ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ ผมเข้ารักษาตัวที่ รพ. ศิครินทร์ หาดใหญ่ เนื่องจากติดเชื้อในกระแสปัสสาวะ เพราะผมมีหมอนอกเวลาจาก รพ. หาดใหญ่ เป็นหมอเจ้าของไข้อยู่ และผมเป็นคนไข้ที่ใช้บริการประจำ ใกล้บ้านด้วย ช่วงสงกรานต์ก่อนหน้านี้ 3 เดือน ผมมานอน 2 คืน ค่ารักษาประมาณ 2 หมื่นบาท แต่มารักษาครั้งนี้มันมีเหตุการณ์ไม่ปกติในการักษาดังนี้
แฟนผมขับรถพาผมไปส่ง รพ. ถึงประมาณสองทุ่มกว่าเข้าห้องฉุกเฉิน นอนบนเตียง ผู้ช่วยพยาบาลวัดความดันและวัดไข้ พบว่าความดันปกติ มีไข้ 38.5 C นอนรอ พบหมอผู้หญิง (พญ.1) ซักถามอาการ
พญ.1: คนไข้เป็นอะไรมาค่ะ
ผม : หนาวสั่นบางเวลา ปัสสาวะแสบ มี แผลกดทับ และท้องเสีย
พญ.1: มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง
ผม: เบาหวานครับ
พญ.:คนไข้คงต้องแอดมิท เนื่องจากไข้สูง และท้องเสีย
ผม: ได้ครับ
รอสักพักก้อมีพยาบาล เตรียมอุปกรณ์มาทำแผลกดทับ แลเจาะเลือดปลายนิ้ววัดน้ำตาล ผลออกมา 205 มก.ต่อลิลิตร
พยาบาล: เจาะเลือดเก็บตัวอย่างไปเพาะเชื้อและคาเข็มให้น้ำเกลือ
ผม : ขอคนที่เจาะเก่งๆ เพราะเส้นเลือดของผมหายาก
รอ....พยาบาลเดินมาพร้อมอุปกรณ์ื คนแรกเจาะไป 2 ครั้งไม่สำเร็จ
ผม: น้องพอเถอะ พี่ไม่ไหวถ้าเจาะแบบนี้ เปลี่ยนคนเถอะ
รอแป็บ พยาบาลคนใหม่เจาะทีเดียว ให้น้ำเกลือ ได้เลย
ผม: นึกอยู่ในใจทำไมคนนี้ไม่มาเจาะตั้งแต่แรก เจ็บฟรีทั้งสองที แต่ที่ร้ายกว่านั้น ค่าอุปกรณ์ต่างๆตกอยู่ผู้ป่วย (มารู้ตอนออกจาก รพ. ดูในใบเสร็จ)
นอนรอสักพัก เพื่อขึ้นไปบนห้องพัก
พญ.1: ต้องเอ็กซ์เรย์ปอด
แฟนผม: ถามว่าทำไมต้องเอ็กซ์ปอด
ผม: ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก้อไม่ได้ถามหมอว่าทำไม
คนเปลเข็นห้องเอ็กเรย์เสร็จ คนเปลก้อเข็นขึ้นห้อง 919
นอนรอสักพัก,...,.........พยาบาลเข้ามาเก็บตัวอย่างเลือดอีกครั้งไปเพาะเชัออีก (ประมาณ 5 ทุ่ม)
พญ.2: สวัสดค่ะ หมอเป็นหมอเวรค่ะ คืนนี้หมอจะให้ยาฆ่าเชื้อก่อนน่ะ
ผม: ได้ครับ (หลังนั้นก้อ นอนมีอาการไข้ ตัวร้อน หนาวสั่นทั้งคืน)
วันที่ 2
พญ.2: สวัสดีค่ะ วันนี้อาการเป็นไงบ้าง (ตอนเช้า 9.00น.)
ผม: อาการเหมือนเดิมครับ ไข้ไม่ลด หนาวสั่น ทานอะไรไม่ได้
พญ.2: หมอให้ยาฆ่าเชื้อต่อ และให้น้ำเกลือต่อ เนื่องจากทานอะไม่ได้
(แต่ยาฆ่าเชื้อเริ่มให้ 6.00 น. 12.00 น. 18.00 น. และ 24.00 น.) ให้วันละ 4 ครั้ง
ตอนเย็นวันที่ 2
พญ.2: สวัสดีค่ะ อาการเป็นไงบ้าง (17.00 น.)
ผม: อาการก้อเหมือนเดิม หนาวสั่น ไข้ไม่ลด
นพ.1: สวัสดีครับ เป็นอะไรมา? (หมอศัลยกรรมตกแต่ง 19.00 น.)
