ผิดหวังเเละรู้สึกเเย่กับจรรยาบรรณเเพทย์ในปัจจุบัน ปัญหาเเบบนี้ควรทำยังไงดีคะ?

สวัสดีค่ะ สมาชิกชาวพันทิปทุกท่านที่ได้เห็นกระทู้นี้ ยิ้ม
ซึ่งอยากจะบอกต่อเเละเเชร์ถึงปัญหาที่เพิ่งเจอมาหมาดๆ เเล้วก็อยากให้ช่วยเเนะนำให้คำปรึกษาด้วยค่ะ

เเต่ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นมาเป็นไปก่อนนะคะ

เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมจนถึงปลายเดือนสิงหาคม
คุณป้าของหนูได้เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมาก
เพราะมีอาการอาเจียนหลายครั้งจากการวิงเวียน เเละมึนหัวเเบบบ้านหมุน
จึงต้องเรียกรถฉุกเฉินไปยังรพ.ประจำจังหวัดของจังหวัดในปริมณฑลที่มีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะๆ
(พอจะรู้กันดีนะคะว่ารพ.อะไร)
ส่วนที่ต้องไปรพ.นี้เพราะมีประวัติการรักษาอยู่
เเล้วก็ครอบครัวเราก็ฐานะไม่ค่อยดี ต้องพึ่งการใช้สิทธิ์ 30 บาท
ไม่มีปัญญาเข้าเอกชนที่ราคาเเพงได้ค่ะ เม่าบาดเจ็บ

ครั้งเเรกไปรพ.ตอนบ่ายจากอาการอาเจียนเฉียบพลัน
ตรวจพบเบาหวานขึ้นสูง ความดันก็ขึ้น
(คุณป้ามีโรคเบาหวานเเละความดันเป็นโรคประจำตัวค่ะ เเต่ไม่ได้เป็นรุนเเรง)
คุณหมอก็ให้รอดูอาการ สักพักช่วงค่ำของวันนั้นก็กลับบ้านค่ะ

ครั้งทีสองไปรพ.กลางคืนจากอาการอาเจียนเฉียบพลันเช่นกัน
ดูอาการไม่ดี ก็เลยเรียกรถมารับ
ไปนอนให้น้ำเกลือ เเละฉีดยาอินซูลิน นอนรอดูอาการจนถึงตีสามก็กลับบ้านพร้อมยาเเก้วิงเวียนคะ

ครั้งสุดท้ายไปรพ.กลางคืนอีกเช่นกัน คุณป้าอาเจียนออกมาเยอะ เเละอาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วย
ครั้งนี้นอนเเอดมิทยาวเลยคะ อยู่เเผนกฉุกเฉินคืนนึง ก็ถูกส่งตัวไปในส่วนอายุรกรรมคะ
นอนให้น้ำเกลือ กินยาความดัน เเละอีกอันจำไมได้ นอนไปอย่างนั้นอยู่สองวัน
ต้องยอมรับตั้งเเต่ที่คุณป้าป่วยเราก็เครียดกันมาก ทั้งหนูเเละคุณเเม่ก็พยายามเซิร์จหาข้อมูล
อาการของโรคที่เกี่ยวข้อง ก็รู้สึกสงสัยว่าเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันหรือเปล่า?
เลยลองไปถามพยาบาล........ก็ไม่ได้คำตอบ
เเละเเล้ววันที่สามก็ได้กลับบ้าน คุณหมอได้ให้ยากลับมา พร้อมกับใบนัดตรวจหู??.....

วันที่ 3 กันยา คุณเเม่พาคุณป้าไปตรวจหูที่รพ.นั้นอีกเช่นกัน
คุณหมอหูได้บอกว่า "หูข้างซ้ายของคุณป้าบอดเเล้ว"
ซึ่งคุณหมอยังหาสาเหตุชัดเจนที่เเน่ชัดไม่ได้ คาดว่าอาจจะติเชื้อ
จึงให้ยาฆ่าเชื้อมา พร้อมกับยาบำรุงเลือด (วิตามิน)
(อยากบอกคะว่า ยาฆ่าเชื้อที่กินนั้น หนูเเอบเซิร์จชื่อยาค่ะ เป็นยาเเก้เริมเเละงูสวัด ก็สืบหาข้อมูลไป
หนูก็เดา(สั่วๆ)คะว่าคุณป้าอาจจะเป็นงูสวัดที่ไม่ได้เเสดงอาการภายนอกให้เห็น
เพราะเชื้อไวรัสตัวนี้ไปเกาะเส้นประสาทตรงที่หู ทำให้เลือดไปเลี้ยงเข้าหูไม่ได้ จึงเกิดอาการวิงเวียนเเละหูบอด)

ระหว่างนี้ คุณป้าก็พักฟื้นที่บ้าน คุณเเม่กับหนูก็ต้องคอยช่วยดูเเละ เพราะท่านเดินเหินไม่สะดวก
ยังมึนๆอยู่เลย เเรกๆที่กลับจากรพ.ดูเเลตัวเองไม่ค่อยค่อยได้ ต้องคอยประกบ
ผ่านไปสัปดาห์นึง เพราะการดูเเลเอาใจใส่เเละคุณป้าจากที่กินไม่ค่อยได้ ก็เจริญอาหาร
กินได้ นอนหลับ ร่างกายก็เริ่มปรับตัว
เเต่ว่าอาการมึนๆนั้นก็ยังคงมีอยู่..........
ทางเราก็อดห่วงไม่ได้เหมือนกันว่าอาจจะเป็นความผิดปกติภายในที่เราไม่รู้รึเปล่า?

