รบกวนสอบถามเรื่องฟ้อง เรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรค่ะ
ดิชั้นมีลูกสาว 1 คนอายุ 9 ขวบ ลูกชาย 1 คน อายุ 6 ขวบค่ะ
คนโตปกติ คนเล็กมีภาวะออทิสติกแฝงต้องได้รับการบำบัด
เมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว ดิชั้นได้หย่าขาดกับอดีตสามี (ในช่วงเวลาดังกล่าว ที่บ้านยังไม่ยอมรับว่าลูกชายคนเล็กต้องเข้ารับกรบำบัด เพราะตลอดเวลาทุกคนจะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไร แล้วก็คงจะหายเอง)
และมีข้อตกลงไว้ว่า ลูกเป็นสิทธิ์ของดิชั้น และดิชั้นเป็นฝ่ายดูแลลูกทั้งหมดระบุไว้แค่นั้น เพราะในใจคิดว่าเค้าคงจะส่งค่าเลี้ยงดูให้ตามปกติ คือแปดพันบาท และในแปดพันบาทคือค่าเทอมและค่านมของลูก ตลอดระยะเวลา สี่ถึงห้าปีที่ผ่านมาดิชั้นดูแลลูกคนเดียวมาโดยตลอด โดยขายของทางอินเตอร์เนตเพื่อเลี้ยงดูลูก เด็กทั้งสองคนเรียนอยู่พระหฤทัยค่ะ ค่าเทอมคนละประมาณ หมื่นสามกว่าๆ
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมถึงค่าเรียนพิเศษและบำบัดต่างๆ ดิชั้นต้องหาให้ได้เดือนละ สามหมื่นห้า ซึ่งเงินที่เค้าให้มาทุกเดือนไม่พออยู่แล้ว
และตั้งแต่เดือนมีนาปี 2556 ดิชั้นตัดสินใจให้เค้าโอนเงินเข้าบัญชีของแม่ดิชั้น เพราะไม่อยากมานั่งทวงเงินทุกเดือนๆๆ เผื่อว่าเค้าเห็นเป็น ผู้หลักผู้ใหญ่เค้าจะได้นึกเกรงใจส่งให้ตรงตามเวลาโดยไม่ต้องทวงถาม แต่ความจริงไม่เป็นอย่างที่คิด เค้าขาดส่งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และอ้างว่าเพิ่งออกจากงาน จนเมื่อต้นปีที่แล้ว อดีตแม่สามีให้มา สองหมื่นบาทถ้วน และเมื่อสองเดือนที่ผ่านมานี้เค้าบอกว่าจะให้เดือนละห้าพัน เนื่องจากว่าเค้าไม่มีงานทำ แต่ก็ต้องทวงอยู่ดีมาสองเดือนแระ ดิชั้นคิดว่า ห้าพันบาทมันไม่เพียงพอนะ สำหรับความรับผิดชอบต่อหน้าที่คนเป็นพ่อ ถ้าจะพูดอ้างว่าไม่ได้ทำงานบริษัท์คือไม่มีงานทำ แล้วดิชั้นล่ะ หาเงินมาได้ยังไง ดิ้นรนหมุนจนสุดกำลัง เป็นหนี้บัตรเครดิตก็ยอม
ผู้ชายคนนี้มีแบคกราวดีค่ะ แม่เค้าทำห้องเช่า แล้วก็มีเงินจากการขายที่ทางได้ ยี่สิบล้าน ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เค้าเปลี่ยนรถคันใหม่ แม่ซื้อให้ด้วยเงินสด เจ็ดแสน เรียนจบแม่ให้เงินอีกก้อนนึง ตลอดเวลาที่หย่ากันก็เอา ลูกไปๆมาๆ ที่บ้านแม่เค้า เลยได้รับรู้มาว่าเค้าใช้ของมีราคา ซัมซุงโน๊ต10 รึอะไรเนี่ยแหละ มือถือก็เปลี่ยนใหม่ ซื้อกล้องถ่ายรูปใหม่ เปลี่ยนแฟนมาสองคนแล้ว
