นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าชื่นชมกับทีมชาติไทยชุดนี้จริงๆ ที่เล่นได้อย่างรัดกุมและดุดัน
ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะอึดอัดกับการเล่นในวันนี้ที่มันไม่ง่ายเหมือนนัดถล่มอินโด 6-0 หรือนัด
เชือดจีน 2-0 แต่สุดท้ายทีมชาติไทยชุดนี้ก็เอาชนจอร์อแดนมาได้
นัดนี้จอร์แดนทำการบ้านมาดีมาก เข้าอัดเร็วในแดนกลาง ไม่ปล่อยให้ไทยเล่นได้ง่ายๆ
จะเห็นว่าจอร์แดนแย่งบอลจากแดนกลางเราได้บ่อยครั้งในครึ่งแรก แต่นั่นก็ถือว่ายังไม่ดีพอ
เพราะแย่งบอลจากไทยได้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรต่อจากนั้นได้ สุดท้ายจังหวะจบ
แทบจะไม่มีเลย ทั้งนี้เพราะจอร์แดนอาจจะไม่ได้เตรียมแผนที่จะเข้าทำไว้อย่างชัดเจน
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือซับปุย เพราะธรรมชาติซับปุยไม่ใช่คนจ่ายบอลเร็ว
เมื่อโดนเข้าเร็ว เราจึงเสียบอลจากซับปุยบ่อยมาก จนสุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวออก
การเสียบอลจากแดนกลางของเราจึงลดลง
เพราะไม่มีแผนที่แน่นอนในการเข้าทำของจอร์แดน ทำให้เราเล่นง่ายในแดนหลัง
ถ้ามองเผินๆเหมือนเราจะรน ต่อบอลไม่ติด แต่จริงๆแล้วน่าจะเป็นวินัยของทีมที่ไม่เตะบอล
ทิ้งมากกว่า เพราะเราน่าจะเตรียมรับมือการเข้าบีบเร็วมาแล้วนั่นเอง สังเกตว่าทีมไทย
จะเล่นกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คนเสมอ ต่อให้คนแรกเสียบอลก็มีคนที่สอง สามคอยซ้อน
ที่จะคอยแย่ง แล้วต่อบอลในที่แคบ ไม่เตะบอลทิ้ง ต่างจากจอร์แดนที่พอแย่งบอลได้
กลับไม่มีเพื่อนคอยประคอง ต่อผ่าไปเองจนเสียบอล ไม่ก็เปิดยาวแล้วโดนดักหน้ากรอบเขตโทษ
ทำให้เกมนี้ของจอร์แดน ต่อให้วูบวาบแค่ไหนก็ไม่มีจังหวะจบสกอร์จะแจ้งเลยแม้แต่ลูกเดียว
รูปแบบการเข้าทำของไทยก็เหมือนเดิม คือจ่ายด้านข้าง แล้วอาศัยปีกความเร็วสูงวิ่งทะลุ
ถึงเส้นหลัง แล้วตวัดเข้ามาให้แถวสอง รูปเกมนี้ต้องการปีกความเร็วสูงมากกว่าปีกทักษะดี
คือไม่ต้องเลี้ยงเดี่ยวตัวต่อตัว แค่วิ่งทะลุแล้วตบกลับมาให้เพื่อนสำเร็จโทษ จอร์แดนเองก็รู้
ถึงตามประกอบกองกลางเราแทบจะกระดิกไม่ได้ แต่สุดท้ายต้องพลาดให้ธนาธิปจนได้
ลูกนั้นยิงดีจริงๆ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของเกม ด้วยสกอร์ที่ตามหลังบังคับให้จอร์แดนต้องบีบ
เกมให้เร็วขึ้นในครึ่งหลัง แต่เพราะมันไม่มีรูปแบบที่จะจัดการกับทีมไทยโดยเฉพาะสุดท้ายจึงต้อง
มาเสียให้กับจังหวะโต้กลับของไทย พอเสียลูกที่สองก็จบข่าว
จอร์แดนแพ้นัดนี้เพราะโค้ชแก้เกมทีมไทยไม่ได้มากกว่า ทั้งๆที่ผู้เล่นสูงใหญ่กว่า เร็วกว่า กลับทำอะไร
ไทยไม่ได้ สู้ระบบทำลายเกมแดนกลางของไทยไม่ได้
ทีมไทยเองมีข้อเสียที่ต้องรีบจัดการอย่างหนึ่ง คือเราไม่มีลูกสูตรตั้งเตะเลย ทั้งๆที่
รูปแบบการเล่นของเราเอื้อให้โดนทำฟาล์วเพื่อตัดเกม แต่พอได้ลูกตั้งแตะเรากลับ
ไม่มีสูตรทำที่แน่นอน เท่าที่เห็นมีแต่ยิงยัดอย่างเดียว จะเห็นว่าตั้งแต่เล่นมาได้ประตู
จากลูกเตะมุมลูกเดียวเอง ทั้งๆที่ได้ฟรีคิกส์เยอะขนาดนั้น
เกมหน้า ไทยน่าจะได้เจอเกาหลีใต้ ทั้งกองเชียร์ ทั้งกรรมการน่าจะกดดันกว่านัดนี้
แต่ด้วยวินัยเกมรับ ผมว่ามีลุ้นมากๆที่เราจะสวนโป้งเดียวจอด ตัวแปรน่าจะเป็นลูกฟรีคิก
เพราะนัดหน้าโดนตัดเกมแน่ ถ้าฟรีคิกเน้นๆ ประวัติศาสตร์เหมือนสมัยที่เอเชียนเกมที่กรุงเทพ
อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
ไทย จอร์แดน 2-0 นัดนี้ไทยชนะทั้งรูปเกมและสกอร์
ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะอึดอัดกับการเล่นในวันนี้ที่มันไม่ง่ายเหมือนนัดถล่มอินโด 6-0 หรือนัด
เชือดจีน 2-0 แต่สุดท้ายทีมชาติไทยชุดนี้ก็เอาชนจอร์อแดนมาได้
นัดนี้จอร์แดนทำการบ้านมาดีมาก เข้าอัดเร็วในแดนกลาง ไม่ปล่อยให้ไทยเล่นได้ง่ายๆ
จะเห็นว่าจอร์แดนแย่งบอลจากแดนกลางเราได้บ่อยครั้งในครึ่งแรก แต่นั่นก็ถือว่ายังไม่ดีพอ
เพราะแย่งบอลจากไทยได้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรต่อจากนั้นได้ สุดท้ายจังหวะจบ
แทบจะไม่มีเลย ทั้งนี้เพราะจอร์แดนอาจจะไม่ได้เตรียมแผนที่จะเข้าทำไว้อย่างชัดเจน
คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือซับปุย เพราะธรรมชาติซับปุยไม่ใช่คนจ่ายบอลเร็ว
เมื่อโดนเข้าเร็ว เราจึงเสียบอลจากซับปุยบ่อยมาก จนสุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวออก
การเสียบอลจากแดนกลางของเราจึงลดลง
เพราะไม่มีแผนที่แน่นอนในการเข้าทำของจอร์แดน ทำให้เราเล่นง่ายในแดนหลัง
ถ้ามองเผินๆเหมือนเราจะรน ต่อบอลไม่ติด แต่จริงๆแล้วน่าจะเป็นวินัยของทีมที่ไม่เตะบอล
ทิ้งมากกว่า เพราะเราน่าจะเตรียมรับมือการเข้าบีบเร็วมาแล้วนั่นเอง สังเกตว่าทีมไทย
จะเล่นกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คนเสมอ ต่อให้คนแรกเสียบอลก็มีคนที่สอง สามคอยซ้อน
ที่จะคอยแย่ง แล้วต่อบอลในที่แคบ ไม่เตะบอลทิ้ง ต่างจากจอร์แดนที่พอแย่งบอลได้
กลับไม่มีเพื่อนคอยประคอง ต่อผ่าไปเองจนเสียบอล ไม่ก็เปิดยาวแล้วโดนดักหน้ากรอบเขตโทษ
ทำให้เกมนี้ของจอร์แดน ต่อให้วูบวาบแค่ไหนก็ไม่มีจังหวะจบสกอร์จะแจ้งเลยแม้แต่ลูกเดียว
รูปแบบการเข้าทำของไทยก็เหมือนเดิม คือจ่ายด้านข้าง แล้วอาศัยปีกความเร็วสูงวิ่งทะลุ
ถึงเส้นหลัง แล้วตวัดเข้ามาให้แถวสอง รูปเกมนี้ต้องการปีกความเร็วสูงมากกว่าปีกทักษะดี
คือไม่ต้องเลี้ยงเดี่ยวตัวต่อตัว แค่วิ่งทะลุแล้วตบกลับมาให้เพื่อนสำเร็จโทษ จอร์แดนเองก็รู้
ถึงตามประกอบกองกลางเราแทบจะกระดิกไม่ได้ แต่สุดท้ายต้องพลาดให้ธนาธิปจนได้
ลูกนั้นยิงดีจริงๆ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของเกม ด้วยสกอร์ที่ตามหลังบังคับให้จอร์แดนต้องบีบ
เกมให้เร็วขึ้นในครึ่งหลัง แต่เพราะมันไม่มีรูปแบบที่จะจัดการกับทีมไทยโดยเฉพาะสุดท้ายจึงต้อง
มาเสียให้กับจังหวะโต้กลับของไทย พอเสียลูกที่สองก็จบข่าว
จอร์แดนแพ้นัดนี้เพราะโค้ชแก้เกมทีมไทยไม่ได้มากกว่า ทั้งๆที่ผู้เล่นสูงใหญ่กว่า เร็วกว่า กลับทำอะไร
ไทยไม่ได้ สู้ระบบทำลายเกมแดนกลางของไทยไม่ได้
ทีมไทยเองมีข้อเสียที่ต้องรีบจัดการอย่างหนึ่ง คือเราไม่มีลูกสูตรตั้งเตะเลย ทั้งๆที่
รูปแบบการเล่นของเราเอื้อให้โดนทำฟาล์วเพื่อตัดเกม แต่พอได้ลูกตั้งแตะเรากลับ
ไม่มีสูตรทำที่แน่นอน เท่าที่เห็นมีแต่ยิงยัดอย่างเดียว จะเห็นว่าตั้งแต่เล่นมาได้ประตู
จากลูกเตะมุมลูกเดียวเอง ทั้งๆที่ได้ฟรีคิกส์เยอะขนาดนั้น
เกมหน้า ไทยน่าจะได้เจอเกาหลีใต้ ทั้งกองเชียร์ ทั้งกรรมการน่าจะกดดันกว่านัดนี้
แต่ด้วยวินัยเกมรับ ผมว่ามีลุ้นมากๆที่เราจะสวนโป้งเดียวจอด ตัวแปรน่าจะเป็นลูกฟรีคิก
เพราะนัดหน้าโดนตัดเกมแน่ ถ้าฟรีคิกเน้นๆ ประวัติศาสตร์เหมือนสมัยที่เอเชียนเกมที่กรุงเทพ
อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง