หลังจากที่เขียนถึง Mobilio ไป 2 กระทู้
ทั้งเรื่อง Mobilio ไทยขึ้นรูปตัวถังเหล็กใหม่ทั้งหมดไม่ให้เหมือน Brio สักชิ้นเพียงที่เดียวในโลก
และ เรื่องเจาะประเด็นเกี่ยวกับราคา Mobilio ในแต่ละรุ่นว่าคุ้มหรือไม่ยังไง

วันนี้เกิดนึกถึง Honda Fit Shuttle ขึ้นมา เลยจับมาเปรียบเทียบกันดู
Fit shuttle คือรถ Honda Fit หรือ Jazz รุ่น GE มาต่อท้ายให้ยาวขึ้น เหมือนกับ Brio มาต่อท้ายให้เป็น Mobilio
แต่ Fit shuttle ยังคงที่นั่งเอาไว้แค่ 2 แถว 5 ที่นั่งเหมือน Jazz เช่นเดิม
จุดเด่นของ Fit shuttle จึงเหมือนกับ Mobilio รุ่น S ที่เน้นการขนของได้จุมากขึ้น
แต่ Fit shuttle ยังมี magic seat ของ Jazz ที่สามารถพับเบาะจนราบเรียบวางเป็นที่นอนและใช้เป็นโรงแรมเคลื่อนที่ได้
ในขณะที่ Mobilio ก็วางเป็นที่นอนได้เช่นกัน แม้จะไม่มี magic seat ก็ตาม แต่ก็มีเก้าอี้แบบ one touch พับไปติดกับด้านหลัง
พนักพิงเก้าอี้หน้าได้


ใครจะว่า Honda ขี้งก กั๊กรุ่น S ไม่ให้มี 7 ที่นั่ง ก็ว่ากันไป แต่ในอีกมุมนึง Honda ตั้งใจขายรุ่นนี้ให้กับ
คนขายของ กลุ่มหญิงสาวที่มีอาชีพค้าขายแบบ SME

มาลองเปรียบเทียบมิติรถกันดูบ้าง
Honda Mobilio S ซึ่งเป็นรุ่นล่าง รองจากรุ่น V และ RS ก็จะเปรียบเทียบได้กับ
Honda Fit Shuttle รุ่น 1.5C อันเป็นรุ่นล่างสุด
มิติ ความยาว เกือบเท่ากัน Mobilio 4,386 มม. vs Fit shuttle 4,385 มม.
และ มีความยาวฐานล้อ Mobilio 2,652 มม. vs Fit shuttle 2,500 มม.

"เฮ้ย!!! รถพื้นฐาน Jazz ทำไมมันตัวถังสั้น ฐานล้อยังสั้น กว่ารถพื้นฐาน Brio อีก!"

คำตอบคือ เพราะว่า Honda ตั้งใจทำ Mobilio มาเป็นรถ 7 ที่นั่ง จึงต้องยืดทั้งตัวถังและฐานล้อให้ยาวสุดๆ
แม้ว่าพื้นฐานตัวรถจะเป็นเพียง Honda Brio ก็ตาม

เปรียบเทียบด้วยภาพ






เมื่อนำภาพมาซ้อนกัน ด้วยสัดส่วนที่ปรับให้เท่ากันแล้ว พบว่า Honda Mobilio ดูเป็นรถที่ใหญ่
กว่า Fit shuttle ซะอีก ซึ่งถ้าไม่เปรียบเทียบขนาดนี้ก็คงจะนึกภาพไม่ออก ว่ารถพื้นฐาน Brio
จะยืดออกมาให้ใหญ่กว่ารถพื้นฐาน Jazz ได้ยังไง

ด้านความสูง Mobilio สูง 1,603 มม. vs Fit shuttle 1,540 มม.
ความกว้าง Mobilio 1,683 มม. vs Fit shuttle 1,695. มม. หรือแพ้ด้านความกว้างไป 1.2 ซม.เท่านั้น แทบไม่รู้สึก

ความสูงใต้ท้องรถ Mobilio 189 มม. (สูงกว่า CR-V อีก) vs Fit shuttle 150 มม. ทำให้ Mobilio
เป็นทั้งรถครอบครัว 7 ที่นั่ง (ยกเว้นรุ่น S) ที่ไว้ขับลุยนอกเมืองได้อีก ถ้าเทียบกับกระบะตัวเตี้ย เช่น Vigo
ก็จะมีความสูงใต้ท้องรถที่ 181 มม. ทำให้คนที่ชอบขับลุยๆ ขับ Mobilio ได้สบายไม่ต้องกังวลว่าด้านล่างจะโดนขูดเลย

น้ำหนักยังทำมาเท่าๆ กันคือประมาณ 1,200 กก. ทั้งคู่!