ผม: ติดเชื้อครับ
นพ.1 : หมอขอดูแผลกดทับหน่อย
ผม: ได้ครับ (เปิดก้นให้ดู)
นพ.1: หมอว่าน่าจะติดเชื้อจากแผล แผลมีกลิ่นนิดหน่อย) หมอทำแผลให้ปกติ พรุ่งนี้จะสอนให้พยาบาลทำแผลให้. และแฟนผม เวลากลับไปอยู่บ้าน
ผม: ได้ครับ วันนี้แฟนยังไม่กลับเลย
นพ.1: ไม่เป็นไร แฟนกลับมากี่โมง
ผม: ประมาณทุ่มครึ่งครับ
นพ.1 : ได้พรุ่งนี้เจอกันตามนี้
พยาบาลให้ยาฆ่าเชื้อ 24.00 น. หนาวมาก. ผ่านสัก 2 ชม. เหงื่อออกท่วมตัว
วันที่ 3
พยาบาลเริ่มให้ยาฆ่าเชื้อตั้งแต่ 6.00 น. และเจาะปลายนิ้วเพื่อวัดนำ้ตาลในเลือดื ผลออกมา 275 เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก
ผม: บ่นกับพยาบาล กินอาหารควบคุมเบาหวานทุกอย่าง
ทำไมนำ้ตาลในเลือดถึงเพิ่มอีก
พญ.1 : สวัสดีค่ะ อาการเป็นไงบ้าง (9.00 น.)
ผม: อาการเหมือนเดิมครับ ไม่ดีขึ้นเลย
พญ.1 : น้ำตาลในเลือดสูง หมอจะให้งดยากินก่อน และเปลี่ยนมาฉีดแทน
ผม : ครับ
ตอนเที่ยงพยาบาลก้อเข้าฉีดอินซูลินบริเวณสะดือ ก่อนทานข้าว แต่ก้อยังให้น้ำเกลือเหมือนเดิม ให้ยาฆ่าเขื้อเหมือนเดิมตอไป
วันที่3 เย็น
พญ.1: สวัสดีค่ะ อาการเป็นไงบ้าง (17.00 น.)
ผม: เหมือนเดิม ไม่ดีขึ้น
พญ.1: คืนนี้หมอจะโทรปรึกษาหมออีกท่านที่เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อให้ค่ะ และผลเลือดออกมาแล้วติดเชื้อในปัสสาวะ
ผม: ครับ (ในใจก้อดีใจที่เชื้อติดในกระเพาะปัสสาวะ ที่ไม่ติดในกระแสเลือด แต่ก้อข้องใจที่ให้ยาฆ่าเชื้อมาสามวันอาการไม่ดีขึ้นเลยหรือ มันก้อติดเชื้อเหมือนคราวก่อนให้ยาสองคืนกลับบ้านได้ นึกในใจไม่ได้พูดอะไร)
พยาบาลก้อให้ยาฆ่าเชื้อเดิมตอน 18.00 น.
นพ.1: สวัสดีครับ เป็นไงบ้าง (19.30 น.) ลืมบอกไปหมอท่านนี้ประจำอยู่โรงพยาบาลหาดใหญ่
ผม: สวัสดีครับหมอ อาการก้อเหมือนเดิม
นพ.1: ผลเลือดคุณ โปรตีนในเลือดต่ำกว่ามาตรฐาน 2 กว่า ต้องกินโปรตีนเพิ่ม ชงเข้มข้นกินวันละ 4 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน เพื่อช่วยเรื่องแผลของคุณ และเตรียมร่างกายไว้ผ่าตัด ตอนนี้ยังผ่าไม่ได้เพราะร่างกายโปรตีนต่ำ
ผม: ครับ ๆ แล้วจะผ่าอย่างไรเนื้อที่ก้นน้อย
นพ.1: อธิบายเป็นขั้นตอน จนแฟนผมกลับมาถึงห้อง. หมอก้อเรียกพยาบาลและแฟนผมมาดูการทำแผลทุกขั้นตอนจนแฟนผมอึ้งว่าหมอทำขนาดนี้เลยหรือ
ผม: ขอบคุณครับ แฟนผมขอบคุณมากเลยหมอ
นพ.1: ไม่เป็นไร เดี๋ยวหมอสั่งโปรให้กินเลยน่ะ แล้วหันไปถามพยาบาลที่ รพ. มีไหม
พยาบาล: น่าจะมีค่ะ
ตอนเที่ยงคืน พยาบาลแจ้งว่าหมอเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อใหม่ให้แล้วน่ะ แต่คิดในใจน่าจะเปลี่ยนตั้งนานแล้ว เพราะให้ยามาสามวันอาการไม่ดีขึ้นเลย แล้วรักษาไม่ดูประวัติคนไข้เลยหรือ แต่เรื่องของเรื่องมันไม่จบเท่านี้ มีต่อนะครับ
โดนแบบนี้คุณจะทำอย่างไร?
