เพราะพ่อมันออกแนวเผด็จการ กลับมาถึงก็สั่งๆด่าๆ ทุกคนในบ้าน
คือมันมาอยู่ประมาณ 2เดือนกว่าๆนะครับ ช่วงปิดเทอมใหญ่ ไปกินข้าวด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน
เล่นถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ที่ผมนอนหลับอยู่ เจ้าเคมันอาบน้ำเสร็จมันก็เดินออกมา เอาหมอนมาตีผม พี่ตื่นอาบน้ำไปเล่นเกมส์กัน
มันออกขี้อ้อนหน่อยนะครับ อาจจะเพราะเป็นน้องคนสุดท้อง หลังๆนี่เล่นเอาหมอนตีกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงนี่เรื่องปกติเลยครับ
ยิ่งอยู่ด้วยกันความสงสัยผมที่คิดว่ามันเป็นเกย์ก็ลดลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่มันติดผมยังกับอะไรดี นอนกอดผมทุกคืน
แต่พอได้ฟังชีวิตมันแล้วน่าสงสารครับ เป็นเด็กขาดความอบอุ่นทั้งๆที่มีพ่อแม่ครบ
พ่อก็ทะเลาะกับแม่ตลอด มันบอกมันพยายามไม่กลับบ้าน เลิกเรียนมาก็ไปเล่นบอล กลับมาก็เข้าห้องเล่นเกมส์
แต่เจอพ่อด่าทุกวัน ปิดเทอมมันเลยมาอยู่ที่หอไอ้เจตลอดเลย กลายเป็นว่าพอมันมาผมก็ต้องไปนอนที่หอไอ้เคทุกคืน
เป็นแบบนี้จนผมจบมหาวิทยาลัยเลย
ผมจบมหาวิทยาลัยแล้ว แต่เจ้าเคมันก็โทรมาปรับทุกข์บ่อยๆ ล่าสุดที่โทรมาเพราะว่าโดนรีไทน์
กลับไปบ้านก็พ่อด่าเช้าด่าเย็นจนต้องหนีออกจากบ้าน ไอ้เจก็โทรหาผมว่าช่วยคุยกับน้องมันหน่อย
เพราะตอนนี้มันไม่ฟังใครแล้ว กำลังจะโทรไปพอดี เจ้าเคก็โทรมายืมตัง 500 ผมบอกว่าตังน่ะให้ได้
แต่ทำอะไรผิดต้องไปแก้ไขให้ถูก และก็ไปขอโทษที่บ้านด้วยที่ทำให้เขาผิดหวัง มันก็รับปาก
ผ่านไปพักนึงมันบอกว่ามันจะบวช ผมต้องไปงานบวชมันให้ได้ ก็โอเคปิดร้านไปงานบวช
ตอนนี้มันลาสิกขาออกมาแล้ว กำลังเรียนปี 1 ใหม่อยู่ เห็นบอกจะตั้งใจเรียน
ทำไมผมเล่าเรื่องต่างๆเยอะแยะ เพราะผมอยากบอกว่าชีวิตจริงคนเราบางทียิ่งกว่าละคร
สัปดาห์ที่แล้วผมด่าทีมงานไปเยอะนะ แต่สัปดาห์นี้พอฟังเหตุผลผมก็นึกถึงเจ้าเคเลย
แม้ว่าบางอย่างทีมงานคนเขียนบทจะใส่บทเว่อร์เพื่อจงใจให้คนเข้าใจผิดก็ตาม
อย่างนั่งมองหน้าแล้วยิ้ม การถึงเนื้อถึงตัวทั้งๆที่รู้ว่าธีร์เป็นเกย์ การวาดภาพมุ้งมิ้งระหว่างผู้ชาย ซึ่งยอมรับว่ามันไม่ใช่
แต่ผมอินกับการแสดงของนนท์นะ นนท์ส่งอารมณ์ได้ดีมากๆ ส่วนบทไปโทษคนเขียนบทเถอะครับ
อย่าอินจนแยกแยะไม่ออก แล้วพาลไปบอกว่าจะไม่ติดตามผลงานของแบงค์ แยกให้ออก ละครกับชีวิตจริง
ฝากไว้เท่านี้แหละครับ