หลังจากที่ได้รับรู้ว่า เค้าเอาผู้หญิงคนล่าสุดเข้าไปนอนค้างที่บ้าน ดิชั้นก็เริ่ม ไม่ให้เอาลูกไปที่บ้านแม่เค้าอีกเลย เพราะไม่อยากให้ลูกต้องเจอกับอะไรทำนอง ที่ว่าลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง ดิชั้นอาจจะคิดมากไปเอง แต่ดิชั้นไม่ต้องการให้ลูกทั้งสองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวนี้อีก
สาเหตุที่เลิกกันเนื่องจากเค้ามีคนใหม่ แต่ตอนนั้นเค้าอ้างว่าเราไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้หาเรื่องทะเลอะ กันจนต้องเลิก แล้วมารับรู้ในภายหลังว่าเค้ามีแฟนใหม่อยู่ที่ทำงาน หลังจากเซ็นใบหย่าเรียบร้อยแล้วค่ะ
ตอนนี้ค่าใช้จ่ายเริ่มสูงขึ้น ดิชั้นโทรไปเพื่อตกลงกับเค้าล่าสุดเค้าบอกว่า ตอนที่หย่า เค้าตกลงแค่ว่าจะให้แต่ค่าเทอม แปดพันบาท ซึ่งดิชั้นจำได้ว่าในแปดพันนั้นมีแค่เทอมและค่านมลูกในตอนนั้นเท่านั้นค่ะ แล้วในเวลานั้นลูกก็ยังไม่ได้เข้ารับการบำบัดใดๆทั้งสิ้น สองเดือนที่ผ่านมาเค้าให้แค่เดือนล่ะห้าพัน แล้วต้องทวงทุกครั้ง เค้าบอกว่า เต็มที่ก็แปดพันแหละเพราะเค้ายังไม่มีงานทำ ดิชั้นควรทำอย่างไรดี ควรฟ้องเค้าดีมั้ย รึ ช่างมัน กัดฟันเลี้ยงลูกสองคนไป ขาดกันแต่เพียงเท่านี้ ไม่ต้องเจอกันอีก เพราะดิชั้นเองก็ไม่คิดมีใครใหม่
ขอบคุณค่ะ ไม่ทราบจริงๆว่าต้องทำอย่างไร
ลืมบอกค่ะเค้าบอกว่าถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ไปฟ้องเอาค่ะ เค้ายืนยันว่าเค้าไม่มีซะอย่างจะเอาที่ไหนมาจ่าย ด่ากลับมาอีกแนะ
เรียกร้องค่าเลี้ยงดูบุตรค่ะ
ดิชั้นมีลูกสาว 1 คนอายุ 9 ขวบ ลูกชาย 1 คน อายุ 6 ขวบค่ะ
คนโตปกติ คนเล็กมีภาวะออทิสติกแฝงต้องได้รับการบำบัด
เมื่อสี่ถึงห้าปีที่แล้ว ดิชั้นได้หย่าขาดกับอดีตสามี (ในช่วงเวลาดังกล่าว ที่บ้านยังไม่ยอมรับว่าลูกชายคนเล็กต้องเข้ารับกรบำบัด เพราะตลอดเวลาทุกคนจะคิดว่าไม่ได้เป็นอะไร แล้วก็คงจะหายเอง)
และมีข้อตกลงไว้ว่า ลูกเป็นสิทธิ์ของดิชั้น และดิชั้นเป็นฝ่ายดูแลลูกทั้งหมดระบุไว้แค่นั้น เพราะในใจคิดว่าเค้าคงจะส่งค่าเลี้ยงดูให้ตามปกติ คือแปดพันบาท และในแปดพันบาทคือค่าเทอมและค่านมของลูก ตลอดระยะเวลา สี่ถึงห้าปีที่ผ่านมาดิชั้นดูแลลูกคนเดียวมาโดยตลอด โดยขายของทางอินเตอร์เนตเพื่อเลี้ยงดูลูก เด็กทั้งสองคนเรียนอยู่พระหฤทัยค่ะ ค่าเทอมคนละประมาณ หมื่นสามกว่าๆ
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมถึงค่าเรียนพิเศษและบำบัดต่างๆ ดิชั้นต้องหาให้ได้เดือนละ สามหมื่นห้า ซึ่งเงินที่เค้าให้มาทุกเดือนไม่พออยู่แล้ว
