เนื่องจากฟิล์มเดิมเริ่มหมดสภาพแล้ว สีซืด บางส่วนเริ่มลอก กันความร้อนแทบไม่ได้เลย ขนาดแดดตอน 9 โมงเช้าก็ยังมีสะดุ้งครับ พี่ที่ทำงานแนะนำร้านชารีฟ อยู่ตรงซอยกรุงเทพกรีฑา 20 แยก 2 พี่เค้าบอกว่าราคาถูกมาก ผมเลยไปหาข้อมูลต่อในอินเตอร์เน็ตด้วยการหาจาก Google และมีคลับหลายๆคลับแนะนำร้านนี้ ผมเลยตกลงปลงใจที่จะไปร้านนี้ครับ
นอกจากนี้ก็ได้ลองหาข้อมูลฟิล์มย และการรีวิวต่างๆเท่าที่หาได้ และได้พบกับรีวิวนี้ครับ ที่ดูท่าทางมีประสบการณ์ติดฟิล์มมามากมาย อ่านแล้วก็เชื่อไปแล้วมากกว่าครึ่ง และเห้นว่า Hi-kool เป็นฟิล์มที่ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ เลยยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่
http://topicstock.ppantip.com/ratchada/topicstock/2012/01/V11556295/V11556295.html
รถผมเป็นอัลติสหน้าหมูสีบรอนซ์เงินนะครับ สิ่งที่ผมอยากได้จากการติดฟิล์มคือ กันร้อนได้ดี แต่ต้องได้การมองเห็นที่สบายตา ไม่มืด และสามารถปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกรถได้ ดูแล้วผมน่าจะเหมาะกับฟิล์มใสๆมากกว่า แต่งบน้อยเลยต้องจำใจใช้ฟิล์มทั่วไปครับ
เท่าที่หาข้อมูลมาผมสนใจฟิล์ม Hi-Kool สีชาครับ ซึ่ง 40% จะเป็นรหัส R30HC และ 60% จะเป็นตัว R60HC ดูจากสเปคแล้วถ้าเทียบกับฟิล์มยี่ห้อเดียวกัน ความเข้มเท่ากันในสีอื่นๆ สีชาดูเหมือนจะกันความร้อนได้สูงสุดครับ แต่พอไปถึงร้านดันไม่มีสีชาอย่างที่ผมต้องการครับ มีแต่สีเทา 60% และสีควันบุหรี่ 40% แค่ 2 ตัวเอง แต่ไหนๆก็มาแล้วก็เลยติดๆไปให้มันจบๆครับ มันคงกันร้อนได้ไม่ต่างกันมากมั้ง
หลังจากที่คุยกับเซลล์และผมบอกความต้องการไปหมดแล้วว่า ผมขับทั้งกลางวันและกลางคืนนะ ออกต่างจังหวัดมืดๆก็บ่อย เซลล์แนะนำ บานหน้า 40% รอบคัน 60% ครับ ตแนแรกจะติดบานคู่หน้าเป้น 40% ด้วยแต่เซลล์บอกว่ามันใสมากเลยเชื่อตามเซลล์ครับ ผมเองก็เคยเปลี่ยนฟิล์มครั้งแรก ไม่ค่อยรู้เรื่องฟิล์มเท่าไร ก็เชื่อๆเค้าไปครับ
ช่างทำงานกันได้รวดเร็วมากครับ จากที่เริ่มลงมือทำงานใช้เวลาเพียงชม. ครึ่งก็เสร็จแล้ว คุณชารีฟเจ้าของร้านอัธยาศัยดีมากครับมาชวนคุยตลอดระหว่างการติดตั้ง แต่ช่างกรีดฟิล์มบนกระจกบานคนขับ ตำแหน่งเกือบกลางกระจกเลยครับเป็นรอยแผลที่กระจกนิดนึง ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นครับ ผมไม่ได้ซีเรียสมากรถผมเก่าแล้ว
หลังจากติดตั้งเสร็จ ก็พบว่างานเนียนดีครับ มีเม็ดน้ำที่บานหน้าทำให้ขับลำบากหน่อย ซึ่งเป้นปกติของช่วงแรกๆที่ติดฟิล์มมาครับ ต่อไปนี้จะเป็นการให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนส่วนตัวนะครับ เปรียบเทียบระหว่าง Before กับ After ครับ Before จะหมายถึงฟิล์มเก่าที่หมดสภาพแล้วนะครับ ซึ่งผมไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นครับขออภัยด้วย