แฟนผมขับรถพาผมไปส่ง รพ. ถึงประมาณสองทุ่มกว่าเข้าห้องฉุกเฉิน นอนบนเตียง ผู้ช่วยพยาบาลวัดความดันและวัดไข้ พบว่าความดันปกติ มีไข้ 38.5 C นอนรอ พบหมอผู้หญิง (พญ.1) ซักถามอาการ
พญ.1: คนไข้เป็นอะไรมาค่ะ
ผม : หนาวสั่นบางเวลา ปัสสาวะแสบ มี แผลกดทับ และท้องเสีย
พญ.1: มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง
ผม: เบาหวานครับ
พญ.:คนไข้คงต้องแอดมิท เนื่องจากไข้สูง และท้องเสีย
ผม: ได้ครับ
รอสักพักก้อมีพยาบาล เตรียมอุปกรณ์มาทำแผลกดทับ แลเจาะเลือดปลายนิ้ววัดน้ำตาล ผลออกมา 205 มก.ต่อลิลิตร
พยาบาล: เจาะเลือดเก็บตัวอย่างไปเพาะเชื้อและคาเข็มให้น้ำเกลือ
ผม : ขอคนที่เจาะเก่งๆ เพราะเส้นเลือดของผมหายาก
รอ....พยาบาลเดินมาพร้อมอุปกรณ์ื คนแรกเจาะไป 2 ครั้งไม่สำเร็จ
ผม: น้องพอเถอะ พี่ไม่ไหวถ้าเจาะแบบนี้ เปลี่ยนคนเถอะ
รอแป็บ พยาบาลคนใหม่เจาะทีเดียว ให้น้ำเกลือ ได้เลย
ผม: นึกอยู่ในใจทำไมคนนี้ไม่มาเจาะตั้งแต่แรก เจ็บฟรีทั้งสองที แต่ที่ร้ายกว่านั้น ค่าอุปกรณ์ต่างๆตกอยู่ผู้ป่วย (มารู้ตอนออกจาก รพ. ดูในใบเสร็จ)
นอนรอสักพัก เพื่อขึ้นไปบนห้องพัก
พญ.1: ต้องเอ็กซ์เรย์ปอด
แฟนผม: ถามว่าทำไมต้องเอ็กซ์ปอด
ผม: ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก้อไม่ได้ถามหมอว่าทำไม
คนเปลเข็นห้องเอ็กเรย์เสร็จ คนเปลก้อเข็นขึ้นห้อง 919
นอนรอสักพัก,...,.........พยาบาลเข้ามาเก็บตัวอย่างเลือดอีกครั้งไปเพาะเชัออีก (ประมาณ 5 ทุ่ม)
พญ.2: สวัสดค่ะ หมอเป็นหมอเวรค่ะ คืนนี้หมอจะให้ยาฆ่าเชื้อก่อนน่ะ
ผม: ได้ครับ (หลังนั้นก้อ นอนมีอาการไข้ ตัวร้อน หนาวสั่นทั้งคืน)
วันที่ 2
พญ.2: สวัสดีค่ะ วันนี้อาการเป็นไงบ้าง (ตอนเช้า 9.00น.)
ผม: อาการเหมือนเดิมครับ ไข้ไม่ลด หนาวสั่น ทานอะไรไม่ได้
พญ.2: หมอให้ยาฆ่าเชื้อต่อ และให้น้ำเกลือต่อ เนื่องจากทานอะไม่ได้
(แต่ยาฆ่าเชื้อเริ่มให้ 6.00 น. 12.00 น. 18.00 น. และ 24.00 น.) ให้วันละ 4 ครั้ง
ตอนเย็นวันที่ 2
พญ.2: สวัสดีค่ะ อาการเป็นไงบ้าง (17.00 น.)
ผม: อาการก้อเหมือนเดิม หนาวสั่น ไข้ไม่ลด
นพ.1: สวัสดีครับ เป็นอะไรมา? (หมอศัลยกรรมตกแต่ง 19.00 น.)
