เรื่องนี้เพื่อนผมเพิ่งรู้เรื่อง ไม่นาน เพราะพ่อแม่ไม่กล้าบอก พอเค้ารู้เรื่องก้อเลยมาปรึกษาผม ซึ่งผมก้อไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมาย
จึงอยากรบกวนพี่ในพันทิปช่วยหน่อยครับ
คือเรื่องมีอยู่ว่า
แม่เพื่อนผมมีที่นาอยู่แปลงหนึ่งประมาณ 2 ไร่กว่าๆ ซึ่งทำมากว่า 30 ปีแล้ว และปัจจุบันยังทำอยู่
โดยคุณตามีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นลูกในไส้ 4 คน และลูกติดกับภรรยาใหม่ 1 คน
ซึ่งที่นาผืนนี้คุณตาได้แบ่งที่นาให้ลูกหลานด้วยปากเปล่าตั้งแต่ที่ยังมีชีวิตอยู่
และพี่น้องทั้งหมดได้ขายที่ด้วยปากเปล่าให้กับ ลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ยกเว้น แม่เพื่อนผมที่ไม่ได้ขาย
และในช่วงที่คุณตามีชีวิตอยู่ โฉนดก้อยังเป็นชื่อคุณตา และแม่เพื่อนผมเป็นคนเก็บรักษาไว้ตลอด
หมายเหตุ ที่ดิน เป็น นส.3ก อยู่ที่พะเยา
แต่เมื่อประมาณ 7-8 ปี ก่อน ช่วงที่คุณตาป่วยหนักใกล้จะเสีย ลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ได้มาขอโฉนดกับแม่เพื่อนผม
โดยอ้างว่าคุณตาจะเอาไปแบ่งที่ให้ลูกๆ ซึ่งแม่เพื่อนผมก้อได้ให้โฉนดไป
แต่ปรากฎว่าลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตานั้น ได้ให้คุณตาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดมาเป็นของตนเอง
โดยทำเป็นการซื้อขาย ซึ่งปกติคุณตาสามารถเขียนหนังสือ และทำธุรกรรมต่างๆด้วยการเขียนชื่อ
แต่ในครั้งนี้ เป็นการปั้มลายนิ้วมือ
หมายเหตุ ซึ่งตรงนี้เพื่อนผมมองว่าอาจเกิดการบังคับซื้อขาย โดยคุณตาไม่ทราบก้อเป็นได้
ซึ่งเมื่อแม่เพื่อนผมก้อได้ทวงถามมาตลอด เรื่องของการแบ่งคืนที่ดินกลับมาเป็นของตนเอง
ทางลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ก้อบ่ายเบี่ยงมาตลอด โดยอ้างว่าไม่สามารถแบ่งที่ดินได้
เนื่องจากที่ดินเป็น นส.3ก ไม่สามารถออกโฉนดได้
พอไปสอบถามที่กรมที่ดินเรื่องที่โดนโกงที่ดินไป จนท.ก้อบอกว่ามีสัญญาซื้อขาย ทำอะไรไม่ได้
ถ้าจะทำได้ ต้องไปปลุกคนตายมาทำเรื่อง ซึ่งแม่เพื่อนผมก้อได้แต่ทำใจ และคิดว่าคงต้องเสียที่ผืนนี้ไป
แต่ในทุกวันนี้ ทางแม่เพื่อนผมก้อยังทำนาในที่แปลงเดิมมาตลอด แม้ว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
โดยมิได้มีการจ่ายค่าเช่าหรือสัญญาเช่าแต่ประการใด และคนละแวกนั้นก้อทราบดีว่า ที่ดินนี้เป็นของแม่เพื่อนผม
จากเรื่องข้างต้นผมจึงมีข้อสอบถามดังนี้
1. ถ้าเพื่อนผมต้องการที่ดินของแม่กลับคืนมายังพอมีทางฟ้องร้องหรือไม่ อายุความหมดกี่ปีครับ
2. จากที่ผมเคยเรียนมาสมัยม.ปลาย มีกฏหมายที่เกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์
สำหรับบุคคลที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นๆมาเกินกว่า 10 ปี สามารถยื่นเรื่องเป็นเจ้าของได้
ในกรณีนี้ เพื่อนผมสามารถใช้กฏหมายเรื่องนี้ได้หรือไม่ ในการนำที่ดินกลับคืนมา