1. การมองเห็นจากด้านใน
ฺBefore : A
After : B
การมองเห็นแย่ลงจนพอสัมผัสได้ครับ การขับกลางวันมืดลงตรงนี้ไม่มีปัญหา การเข้าที่จอดรถในห้างมืดลงตรงนี้ทำให้มองรถยากขึ้น ในตอนกลางวันการสะท้อนแสงจากคอนโซลไปที่กระจกหน้ายังไม่เห็นเงาชัดเจนนะครับ แต่กระจกข้างเห็นเงาชัดเจนทีเดียว แต่ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการมองรถหลังมากนัก การถอยจอดในตอนกลางคืนแทบไม่เห็นเลยครับ การขับรถในตอนกลางคืนใน กทม. และมีไฟส่องบ้างตลอดทาง ก็ดูมองทางได้แย่ลงครับ มองหลังเห็นแต่ไฟ เห็นตัวรถเป็นเงาๆจางๆเท่านั้น ถ้ามีคนเดินดุ่มๆมาวิ่งตัดหน้ารถ คงไม่เห็นแน่ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ปัญหาเหล่านี้แทบไม่มีเลย อย่างน้อยก็ยังเห็นเงาลางๆข้างทางที่แสงส่องไม่ถึงบ้าง แต่ตอนนี้ไม่เห็นเลย นี่ถ้าขับต่างจังหวัดที่ไม่มีไฟถนนคงจะแย่กว่านี้อีกแน่ครับ
แต่มีข้อดีข้อนึงครับ ปกติผมเป้นคนที่ตาสู้แสงไม่เก่ง ถ้ามีแดดผมจะต้องสวมแว่นตลอดครับ แต่หลังจากติดฟิล์มมาผมจะต้องหยิบแว่นมาใส่ในกรณีที่แดดแรงจ้าจริงๆเท่านั้นครับ ในตอนกลางคืนเวลาขับสวนกับรถยกสูงที่ใช้ไฟซีน่อนก็สบายตาขึ้นมากครับ
2. การลดความร้อนจากแสงแดด
ฺBefore : D
After : B+
เรื่องนี้ค่อนข้างประทบใจครับ ความร้อนโดยรวมลดลงประมาณ 2 ใน 3 แม้ยามขับในตอนเที่ยงวัน เปิดแอร์ความเย็นเบอร์ต่ำๆ ก็เย็นเพียงพอแล้ว ซึ่งของเดิมถ้าเป็นเวลานี้ต่อให้เปิดเบอร์กลางๆก็ยังร้อน ตอบแบบสั้นๆ ข้อนี้ผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
3. ความสวยงาม (ความหล่อ)
ฺBefore : D+
After : B
ฟิล์มสีเข้มขึ้นตัดกับสีรถดูคมเข้มขึ้นครับ รถดูดีมีชาติตระกูลขึ้นนิดหน่อย เพื่อนๆก็ยังชมว่าติดฟิล์มแล้วรถดูดีขึ้น เพราะมองหน้าคนขับไม่เห็น (อ้าว มันหลอกด่านี่หว่า) เอาเป็นว่า รถดูดีขึ้นละกันครับ
4. การปฏิสัมพันธ์กับภายนอก
ฺBefore : B+
After : D
เป็นจุดประสงค์อีกข้อนึงของผมนะครับ ซึ่งคนอื่นอาจจะอยากได้ความมืด เข้ม มองจากด้านนอกไม่เห็นเพื่อความเป้นส่วนตัว แต่ผมต้องการความใสเพียงพอที่จะปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกได้ ในกรณีดังนี้
1. ผมจะซื้อพวงมาลัยตามแยกไฟแดงบ่อยๆครับ (ก็รู้ว่าฟอมาลีนมันเยอะนะครับ แต่ก็ไม่ค่อยว่างแวะตลาดสด) เมื่อก่อนผมโบกมือจากในรถน้องเค้าก็วิ่งปรี่มาหาผมแล้ว แต่ตอนนี้น้องเค้าไม่เห็นผมเลยครับ
