ค่าทำ CG ในหนัง ทำไมถึงแพง แพงเพราะค่าจ้างคนทำ หรือเพราะเทคโนโลยี่ หรือเพราะโปรแกรมอ่ะ

คือแบบดูในหนังบางเรื่อง ซีจี บางเรื่องก็ไม่เหมือนเลย แต่บางเรื่องก็เหมือนจริงมาก
เค้าบอกว่าค่าทำซีจี แพงมากก เลยสงสัยว่าแพงเพราะอะไร
ค่าจ้างความสามารถของคนทำ
เทคโนโลยี่ต่างๆ หรือเพราะโปรแกรม
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
แน่นอนครับ แต่ละบริษัทมีต้นทุนในด้านต่างๆ
ทั้ง Software, Hardware, และบุคคล

ลองดู VFX Breakdown ดูนะครับ ว่าในแต่ละเรื่องเค้าต้องทำขั้นตอนไหนบ้าง


เอางี้ ผมจะเล่าคร่าวๆนะครับ Process ของงาน CG นะครับ

แรกเริ่มจากการรับบรีฟงาน ดูสตอรี่บอร์ด ว่าต้องมีการสร้างงานอะไรขึ้นบ้างในช็อตที่ทำงาน
สมมติว่า เป็นฉากเรือเดินสมุทรเจอกับพายุอย่างหนักและกำลังจะล่ม แบบใน Life of pi นะครับ

มาดูสิ่งที่ต้องทำกันนะครับ

1 แน่นอนต้องมี Model เรือเดินสมุทร (ซึ่งต้องมีรายละเอียดของสิ่งของ และสัดส่วนในการทำเยอะมาก เหมือนคุณต้องทำโมเดลเรือของจริงน่ะแหละครับ ใน CG ก็ยากและใช้เวลาไม่ต่างกัน) ซึ่งจะถูกปั้นขึ้นมาโดย Modeller ที่จะมีหน้าที่ขึ้นโมเดลอย่างเดียว ในProcess ก็จะมีการทำ และปรับแก้ให้สมบูรณ์ขึ้น จนออกมาเป็น Model ที่สมจริง ซึ่งก็ใช้เวลาไม่น้อยเลย

2 นอกจากโมเดลแล้ว ก็ต้องมีน้ำทะเลใช้มั้ยครับ น้ำทะเลทั้งหมดที่เห็นในหนัง หรือกว่า 90% นั่นแหละ ถูก Generate ออกมาจากโปรแกรม CG ครับ ซึ่งในการทำงานของโปรแกรม CG มันคงจะไม่ได้ง่ายเพียงคลิกเมาส์ไม่กี่ครั้ง โปรแกรมพวกนี้ ทำงานด้วยการ Coding นะครับ คล้ายการเขียนโปรแกรม ต้องสั่งงานมันด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ และทำงานตามหลัก Physic เพื่อสร้างสิ่งต่างๆ ให้ออกมาสมจริง อย่างน้ำ ก็ต้องมีการ R&D ว่าจะมีน้ำส่วนไหนบ้าง น่ำที่เป็นพื้นมหาสมุทร ถูกแรงลมทำให้เคลื่อนไหว น้ำที่เป็นละอองกระจายออกมาจากเรือ น้ำที่จะเกิดฟองจากการเคลื่อนไหวของวัตถุ ฝนที่ตกลงมาจากฟ้า ฯลฯ แต่ละขั้นตอนก็ต้องบใช้เวลา เพื่อเลือกสิ่งที่จะทำให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุด

3 สมมตินะครับว่าหลักๆเรามีสองอย่างนี้ หลังจากได้ Model และ น้ำ มา
ก็ต้องส่งงานมาที่อีกฝ่ายก็คือ SLR ย่อมาจาก Shading Lighting Rendering การทำงานก็ตามชื่อครับ
3.1 เริ่มจาก Shading คือการทำพื้นผิวของ Model ให้เกิด สี ลาย รอยขีดข่วน ชื่อเรือ ส่วนใหนเป็นโลหะ ส่วนไหนเป็นทองคำ ส่วนไหนเป็นพลาสติก ก็จะต้องมาใส่ในจุดนี้ ลองคิดเล่นๆครับว่าในเรือลำที่เรายกตัวอย่างมาเมื่อกี๊ จะมีรายละเอียดพวกนี้เยอะขนาดไหน ปุ่มทุกปุ่ม เหล็กทุกแผ่น น็อตทุกตัว ทั้งหมดก็ต้องทำ Shading และ texture เพื่อความสวยสมจริง หรือแม้แต่สี ฟอง การสะท้องแสงของน้ำ

