อยากขอคำปรึกษาเกี่ยวกับงานของเพื่อนเราหน่อยค่ะ เห็นเค้ากลุ้มใจเราก็เป็นห่วงมาก ขอสงวนนามบริษัทนะคะเดี๋ยวจะโดนฟ้อง อ่านๆไปจะเข้าใจค่ะว่าทำไมยังไง จึงอยากได้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมาย และผู้ที่มีประสบการณ์เดียวกันค่ะ (ยาวหน่อยนะคะพอดีเพื่อนไม่มีล็อกอินเราเลยให้เค้าพิมพ์มา แล้วเราโพสให้)
=============
เราทำงานอยู่บริษัทเกมแห่งหนึ่งแถวๆสาทรค่ะ เป็นบริษัทเล็กๆมีพนักงานประมาณ 20 คน ซึ่งไม่รู้เค้าบริหารยังไง ทำให้ขาดทุนมาตลอดหลายปีแล้วค่ะ แต่ยังดำเนินการต่อได้เพราะมีบริษัทแม่ซึ่งทำธุรกิจ IT Outsourcing คอยซัพพอร์ตมาตลอดค่ะ ทุกคนที่ทำที่นี่มาไม่เคยได้โบนัสเลยสักปี ปีนี้ก็ไม่มีการขึ้นเงินเดือน แต่ทุกคนก็ยังอยู่เพราะเพื่อนร่วมงานจริงใจและเข้ากันได้ดีค่ะ
จนประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ทางผู้บริหารก็เรียกประชุมพนักงานค่ะ แจ้งว่าสิ้นเดือนนี้อาจไม่สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ มีพนักงานถามว่าจะเลิกจ้างเหรอ? ทางผู้บริหารก็ตอบว่าไม่มีการเลิกจ้าง และ 'จะไม่ตอบคำถามใดๆอีกแล้วทั้งสิ้น' และหากใครมีคำถามเพิ่มเติมก็ให้เข้าไปสอบถามได้ทีละคน
แล้ววันต่อมาก็มีประกาศเรื่องบริษัทอาจไม่มีเงินเดือนจ่ายก็ถูกแปะไว้ที่บอร์ดบริษัท พนักงานเหวอกันถ้วนหน้าเลยค่ะเพราะไม่รู้จะทำยังไง พี่คนนึงเข้าไปสอบถามรายละเอียดจากผู้บริหารท่านั้น ก็ได้คำตอบว่า ใครจะลาออกก็ออกได้เลย โดยบริษัทจะยกเว้นระเบียบที่เคยให้พนักงานเซ็นยินยอมตอนเข้าทำงานใหม่ๆ (เช่น เรื่องลาออกที่ต้องบอกล่วงหน้าสามเดือน หรือเรื่องที่ว่าบริษัทห้ามพนักงานไปทำงานกับบริษัทคู่แข่ง หรือทำงานร่วมกับพนักงานทั้งเก่าและปัจจุบันของบริษัทอย่างน้อย 1 ปีหลังลาออก)
หลายวันผ่านไป ทางผู้จัดการท่านหนึ่งก็เรียกพนักงานเข้าไปคุยทีละคนค่ะ เอาหนังสือฉบับหนึ่งมาให้อ่าน แล้วบอกให้พนักงานเซ็นยอมรับ โดยมีผู้บริหารและที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทนั่งเป็นพยาน พร้อมทั้งบอกพนักงานว่าห้ามเปิดเผยเนื้อหาที่ได้รับทราบนี้ให้ใครทราบเด็ดขาด พนักงานบางส่วนก็กลัวค่ะ ไม่เกล้าพูดไรกันเลย แต่พนักงานบางส่วนก็มาจับเข่าคุยกันค่ะ ได้ความว่าเนื้อหาที่แต่ละคนได้รับมีความแตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมจะมีใจความประมาณนี้ค่ะ
- พนักงานได้รับทราบสถานะทางการเงินของบริษัทฯ (บริษัทฯได้แสดงหลักฐานทางการเงินให้ดูค่ะ)
