วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.27 น.
หน้าแรก > การเงิน-ลงทุน [ฉบับที่ 1505 ประจำวันที่ 2014-09-20 ถึง 2014-09-26]
หุ้นกองเรือมาแล้ว?
บรรยากาศการลงทุนปลายไตรมาส 3/57 แม้จะคลายความร้อนแรงไปบ้าง แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการเก็งกำไรในหุ้น mid/small cap อย่างคึกคัก เรียกว่าหุ้น Top 10 active ที่ปกติจะมีแต่หุ้นใน SET50 แต่ในตอนนี้จะปรากฏหุ้นนอก SET50 หรือหุ้นนอก SET100 ติดมาอย่างน้อย 4-5 ตัว และแต่ละตัวก็วิ่งขึ้นมาอย่างน้อย 20-30% ถ้าเป็นตลาดหุ้นในสมัยก่อน ก็ต้องถือว่าเป็นสัญญาณว่าตลาดหุ้นใกล้จะพักตัว (ปรับลง) ครั้งใหญ่ แต่ถ้าในสมัยนี้ล่ะก็ ถือว่าไม่แน่เพราะมีตัวแปรเยอะ ไม่ว่าจะเป็นข่าวรัฐบาลใหม่, ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่, QE of ECB แม้กระทั่ง กองทุนเตรียมทำ NAV ก่อนปิดงบไตรมาส 3 สิ่งเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นไทย “แข็ง” ผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องจับตาคลื่นลมหลังหากมีการยกเลิกกฎอัยการศึกให้ดีกันนะ รวมถึงเรื่องใน Ukraine และ Iraq ที่อาจทำให้ตลาดหุ้น “วูบ” ขึ้นได้หากมีอะไรรุนแรงขึ้นมา
กลับมาถึงหุ้นในกลุ่มเดินเรือบ้านเรา หลังจากจมอยู่ในสุสานไทนานิคมาซะนาน ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมา โดยเฉพาะหากดูจากดัชนีฯ ค่าระวางเรือ หรือ Baltic Dry Index ที่กลับฟื้นตัวขึ้นมาจากระดับต่ำกว่า 800 ขึ้นมาใกล้ๆ 1,200 จุด หรือปรับขึ้นกว่า 60% ในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งปี 57 เป็นปีแรกที่สัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนสุดในรอบ 5 ปี โดยคาดว่า Demand จะเติบโตใกล้ๆ 8% ในปี 57 และ 7% ในปี 58 เป็นประเด็นจุดพลุให้ค่าระวางขนส่งทางเรือปรับขึ้นมาเร็ว ซึ่งในรอบนี้คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปอีก 3 ปี
ถ้าจะพูดถึงหุ้นกองเรือในไทยที่น่าสนใจ เรา concentrate เพียง 2 ตัวคือ TTA และ PSL ส่วน RCL นั้นแม้จะเริ่มมีการฟื้นตัวของกำไร แต่ยังอ่อนแออยู่มาก ยิ่งดูจากราคาหุ้นปัจจุบันที่เทรดในระดับราคาที่สูง หากดูจาก PER และ PBV ดังนั้นเราจึงขอหลีกเลี่ยงไม่พูดถึง แต่หากเป็นนักลงทุนที่ชอบเก็งกำไรหุ้น turnaround stock ล่ะก็อาจจะเหล่ๆ RCL ไว้บ้างก็ได้ (high risk high return) ถ้าใจถึงพอ
สำหรับ TTA จะเป็นตัว top pick ที่เราสนใจมากที่สุด จาก 2 ประเด็นใหญ่คือ 1) รายได้หลัก (58%) มาจาก MMT ซึ่งเป็นสัญญาเช่าระวางเรือระยะยาว (3 ปี) โดย TTA ได้เพิ่มกองเรือจาก 23 ขึ้นเป็น 24 ลำ ขณะที่ค่าระวางเรือล่วงหน้า (FFA) ก็มีสัญญาณปรับขึ้นติดต่อกัน 2) รายได้จากเรือเทกองที่มีสัดส่วน 27% นั้นมีแนวโน้มจะฟื้นตัวตาม demand ตลาดโลก และ 3) การเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ เป็นกลุ่มมหากิจศิริ แทนทีมบริหารเดิม ที่มีกลิ่นทุจริตตลบอบอวล จนผลประกอบการฟุบไม่เลิก น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อ TTA