3.2 พอผ่านการทำ Shading มาเสร็จเรียบร้อยก็ต้องมาทำการจัดแสงสำหรับโมเดล ให้มีทิศทางแสงที่สมจริง (ยิ่งเป็นฉากที่ต้องเอาไปรวมกับfootage ที่ถ่ายมาจริง ความสมบูรณ์ของแสงที่จะต้องเหมือนกัน เป็นสิ่งสำคัญมาก) ซึ่งก็ต้องมีการ R&D อีกเช่นกันกว่าจะได้แสงที่สมบูรณ์ลงตัว

3.3 Rendering การ Renderingในการทำงาน CG จริงๆ ก็ไม่ใช่แค่การกด Render แล้วก็ไปแอบนอนสบายใจ แต่ต้องตั้งค่าในการ Render เพื่อให้ผลลัพท์ออกมาดีที่สุด และยังต้อง render แยกออกมาเป็นส่วนๆ สี,แสง,เงา,เงาสะท้อน,พื้นผิว,เงาตามซอก ฯลฯ อีกหลายอันครับ

4 พอเราได้ไฟล์จากการ render มา ก็จะมาสู้หน้าที่ของการ Composite ก็คือการรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทุกอย่างที่เรา render มาจะถูกรวมเข้าด้วยกัน และรวมกับ Footage ที่ถ่ายมา (ซึ่งต้องผ่านการ Keying มาก่อน เหมือนที่เห็นเราถ่ายกันบน Green Screen ) ขั้นตอนนี้ก็เป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญมากๆ ที่จะทำให้หนังออกมาสมจริงหรือเปล่า คนที่จะทำแล้วเหมือนจริงหรือไม่เหมือน ก็อยู่ที่ประสบการณ์ด้วย

สมมนะครับว่ามีแค่ 4 ขั้นตอนนี้ เห็นอะไรมั้ยครับ ว่าหน้าที่แต่ละอย่าง เป็นงานศิลปะชนิดหนึ่ง ต้องใช้ฝีมือที่ฝึกฝนมา จนกว่าจะสามารถทำได้ และแน่นอนย่อมต้องมีต้นทุน การเรียน การศึกษา เครื่องมือที่ใช้ และอีกหลายๆอย่าง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ภายในวันหรือสองวัน เหมือนกับคุณไม่สามารถเป็นวิศวะกร หรือหมอ ได้ภายในวันหรือสองวัน งานประเภทนี้เค้าเรียกว่างานวิชาชีพครับ คนทำ CG เก่งๆ ก็เหมือนกับ ศัลยแพทย์เก่งๆ หรือวิศวกรเก่งๆ

และในหนัง 1 shot ในแต่ละตำแหน่ง ไม่ได้ใช้คนแค่คนเดียว สองคน หรือสามคนครับ ใช่ตั้งแต่สิบขึ้นไปจนถึงร้อยด้วยซ้ำบวกกับระยะเวลาทำงาน หลายเดือนถึงเป็นปี

อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับ ว่า ต้ำทุนเกิดจาก Hardware Software และ บุคคล

ทีนี้มาดูที่ Hardware กันหน่อย ในบริษัทที่ทำ CG เวลา render จะไม่ได้ render จากคอมเครื่องนั้นๆที่ทำนะครับ เพราะด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาล
ย่อมต้องใช้เวลาที่มหาศาลในการ render ด้วยเช่นกัน ทีนี้ก็จะมีระบบที่เรียกว่า RENDER FARM ซึ่งเป็นการใช้หน่วยความจำและพลังงานของคอมพิวเตอร์นับร้อยเครื่อง (ตามแต่ละที่) มาช่วยในการประมวลผลของการ render ครับ เพื่อให้เวลาเร็วขึ้น และมีความเป็นไปได้ในการสร้างงานที่มากขึ้นนั่นเอง (และแน่นอนครับ ใน RENDER FARM คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง ต้องลง software ลิขสิทธิ์ ด้วยทุกเครื่องนะครับ เริ่มเห็นจำนวนที่เยอะแล้วใช่มั้ยครับ)


ตามที่ได้อธิบายมาทั้งหมด ลองนึกตามดูดีๆ จะเข้าใจครับว่างาน CG ทำไมถึงมีต้นทุนสูง
ความคิดเห็นที่ 23
อ่านแล้วของขึ้น!!!!!!!

