เรื่องนี้อยากจะแชร์ให้เป็นอุทาหรณ์ของทุกๆคนที่ใช้บริการที่ Fitness first ค่ะ โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นกับพี่ที่ทำงาน แต่พอดีพี่เค้าไม่มีไอดีพันทิป เลยฝากมาแชร์ค่ะ ส่วน จขกท ก็เป็นสมาชิกที่ fitness first เหมือนกัน ซึ่งก็เคยเจอความไม่เป็นมืออาชีพเหมือนกันค่ะ
ผมไปใช้บริการ Fitness first ที่สาขาเดอะมอลลบางกะปิ เวลาประมาณ17:30 ถึงเวลา 19.45 น วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2557 หลังจากแต่งตัวเพื่อที่จะกลับบ้านพบว่าสร้องคอทองคำ 3 บาทและพระเครื่อง 2 องค์ ซึ่งเป็นหลวงปู่ทวด และ พระคง ได้หายไป ตรวจสอบพบว่าล็อกเกอร์โดนงัด หลังจากเหตุเกิด จนท. ฟิตเนส ได้พาผมไปแจ้งความแล้วกับร้อยเวรที่ สน. ลาดพร้าว โดย ร้อยเวรจะส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบในวันต่อมาเวลา 19:00 น. แล้วทางฟิตเนสไม่ยอมให้เข้าตรวจสอบโดยอ้างว่ามีคนมาใช้บริการเยอะ (เจ้าหน้าที่ที่มาใส่เครื่องแบบตำรวจ ทางฟิตเนสคงกลัวเรื่องจะดัง ) เจ้าหน้าที่เลยต้องกลับไป และจนถึงบัดนี้ ไม่มีความคืบหน้าใดใด เพราะตำรวจต้องรอ สน ลาดพร้าว ต้นเรื่องแจ้งให้พิสูจน์หลักฐานกลับมาใหม่ เจ้าหน้าที่ฟิตเนสพยายามติดต่อแต่ร้อยเวรไม่รับสาย ผมมองว่าหากฟิตเนสให้เข้าตรวจสอบเรื่องคงดำเนินต่อได้ แต่เนื่องจากเรืองดำเนินมาถึงวันนี้เกือบจะอาทิตย์นึงยังไม่มีความคืบหน้า จริงๆ ผมอยากได้ของผมคืนเพราะถือว่าเป็นของมีค่าสำหรับผม แต่ทางฟิตเนสไม่มีความจริงใจในการช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาเลย ขนาดผมขอเบอร์ติดต่อสำนักงานใหญ่ กว่าจะได้มาคุณโบ ผจก. สาขา พยายามไม่ให้เพราะอ้างว่าทุกอย่างก็จะส่งกลับมาที่ สาขาอยู่ดี แล้วผมจะได้ของคืนหรือไม่
อีกประการหนึ่งผมและเพื่อนก็ยังคงใช้บริการฟิตเนสอยู่แล้วสมาชิกจะมั่นใจในเรื่องของทรัพย์สินได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้โจรก็ยังคงวนอยู่ในกลุ่ม สมาชิก หรือ เจ้าหน้าที่ก็ได้ ส่วนเรื่องความรับผิดชอบในการรับผิดชอบค่าเสียหายซึ่งไม่คุ้มกับของที่เสียหายเลยทางฟิตเนสแจ้งว่าไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีนโยบาย ผมว่าไม่ถูกตรงที่ผมไม่ได้เอาของวางไว้เรี่ยราดนะครับ ผมเอาไว้ในล๊อกเกอร์ซึ่งผมมีความมั่นใจว่ามีความมั่นคงเพียงพอ และสามารถป้องกันทรัพย์สมบัติของสมาชิกได้
เหตุที่ผมเขียนข้อความนี้มาร้องเรียนคือผมต้องการเห็นวิธีการแก้ไขเพื่อจะได้ไม่เกิดเรืองนี้อีก และ ความรับผิดชอบทางฟิตเนสที่มีต่อลูกค้าอย่างไรบ้าง หากฟิตเนสจะดึงเรื่องไม่ชดเชย ไม่แก้ไขผมจะขออนุญาตลงในสื่อออนไลน์เพื่อเป็นอุทาหรณ์และให้สมาชิกได้ระวังตัวเองต่อไปครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 วันที่ 5 ตุลาคม2557 เวลา 20.50 :
