Rudimental คือวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ สไตล์ดรัมแอนด์เบสและเบรกบีต
พวกเขาประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คนคือ
Piers Agget, Kesi Dryden, Amir Amor และ DJ Locksmith
--------------------------------------------------------------
แม้ว่าซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้มอย่าง Spoons ซึ่งได้ MNEK & Syron มาฟีตเจอริ่งด้วย
จะไม่ประสบความสำเร็จ (อย่างมาก) เพราะไม่ติดชาร์ตตามคลื่นวิทยุสักชาร์ตเดียว
แต่ซิงเกิลต่อมา Feel the Love ที่ได้นักร้องหนุ่มหน้าใหม่เสียงทรงพลัง John Newman มาร้องนำนั้น
ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย สามารถขึ้นไปครองอันดับ 1 UK Chart ได้
แถมเอ็มวีเพลงนี้ยังมียอดวิวในยูทูบมากกว่า 25 ล้านครั้ง
------------------------------------------------------------
ความจริงแล้วแนวเพลงเบรกบีตและดรัมแอนด์เบสนั้นมีมานานพอสมควรแล้วนะครับ
เพียงแต่ว่าก็เหมือนแนวเพลงอื่นๆ ที่จะมีช่วงเวลาพีค มีขึ้นมีลง
ซึ่งทั้ง 2 แนวเพลงนั้นเรียกได้ว่าแทบจะจำศีลมานานพอสมควร (มากกว่า 5 ปี)
สำหรับชาวอิเล็กทรอนิกส์รุ่นหลังๆ บางคนยังไม่เคยได้สัมผัสแนวดนตรีนี้ด้วยซ้ำไป
ผมเองก็แทบจะลืมแนวเพลงนี้ด้วยซ้ำ เพราะระยะหลังมานี้ไม่มีศิลปินคนไหน
ที่ทำเพลงเบรกบีตและดรัมแอนด์เบสได้อย่างโดดเด่น
จนในที่สุดก็เรียกว่ามีคนปลุกผีขึ้นมาครับ Rudimental
นั้นได้นำทั้ง 2 แนวเพลงมาใส่สีสันอย่างเครื่องเป่าและดนตรีอื่นๆ
จะว่าไปก็สามารถเรียก Nu Breakbeat หรือ Nu Drum and Bass ได้เลยครับ
--------------------------------------------------------------------------
ก่อนที่จะบ้าน้ำลายไปมากกว่านี้ ไปฟังเพลงกันดีกว่าครับ
--------------------------------------------------------------
Home
เพลงเปิดอัลบั้ม จังหวะช้าๆ เนิบๆ ซาวนด์กลองเยี่ยมครับ
เป็นแนวเพลงดรัมแอนด์เบสแบบช้าๆ เบาๆ แต่รับรองได้ว่าเพลงต่อไปใครได้ฟังก็เต้นจนขาฉีกแน่นอน
เพราะจังหวะเร้าใจกว่านี้มาก สำหรับเพลงช้าแบบนี้ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนละกัน ก่อนที่จะเริ่มกับของจริง
Feel The Love FT. John Newman
จัดเต็มสุดๆ กับเพลงสุดฮิตของพวกเขา จังหวะกลองเร้าใจมากครับ
ได้ยินแล้วกระโดดโลดเต้น เสียงซินธ์ที่เป็นส่วนเสริมก็ทำได้ดีครับ
นอกจากนี้ยังต้องชมเสียงร้องอันทรงพลังของจอห์น เข้ากันได้ดีกับจังหวะเพลง
สุดท้ายที่ถือว่าเป็นทีเด็ดคือเครื่องเป่า ช่วยสร้างสีสันให้กับเพลง ทรงพลังครับ
Right Here Ft. Foxes
มันกันอย่างต่อเนื่อง ยังคงความเป็นดรัมแอนด์เบสที่ทรงพลัง แม้ว่าคนร้องจะเป็นผู้หญิง