2. ในซอยที่ผมจะต้องขับรถผ่านเป็นซอยที่มีร้านเที่ยวกลางคืนเยอะครับ และถ้าผมขับผ่านตอนดึกๆซึ่งผ่านบ่อยมาก จะมีเด็กมารับรถ มาโบกให้และรีบวิ่งร้อยเมตรไปหาที่จอดให้เรา ปกติผมจะโบกมือบ๊ายบายเป็นสัญญาณบอกว่าไม่ได้เที่ยวครับ ซึ่งเค้าก็เข้าใจทุกครั้ง แต่วันนี้เค้าไม่เห็นผมครับ เศร้า ><'
3. เวลาขับผ่านแยก ผ่านทางม้าลาย บางทีผมจะหยุดให้รถบางคันไปก่อน หรือหยุดให้คนเดินข้ามถนนไปก่อน ผมจะจอด โบกมือ ก้มหัว หรือยิ้มให้ ตอนนี้ผมไม่สามารถทำแบบนั้นให้กับผู้คนรอบข้างได้แล้ว เพราะเค้ามองผมไม่เห็นเลยครับ ก็รู้สึกอึดอัดๆนิดหน่อย
นั่นก็เป็นทั้งหมดที่ผมพอจะนึกออกครับ ตอนนี้คิดแต่เพียงว่าอยากมีตังสัก 2-3 พัน อยากจะไปเลาะฟิล์มออกแล้วติดใหม่ แต่ใจนึงก็ทำใจร่มๆแล้วบอกตัวเองว่าก็ใช้ๆมันไปก่อน เพราะเซลล์ที่ร้านยังอวยพรว่า ถ้าจอดตากแดดทุกวันอย่างผม ฟิล์มน่าจะไปไวกว่าปกติครับ (ปกติผมจอดข้างตึก ตากแดดช่วงเช้าถึงเที่ยงทุกวันครับ) ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ แล้วจะมาเล่าต่อถ้ามีอะไรอัพเดทนะครับ รวมถึงเรื่องความทน และความคุ้มค่าหลังจากการใช้งานอีกด้วยครับ
ปล. การให้ดาวครั้งนี้ เป้นการให้ดาวสำหรับเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้ในตอนต้นนะครับ โปรดอ่านและพิจารณาจากความต้องการของท่านเอง เพราะความต้องการของผมกับท่านอื่นๆคงไม่เหมือนกันครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยนะครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิว ฟิล์ม Hi-Kool
นอกจากนี้ก็ได้ลองหาข้อมูลฟิล์มย และการรีวิวต่างๆเท่าที่หาได้ และได้พบกับรีวิวนี้ครับ ที่ดูท่าทางมีประสบการณ์ติดฟิล์มมามากมาย อ่านแล้วก็เชื่อไปแล้วมากกว่าครึ่ง และเห้นว่า Hi-kool เป็นฟิล์มที่ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ เลยยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่
http://topicstock.ppantip.com/ratchada/topicstock/2012/01/V11556295/V11556295.html
รถผมเป็นอัลติสหน้าหมูสีบรอนซ์เงินนะครับ สิ่งที่ผมอยากได้จากการติดฟิล์มคือ กันร้อนได้ดี แต่ต้องได้การมองเห็นที่สบายตา ไม่มืด และสามารถปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกรถได้ ดูแล้วผมน่าจะเหมาะกับฟิล์มใสๆมากกว่า แต่งบน้อยเลยต้องจำใจใช้ฟิล์มทั่วไปครับ
เท่าที่หาข้อมูลมาผมสนใจฟิล์ม Hi-Kool สีชาครับ ซึ่ง 40% จะเป็นรหัส R30HC และ 60% จะเป็นตัว R60HC ดูจากสเปคแล้วถ้าเทียบกับฟิล์มยี่ห้อเดียวกัน ความเข้มเท่ากันในสีอื่นๆ สีชาดูเหมือนจะกันความร้อนได้สูงสุดครับ แต่พอไปถึงร้านดันไม่มีสีชาอย่างที่ผมต้องการครับ มีแต่สีเทา 60% และสีควันบุหรี่ 40% แค่ 2 ตัวเอง แต่ไหนๆก็มาแล้วก็เลยติดๆไปให้มันจบๆครับ มันคงกันร้อนได้ไม่ต่างกันมากมั้ง