มีคนหลังไมค์มาแจ้งเหมือนกันว่าเคยโดนที่ล๊อคเกอร์เดียวกัน สาขาเดียวกัน ห่างกันไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ
เรื่องของผมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2557 โดยผมไปถึง Fitness first ที่สาขาเดอะมอลลบางกะปิ ประมาณ 18:45 น เล่นจนถึงเวลาประมาณ 20.00 น โดยเอากระเป๋าสตางค์ใส่ไว้ในล๊อคเกอร์ หลังจากเล่นเสร็จเปิดล็อคเกอร์ดู ปรากฎว่ากระเป๋าสตางค์ได้หายไป ซึ่งพอไปแจ้งเจ้าหน้าที่ฟิตเนส เพื่อจะไปตรวจสอบล็อคเกอร์ ปรากฎว่า ล๊อคเกอร์มีคนใช้ไปแล้ว จนท. ฟิตเนส จึงบอกว่า ไม่สามารถทำไรได้ เนื่องจากมีคนใช้ล๊อคเกอร์อยู่ เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ฟิตเนสไม่ได้พยายามจะช่วยอะไร โดยบอกเพียงแต่ว่า ถ้ามีคนเจอจะแจ้งให้ทราบ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้น ผมจึงตัดสินใจโทรไปอายัติบัตรเครดิตทั้งหมดที่มีก่อน โดยให้แฟนซึ่งอยู่เชียงใหม่โทรมาสอบถามที่ฟิตเนสอีกทีนึง โดยทางฟิตเนสก็แค่ยืนยันคำเดิมว่า ถ้ามีคนเจอหรือเอามาคืนจะโทรแจ้ง แต่แฟนผมไม่ยอมจะเอาเรื่อง โดยให้เหตุผลกะทางฟิตเนสไปว่า มันหายในล๊อคเกอร์เป็นไปได้น้อยมากที่จะมีคนเอามาคืน ซึ่งผมก็มั่นใจว่ากระเป๋าสตางค์มันหายในล๊อคเกอร์แน่นอน สุดท้ายแฟนผมบอกว่าจะคุยกับผู้จัดการและให้ทางฟิตเนสหาทางออกให้ได้มากกว่าแค่บอกว่ารอคนเอามาคืน เพราะของหายในล๊อคเกอร์ ซึ่ง จนท ฟิตเนสบอกว่า ผจก ไม่อยู่ แฟนผมจึงบอกงั้นให้ ผจก โทรมาให้คำตอบ ซึ่งหลังจากวางโทรศัพท์ไปประมาณครึ่ง ชม โดยผมอายัติบัตรทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยกำลังจะไปแจ้งความ ทางฟิตเนสได้โทรกลับมาบอกว่า เจอกระเป๋าสตางค์แล้ว โดยคนใช้ล๊อคเกอร์หลังจากผมเป็นคนเอามาคืนให้ ผมจึงกลับไปเอากระเป๋าเงิน ซึ่งผมพบข้อสังเกตอีกอย่างนึง ในสมุด lost & found ที่ จนท ฟิตเนสให้ผมเซ็น มีคนของหายในล๊อคเกอร์เยอะมาก เมื่อกลับมาในรถตรวจสอบกระเป๋าเงินดูพบเงินหายไปหนึ่งพันบาท และพอมานึกย้อนหลังเรียบเรียงดูปรากฎว่า เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะลืมกระเป๋าไว้ในล๊อคเกอร์เพราะล๊อคเกอร์ไม่ได้ใหญ่มากและตอนก่อนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ผมก็หาเป็นอย่างดีแล้วว่าไม่มี ซึ่งตอนนั้นเนื่องจากผมมีเอกสารที่สำคัญกว่าเงินอยู่ในกระเป๋าเงิน เมื่อได้กระเป๋าคืนแล้วผมก็เลยไม่อยากไปเอาเรื่อง ซึ่งผมเรื่องของผมก็ประมาณนี้แหละครับ ลองไปให้ ผจก สาขา สมุด lost & found มาดูเลยครับ เรื่องของผมเกิดก่อนเจ้าของกระทู้ไม่กี่วันเองครับ แถมล๊อคเกอร์ก็เบอร์เดียวกันด้วย
ขอแรงโหวตเป็นกระทู้แนะนำ ของหายในล๊อคเกอร์ที่ Fitness first แต่ทางฟิตเนสไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น!!!!