แต่เสียงร้องที่ทรงพลังของเธอ ซึ่งไม่ด้อยกว่าจอห์นเลยสักนิดเดียว ช่วยให้เพลงนี้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
แม้ว่าเพลงนี้พวกเขาเลือกที่จะตัดเครื่องเป่าทิ้ง แต่ก็ไม่เป็นผลเสียมากนัก
เพราะซาวนด์คีย์บอร์ดที่ใส่มาแทนที่ช่วยสร้างเมโลดี้ได้อย่างดี
นอกจากนี้ ซาวนด์กีตาร์โซโล่ก็เร้าใจมากๆ เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมครับ
Hell Could Freeze Ft. Angel Haze
ลดบีตลงมาเหลือเบรกบีต คนร้องก็เปลี่ยนจากสายทรงพลังเป็นสายแร๊พแทน
แต่ก็ยังยอดเยี่ยมเช่นเคยครับ ที่ผมชอบมากคือเสียงซินธ์ ทรงพลังแต่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเมโลดี
Spoon
น่าแปลกที่เพลงนี้ไม่ติดสักชาร์ตเดียว ทั้งที่ไม่ได้แย่ อาจเป็นเพราะธรรมดามากเกินไปหน่อย
จังหวะปานกลาง ไม่ค่อยมีจุดเด่นสักเท่าไร มีแค่การดั๊บเสียงร้องให้วนลูปไป-มาแค่นั้นเอง
ที่พอถือว่าเป็นจุดน่าสนใจ
Hide Ft. Sinead Harnett
ต่อกันด้วยเบรกบีตอีกสักเพลง จังหวะกลองและเปอร์คัสชั่นแปลกหูสำหรับคนที่ไม่ค่อยฟังเพลงแนวนี้แน่ครับ
แต่ใครที่เป็นคอเพลงแนวนี้จะถือว่าเป็นจังหวะที่สุดยอดมาก
และเมื่อจับคู่กับเครื่องเป่าที่ชวนให้ล่องลอยเคลิบเคลิ้ม
เหมือนกับว่าพวกเขาได้พาคนฟังไปเต้นรำอยู่บนก้อนเมฆเลยละครับ
Powerless Ft. Becky Hill
ชื่อเพลงแปลว่า ‘ไร้พลัง’ นะครับ แต่ความมันของเพลงไม่เป็นไปตามชื่อเพลง
เพราะจัดเต็มด้วยจังหวะกลอง และเสียงคนร้อง ที่ถ้าใครบอกว่าเพลงนี้ไม่มีพลัง
ผมคงต้องรีบพาไปรักษาต่อมรับรู้ความมันแล้วละครับ
More Than Anything FT. Emeli Sandé
ช่วงแรกเนือยๆ ไปหน่อย แต่ไล่ความเร็วบีตได้ดีครับ
ฟังแล้วเหมือนกำลังทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะที่ความเร็วตอนแรกไม่เร็วเท่าไร
พอถึงช่วงจังหวะหนึ่งพวกเขาก็กดปุ่มไนตรัสพาคนฟังทะยานขึ้นไปสู่ความฟินอันเร้าใจ
Not Giving In Ft. John Newman & Alex Clare
กลับมาแล้ว กับดรัมแอนด์เบสอันเร้าใจไปด้วยจังหวะกลองและเปอร์คัสชั่นอันยอดเยี่ยม
แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามอันทรงพลังจากเครื่องเป่า
เพลงนี้ให้เสียง (ร้อง) โดยหนุ่มจอห์นที่ยังคงเสียงไม่ตกเลยสักนิดเดียว
และยังเพิ่มเสียงสูงคลอเบาๆ จากสาวน้อยอเล็กซ์ แคลร์
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเพลงอิเล็กทรอนิกส์หนักๆ จะเข้ากันได้อย่างดีกับเสียงสวยๆ หล่อๆ แบบเพลงป๊อบได้เหมือนกัน
---------------------------------------------------------------------------
สำหรับผมแล้วคงต้องบอกว่าขอบคุณ Rudimental มากๆ ที่ช่วย ‘ชุบชีวิต’ ให้ดรัมแอนด์เบส และเบรกบีต ฟื้นขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ปล. ไม่ได้รีวิวอีก 3 เพลง ลองไปฟาฟังกันเองเองนะครับ รับรองเพราะไม่แพ้เพลงที่ได้รีวิวไปแล้วแน่ๆ
