จากรายการตี๋อ้วนชวนหิวพาตะลุยเมืองเซนได ที่ออกอากาศไปในวันที่ 14 กย.
จขกท.ผู้เป็นแม่บ้านไทยที่อาศัยเมืองนี้มานานอย่างทนทาน จึงอดขอตามไปดูด้วยไม่ได้
คราวนี้ตี๋อ้วนกับครูบีมไปเที่ยว 3 แห่งดังนี้ ①ที่ตั้งปราสาทอะโอะบะ ② กินบะหมี่ราสซอสเต้าหู้เผ็ด (Mabo Yakisoba) ③ เทศกาลทะนะบะตะและการจุดดอกไม้ไฟครั้งใหญ่ประจำปีของเซนได
เอาล่ะ! ตามไปดูแต่ละแห่งกันเลยนะคะ
จุดที่ ①ที่ตั้งปราสาทอะโอะบะ
ขอบอกก่อนว่าปราสาทที่เคยยืนหยัดมาเกือบ 300 ปี ตั้งแต่ปีคศ.1601 ถึง 1871 นั้น บัดนี้ไม่เหลือแล้ว เพราะถูกรื้อถอนไปเมื่อญี่ปุ่นล้มเลิกการปกครองแบบซามูไร อีกซ้ำถูกไฟสงครามไหม้เผาผลาญไปเสียสิ้น ที่ยังคงเหลืออยู่ได้แก่หินกำแพงปราสาทที่เรียงอย่างสวยสง่างาม
ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองอย่างดี เพราะตั้งอยู่บนภูเขากลางเมือง มองเห็นแลนด์มาร์คที่สำคัญๆของเซนได วันไหนฟ้าใสจะมองเห็นถึงมหาสมุทรแปซิฟิคและเรือเดินสมุทรเลยล่ะค่ะ
วิธีไปได้ง่ายๆโดยขึ้นรถบัสลูปเปิ้ลหน้าสถานีเซนได ป้าย 15-3 หรือจากจุดท่องเที่ยวอื่นๆบนเส้นทางที่รถนี้วิ่งผ่านค่ะ (
http://www.kotsu.city.sendai.jp/english/bus/loople/index.html)
ที่ตั้งปราสาทนี้มีกลุ่มทหารเอกของดาเตะ (Date busho-tai)มาให้ความบันเทิงแก่ผู้ที่มาเยือนระหว่างเวลา 10.30-16.00 ในวันธรรมดา ส่วนในวันเสาร์แถมการแสดงรอบค่ำเวลา 17.30-20.00
จากนั้นตี๋อ้วนก็ไปกินบะหมี่ราดซอสเต้าหู้เผ็ดที่ร้าน Chiku Chiku กัน (ที่อยู่ 2-22 Kitamemachi, Aoba-ku,Sendai)
มาโบยะกิโซบะเป็นเมนูอาหารใหม่ของเมืองเซนได รสชาติเผ็ดๆถูกใจพวกเราชาวไทย หาทานได้ตามร้านอาหารจีนหลายแห่งในเมืองค่ะ
http://dateuma.jp/menu/yakisoba/
เสร็จจากนั้น ตี๋อ้วนกับครูบีมก็ไปดูการจุดดอกไม้ไฟครั้งใหญ่ประจำปี ซึ่งจัดในค่ำวันที่ 5 สค. เป็นการประเดิมเปิดงานเทศกาลทะนะบะตะ (Sendai Tanabata) ซึ่งจะมีในวันรุ่งขึ้นต่อจากนั้น 3 วัน ( 6-8 สค.ทุกปี )
ในเทศกาลทะนะบะตะนี้ ชาวเมืองจะเขียนคำอธิษฐานลงในแผ่นกระดาษTanzaku และนำไปผูกกับกิ่งไผ่ ประดับถนนหนทางด้วยโคมกระดาษสีสดใส
หากใครสนใจลองใส่กิโมโน (ยุกะตะ) เดินเที่ยวเมืองล่ะก็ แวะมาที่ร้าน"วะแอนด์ทะบิ อุเมะเลิฟ" ( 5-41 Ichibancho 1-chome, Sendai-shi, Miyagi 980-0811) หรือคลิกลิ้งค์อ่านรายละเอียดแล้วจองได้ที่
http://www.miyagitheme.jp/th/spot06xp.html ที่ร้านนี้มีชุดให้เช่าและแต่งให้เสร็จสรรพค่ะ
หวังว่าผู้อ่านจะหาโอกาสตามรอยตี๋อ้วนมาเที่ยวเมืองเซนได เมืองที่จขกท.รักมากๆ สักวันนะคะ แล้วเจอกัน...