ผม: ติดเชื้อครับ
นพ.1 : หมอขอดูแผลกดทับหน่อย
ผม: ได้ครับ (เปิดก้นให้ดู)
นพ.1: หมอว่าน่าจะติดเชื้อจากแผล แผลมีกลิ่นนิดหน่อย) หมอทำแผลให้ปกติ พรุ่งนี้จะสอนให้พยาบาลทำแผลให้. และแฟนผม เวลากลับไปอยู่บ้าน
ผม: ได้ครับ วันนี้แฟนยังไม่กลับเลย
นพ.1: ไม่เป็นไร แฟนกลับมากี่โมง
ผม: ประมาณทุ่มครึ่งครับ
นพ.1 : ได้พรุ่งนี้เจอกันตามนี้
พยาบาลให้ยาฆ่าเชื้อ 24.00 น. หนาวมาก. ผ่านสัก 2 ชม. เหงื่อออกท่วมตัว
วันที่ 3
พยาบาลเริ่มให้ยาฆ่าเชื้อตั้งแต่ 6.00 น. และเจาะปลายนิ้วเพื่อวัดนำ้ตาลในเลือดื ผลออกมา 275 เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก
ผม: บ่นกับพยาบาล กินอาหารควบคุมเบาหวานทุกอย่าง
ทำไมนำ้ตาลในเลือดถึงเพิ่มอีก
พญ.1 : สวัสดีค่ะ อาการเป็นไงบ้าง (9.00 น.)
ผม: อาการเหมือนเดิมครับ ไม่ดีขึ้นเลย
พญ.1 : น้ำตาลในเลือดสูง หมอจะให้งดยากินก่อน และเปลี่ยนมาฉีดแทน
ผม : ครับ
ตอนเที่ยงพยาบาลก้อเข้าฉีดอินซูลินบริเวณสะดือ ก่อนทานข้าว แต่ก้อยังให้น้ำเกลือเหมือนเดิม ให้ยาฆ่าเขื้อเหมือนเดิมตอไป
วันที่3 เย็น
พญ.1: สวัสดีค่ะ อาการเป็นไงบ้าง (17.00 น.)
ผม: เหมือนเดิม ไม่ดีขึ้น
พญ.1: คืนนี้หมอจะโทรปรึกษาหมออีกท่านที่เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อให้ค่ะ และผลเลือดออกมาแล้วติดเชื้อในปัสสาวะ
ผม: ครับ (ในใจก้อดีใจที่เชื้อติดในกระเพาะปัสสาวะ ที่ไม่ติดในกระแสเลือด แต่ก้อข้องใจที่ให้ยาฆ่าเชื้อมาสามวันอาการไม่ดีขึ้นเลยหรือ มันก้อติดเชื้อเหมือนคราวก่อนให้ยาสองคืนกลับบ้านได้ นึกในใจไม่ได้พูดอะไร)
พยาบาลก้อให้ยาฆ่าเชื้อเดิมตอน 18.00 น.
นพ.1: สวัสดีครับ เป็นไงบ้าง (19.30 น.) ลืมบอกไปหมอท่านนี้ประจำอยู่โรงพยาบาลหาดใหญ่
ผม: สวัสดีครับหมอ อาการก้อเหมือนเดิม
นพ.1: ผลเลือดคุณ โปรตีนในเลือดต่ำกว่ามาตรฐาน 2 กว่า ต้องกินโปรตีนเพิ่ม ชงเข้มข้นกินวันละ 4 แก้ว เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน เพื่อช่วยเรื่องแผลของคุณ และเตรียมร่างกายไว้ผ่าตัด ตอนนี้ยังผ่าไม่ได้เพราะร่างกายโปรตีนต่ำ
ผม: ครับ ๆ แล้วจะผ่าอย่างไรเนื้อที่ก้นน้อย
นพ.1: อธิบายเป็นขั้นตอน จนแฟนผมกลับมาถึงห้อง. หมอก้อเรียกพยาบาลและแฟนผมมาดูการทำแผลทุกขั้นตอนจนแฟนผมอึ้งว่าหมอทำขนาดนี้เลยหรือ
ผม: ขอบคุณครับ แฟนผมขอบคุณมากเลยหมอ
นพ.1: ไม่เป็นไร เดี๋ยวหมอสั่งโปรให้กินเลยน่ะ แล้วหันไปถามพยาบาลที่ รพ. มีไหม
พยาบาล: น่าจะมีค่ะ
ตอนเที่ยงคืน พยาบาลแจ้งว่าหมอเปลี่ยนยาฆ่าเชื้อใหม่ให้แล้วน่ะ แต่คิดในใจน่าจะเปลี่ยนตั้งนานแล้ว เพราะให้ยามาสามวันอาการไม่ดีขึ้นเลย แล้วรักษาไม่ดูประวัติคนไข้เลยหรือ แต่เรื่องของเรื่องมันไม่จบเท่านี้ มีต่อนะครับ