- พนักงานยินยอมให้บริษัทฯนำเงินรายได้ไปใช้หนี้บริษัทแม่และเจ้าหนี้รายอื่นก่อน จึงจะพิจารณาจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน ซึ่งอาจจะเหลือจ่ายให้ได้ไม่ถึง 50%
- พนักงานยินยอมไปทำงาน Outsource
- พนักงานจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆจากบริษัท
ระหว่างที่อ่าน ผู้บริหารก็คอยตะล่อมพนักงานว่าให้เซ็นๆไปเถอะไม่มีอะไรหรอก เป็นแค่หนังสือรับทราบเฉยๆ ซึ่งสุดท้ายก็มีพนักงานบางคนยอมเซ็น บางคนไม่ยอมเซ็น บางคนเซ็นแล้วเขียนกำกับว่าไม่ยอมรับ
ในช่วงเวลาอันแสนเวิ้งว้างก่อนเงินเดือนออกนั่งเอง พนักงานบางส่วนที่ทนบรรยากาศอึมครึมกดดันไม่ไหว บ้างก็ไม่พอใจในการกระทำของบริษัทฯ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าพยายามบีบพนักงานออกเพื่อหลีกเลี่ยงเงินชดเชยในกรณีเลิกจ้างก็ได้แจ้งขอลาออก ซึ่งมีพนักงานบางคนที่ขอลาออกแต่ทางบริษัทพยายามรั้งตัวไว้ เสนอเพิ่มเงินเดือนให้ (อ้าว! ไหนบอกอาจจะไม่มีตังค์จ่าย) บางคนที่ติดสัญญาว่าต้องบอกล่วงหน้า 2-3 เดือน บางคนที่ติดสัญญาว่าต้องทำครบหนึ่งปี ก็โดนบังคับให้ต้องอยู่ทำให้ครบตามสัญญา มีพนักงานถามว่า ได้ยินมาว่าบริษัทจะเวฟเรื่องนี้ให้ ผู้บริหารตอบว่า เวฟให้เฉพาะบางคนเท่านั้น (เอิ่ม คนแบบไหนที่จะตรงใจเธอ)
สำหรับพนักงานที่ยังคงอยู่ ....และแล้ววันสิ้นเดือนก็มาถึง....
ปล. เริ่มยาวแล้ว จบครึ่งแรกแล้ว เดี๋ยวพิมพ์ครึ่งหลังต่อนะคะ
ทำไงดี...บริษัทจ่ายเงินเดือนให้ไม่ครบ...ไม่ปิดกิจการ...ไม่เลิกจ้าง...ไม่บอกว่าจะจ่ายให้เมื่อไหร่
=============
เราทำงานอยู่บริษัทเกมแห่งหนึ่งแถวๆสาทรค่ะ เป็นบริษัทเล็กๆมีพนักงานประมาณ 20 คน ซึ่งไม่รู้เค้าบริหารยังไง ทำให้ขาดทุนมาตลอดหลายปีแล้วค่ะ แต่ยังดำเนินการต่อได้เพราะมีบริษัทแม่ซึ่งทำธุรกิจ IT Outsourcing คอยซัพพอร์ตมาตลอดค่ะ ทุกคนที่ทำที่นี่มาไม่เคยได้โบนัสเลยสักปี ปีนี้ก็ไม่มีการขึ้นเงินเดือน แต่ทุกคนก็ยังอยู่เพราะเพื่อนร่วมงานจริงใจและเข้ากันได้ดีค่ะ
จนประมาณกลางเดือนสิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ทางผู้บริหารก็เรียกประชุมพนักงานค่ะ แจ้งว่าสิ้นเดือนนี้อาจไม่สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานได้ มีพนักงานถามว่าจะเลิกจ้างเหรอ? ทางผู้บริหารก็ตอบว่าไม่มีการเลิกจ้าง และ 'จะไม่ตอบคำถามใดๆอีกแล้วทั้งสิ้น' และหากใครมีคำถามเพิ่มเติมก็ให้เข้าไปสอบถามได้ทีละคน