3. ถ้ากฏหมายในข้อ 2 ไม่สามารถใช้ได้ เพื่อนผมสามารถยื่นคำร้องต่อศาล
ให้พิจารณาเรื่องการซื้อขายใหม่อีกครั้ง ได้หรือไม่ เนื่องจากปกติคุณตาจะทำธุรกรรมด้วยการเซ็นต์ชื่อ
แต่ในครั้งนี้คุณตาใช้การปั้มลายนิ้วมือ ประกอบกับเป็นช่วงที่คุณตาป่วยหนัก และหลังจากการซื้อขาย
ประมาณครึ่งปี คุณตาก้อเสียครับ
4. ถ้าเพื่อนผมใช้การฟ้องร้องเกี่ยวกับการขอพิจารณาแบ่งมรดกใหม่ จะได้หรือไม่
จะติดปัญหาที่มีการซื้อขายมาก่อนหรือไม่ เพราะคนที่ซื้อก้อคือ ลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา
ซึ่งจากความเข้าใจของผม คนเราถ้าจะยกที่ดินให้ลูกหลาน ก้อโอนให้ได้เลย ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อขาย
5. ต่อเนื่องจากข้อ 4. เพื่อนผมสามารถฟ้องฉ้อโกงกับลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ได้หรือไม่
ในกรณีที่มองว่าการซื้อขายไม่ซื่อ และมีเจตนาฉ้อโกง
6. ที่ดิน นส.3ก สามารถออกเป็นโฉนดแล้วแบ่งแยกที่ดินได้หรือไม่ ถ้าทำได้ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
อาจจะสอบถามยาวไปซักหน่อย แต่ขอรบกวนด้วยครับ เพราะเพื่อนผมอยากไปคุยกับเค้าดีๆก่อน
ให้เค้ายอมโอนที่นาคืนให้เรา ถ้าเค้ายังไม่ยอม จะได้เอาข้อมูลที่ได้นี้ไปบอกกับเค้าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
และมันมีผลอย่างไรกับตัวเค้า
ซึ่งจริงๆ เพื่อนผมก้อไม่อยากให้เป็นคดีความเพราะใช้ระยะเวลานาน และมีค่าใช้จ่ายอีกมากในการดำเนินการ
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ล่วงหน้าครับ สำหรับคำตอบ
เพื่อนโดนญาติโกงที่นามรดกไป อยากได้คืนต้องทำไงบ้างครับ
จึงอยากรบกวนพี่ในพันทิปช่วยหน่อยครับ
คือเรื่องมีอยู่ว่า
แม่เพื่อนผมมีที่นาอยู่แปลงหนึ่งประมาณ 2 ไร่กว่าๆ ซึ่งทำมากว่า 30 ปีแล้ว และปัจจุบันยังทำอยู่
โดยคุณตามีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นลูกในไส้ 4 คน และลูกติดกับภรรยาใหม่ 1 คน
ซึ่งที่นาผืนนี้คุณตาได้แบ่งที่นาให้ลูกหลานด้วยปากเปล่าตั้งแต่ที่ยังมีชีวิตอยู่
และพี่น้องทั้งหมดได้ขายที่ด้วยปากเปล่าให้กับ ลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ยกเว้น แม่เพื่อนผมที่ไม่ได้ขาย
และในช่วงที่คุณตามีชีวิตอยู่ โฉนดก้อยังเป็นชื่อคุณตา และแม่เพื่อนผมเป็นคนเก็บรักษาไว้ตลอด
หมายเหตุ ที่ดิน เป็น นส.3ก อยู่ที่พะเยา
แต่เมื่อประมาณ 7-8 ปี ก่อน ช่วงที่คุณตาป่วยหนักใกล้จะเสีย ลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ได้มาขอโฉนดกับแม่เพื่อนผม
โดยอ้างว่าคุณตาจะเอาไปแบ่งที่ให้ลูกๆ ซึ่งแม่เพื่อนผมก้อได้ให้โฉนดไป
แต่ปรากฎว่าลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตานั้น ได้ให้คุณตาโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดมาเป็นของตนเอง
โดยทำเป็นการซื้อขาย ซึ่งปกติคุณตาสามารถเขียนหนังสือ และทำธุรกรรมต่างๆด้วยการเขียนชื่อ