มองจากผลประกอบการปี 57 ได้ฟื้นตัวจากปี 56 ที่ขาดทุนสูงกว่า 5 พันลบ. โดยคาดปี 57 จะมีกำไรสุทธิราวๆ 1.1 พันลบ. โดยปี 58-59 คาดจะเติบโตได้ต่อเนื่อง (15-20%) ในขณะที่ราคาปัจจุบันถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะยังเทรดต่ำกว่า BV อยู่ ซึ่งในอดีต TTA เคยเทรดที่ 1.2-1.3 เท่าของ PBV ซึ่งทำให้ TTA น่าจะกลับไปเทรดแถวๆ 27-30 บาท ได้ โดยเฉพาะแรงหนุนจาก บ.ลูกคือ MML, Baconco อยู่ในแนวโน้มธุรกิจขาขึ้น ขณะที่ทาง UMS น่าจะมีผลขาดทุนที่ลดลง
สำหรับ PSL นั้นเสียฟอร์มไปนิดนึงตอนประกาศกำไร Q2 ที่ขาดทุนไป 53 ลบ. แต่หากดูกำไรปกติพบว่าจะมีกำไร 21 ลบ. นั้นเลยทำให้ราคาปรับลงแรงก่อนจะเด้งขึ้นมาได้ ในส่วนของรายได้ส่วนใหญ่ของ PSL นั้นจะมากองเรือเทกอง ซึ่งอิงกับค่าระวางเรือเป็นหลัก โดย PSL ปล่อยเรือราวๆ 64% ใน spot rate ดังนั้นการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วของ BDI ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นับเป็นผลดีต่อ PSL อย่างชัดเจน โดยคาดว่าเมื่อเข้าสู่ high season ปลายปี อัตรา BADI จะปรับขึ้นอีก
ทั้งนี้ คาดหมายว่าการเพิ่มกองเรือในปี 57-59 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของ PSL ขยายตัวในอัตราสูง ผนวกกับวัฏจักรธุรกิจขนส่ง กำลังกลับมาเป็นขาขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ จะทำให้กำไรของ PSL ในปี 58-59 จะขยายตัวในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยราคาหุ้นน่าจะปรับขึ้นไปยืนเหนือ 30 บาท ได้ในเร็วๆ นี้
http://www.siamturakij.com/main/news_content.php?nt=4&nid=6708
หุ้นกองเรือมาแล้ว?
หน้าแรก > การเงิน-ลงทุน [ฉบับที่ 1505 ประจำวันที่ 2014-09-20 ถึง 2014-09-26]
หุ้นกองเรือมาแล้ว?
บรรยากาศการลงทุนปลายไตรมาส 3/57 แม้จะคลายความร้อนแรงไปบ้าง แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการเก็งกำไรในหุ้น mid/small cap อย่างคึกคัก เรียกว่าหุ้น Top 10 active ที่ปกติจะมีแต่หุ้นใน SET50 แต่ในตอนนี้จะปรากฏหุ้นนอก SET50 หรือหุ้นนอก SET100 ติดมาอย่างน้อย 4-5 ตัว และแต่ละตัวก็วิ่งขึ้นมาอย่างน้อย 20-30% ถ้าเป็นตลาดหุ้นในสมัยก่อน ก็ต้องถือว่าเป็นสัญญาณว่าตลาดหุ้นใกล้จะพักตัว (ปรับลง) ครั้งใหญ่ แต่ถ้าในสมัยนี้ล่ะก็ ถือว่าไม่แน่เพราะมีตัวแปรเยอะ ไม่ว่าจะเป็นข่าวรัฐบาลใหม่, ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่, QE of ECB แม้กระทั่ง กองทุนเตรียมทำ NAV ก่อนปิดงบไตรมาส 3 สิ่งเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นไทย “แข็ง” ผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องจับตาคลื่นลมหลังหากมีการยกเลิกกฎอัยการศึกให้ดีกันนะ รวมถึงเรื่องใน Ukraine และ Iraq ที่อาจทำให้ตลาดหุ้น “วูบ” ขึ้นได้หากมีอะไรรุนแรงขึ้นมา
กลับมาถึงหุ้นในกลุ่มเดินเรือบ้านเรา หลังจากจมอยู่ในสุสานไทนานิคมาซะนาน ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมา โดยเฉพาะหากดูจากดัชนีฯ ค่าระวางเรือ หรือ Baltic Dry Index ที่กลับฟื้นตัวขึ้นมาจากระดับต่ำกว่า 800 ขึ้นมาใกล้ๆ 1,200 จุด หรือปรับขึ้นกว่า 60% ในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งปี 57 เป็นปีแรกที่สัญญาณการฟื้นตัวชัดเจนสุดในรอบ 5 ปี โดยคาดว่า Demand จะเติบโตใกล้ๆ 8% ในปี 57 และ 7% ในปี 58 เป็นประเด็นจุดพลุให้ค่าระวางขนส่งทางเรือปรับขึ้นมาเร็ว ซึ่งในรอบนี้คาดว่าจะดำเนินต่อเนื่องไปอีก 3 ปี
ถ้าจะพูดถึงหุ้นกองเรือในไทยที่น่าสนใจ เรา concentrate เพียง 2 ตัวคือ TTA และ PSL ส่วน RCL นั้นแม้จะเริ่มมีการฟื้นตัวของกำไร แต่ยังอ่อนแออยู่มาก ยิ่งดูจากราคาหุ้นปัจจุบันที่เทรดในระดับราคาที่สูง หากดูจาก PER และ PBV ดังนั้นเราจึงขอหลีกเลี่ยงไม่พูดถึง แต่หากเป็นนักลงทุนที่ชอบเก็งกำไรหุ้น turnaround stock ล่ะก็อาจจะเหล่ๆ RCL ไว้บ้างก็ได้ (high risk high return) ถ้าใจถึงพอ
สำหรับ TTA จะเป็นตัว top pick ที่เราสนใจมากที่สุด จาก 2 ประเด็นใหญ่คือ 1) รายได้หลัก (58%) มาจาก MMT ซึ่งเป็นสัญญาเช่าระวางเรือระยะยาว (3 ปี) โดย TTA ได้เพิ่มกองเรือจาก 23 ขึ้นเป็น 24 ลำ ขณะที่ค่าระวางเรือล่วงหน้า (FFA) ก็มีสัญญาณปรับขึ้นติดต่อกัน 2) รายได้จากเรือเทกองที่มีสัดส่วน 27% นั้นมีแนวโน้มจะฟื้นตัวตาม demand ตลาดโลก และ 3) การเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ เป็นกลุ่มมหากิจศิริ แทนทีมบริหารเดิม ที่มีกลิ่นทุจริตตลบอบอวล จนผลประกอบการฟุบไม่เลิก น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีต่อ TTA
มองจากผลประกอบการปี 57 ได้ฟื้นตัวจากปี 56 ที่ขาดทุนสูงกว่า 5 พันลบ. โดยคาดปี 57 จะมีกำไรสุทธิราวๆ 1.1 พันลบ. โดยปี 58-59 คาดจะเติบโตได้ต่อเนื่อง (15-20%) ในขณะที่ราคาปัจจุบันถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะยังเทรดต่ำกว่า BV อยู่ ซึ่งในอดีต TTA เคยเทรดที่ 1.2-1.3 เท่าของ PBV ซึ่งทำให้ TTA น่าจะกลับไปเทรดแถวๆ 27-30 บาท ได้ โดยเฉพาะแรงหนุนจาก บ.ลูกคือ MML, Baconco อยู่ในแนวโน้มธุรกิจขาขึ้น ขณะที่ทาง UMS น่าจะมีผลขาดทุนที่ลดลง
สำหรับ PSL นั้นเสียฟอร์มไปนิดนึงตอนประกาศกำไร Q2 ที่ขาดทุนไป 53 ลบ. แต่หากดูกำไรปกติพบว่าจะมีกำไร 21 ลบ. นั้นเลยทำให้ราคาปรับลงแรงก่อนจะเด้งขึ้นมาได้ ในส่วนของรายได้ส่วนใหญ่ของ PSL นั้นจะมากองเรือเทกอง ซึ่งอิงกับค่าระวางเรือเป็นหลัก โดย PSL ปล่อยเรือราวๆ 64% ใน spot rate ดังนั้นการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วของ BDI ในช่วงเดือนที่ผ่านมา นับเป็นผลดีต่อ PSL อย่างชัดเจน โดยคาดว่าเมื่อเข้าสู่ high season ปลายปี อัตรา BADI จะปรับขึ้นอีก
ทั้งนี้ คาดหมายว่าการเพิ่มกองเรือในปี 57-59 จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของ PSL ขยายตัวในอัตราสูง ผนวกกับวัฏจักรธุรกิจขนส่ง กำลังกลับมาเป็นขาขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ จะทำให้กำไรของ PSL ในปี 58-59 จะขยายตัวในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยราคาหุ้นน่าจะปรับขึ้นไปยืนเหนือ 30 บาท ได้ในเร็วๆ นี้
http://www.siamturakij.com/main/news_content.php?nt=4&nid=6708