และตั้งแต่เดือนมีนาปี 2556 ดิชั้นตัดสินใจให้เค้าโอนเงินเข้าบัญชีของแม่ดิชั้น เพราะไม่อยากมานั่งทวงเงินทุกเดือนๆๆ เผื่อว่าเค้าเห็นเป็น ผู้หลักผู้ใหญ่เค้าจะได้นึกเกรงใจส่งให้ตรงตามเวลาโดยไม่ต้องทวงถาม แต่ความจริงไม่เป็นอย่างที่คิด เค้าขาดส่งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และอ้างว่าเพิ่งออกจากงาน จนเมื่อต้นปีที่แล้ว อดีตแม่สามีให้มา สองหมื่นบาทถ้วน และเมื่อสองเดือนที่ผ่านมานี้เค้าบอกว่าจะให้เดือนละห้าพัน เนื่องจากว่าเค้าไม่มีงานทำ แต่ก็ต้องทวงอยู่ดีมาสองเดือนแระ ดิชั้นคิดว่า ห้าพันบาทมันไม่เพียงพอนะ สำหรับความรับผิดชอบต่อหน้าที่คนเป็นพ่อ ถ้าจะพูดอ้างว่าไม่ได้ทำงานบริษัท์คือไม่มีงานทำ แล้วดิชั้นล่ะ หาเงินมาได้ยังไง ดิ้นรนหมุนจนสุดกำลัง เป็นหนี้บัตรเครดิตก็ยอม
ผู้ชายคนนี้มีแบคกราวดีค่ะ แม่เค้าทำห้องเช่า แล้วก็มีเงินจากการขายที่ทางได้ ยี่สิบล้าน ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้เค้าเปลี่ยนรถคันใหม่ แม่ซื้อให้ด้วยเงินสด เจ็ดแสน เรียนจบแม่ให้เงินอีกก้อนนึง ตลอดเวลาที่หย่ากันก็เอา ลูกไปๆมาๆ ที่บ้านแม่เค้า เลยได้รับรู้มาว่าเค้าใช้ของมีราคา ซัมซุงโน๊ต10 รึอะไรเนี่ยแหละ มือถือก็เปลี่ยนใหม่ ซื้อกล้องถ่ายรูปใหม่ เปลี่ยนแฟนมาสองคนแล้ว
หลังจากที่ได้รับรู้ว่า เค้าเอาผู้หญิงคนล่าสุดเข้าไปนอนค้างที่บ้าน ดิชั้นก็เริ่ม ไม่ให้เอาลูกไปที่บ้านแม่เค้าอีกเลย เพราะไม่อยากให้ลูกต้องเจอกับอะไรทำนอง ที่ว่าลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง ดิชั้นอาจจะคิดมากไปเอง แต่ดิชั้นไม่ต้องการให้ลูกทั้งสองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวนี้อีก
สาเหตุที่เลิกกันเนื่องจากเค้ามีคนใหม่ แต่ตอนนั้นเค้าอ้างว่าเราไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้หาเรื่องทะเลอะ กันจนต้องเลิก แล้วมารับรู้ในภายหลังว่าเค้ามีแฟนใหม่อยู่ที่ทำงาน หลังจากเซ็นใบหย่าเรียบร้อยแล้วค่ะ
ตอนนี้ค่าใช้จ่ายเริ่มสูงขึ้น ดิชั้นโทรไปเพื่อตกลงกับเค้าล่าสุดเค้าบอกว่า ตอนที่หย่า เค้าตกลงแค่ว่าจะให้แต่ค่าเทอม แปดพันบาท ซึ่งดิชั้นจำได้ว่าในแปดพันนั้นมีแค่เทอมและค่านมลูกในตอนนั้นเท่านั้นค่ะ แล้วในเวลานั้นลูกก็ยังไม่ได้เข้ารับการบำบัดใดๆทั้งสิ้น สองเดือนที่ผ่านมาเค้าให้แค่เดือนล่ะห้าพัน แล้วต้องทวงทุกครั้ง เค้าบอกว่า เต็มที่ก็แปดพันแหละเพราะเค้ายังไม่มีงานทำ ดิชั้นควรทำอย่างไรดี ควรฟ้องเค้าดีมั้ย รึ ช่างมัน กัดฟันเลี้ยงลูกสองคนไป ขาดกันแต่เพียงเท่านี้ ไม่ต้องเจอกันอีก เพราะดิชั้นเองก็ไม่คิดมีใครใหม่
ขอบคุณค่ะ ไม่ทราบจริงๆว่าต้องทำอย่างไร
ลืมบอกค่ะเค้าบอกว่าถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ไปฟ้องเอาค่ะ เค้ายืนยันว่าเค้าไม่มีซะอย่างจะเอาที่ไหนมาจ่าย ด่ากลับมาอีกแนะ