ญาญ่าเป็นนักแสดงรุ่นกลางของทางช่อง 3 ที่มีสกิลที่รอบด้านไม่ว่า จะเป็นการ ร้อง เต้น เล่นละคร รวมไปถึงภาพลักษณ์และการวางตัว ทำให้เป็นที่รักของผู้คนมากมาย  แต่สิ่งที่เด็กสาวคนนี้ตั้งเป้าหมาย คือการเป็นนักแสดงที่ดีและมีคุณภาพ (จากสัมภาษณ์ในรายการพริ้ง)

      ผลงานการแสดงละครทางช่อง 3 จำนวน 8 เรื่อง คือ กุหลาบไร้หนาม, ดวงใจอัคนี, ตะวันเดือด, เกมร้ายเกมรัก, ธรณีนี่นี้ใครครอง, มายาตะวัน, ดาวเรือง และเรื่องล่าสุด รอยฝันตะวันเดือด  สะท้อนให้เห็นภาพความเติบโตทางการแสดงของสาวน้อยคนนี้มาเป็นลำดับขั้น

      จากบทเด็กสาวอ่อนหวานที่แฝงความเด็ดเดี่ยว ในกุหลาบไร้หนาม(ทีวีซีน) ญาญ่าในวัย 17 ปี ได้เก็บประสบการณ์การทำงานร่วมกับนักแสดงมีฝีมืออย่างพี่พลอย เฌอมาลย์ และพี่โฬม โดยต้องสวมบทบาทเป็นหญิงสาวที่เพิ่งจบปริญญาและก้าวเข้าสู่วัยเริ่มทำงาน ในขณะภาษาไทยของน้องยังเป็นปัญหา แต่สเน่ห์ทางการแสดงเริ่มฉายแสงออกมาให้ได้เห็น และสอบผ่านกับการเล่นเป็นนุชรีย์ หญิงสาวที่อ่อนหวานแต่ว่ามั่นคง เข้มแข็ง

      ญาญ่ามาดังเปรี้ยง และเป็นที่รู้จักจดจำในบทบาท ยัยจี้ด เด็กสาวแก่นแก้วเจ้าของฟาร์มคู่ปรับหัวใจของนายไฟแห่งดวงใจอัคนี ละครโรแมนติกคอมมาดีในซีรี่ส์สี่หัวใจแห่งขุนเขา จนเกิดปรากฏการณ์คู่จิ้นคู่ขวัญ ณเดชน์ญาญ่า ด้วยบทบาทที่สมวัยและจังหวะรับส่งที่ลงตัวทำให้การเข้าคู่กันของนักแสดงใหม่สดคู่นี้เป็นที่กล่าวขวัญว่าเป็นคู่ที่เคมีลงตัวอย่างมากคู่หนึ่ง โดยต้องยกความดีให้กับป้าแจ๋ว ผู้กำกับชั้นครูที่สามารถสร้างคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน และเคียวเข็ญกำกับนักแสดงหน้าใหม่ทั้งสองคนจนกลายเป็นขวัญใจคนดู และเป็นละครที่ยังมีผู้ชมติดตามดูรีรันทาง youtube เป็นจำนวนมากจนถึงปัจจุบัน

      ญาญ่าได้พลิกบทบาทอีกครั้งในละครดราม่า หนักหน่วงในเรื่องตะวันเดือด ละครพีเรียดบู้คาวบอยกับผู้จัดพี่นกฉัตรชัย โดยจับคู่กับหมากปริญในบทบาทคุณหนูเพชรรุ้ง ผู้หนักแน่น ห้าวหาญ แต่ก็มีมุมอ่อนไหวที่ไม่ค่อยแสดงให้ใครรับรู้  ก่อนจะหวนกลับมาเจอคู่จิ้นจนเกิดกระแสนางฟ้า และสายชล ในเกมร้ายเกมรัก(ค่ายละครไท กำกับโดยพี่แอ้ว)  และธรณีนี่นี้ใครครอง(ผู้จัดพี่แหม่ม กำกับโดยป้าแจ๋ว) ต่อด้วยละครเรื่องมายาตะวันในบทบาทนักข่าวสาวคู่กับพี่อั้มอธิชาติ(ค่ายทีวีซีน) และละครเรื่องดาวเรือง คู่กับพี่ปอ(ผู้จัด พี่แหม่ม กำกับโดยพี่หนุ่ม)ซึ่งนับว่าเป็นการพลิกคาแรกเตอร์เป็นเด็กบ้านๆ แก่นเซี้ยวเปรี้ยวซนเป็นครั้งแรก

