เครดิตบทความโดย Market AnyWare
CIS (อ่านว่าซิส) เป็นรหัสเรียกหรือชื่อเล่นที่ใช้เรียกแทนชื่อจริงของหนุ่มน้อยอดีตโอตาคุชาวญี่ปุ่น ที่ทำรายได้จากตลาดหุ้นในปี 2013 เป็นจำนวนเงินกว่า 6,000 ล้านเยน หรือประมาณ 1,777 ล้านบาท ด้วยการเดย์เทรดในชุดนอนกับหนังสือการ์ตูนอีกเล่มในมือ
เทคนิคของ CIS คือการดูพฤติกรรม bid/offer โดยเขาเผยเทคนิคที่ดูเหมือนง่ายๆ ว่า “จงซื้อหุ้น ที่กำลังถูกไล่ซื้อ และขายหุ้นที่กำลังถูกเทขาย” เขาเรียนรู้ที่จะเทรดไปตามโมเมนตัม ยิ่งไปกว่านั้น เขามองเห็นจุดอ่อนของระบบเทรด (System Trade) ที่ธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นใช้กัน และอาศัยช่องโหว่นั้นในการเข้าทำกำไรในชั่วพริบตา
ซิสไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน ไม่สนใจรายงานประจำปีบริษัท ไม่อ่านข่าว และไม่ติดตามหนังสือพิมพ์หุ้นใดๆ เลย แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ ด้วยการเดย์เทรดล้วนๆ เรียกได้ว่าเขาเป็นขั้วตรงข้ามของ VI อย่างแท้จริง
ที่ผมเล่าเรื่องของซิสให้ฟัง ก็เพราะผมอยากจะบอกว่า ทุกเทคนิคในการเทรด สามารถประสบผลสำเร็จได้ทั้งนั้น ถ้าคุณรู้จริง ไม่มีการเทรดแบบไหนที่เป็นการเทรดที่ห่วย ยกเว้นคุณเองจะไม่เข้าใจ และไม่สามารถบรรลุศาสตร์แห่งการเทรดนั้นได้ ถึงคุณเป็น VI คุณก็เจ๊งได้ คุณเป็นเทคนิคัลคุณก็เจ๊งได้
หลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าในตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนหลายประเภท และบางคนก็จะเชื่อในแนวทางของตนเองและโจมตีหรือดูถูกวิธีการเทรดของคนอื่น VI บางคนเคยบอกว่าเทคนิคัลไร้สาระ เทคนิคัลบางคนบอกว่าเดย์เทรดเป็นการพนัน
เหมือนกับฟุตบอลแหละครับ บางคนชอบการต่อบอลแบบบาเซโลน่า บางคนชอบการใช้ความสามารถเฉพาะตัวแบบรีลมาดริด บางคนชอบบอลระบบของบาเยิร์นมิวนิค บางคนชอบบอลแทคติคของเชลซี ฟุตบอลระบบไหนก็ได้ ขอให้ชนะได้มันก็คือระบบที่ดี คุณมีศักยภาพที่จะเล่นฟุตบอลแบบไหน หามันให้เจอ คุณก็จะประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันครับ ระบบเทรดที่ดีที่สุด คือระบบที่ทำให้คุณได้กำไร จริงๆ มันก็แค่นั้นเอง
คุณหาตัวคุณให้เจอ ว่าแนวทางแบบไหนที่มันเหมาะกับตัวคุณ ไม่มีระบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่ระบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณที่สุดเท่านั้นเอง
ปล. ผู้เล่น ผู้ลงทุน ต่างก็มีวิธีที่จะทำเงินต่างกันไปครับ เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ บางร้านจัดหน้าร้าน ตกแต่งร้านหรูเชียว แต่ขายไม่ดี อีกร้านมีแค่โต๊ะมากางกับหลอดไฟสีส้มๆแขวนไว้หนึ่งดวงกลับขายดีกว่าก็อาจจะมีครับ ดังนั้นตราบใดที่ วิธีคิดของใครที่สามารถสร้างกำไร โดยไม่ได้หาช่องว่างหรือคดโกงใคร เราก็ไม่ควรไปดูถูกวิธีการหาเงินของเค้าว่าต่ำชั้นไร้ครูนะครับ เพื่อความสบายในในการลงทุน เราควรเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตลาด เหมาะกับความสามารถ เหมาะกับทุนที่มี และถูกจริตนิสัยของเรา ผมคิดว่าเหมาะสมที่สุดครับ