ทีนี้........... ลูกพี่ลูกน้องหญิงของหนู คือลูกสาวของคุณลุงน่ะคะ
พอเห็นเเบบนี้ก็อยากให้คุณป้าหายไวๆ ก็เเนะนำให้ไปรักษาตัวที่รพ.ศิริราช
ดังนั้น คุณเเม่จึงพาคุณป้าไปรพ.ศิริราชเเละไปนัดเจอกับพี่สาวที่นั่น
เมื่อวันที่ 19 กันยาที่ผ่านมา
อาจจะเสียเวลาไปบ้างกับการดำเนินเรื่อง
เเต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอยค่ะ
เพราะเมื่อคุณป้าได้ตรวจ คุณหมอน่ารักเเละดีมาก ตรวจคุณป้าละเอียดมาก
ตรวจดูหูอะไรเสร็จ ก็จับคุณป้าโยกซ้ายโยกขวาเพื่อดูความสมดุลของร่างกาย ตรวจการทรงตัว
(ขอโทษนะคะถ้าหากกล่าวผิดไป อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกันคะ รู้เเต่ว่าเป็นการตรวจเฉพาะ)
เเล้วคุณหมอก็ตรวจตาโดยใช้เครื่องมือเฉพาะ (ไม่รู้อีกค่ะว่าเครื่องอะไรตรวจอะไร?)
พร้อมกับทีมคุณหมออีกสองคนที่คอยช่วยตรวจให้ด้วย.........
คุณหมอจึงวินิจฉัยว่า "มีหินปูนไปเกาะที่ปลายเส้นประสาทหู เเละบริเวณส่วนใกล้เคียง".......
พอคุณหมอถามว่า "มีอะไรสงสัยอีกมั้ยครับ"
พี่สาวเราก็ถามว่า "จะหายมั้ย?"
คุณหมอพูดเต็มปากเต็มคำเลยว่า "หายเเน่นอน!!"
ถึงอย่างนั้น คุณหมอต้องการตรวจสอบเพื่อนำมาวินิจฉัยเพิ่มเติม
จึงอยากให้ตรวจสเเกนหูเเละสมองอย่างละเอียด ซึ่งต้องเสียเงินมาก
เพราะมาศิริราชครั้งเเรก คุณป้ายังไม่ได้โอนสิทธิ์ 30 บาท มาที่นี่
ก็ด้วยความที่คุณหมอใจดีเเละเข้าใจเรา จึงเขียนใบขอร้องอนุญาตส่งตัว
เพื่อให้คุณป้าได้มารักษาที่ศิริราช เเละนัดวันตรวจอีกสองสัปดาห์ถัดมา
พร้อมกับให้ยามาทาน............

จุดนี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คุณป้าฟื้นตัวเร็วขึ้นมากกกกกกกกกกกกก
คุณป้ากลับจากศิริราช ทานยาสองวัน ร่างกายดีขึ้นมาก เดินเหินได้ดีขึ้น
ลุกขึ้นเดินทำอะไรเบาๆได้ ไม่มึนหัวมากเหมือนก่อนหน้านี้
หนูยังตกใจเลยค่ะ ที่คุณป้าลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้ทาน
เเบบทั้งคุณเเม่เเละหนูต่างก็ดีใจที่คุณป้าอาการดีขึ้นมาก กินเก่งมากด้วยคะ 555
ที่สำคัญอีกอย่างลืมบอกว่า คุณหมอให้คุณป้าทำกายภาพบำบัดด้วยคะ
เพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพ เป็นเหตุให้ฟื้นฟูได้เร็วขึ้นด้วย
ต้องบอกเลยคะว่า ไปรักษาที่ศิริราชนี่ทำให้รู้สึกประทับใจมากจริงๆ เม่าบัลเล่ต์
เเต่..........
.
.
.
คราวนี้............. ปัญหาอยู่ที่การยื่นคำร้องขอส่งตัวค่ะ
ซึ่งเราก็คิดว่ามันต้องผ่านไปได้ด้วยดี............
เเต่ทว่า มันกลับไม่ใช่!?
เหตุการณ์เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆในวันนี้ที่คุณเเม่ไปยื่น....
มันเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกตามที่ตั้ง "หัวข้อกระทู้" เอาไว้เลยคะ เม่าในกองไฟ

เเต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือตอนนี้เจ้าของกระทู้เมื่อยมากเเล้ว พิมพ์มานานมาก  
ขอพักรีเเลคสักหน่อยนะคะ
เเล้วเดี๋ยวจะมาอัพต่อค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่า


ปล.เรื่องที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเเต่งเเน่นอนคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่