ส่วนราคา
Mobilio S A/T ราคา 642,000 บาท
Fit Shuttle 1.5C ราคา 502,000 บาท

ปกติรถญี่ปุ่นจะถูกกว่าเมืองไทยอยู่แล้วเช่น
ที่ญี่ปุ่น Fit 1.5X 483,700 บาท
ส่วนไทย Jazz SV 739,000 บาท

เหตุผลเนื่องจากระดับภาษีหน้าโรงงานไทยแพง แต่รายจ่ายทั่วๆ ไปถูกกว่า ในขณะที่ญี่ปุ่น
จะมีค่าใช้จ่ายหลังจากซื้อรถไปแล้วเยอะมาก

ด้านสไตลิ่ง

Honda Fit shuttle แต่เดิมด้านหน้าใช้สไตลิ่งคล้ายๆ แบบ Honda Fit US พอไมเนอร์เชนจ์ก็หัน
มาใช้สไตลิ่งแบบเดียวกับ Honda Mobilio รุ่นปกติ



คิดง่ายดีเนอะ
จะเห็นได้ว่า Honda ยึดหลักแค่ว่า ไฟหน้าเดิมๆ มันก็สวยของมันอยู่แล้วน่ะแหล่ะ!
แล้วก็ยืดกระจังหน้าให้เชื่อมต่อกับไฟหน้าซะหน่อยนึง ช่องดักลมต้องทำให้ยาวเพื่อช่วยให้รถ
ดูกว้าง แต่จะทำเป็นช่องสี่เหลี่ยมตรงๆ แบบ VW ก็คงดูจืดชืด ต้องเพิ่มเขี้ยวให้เห็นเป็นบริเวณ
กรอบไฟตัดหมอกซะหน่อย ส่วนตรงกลางก็ตัดสีดำลงมาจนสุดเลย ก็กลายเป็นสไตลิ่งที่ไม่ดูจืดชืดละ

สไตลิ่งด้านหลังดูเหมือนจะกินกันไม่ลง



แต่ Mobilio ได้ไฟท้ายสองก่อน จัดเรียงแบบเหลื่อมๆ สไตล์ BMW กานิช หรือคิ้วที่มีโลโก้ H
ดูโดดเด่นกว่า Fit shuttle และไฟทับทิมบนกันชนด้านล่างของ Mobilio จะมีกรอบสีดำเชื่อมทั้งสอง
ด้าน ทำให้ดูสปอร์ต ไม่เรียบแบบ Fit shuttle

Mobilio ใช้ประตูหลังที่มีขนาดกว้างและกินพื้นที่ลงมาจนเกือบสุด
ในขณะที่ Fit shuttle ยังเหลือที่ไว้ให้กันชนเยอะ แต่ดูจากภาพ เวลายกของขึ้นใส่ท้ายรถ อาจจะ
อยู่ระดับความสูงใกล้ๆ กัน เพราะความสูงใต้ท้องรถ Mobilio จะสูงกว่า Fit shuttle มาก

ทั้งคู่ใช้สไตล์ floating roof ทั้งคู่ ทำเสา D เป็นกระจกสีดำทั้งหมด ทำให้ดูหรูหรา
แต่เพื่อไม่ให้ดูจืดชือ Mobilio จะมีส่วนของหลังคาพาดลงมาตรงเสา D ส่วน Fit shuttle เลือกที่จะ
ให้ส่วนของตัวถังพาดขึ้นไปบนเสา C แทน

ส่วนอีกอย่างที่ Fit shuttle ไม่มี ก็คือ ขอบกระจกแนว Thunder bolt หรือสายฟ้า มีเป็นเส้นหัก
ลงตรงแถวๆ ที่ต่อจากเสา B ของ Mobilio

สิ่งที่ Fit shuttle จะดูเหนือกว่า Mobilio คือ ภายในและสไตลิ่งบางส่วนที่ยกมาจาก Jazz ที่ดูมีระดับ
กว่า Mobilio ที่ยกสไตลิ่งภายใน และภายนอกบางส่วนมาจาก Brio
ดังนั้นในส่วนของรูปโฉมนั้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ของ Fit shuttle ก็มีอะไรๆ ของ Jazz ที่
ดีอยู่แล้วเข้ามา ส่วนของ Mobilio แม้จะเป็น Brio มาก่อน แต่ Honda ก็ตั้งใจปรับลุคเพิ่มเติมรายละเอียด
ต่างๆ มาอย่างดี และภายในสีดำก็ทำให้ดูดีกว่าภายใน Brio ที่ช่วงแรกมีขายแต่สีครีม จนตอนหลังต้องมีรุ่น
ภายในสีดำออกมาขายด้วย เพราะสีดำช่วยกลบเกลื่อนความด้อยของงานออกแบบและผิววัสดุได้เป็นอย่างดี