วิธีไหนก็ได้ ขอให้ทำกำไรได้เป็นพอ
CIS (อ่านว่าซิส) เป็นรหัสเรียกหรือชื่อเล่นที่ใช้เรียกแทนชื่อจริงของหนุ่มน้อยอดีตโอตาคุชาวญี่ปุ่น ที่ทำรายได้จากตลาดหุ้นในปี 2013 เป็นจำนวนเงินกว่า 6,000 ล้านเยน หรือประมาณ 1,777 ล้านบาท ด้วยการเดย์เทรดในชุดนอนกับหนังสือการ์ตูนอีกเล่มในมือ
เทคนิคของ CIS คือการดูพฤติกรรม bid/offer โดยเขาเผยเทคนิคที่ดูเหมือนง่ายๆ ว่า “จงซื้อหุ้น ที่กำลังถูกไล่ซื้อ และขายหุ้นที่กำลังถูกเทขาย” เขาเรียนรู้ที่จะเทรดไปตามโมเมนตัม ยิ่งไปกว่านั้น เขามองเห็นจุดอ่อนของระบบเทรด (System Trade) ที่ธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นใช้กัน และอาศัยช่องโหว่นั้นในการเข้าทำกำไรในชั่วพริบตา
ซิสไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน ไม่สนใจรายงานประจำปีบริษัท ไม่อ่านข่าว และไม่ติดตามหนังสือพิมพ์หุ้นใดๆ เลย แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ ด้วยการเดย์เทรดล้วนๆ เรียกได้ว่าเขาเป็นขั้วตรงข้ามของ VI อย่างแท้จริง
ที่ผมเล่าเรื่องของซิสให้ฟัง ก็เพราะผมอยากจะบอกว่า ทุกเทคนิคในการเทรด สามารถประสบผลสำเร็จได้ทั้งนั้น ถ้าคุณรู้จริง ไม่มีการเทรดแบบไหนที่เป็นการเทรดที่ห่วย ยกเว้นคุณเองจะไม่เข้าใจ และไม่สามารถบรรลุศาสตร์แห่งการเทรดนั้นได้ ถึงคุณเป็น VI คุณก็เจ๊งได้ คุณเป็นเทคนิคัลคุณก็เจ๊งได้
หลายปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าในตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนหลายประเภท และบางคนก็จะเชื่อในแนวทางของตนเองและโจมตีหรือดูถูกวิธีการเทรดของคนอื่น VI บางคนเคยบอกว่าเทคนิคัลไร้สาระ เทคนิคัลบางคนบอกว่าเดย์เทรดเป็นการพนัน
เหมือนกับฟุตบอลแหละครับ บางคนชอบการต่อบอลแบบบาเซโลน่า บางคนชอบการใช้ความสามารถเฉพาะตัวแบบรีลมาดริด บางคนชอบบอลระบบของบาเยิร์นมิวนิค บางคนชอบบอลแทคติคของเชลซี ฟุตบอลระบบไหนก็ได้ ขอให้ชนะได้มันก็คือระบบที่ดี คุณมีศักยภาพที่จะเล่นฟุตบอลแบบไหน หามันให้เจอ คุณก็จะประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันครับ ระบบเทรดที่ดีที่สุด คือระบบที่ทำให้คุณได้กำไร จริงๆ มันก็แค่นั้นเอง
คุณหาตัวคุณให้เจอ ว่าแนวทางแบบไหนที่มันเหมาะกับตัวคุณ ไม่มีระบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่ระบบไหนที่เหมาะกับตัวคุณที่สุดเท่านั้นเอง
ปล. ผู้เล่น ผู้ลงทุน ต่างก็มีวิธีที่จะทำเงินต่างกันไปครับ เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ บางร้านจัดหน้าร้าน ตกแต่งร้านหรูเชียว แต่ขายไม่ดี อีกร้านมีแค่โต๊ะมากางกับหลอดไฟสีส้มๆแขวนไว้หนึ่งดวงกลับขายดีกว่าก็อาจจะมีครับ ดังนั้นตราบใดที่ วิธีคิดของใครที่สามารถสร้างกำไร โดยไม่ได้หาช่องว่างหรือคดโกงใคร เราก็ไม่ควรไปดูถูกวิธีการหาเงินของเค้าว่าต่ำชั้นไร้ครูนะครับ เพื่อความสบายในในการลงทุน เราควรเลือกวิธีการลงทุนที่เหมาะกับตลาด เหมาะกับความสามารถ เหมาะกับทุนที่มี และถูกจริตนิสัยของเรา ผมคิดว่าเหมาะสมที่สุดครับ