เที่ยวเซนได กับตี๋อ้วนชวนหิว (ที่ตั้งปราสาทอะโอะบะ, ไปกิน Mabo yakisoba, เทศกาลทะนะบะตะ)
จขกท.ผู้เป็นแม่บ้านไทยที่อาศัยเมืองนี้มานานอย่างทนทาน จึงอดขอตามไปดูด้วยไม่ได้
คราวนี้ตี๋อ้วนกับครูบีมไปเที่ยว 3 แห่งดังนี้ ①ที่ตั้งปราสาทอะโอะบะ ② กินบะหมี่ราสซอสเต้าหู้เผ็ด (Mabo Yakisoba) ③ เทศกาลทะนะบะตะและการจุดดอกไม้ไฟครั้งใหญ่ประจำปีของเซนได
เอาล่ะ! ตามไปดูแต่ละแห่งกันเลยนะคะ
จุดที่ ①ที่ตั้งปราสาทอะโอะบะ
ขอบอกก่อนว่าปราสาทที่เคยยืนหยัดมาเกือบ 300 ปี ตั้งแต่ปีคศ.1601 ถึง 1871 นั้น บัดนี้ไม่เหลือแล้ว เพราะถูกรื้อถอนไปเมื่อญี่ปุ่นล้มเลิกการปกครองแบบซามูไร อีกซ้ำถูกไฟสงครามไหม้เผาผลาญไปเสียสิ้น ที่ยังคงเหลืออยู่ได้แก่หินกำแพงปราสาทที่เรียงอย่างสวยสง่างาม
ที่นี่เป็นจุดชมวิวเมืองอย่างดี เพราะตั้งอยู่บนภูเขากลางเมือง มองเห็นแลนด์มาร์คที่สำคัญๆของเซนได วันไหนฟ้าใสจะมองเห็นถึงมหาสมุทรแปซิฟิคและเรือเดินสมุทรเลยล่ะค่ะ
วิธีไปได้ง่ายๆโดยขึ้นรถบัสลูปเปิ้ลหน้าสถานีเซนได ป้าย 15-3 หรือจากจุดท่องเที่ยวอื่นๆบนเส้นทางที่รถนี้วิ่งผ่านค่ะ (http://www.kotsu.city.sendai.jp/english/bus/loople/index.html)
ที่ตั้งปราสาทนี้มีกลุ่มทหารเอกของดาเตะ (Date busho-tai)มาให้ความบันเทิงแก่ผู้ที่มาเยือนระหว่างเวลา 10.30-16.00 ในวันธรรมดา ส่วนในวันเสาร์แถมการแสดงรอบค่ำเวลา 17.30-20.00
จากนั้นตี๋อ้วนก็ไปกินบะหมี่ราดซอสเต้าหู้เผ็ดที่ร้าน Chiku Chiku กัน (ที่อยู่ 2-22 Kitamemachi, Aoba-ku,Sendai)
มาโบยะกิโซบะเป็นเมนูอาหารใหม่ของเมืองเซนได รสชาติเผ็ดๆถูกใจพวกเราชาวไทย หาทานได้ตามร้านอาหารจีนหลายแห่งในเมืองค่ะ http://dateuma.jp/menu/yakisoba/
เสร็จจากนั้น ตี๋อ้วนกับครูบีมก็ไปดูการจุดดอกไม้ไฟครั้งใหญ่ประจำปี ซึ่งจัดในค่ำวันที่ 5 สค. เป็นการประเดิมเปิดงานเทศกาลทะนะบะตะ (Sendai Tanabata) ซึ่งจะมีในวันรุ่งขึ้นต่อจากนั้น 3 วัน ( 6-8 สค.ทุกปี )
ในเทศกาลทะนะบะตะนี้ ชาวเมืองจะเขียนคำอธิษฐานลงในแผ่นกระดาษTanzaku และนำไปผูกกับกิ่งไผ่ ประดับถนนหนทางด้วยโคมกระดาษสีสดใส
หากใครสนใจลองใส่กิโมโน (ยุกะตะ) เดินเที่ยวเมืองล่ะก็ แวะมาที่ร้าน"วะแอนด์ทะบิ อุเมะเลิฟ" ( 5-41 Ichibancho 1-chome, Sendai-shi, Miyagi 980-0811) หรือคลิกลิ้งค์อ่านรายละเอียดแล้วจองได้ที่ http://www.miyagitheme.jp/th/spot06xp.html ที่ร้านนี้มีชุดให้เช่าและแต่งให้เสร็จสรรพค่ะ
หวังว่าผู้อ่านจะหาโอกาสตามรอยตี๋อ้วนมาเที่ยวเมืองเซนได เมืองที่จขกท.รักมากๆ สักวันนะคะ แล้วเจอกัน...