ใน งาน CG ของหนัง 1 ซีน ฮอลลีวูด ( 5-10 วินาที ก่อนคัด ) ประกอบด้วย
- concept art ออกแบบ ตั้งแต่ Pre production เลยเป็นไกด์ว่า ตอนจบหลังทำ CG เป็นไง
- 3d modeling high quality ใช้เวลา 2 วัน - 1 อาทิตย์
- Texture painting 1 - 2 วัน ไม่รวมแก้งาน
- rigging 2 วัน - 1 อาทิตย์
- animate 1 อาทิตย์ รวมแก้งาน เน้นงานเนียนๆ
- lighting and rendering 3-5 วัน
- mattepainting ลงดีเทล งานเทพๆใช้เวลาขั้นต่ำ 1 เดือน
- Particle หมอกควัน ระเบิด บลาๆ Experiment ให้ สวยงามเรนเดอร์กันเป็นอาทิตย์
- composite 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับแก้งานแต่ละส่วน
( ยังไม่รวม Editor และคนทำซาวประกอบจนเสร็จ เหมือนที่คนดู )
คร่าวๆ มากกว่า 10- 50 กว่าคนบางที งบเป็นหลายแสนครับ นี้ยังไม่รวมรายละเอียดอืนที่เพิ่มเข้ามาเช่น ลบเส้นผม นูนนี้นั่นอีก
คนทำกว่าจะเก่งประสบการณ์หลายปี โปรแกรมก็คนสร้างไม่ใช้คนเดียวครับ

พอเข้าไทย ทั้งหมดทั้งมวล ขอ สามวันได้ไหม ? -*- คนทำคนเดียว !!!!!!!!! พี่มีงบเท่านี้ !!!! แต่จริงๆ ตัวมันกินหัวคิวครับ
ถ้างานด่วน ก็ต้องมีเงิน ซัพพอร์ตเพื่อเสริมคนมาช่วย ทำไม่งั่น งานเละครับ
เพือนผมโดนมาแล้วครับ ลูกค้าไม่เข้าใจ ถามทำไมไม่เหมือน Ref ( เอา ref งาน ฮอลลีวูดมาอีก แจ้งแล้วว่า จะไม่เหมือนถ้าเวลาแค่นี้
เอาน่า ขอเสร็จพี่ก็แฮปปี้แล้ว -*- )
ความคิดเห็นที่ 50
ประเด็นมันคือ บ้านเรา ตีค่างานเชิงศิลป์ หรือ งาน Design ไว้ต่ำรากเลือด
ต่ำกว่าพวกทำงานออฟฟิซ ต่ำกว่างานหลายๆประเภท

เพราะอะไร ?

นักศึกษาจบใหม่ / Freelance เรียกราคาถูกแสนถูก (แล้วจะจ้างบริษัทแพงๆทำไม)
ใช้โปรแกรมได้ผิวๆ ย้ำว่าผิวๆ เรียกตัวเองว่า Designer แล้ว (นศ.ที่เรียนสายนี้กว่าจะจับโปรแกรม ต้องเรียนพื้นฐาน 1-2 ปี)

ทั้งที่งานสายนี้ เปลืองทั้งสมอง เปลืองทั้งสายตา เปลืองพลังกาย
ทำ OT ก็ไม่ได้เงิน หนีกลับก็ไม่ได้ เวลาปิดงานก็ต้องปั่นค้างคืน

แต่กลับโดนสังคมตีค่าไว้แค่ไม่เกิน 20,000 ต่อเดือน

ในขณะที่ยุโรปกับอเมริกา เค้าให้ Junior Designer จบใหม่ราวๆ 500,000-750,000 ต่อเดือน
อ่านไม่ผิดครับ หลักแสนจริงๆ (ผมฝึกงาน 3 เดือน ได้ 2 แสนกว่าๆ)

วัฒนธรรมบ้านเรามันทุเรศครับ บอกตรงๆเลย
ความคิดเห็นที่ 51
เห็นหลายๆคนตอบแล้ว ผมก็อยากจะสรุปหน่อยนะครับ
เรื่อง คห.15 นะครับ คนทำเค้าอาจจะคิดค่าแรงตัวเองแค่ 50 บาท แต่ผมจะแจงค่าใช้จ่ายให้ดูนะครับ
    1. ค่า Software Adobe After Effect ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 900/เดือน
    2. ค่า Hardward คอมที่ผมเห็นคงเป็นแบบธรรมดา ผมตีให้ 50,000
    3. ค่า Footage ที่เค้าเอามาใช้ (ทั้งหมดนะครับ) ไม่ว่าจะเป็น บะเบิด สัตว์ประหลาด กระสุน เปลวไฟ ทุกอย่างล้วนมี ลิขสิทธิ์ครับ
    4. ค่าแรง จะคิดค่าแรงตัวเองแต่ 50 ก็ไม่ว่ากันครับ
ปล. อันที่ คห.15 เอามาให้ดูนั้น เค้าเรียกว่าการ Composite ครับ พูดง่ายๆก็คือการเอาภาพ 2D จากหลายๆที่มารวมกัน (เน้นนะครับว่า เป็นภาพ 2D ที่มีคนอื่นทำไว้แล้ว)