ผมไปใช้บริการ Fitness first ที่สาขาเดอะมอลลบางกะปิ เวลาประมาณ17:30 ถึงเวลา 19.45 น วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2557 หลังจากแต่งตัวเพื่อที่จะกลับบ้านพบว่าสร้องคอทองคำ 3 บาทและพระเครื่อง 2 องค์ ซึ่งเป็นหลวงปู่ทวด และ พระคง ได้หายไป ตรวจสอบพบว่าล็อกเกอร์โดนงัด หลังจากเหตุเกิด จนท. ฟิตเนส ได้พาผมไปแจ้งความแล้วกับร้อยเวรที่ สน. ลาดพร้าว โดย ร้อยเวรจะส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบในวันต่อมาเวลา 19:00 น. แล้วทางฟิตเนสไม่ยอมให้เข้าตรวจสอบโดยอ้างว่ามีคนมาใช้บริการเยอะ (เจ้าหน้าที่ที่มาใส่เครื่องแบบตำรวจ ทางฟิตเนสคงกลัวเรื่องจะดัง ) เจ้าหน้าที่เลยต้องกลับไป และจนถึงบัดนี้ ไม่มีความคืบหน้าใดใด เพราะตำรวจต้องรอ สน ลาดพร้าว ต้นเรื่องแจ้งให้พิสูจน์หลักฐานกลับมาใหม่ เจ้าหน้าที่ฟิตเนสพยายามติดต่อแต่ร้อยเวรไม่รับสาย ผมมองว่าหากฟิตเนสให้เข้าตรวจสอบเรื่องคงดำเนินต่อได้ แต่เนื่องจากเรืองดำเนินมาถึงวันนี้เกือบจะอาทิตย์นึงยังไม่มีความคืบหน้า จริงๆ ผมอยากได้ของผมคืนเพราะถือว่าเป็นของมีค่าสำหรับผม แต่ทางฟิตเนสไม่มีความจริงใจในการช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาเลย ขนาดผมขอเบอร์ติดต่อสำนักงานใหญ่ กว่าจะได้มาคุณโบ ผจก. สาขา พยายามไม่ให้เพราะอ้างว่าทุกอย่างก็จะส่งกลับมาที่ สาขาอยู่ดี แล้วผมจะได้ของคืนหรือไม่
อีกประการหนึ่งผมและเพื่อนก็ยังคงใช้บริการฟิตเนสอยู่แล้วสมาชิกจะมั่นใจในเรื่องของทรัพย์สินได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้โจรก็ยังคงวนอยู่ในกลุ่ม สมาชิก หรือ เจ้าหน้าที่ก็ได้ ส่วนเรื่องความรับผิดชอบในการรับผิดชอบค่าเสียหายซึ่งไม่คุ้มกับของที่เสียหายเลยทางฟิตเนสแจ้งว่าไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีนโยบาย ผมว่าไม่ถูกตรงที่ผมไม่ได้เอาของวางไว้เรี่ยราดนะครับ ผมเอาไว้ในล๊อกเกอร์ซึ่งผมมีความมั่นใจว่ามีความมั่นคงเพียงพอ และสามารถป้องกันทรัพย์สมบัติของสมาชิกได้
เหตุที่ผมเขียนข้อความนี้มาร้องเรียนคือผมต้องการเห็นวิธีการแก้ไขเพื่อจะได้ไม่เกิดเรืองนี้อีก และ ความรับผิดชอบทางฟิตเนสที่มีต่อลูกค้าอย่างไรบ้าง หากฟิตเนสจะดึงเรื่องไม่ชดเชย ไม่แก้ไขผมจะขออนุญาตลงในสื่อออนไลน์เพื่อเป็นอุทาหรณ์และให้สมาชิกได้ระวังตัวเองต่อไปครับ
แก้ไขครั้งที่ 1 วันที่ 5 ตุลาคม2557 เวลา 20.50 :
มีคนหลังไมค์มาแจ้งเหมือนกันว่าเคยโดนที่ล๊อคเกอร์เดียวกัน สาขาเดียวกัน ห่างกันไม่ถึงอาทิตย์ค่ะ