แต่ในครั้งนี้ เป็นการปั้มลายนิ้วมือ
หมายเหตุ ซึ่งตรงนี้เพื่อนผมมองว่าอาจเกิดการบังคับซื้อขาย โดยคุณตาไม่ทราบก้อเป็นได้
ซึ่งเมื่อแม่เพื่อนผมก้อได้ทวงถามมาตลอด เรื่องของการแบ่งคืนที่ดินกลับมาเป็นของตนเอง
ทางลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ก้อบ่ายเบี่ยงมาตลอด โดยอ้างว่าไม่สามารถแบ่งที่ดินได้
เนื่องจากที่ดินเป็น นส.3ก ไม่สามารถออกโฉนดได้
พอไปสอบถามที่กรมที่ดินเรื่องที่โดนโกงที่ดินไป จนท.ก้อบอกว่ามีสัญญาซื้อขาย ทำอะไรไม่ได้
ถ้าจะทำได้ ต้องไปปลุกคนตายมาทำเรื่อง ซึ่งแม่เพื่อนผมก้อได้แต่ทำใจ และคิดว่าคงต้องเสียที่ผืนนี้ไป
แต่ในทุกวันนี้ ทางแม่เพื่อนผมก้อยังทำนาในที่แปลงเดิมมาตลอด แม้ว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
โดยมิได้มีการจ่ายค่าเช่าหรือสัญญาเช่าแต่ประการใด และคนละแวกนั้นก้อทราบดีว่า ที่ดินนี้เป็นของแม่เพื่อนผม
จากเรื่องข้างต้นผมจึงมีข้อสอบถามดังนี้
1. ถ้าเพื่อนผมต้องการที่ดินของแม่กลับคืนมายังพอมีทางฟ้องร้องหรือไม่ อายุความหมดกี่ปีครับ
2. จากที่ผมเคยเรียนมาสมัยม.ปลาย มีกฏหมายที่เกี่ยวกับการครอบครองปรปักษ์
สำหรับบุคคลที่ใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นๆมาเกินกว่า 10 ปี สามารถยื่นเรื่องเป็นเจ้าของได้
ในกรณีนี้ เพื่อนผมสามารถใช้กฏหมายเรื่องนี้ได้หรือไม่ ในการนำที่ดินกลับคืนมา
3. ถ้ากฏหมายในข้อ 2 ไม่สามารถใช้ได้ เพื่อนผมสามารถยื่นคำร้องต่อศาล
ให้พิจารณาเรื่องการซื้อขายใหม่อีกครั้ง ได้หรือไม่ เนื่องจากปกติคุณตาจะทำธุรกรรมด้วยการเซ็นต์ชื่อ
แต่ในครั้งนี้คุณตาใช้การปั้มลายนิ้วมือ ประกอบกับเป็นช่วงที่คุณตาป่วยหนัก และหลังจากการซื้อขาย
ประมาณครึ่งปี คุณตาก้อเสียครับ
4. ถ้าเพื่อนผมใช้การฟ้องร้องเกี่ยวกับการขอพิจารณาแบ่งมรดกใหม่ จะได้หรือไม่
จะติดปัญหาที่มีการซื้อขายมาก่อนหรือไม่ เพราะคนที่ซื้อก้อคือ ลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา
ซึ่งจากความเข้าใจของผม คนเราถ้าจะยกที่ดินให้ลูกหลาน ก้อโอนให้ได้เลย ไม่มีความจำเป็นต้องซื้อขาย
5. ต่อเนื่องจากข้อ 4. เพื่อนผมสามารถฟ้องฉ้อโกงกับลูกติดภรรยาใหม่ของคุณตา ได้หรือไม่
ในกรณีที่มองว่าการซื้อขายไม่ซื่อ และมีเจตนาฉ้อโกง
6. ที่ดิน นส.3ก สามารถออกเป็นโฉนดแล้วแบ่งแยกที่ดินได้หรือไม่ ถ้าทำได้ต้องทำอย่างไรบ้างครับ
อาจจะสอบถามยาวไปซักหน่อย แต่ขอรบกวนด้วยครับ เพราะเพื่อนผมอยากไปคุยกับเค้าดีๆก่อน
ให้เค้ายอมโอนที่นาคืนให้เรา ถ้าเค้ายังไม่ยอม จะได้เอาข้อมูลที่ได้นี้ไปบอกกับเค้าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
และมันมีผลอย่างไรกับตัวเค้า
ซึ่งจริงๆ เพื่อนผมก้อไม่อยากให้เป็นคดีความเพราะใช้ระยะเวลานาน และมีค่าใช้จ่ายอีกมากในการดำเนินการ
ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ล่วงหน้าครับ สำหรับคำตอบ