    ในเส้นทางการแสดงของญาญ่า ละคร 8 เรื่องที่ผ่านมาสั่งสมและบ่มเพาะประสบการณ์ทางการแสดงของเธอมาจนถึงอีกจุดหนึ่ง  ในซีรี่ส์ The Rising Sun  หากตัดเรื่องขัดใจอื่นๆ ออกไปแล้ว  นับว่าละครเรื่องนี้เปิดโอกาสให้ญาญ่าโชว์ให้คนดูได้เห็นพัฒนาการทางการแสดงของเธอได้เป็นอย่างดี บทบาทของคุณหมอมายูมิ มีเส้นเรื่องที่ยาวเล่าตั้งแต่วัยมัธยมในพาร์ทของรอยรักหักเหลี่ยมตะวันจนเติบโตเป็นคุณหมอสาวสะพรั่งในรอยฝันตะวันเดือด ทำให้คนเขียนบทใส่รายละเอียดหลายอย่างและปรุงคุณหมอมายูมิให้กลายเป็นตัวละครสำคัญจนแทบจะมากกว่าริวด้วยซ้ำ

    ในเรื่องของการแสดงในพาร์ทดราม่า และโรแมนติก ญาญ่าทำได้ดีโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการทำงานร่วมกันกับนักแสดงคู่ขวัญ ณเดชน์ คูกิมิยะ การรับส่งอารมณ์ระหว่างริวและมายุมิ ซึ่งบางซีน แม้จะไม่มีบทพูด แค่จ้องตารับส่งอารมณ์ มันก็ทำให้คนดู อิน ฟิน จิ้น กระจาย ทุกครั้ง
    ในเรื่องคิวบู๊ ละครเรื่องนี้เปิดโอกาสให้ญาญ่าได้เล่นบทบู๊เต็มที่ โดยมีการดีไซน์ฉากบู๊ที่ลงตัวและการถ่ายทำละเอียดปราณีต ด้วยสกิลการเล่นกีฬาที่มีอยู่ติดตัวทำให้ญาญ่าสามารถเล่นซีนบู้ได้สวยงามและเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่มายูมิที่ต้องควงดาบไปช่วยริวออกจากวงล้อมศัตรู เป็นซีนยาวที่ญาญ่าต้องบู๊อย่างต่อเนื่องและสามารถทำได้ดีทั้งจังหวะ ท่วงท่า และการรักษาอารมณ์ให้ต่อเนื่อง

    โดยความเห็นส่วนตัวเรื่องภาษาและน้ำเสียง ยังเป็นจุดอ่อนที่ญาญ่ายังต้องปรับปรุง บทละครเรื่องนี้มีภาษาที่ยาก มีคำบางคำที่ไม่เข้าปาก หลายๆครั้งจขกท.รู้สึกว่าน้องจะต้องเค้นคำพูดออกมา ทำให้จังหวะการรับส่งไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร ญาญ่าเป็นนักแสดงที่ทำการบ้านหนัก เข้าใจตัวละคร และมีอินเนอร์ หากก้าวข้ามผ่านกำแพงภาษาไปได้น้องจะเป็นนักแสดงที่เจิดจรัสยิ่งกว่าที่เป็นอยู่

   สำหรับ"หนึ่งในทรวง" ละครพีเรียดไทยแท้เต็มขั้นเรื่องใหม่ของญาญ่า จะเป็นเรื่องแรกที่เหล่าแม่นมน้องญ่าได้เห็นน้องในบทคุณปุ้ม หญิงไทยสวยหวาน และมีโอกาสดีที่จะได้ลองทดสอบเคมีกับนักแสดงดาวรุ่งอย่างเจมส์ จิรายุ โดยครั้งนี้จากนักแสดงหญิงตัวน้อยๆ ของแม่ยก จะกลายเป็นนักแสดงรุ่นพี่ที่คอยประคับประคอง และสร้างสรรค์การรับส่งและเคมีทางการแสดงให้เกิดขึ้นในฐานะของนักแสดงฝีมือเยี่ยมคนหนึ่ง

ขอเอาใจช่วยนะคะ อุรัสยา