เรื่องของผมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2557 โดยผมไปถึง Fitness first ที่สาขาเดอะมอลลบางกะปิ ประมาณ 18:45 น เล่นจนถึงเวลาประมาณ 20.00 น โดยเอากระเป๋าสตางค์ใส่ไว้ในล๊อคเกอร์ หลังจากเล่นเสร็จเปิดล็อคเกอร์ดู ปรากฎว่ากระเป๋าสตางค์ได้หายไป ซึ่งพอไปแจ้งเจ้าหน้าที่ฟิตเนส เพื่อจะไปตรวจสอบล็อคเกอร์ ปรากฎว่า ล๊อคเกอร์มีคนใช้ไปแล้ว จนท. ฟิตเนส จึงบอกว่า ไม่สามารถทำไรได้ เนื่องจากมีคนใช้ล๊อคเกอร์อยู่ เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ฟิตเนสไม่ได้พยายามจะช่วยอะไร โดยบอกเพียงแต่ว่า ถ้ามีคนเจอจะแจ้งให้ทราบ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนั้น ผมจึงตัดสินใจโทรไปอายัติบัตรเครดิตทั้งหมดที่มีก่อน โดยให้แฟนซึ่งอยู่เชียงใหม่โทรมาสอบถามที่ฟิตเนสอีกทีนึง โดยทางฟิตเนสก็แค่ยืนยันคำเดิมว่า ถ้ามีคนเจอหรือเอามาคืนจะโทรแจ้ง แต่แฟนผมไม่ยอมจะเอาเรื่อง โดยให้เหตุผลกะทางฟิตเนสไปว่า มันหายในล๊อคเกอร์เป็นไปได้น้อยมากที่จะมีคนเอามาคืน ซึ่งผมก็มั่นใจว่ากระเป๋าสตางค์มันหายในล๊อคเกอร์แน่นอน สุดท้ายแฟนผมบอกว่าจะคุยกับผู้จัดการและให้ทางฟิตเนสหาทางออกให้ได้มากกว่าแค่บอกว่ารอคนเอามาคืน เพราะของหายในล๊อคเกอร์ ซึ่ง จนท ฟิตเนสบอกว่า ผจก ไม่อยู่ แฟนผมจึงบอกงั้นให้ ผจก โทรมาให้คำตอบ ซึ่งหลังจากวางโทรศัพท์ไปประมาณครึ่ง ชม โดยผมอายัติบัตรทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยกำลังจะไปแจ้งความ ทางฟิตเนสได้โทรกลับมาบอกว่า เจอกระเป๋าสตางค์แล้ว โดยคนใช้ล๊อคเกอร์หลังจากผมเป็นคนเอามาคืนให้ ผมจึงกลับไปเอากระเป๋าเงิน ซึ่งผมพบข้อสังเกตอีกอย่างนึง ในสมุด lost & found ที่ จนท ฟิตเนสให้ผมเซ็น มีคนของหายในล๊อคเกอร์เยอะมาก เมื่อกลับมาในรถตรวจสอบกระเป๋าเงินดูพบเงินหายไปหนึ่งพันบาท และพอมานึกย้อนหลังเรียบเรียงดูปรากฎว่า เป็นไปไม่ได้ที่ผมจะลืมกระเป๋าไว้ในล๊อคเกอร์เพราะล๊อคเกอร์ไม่ได้ใหญ่มากและตอนก่อนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ผมก็หาเป็นอย่างดีแล้วว่าไม่มี ซึ่งตอนนั้นเนื่องจากผมมีเอกสารที่สำคัญกว่าเงินอยู่ในกระเป๋าเงิน เมื่อได้กระเป๋าคืนแล้วผมก็เลยไม่อยากไปเอาเรื่อง ซึ่งผมเรื่องของผมก็ประมาณนี้แหละครับ ลองไปให้ ผจก สาขา สมุด lost & found มาดูเลยครับ เรื่องของผมเกิดก่อนเจ้าของกระทู้ไม่กี่วันเองครับ แถมล๊อคเกอร์ก็เบอร์เดียวกันด้วย