แล้ววันต่อมาก็มีประกาศเรื่องบริษัทอาจไม่มีเงินเดือนจ่ายก็ถูกแปะไว้ที่บอร์ดบริษัท พนักงานเหวอกันถ้วนหน้าเลยค่ะเพราะไม่รู้จะทำยังไง พี่คนนึงเข้าไปสอบถามรายละเอียดจากผู้บริหารท่านั้น ก็ได้คำตอบว่า ใครจะลาออกก็ออกได้เลย โดยบริษัทจะยกเว้นระเบียบที่เคยให้พนักงานเซ็นยินยอมตอนเข้าทำงานใหม่ๆ (เช่น เรื่องลาออกที่ต้องบอกล่วงหน้าสามเดือน หรือเรื่องที่ว่าบริษัทห้ามพนักงานไปทำงานกับบริษัทคู่แข่ง หรือทำงานร่วมกับพนักงานทั้งเก่าและปัจจุบันของบริษัทอย่างน้อย 1 ปีหลังลาออก)
หลายวันผ่านไป ทางผู้จัดการท่านหนึ่งก็เรียกพนักงานเข้าไปคุยทีละคนค่ะ เอาหนังสือฉบับหนึ่งมาให้อ่าน แล้วบอกให้พนักงานเซ็นยอมรับ โดยมีผู้บริหารและที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทนั่งเป็นพยาน พร้อมทั้งบอกพนักงานว่าห้ามเปิดเผยเนื้อหาที่ได้รับทราบนี้ให้ใครทราบเด็ดขาด พนักงานบางส่วนก็กลัวค่ะ ไม่เกล้าพูดไรกันเลย แต่พนักงานบางส่วนก็มาจับเข่าคุยกันค่ะ ได้ความว่าเนื้อหาที่แต่ละคนได้รับมีความแตกต่างกันบ้าง แต่โดยรวมจะมีใจความประมาณนี้ค่ะ
- พนักงานได้รับทราบสถานะทางการเงินของบริษัทฯ (บริษัทฯได้แสดงหลักฐานทางการเงินให้ดูค่ะ)
- พนักงานยินยอมให้บริษัทฯนำเงินรายได้ไปใช้หนี้บริษัทแม่และเจ้าหนี้รายอื่นก่อน จึงจะพิจารณาจ่ายเงินเดือนให้พนักงาน ซึ่งอาจจะเหลือจ่ายให้ได้ไม่ถึง 50%
- พนักงานยินยอมไปทำงาน Outsource
- พนักงานจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆจากบริษัท
ระหว่างที่อ่าน ผู้บริหารก็คอยตะล่อมพนักงานว่าให้เซ็นๆไปเถอะไม่มีอะไรหรอก เป็นแค่หนังสือรับทราบเฉยๆ ซึ่งสุดท้ายก็มีพนักงานบางคนยอมเซ็น บางคนไม่ยอมเซ็น บางคนเซ็นแล้วเขียนกำกับว่าไม่ยอมรับ
ในช่วงเวลาอันแสนเวิ้งว้างก่อนเงินเดือนออกนั่งเอง พนักงานบางส่วนที่ทนบรรยากาศอึมครึมกดดันไม่ไหว บ้างก็ไม่พอใจในการกระทำของบริษัทฯ ซึ่งหลายคนเข้าใจว่าพยายามบีบพนักงานออกเพื่อหลีกเลี่ยงเงินชดเชยในกรณีเลิกจ้างก็ได้แจ้งขอลาออก ซึ่งมีพนักงานบางคนที่ขอลาออกแต่ทางบริษัทพยายามรั้งตัวไว้ เสนอเพิ่มเงินเดือนให้ (อ้าว! ไหนบอกอาจจะไม่มีตังค์จ่าย) บางคนที่ติดสัญญาว่าต้องบอกล่วงหน้า 2-3 เดือน บางคนที่ติดสัญญาว่าต้องทำครบหนึ่งปี ก็โดนบังคับให้ต้องอยู่ทำให้ครบตามสัญญา มีพนักงานถามว่า ได้ยินมาว่าบริษัทจะเวฟเรื่องนี้ให้ ผู้บริหารตอบว่า เวฟให้เฉพาะบางคนเท่านั้น (เอิ่ม คนแบบไหนที่จะตรงใจเธอ)
สำหรับพนักงานที่ยังคงอยู่ ....และแล้ววันสิ้นเดือนก็มาถึง....
ปล. เริ่มยาวแล้ว จบครึ่งแรกแล้ว เดี๋ยวพิมพ์ครึ่งหลังต่อนะคะ