หลังจากที่คุยกับเซลล์และผมบอกความต้องการไปหมดแล้วว่า ผมขับทั้งกลางวันและกลางคืนนะ ออกต่างจังหวัดมืดๆก็บ่อย เซลล์แนะนำ บานหน้า 40% รอบคัน 60% ครับ ตแนแรกจะติดบานคู่หน้าเป้น 40% ด้วยแต่เซลล์บอกว่ามันใสมากเลยเชื่อตามเซลล์ครับ ผมเองก็เคยเปลี่ยนฟิล์มครั้งแรก ไม่ค่อยรู้เรื่องฟิล์มเท่าไร ก็เชื่อๆเค้าไปครับ
ช่างทำงานกันได้รวดเร็วมากครับ จากที่เริ่มลงมือทำงานใช้เวลาเพียงชม. ครึ่งก็เสร็จแล้ว คุณชารีฟเจ้าของร้านอัธยาศัยดีมากครับมาชวนคุยตลอดระหว่างการติดตั้ง แต่ช่างกรีดฟิล์มบนกระจกบานคนขับ ตำแหน่งเกือบกลางกระจกเลยครับเป็นรอยแผลที่กระจกนิดนึง ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นครับ ผมไม่ได้ซีเรียสมากรถผมเก่าแล้ว
หลังจากติดตั้งเสร็จ ก็พบว่างานเนียนดีครับ มีเม็ดน้ำที่บานหน้าทำให้ขับลำบากหน่อย ซึ่งเป้นปกติของช่วงแรกๆที่ติดฟิล์มมาครับ ต่อไปนี้จะเป็นการให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนส่วนตัวนะครับ เปรียบเทียบระหว่าง Before กับ After ครับ Before จะหมายถึงฟิล์มเก่าที่หมดสภาพแล้วนะครับ ซึ่งผมไม่ทราบยี่ห้อและรุ่นครับขออภัยด้วย
1. การมองเห็นจากด้านใน
ฺBefore : A
After : B
การมองเห็นแย่ลงจนพอสัมผัสได้ครับ การขับกลางวันมืดลงตรงนี้ไม่มีปัญหา การเข้าที่จอดรถในห้างมืดลงตรงนี้ทำให้มองรถยากขึ้น ในตอนกลางวันการสะท้อนแสงจากคอนโซลไปที่กระจกหน้ายังไม่เห็นเงาชัดเจนนะครับ แต่กระจกข้างเห็นเงาชัดเจนทีเดียว แต่ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการมองรถหลังมากนัก การถอยจอดในตอนกลางคืนแทบไม่เห็นเลยครับ การขับรถในตอนกลางคืนใน กทม. และมีไฟส่องบ้างตลอดทาง ก็ดูมองทางได้แย่ลงครับ มองหลังเห็นแต่ไฟ เห็นตัวรถเป็นเงาๆจางๆเท่านั้น ถ้ามีคนเดินดุ่มๆมาวิ่งตัดหน้ารถ คงไม่เห็นแน่ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้ปัญหาเหล่านี้แทบไม่มีเลย อย่างน้อยก็ยังเห็นเงาลางๆข้างทางที่แสงส่องไม่ถึงบ้าง แต่ตอนนี้ไม่เห็นเลย นี่ถ้าขับต่างจังหวัดที่ไม่มีไฟถนนคงจะแย่กว่านี้อีกแน่ครับ
แต่มีข้อดีข้อนึงครับ ปกติผมเป้นคนที่ตาสู้แสงไม่เก่ง ถ้ามีแดดผมจะต้องสวมแว่นตลอดครับ แต่หลังจากติดฟิล์มมาผมจะต้องหยิบแว่นมาใส่ในกรณีที่แดดแรงจ้าจริงๆเท่านั้นครับ ในตอนกลางคืนเวลาขับสวนกับรถยกสูงที่ใช้ไฟซีน่อนก็สบายตาขึ้นมากครับ
2. การลดความร้อนจากแสงแดด
ฺBefore : D
After : B+