[CR] RUDIMENTAL : HOME แก้เบื่อดั๊บสเต็ป (4.5/5) (REVIEW TRACK BY TRACK)
พวกเขาประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 4 คนคือ
Piers Agget, Kesi Dryden, Amir Amor และ DJ Locksmith
--------------------------------------------------------------
แม้ว่าซิงเกิลเปิดตัวอัลบั้มอย่าง Spoons ซึ่งได้ MNEK & Syron มาฟีตเจอริ่งด้วย
จะไม่ประสบความสำเร็จ (อย่างมาก) เพราะไม่ติดชาร์ตตามคลื่นวิทยุสักชาร์ตเดียว
แต่ซิงเกิลต่อมา Feel the Love ที่ได้นักร้องหนุ่มหน้าใหม่เสียงทรงพลัง John Newman มาร้องนำนั้น
ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย สามารถขึ้นไปครองอันดับ 1 UK Chart ได้
แถมเอ็มวีเพลงนี้ยังมียอดวิวในยูทูบมากกว่า 25 ล้านครั้ง
------------------------------------------------------------
ความจริงแล้วแนวเพลงเบรกบีตและดรัมแอนด์เบสนั้นมีมานานพอสมควรแล้วนะครับ
เพียงแต่ว่าก็เหมือนแนวเพลงอื่นๆ ที่จะมีช่วงเวลาพีค มีขึ้นมีลง
ซึ่งทั้ง 2 แนวเพลงนั้นเรียกได้ว่าแทบจะจำศีลมานานพอสมควร (มากกว่า 5 ปี)
สำหรับชาวอิเล็กทรอนิกส์รุ่นหลังๆ บางคนยังไม่เคยได้สัมผัสแนวดนตรีนี้ด้วยซ้ำไป
ผมเองก็แทบจะลืมแนวเพลงนี้ด้วยซ้ำ เพราะระยะหลังมานี้ไม่มีศิลปินคนไหน
ที่ทำเพลงเบรกบีตและดรัมแอนด์เบสได้อย่างโดดเด่น
จนในที่สุดก็เรียกว่ามีคนปลุกผีขึ้นมาครับ Rudimental
นั้นได้นำทั้ง 2 แนวเพลงมาใส่สีสันอย่างเครื่องเป่าและดนตรีอื่นๆ
จะว่าไปก็สามารถเรียก Nu Breakbeat หรือ Nu Drum and Bass ได้เลยครับ
--------------------------------------------------------------------------
ก่อนที่จะบ้าน้ำลายไปมากกว่านี้ ไปฟังเพลงกันดีกว่าครับ
--------------------------------------------------------------
Home
เพลงเปิดอัลบั้ม จังหวะช้าๆ เนิบๆ ซาวนด์กลองเยี่ยมครับ
เป็นแนวเพลงดรัมแอนด์เบสแบบช้าๆ เบาๆ แต่รับรองได้ว่าเพลงต่อไปใครได้ฟังก็เต้นจนขาฉีกแน่นอน
เพราะจังหวะเร้าใจกว่านี้มาก สำหรับเพลงช้าแบบนี้ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่องก่อนละกัน ก่อนที่จะเริ่มกับของจริง
Feel The Love FT. John Newman
จัดเต็มสุดๆ กับเพลงสุดฮิตของพวกเขา จังหวะกลองเร้าใจมากครับ
ได้ยินแล้วกระโดดโลดเต้น เสียงซินธ์ที่เป็นส่วนเสริมก็ทำได้ดีครับ
นอกจากนี้ยังต้องชมเสียงร้องอันทรงพลังของจอห์น เข้ากันได้ดีกับจังหวะเพลง
สุดท้ายที่ถือว่าเป็นทีเด็ดคือเครื่องเป่า ช่วยสร้างสีสันให้กับเพลง ทรงพลังครับ
Right Here Ft. Foxes
มันกันอย่างต่อเนื่อง ยังคงความเป็นดรัมแอนด์เบสที่ทรงพลัง แม้ว่าคนร้องจะเป็นผู้หญิง
แต่เสียงร้องที่ทรงพลังของเธอ ซึ่งไม่ด้อยกว่าจอห์นเลยสักนิดเดียว ช่วยให้เพลงนี้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