ทีนี้มาสู้การสร้าง CG จากหนังระดับ Hollywood มีขั้นตอนดังนี้ครับ (สมมุติให้ทำ ฉาก Transformer vs. Godzilla ในเมืองไทย)
1. Concept Artist + Designer
    - ออกแบบฉาก,การต่อสู้, โทนสี, มุมกล้อง
2. Character Design
    - ออกแบบตัวละคร ท่าทาง
3. Modeler (คนที่ปั้น 3D)
    3.1 ปั้น หุ่นยนต์
        - ต้องเรียนรู้ Mechanic ปั้นมาสามารถหมุนข้อต่อได้ตรงตามความเป็นจริง
        - http://www.youtube.com/watch?v=MNKNboyddxA
    3.2 ปั้น สัตว์ประหลาด
        - ต้องเรียน กายวิภาค ศึกษาโครงสร้างของสัตว์ต่างๆ (เหมือนเรียนแพทย์เบื้องต้นเลยครับ)
        - http://www.youtube.com/watch?v=UNxLKLvYk9Q
    3.3 ปั้นเมือง ตึก รถ เสาไฟ โต๊ะ ...... เยอะมากๆๆๆๆๆๆ ทุกอย่างที่ในเมืองต้องมี
4. Rigger
    - คือคนที่นำสิ่งที่ Modeler ปั้น มาใส่กระดูก ใส่ตัวควบคุม (สรุปคือ ทำให้ หุ่น+สัตว์ประหลาด สามารถขยับได้จริง)
    - http://www.lynda.com/Maya-tutorials/Rigging-Winged-Animal-Maya/166505-2.html
5. Animator
    - ทำงานต่อจาก Rigger โดยนำวัตถุ 3D มาขยับ *(ทีล่ะเฟรม ทีล่ะเฟรม) **(1 เฟรมมีตั้งหลายที่ เช่น นิ้ว ข้อมือ ขา แขน หน้า คิ้ว ... อีกมากมายที่ต้องขยับ)
6. Shading + Textering
    - คือการสร้างพื้นผิวให้วัตถุ เหล็ก พลาสติก ผิวหนัง รอยแผลเป็น .... อีกมากมาย
7. FX ทำพวก Effect ต้องๆเช่น น้ำระเบิด ควัน
    - ต้องทำการ Research เพราะแต่ล่ะงาน ไม่เหมือนกัน
    - ต้อง เขียนโปรแกรม + รู้เรื่องเลข
    - กินทรัพยากรเครื่อง Computer อย่างมาก (ทำระเบิด คิดไป เฟรมล่ะ 1G ครับ)
    - ยกตัวอย่าง Pearl Harber ฉากที่เรือระเบิดนั้น SuperComputer คำนวนใช้เวลา 1 เดือนนะครับ
8. Lighting + Rendering
    - เอามาจัดแสง แล้วก็ Render ออกมาครับ
    - การ Render นั้นให้ CPU เป็นหลักครับ ในบริษัทใหญ่ๆนั้นมีเป็น Farm ครับ (มีเป็น 1000+ เพื่อทำการ Render)
9. Composit
    - คือการนำภาพจากที่ทำๆ มาทั้งหมดมารวมกัน
    - รวมนักแสดงที่ถ่าย GreenScreen (ฉากเขียว) ด้วย
    - Composit คืองานละเอียดครับ ละครไทย หนังไทย บางที เอาฉากเขียวออก ผมหายไปตั้งเหอะ แต่งานฝรั่ง ถ้าเส้นผมหายไปเส้นเดียวดังโดนด่าเลยครับ

ในที่สุดได้มา 1 ฉากแล้ว เย่ แต่!!! ข้อ 1-9 ไม่ได้ใช้แค่คนเดียวทำนะครับ หนังฝรั่งใช้กันเป็นหลัก 100 ต่อตำแหน่ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่