เรื่องนี้ค่อนข้างประทบใจครับ ความร้อนโดยรวมลดลงประมาณ 2 ใน 3 แม้ยามขับในตอนเที่ยงวัน เปิดแอร์ความเย็นเบอร์ต่ำๆ ก็เย็นเพียงพอแล้ว ซึ่งของเดิมถ้าเป็นเวลานี้ต่อให้เปิดเบอร์กลางๆก็ยังร้อน ตอบแบบสั้นๆ ข้อนี้ผ่านอย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
3. ความสวยงาม (ความหล่อ)
ฺBefore : D+
After : B
ฟิล์มสีเข้มขึ้นตัดกับสีรถดูคมเข้มขึ้นครับ รถดูดีมีชาติตระกูลขึ้นนิดหน่อย เพื่อนๆก็ยังชมว่าติดฟิล์มแล้วรถดูดีขึ้น เพราะมองหน้าคนขับไม่เห็น (อ้าว มันหลอกด่านี่หว่า) เอาเป็นว่า รถดูดีขึ้นละกันครับ
4. การปฏิสัมพันธ์กับภายนอก
ฺBefore : B+
After : D
เป็นจุดประสงค์อีกข้อนึงของผมนะครับ ซึ่งคนอื่นอาจจะอยากได้ความมืด เข้ม มองจากด้านนอกไม่เห็นเพื่อความเป้นส่วนตัว แต่ผมต้องการความใสเพียงพอที่จะปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกได้ ในกรณีดังนี้
1. ผมจะซื้อพวงมาลัยตามแยกไฟแดงบ่อยๆครับ (ก็รู้ว่าฟอมาลีนมันเยอะนะครับ แต่ก็ไม่ค่อยว่างแวะตลาดสด) เมื่อก่อนผมโบกมือจากในรถน้องเค้าก็วิ่งปรี่มาหาผมแล้ว แต่ตอนนี้น้องเค้าไม่เห็นผมเลยครับ
2. ในซอยที่ผมจะต้องขับรถผ่านเป็นซอยที่มีร้านเที่ยวกลางคืนเยอะครับ และถ้าผมขับผ่านตอนดึกๆซึ่งผ่านบ่อยมาก จะมีเด็กมารับรถ มาโบกให้และรีบวิ่งร้อยเมตรไปหาที่จอดให้เรา ปกติผมจะโบกมือบ๊ายบายเป็นสัญญาณบอกว่าไม่ได้เที่ยวครับ ซึ่งเค้าก็เข้าใจทุกครั้ง แต่วันนี้เค้าไม่เห็นผมครับ เศร้า ><'
3. เวลาขับผ่านแยก ผ่านทางม้าลาย บางทีผมจะหยุดให้รถบางคันไปก่อน หรือหยุดให้คนเดินข้ามถนนไปก่อน ผมจะจอด โบกมือ ก้มหัว หรือยิ้มให้ ตอนนี้ผมไม่สามารถทำแบบนั้นให้กับผู้คนรอบข้างได้แล้ว เพราะเค้ามองผมไม่เห็นเลยครับ ก็รู้สึกอึดอัดๆนิดหน่อย
นั่นก็เป็นทั้งหมดที่ผมพอจะนึกออกครับ ตอนนี้คิดแต่เพียงว่าอยากมีตังสัก 2-3 พัน อยากจะไปเลาะฟิล์มออกแล้วติดใหม่ แต่ใจนึงก็ทำใจร่มๆแล้วบอกตัวเองว่าก็ใช้ๆมันไปก่อน เพราะเซลล์ที่ร้านยังอวยพรว่า ถ้าจอดตากแดดทุกวันอย่างผม ฟิล์มน่าจะไปไวกว่าปกติครับ (ปกติผมจอดข้างตึก ตากแดดช่วงเช้าถึงเที่ยงทุกวันครับ) ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ แล้วจะมาเล่าต่อถ้ามีอะไรอัพเดทนะครับ รวมถึงเรื่องความทน และความคุ้มค่าหลังจากการใช้งานอีกด้วยครับ
ปล. การให้ดาวครั้งนี้ เป้นการให้ดาวสำหรับเกณฑ์ที่ผมตั้งไว้ในตอนต้นนะครับ โปรดอ่านและพิจารณาจากความต้องการของท่านเอง เพราะความต้องการของผมกับท่านอื่นๆคงไม่เหมือนกันครับ
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยนะครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/