แม้ว่าเพลงนี้พวกเขาเลือกที่จะตัดเครื่องเป่าทิ้ง แต่ก็ไม่เป็นผลเสียมากนัก
เพราะซาวนด์คีย์บอร์ดที่ใส่มาแทนที่ช่วยสร้างเมโลดี้ได้อย่างดี
นอกจากนี้ ซาวนด์กีตาร์โซโล่ก็เร้าใจมากๆ เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมครับ
Hell Could Freeze Ft. Angel Haze
ลดบีตลงมาเหลือเบรกบีต คนร้องก็เปลี่ยนจากสายทรงพลังเป็นสายแร๊พแทน
แต่ก็ยังยอดเยี่ยมเช่นเคยครับ ที่ผมชอบมากคือเสียงซินธ์ ทรงพลังแต่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเมโลดี
Spoon
น่าแปลกที่เพลงนี้ไม่ติดสักชาร์ตเดียว ทั้งที่ไม่ได้แย่ อาจเป็นเพราะธรรมดามากเกินไปหน่อย
จังหวะปานกลาง ไม่ค่อยมีจุดเด่นสักเท่าไร มีแค่การดั๊บเสียงร้องให้วนลูปไป-มาแค่นั้นเอง
ที่พอถือว่าเป็นจุดน่าสนใจ
Hide Ft. Sinead Harnett
ต่อกันด้วยเบรกบีตอีกสักเพลง จังหวะกลองและเปอร์คัสชั่นแปลกหูสำหรับคนที่ไม่ค่อยฟังเพลงแนวนี้แน่ครับ
แต่ใครที่เป็นคอเพลงแนวนี้จะถือว่าเป็นจังหวะที่สุดยอดมาก
และเมื่อจับคู่กับเครื่องเป่าที่ชวนให้ล่องลอยเคลิบเคลิ้ม
เหมือนกับว่าพวกเขาได้พาคนฟังไปเต้นรำอยู่บนก้อนเมฆเลยละครับ
Powerless Ft. Becky Hill
ชื่อเพลงแปลว่า ‘ไร้พลัง’ นะครับ แต่ความมันของเพลงไม่เป็นไปตามชื่อเพลง
เพราะจัดเต็มด้วยจังหวะกลอง และเสียงคนร้อง ที่ถ้าใครบอกว่าเพลงนี้ไม่มีพลัง
ผมคงต้องรีบพาไปรักษาต่อมรับรู้ความมันแล้วละครับ
More Than Anything FT. Emeli Sandé
ช่วงแรกเนือยๆ ไปหน่อย แต่ไล่ความเร็วบีตได้ดีครับ
ฟังแล้วเหมือนกำลังทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ขณะที่ความเร็วตอนแรกไม่เร็วเท่าไร
พอถึงช่วงจังหวะหนึ่งพวกเขาก็กดปุ่มไนตรัสพาคนฟังทะยานขึ้นไปสู่ความฟินอันเร้าใจ
Not Giving In Ft. John Newman & Alex Clare
กลับมาแล้ว กับดรัมแอนด์เบสอันเร้าใจไปด้วยจังหวะกลองและเปอร์คัสชั่นอันยอดเยี่ยม
แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามอันทรงพลังจากเครื่องเป่า
เพลงนี้ให้เสียง (ร้อง) โดยหนุ่มจอห์นที่ยังคงเสียงไม่ตกเลยสักนิดเดียว
และยังเพิ่มเสียงสูงคลอเบาๆ จากสาวน้อยอเล็กซ์ แคลร์
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าเพลงอิเล็กทรอนิกส์หนักๆ จะเข้ากันได้อย่างดีกับเสียงสวยๆ หล่อๆ แบบเพลงป๊อบได้เหมือนกัน
---------------------------------------------------------------------------
สำหรับผมแล้วคงต้องบอกว่าขอบคุณ Rudimental มากๆ ที่ช่วย ‘ชุบชีวิต’ ให้ดรัมแอนด์เบส และเบรกบีต ฟื้นขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ปล. ไม่ได้รีวิวอีก 3 เพลง ลองไปฟาฟังกันเองเองนะครับ รับรองเพราะไม่แพ้เพลงที่ได้รีวิวไปแล้วแน่ๆ