รีวิวในต่างประเทศ

สำหรับผม Mobilio ในเรื่องที่นั่ง ตำแหน่งการขับ ท่านั่ง ที่นั่งด้านหลังแถวสอง
โดยรวมเป็นอะไรที่ประเสิรฐมาก โดยเฉพาะแถวสองที่ทำเก้าอี้ออกมาได้ทั้งนั่งสบาย และปรับเอนได้หลายองศา
กระจกดูโปร่งโล่งสบาย พื้นที่เหนือศรีษะเยี่ยม ในด้านการนั่ง 5 คน Mobilio ทำออกมาได้ไร้ที่ติ ส่วนสองที่นั่ง
ข้างหลังในรุ่น V และ RS ทำได้ในระดับค่าเฉลี่ย ไม่เลวร้าย แต่ก็ไม่ดีนักเพราะถังน้ำมันถูกวางไว้ใต้พื้นแถว 3
ทำให้พื้นสูงขึ้นมา ส่วนด้านการขับศูนย์ที่ไปดูรถยังไม่มีรถให้ลองขับ

Honda Fit shuttle ได้รับคำชมในญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะความเงียบ ความนิ่งของรถที่ดีขึ้น ท้ายไม่เด้งแบบ
Jazz เพราะมีน้ำหนักท้ายรถที่ยาวขึ้นช่วยกดเอาไว้ ขับสบาย นั่งสบายเหมือนรถระดับ C segment แต่บางคนบอกว่า
อยากให้พวงมาลัยตอบสนองดีขึ้นกว่าเดิมอีกนิด

Honda Mobilio รีวิวส่วนใหญ่ในอินเดีย ชมเชยการขับขี่ของ Mobilio การซับเสียง ซับแรงสั่นสะเทือนดีกว่า
Brio เหมือนเป็นรถคนละระดับ ช่วงล่างดี เข้าโค้งมี body roll น้อย รถไม่ค่อยโครงแม้จะอยู่ต่ำแหน่งสูง
ถือว่าเป็นรถที่ขับสนุกพอๆ กับ Suzuki Ertiga

ดังนั้นถือว่าน่าสนใจไม่น้อยสำหรับรถในตระกูลมินิแวนจาก Honda ซึ่ง setting ออกมาได้ดีกว่าเดิม
แม้ว่าฐานล้อจะยาวขึ้น สูงขึ้น แต่ก็ทำการบังคับควบคุมและการทรงตัวออกมาได้ดี ถือว่าได้รับคำชมมากทั้ง
สองรุ่นที่จับเอามาเปรียบเทียบ โดยการขับขี่จะออกไปในแนวสปอร์ตมากกว่า Honda Freed

เกือบลืมเปรียบเทียบภาพภายในของทั้งคู่ เมื่อต้องขนของแบบเต็มพิกัด



การบริหารจัดการพื้นที่แทบจะเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ต่างกันที่ Mobilio ขอกินเนื้อที่สำหรับ
เบาะที่ต้องไปพิงกับเบาะคู่หน้านิดนึง และพลาสติกเหนือซุ้มล้อด้านหลัง ดูเหมือน Mobilio จะกิน
เนื้อที่เข้ามามากกว่านิดๆ เสียดายที่ไม่มีตัวเลขวัดเปรียบเทียบกัน แต่เชื่อว่า Honda คงอ้างอิงงานออกแบบ
ของรถในค่ายตัวเองด้วยกันไม่มากก็น้อย

สรุป Jazz ไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ผูกขาด ถ้าได้ลองมาดู Mobilio อาจจะพบว่ามันตอบโจทย์ได้มากกว่า
สำหรับบางคน และอย่าลืมว่า Mobilio เป็นรถรุ่นเดียวในท้องตลาดที่ทำมาสำหรับท่านั่งขับในแบบรถเก๋ง
นอกนั้นล้วนทำตำแหน่งการขับมาแบบรถมินิแวน ดังนั้นสำหรับคนที่ใช้งานรถเก๋งมาตลอด จะคุ้นเคยกับการขับ
และตำแหน่งนั่งของ Mobilio มากกว่าคู่แข่งทุกรุ่น แถมมีเบาะแถวสองที่สุโค่ยยิ่งกว่า Jazz ซะอีก
ถ้าเลือกตามแฟชั่น คงจิ้มนิ่วไปที่ Jazz ได้ง่ายๆ แต่ถ้ามองหาการใช้งานที่แตกต่าง และครอบคลุมจนกระทั่ง
เอาไว้ทำธุรกิจ SME ได้ คงต้องจิ้มไปที่ Mobilio อย่างแน่นอนที่สุด////