❀ ~«•°•.★* 10 ของหวาน ชวนน้ำลายสอจากรอบโลก *★ .•°•»~ ❀



สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปนะคะ
เมื่อเอ่ยถึงขนมหวาน ถึงจะรู้ว่าการกินบ่อยๆ นั้น ไม่ดีต่อสุขภาพ
แต่ก็อดใจไม่ไหวซะทุกทีไป เมื่อเห็นขนมน่าตาแสนอร่อย ชวนน้ำลายไหล
วันนี้เลยขอเอาใจคนชอบขนมหวาน
มารู้จัก 10 ขนมหวานชวนน้ำลายสอจากทั่วโลกกันเถอะ

★*♕ﺴ หากเพื่อนๆ เคยได้ลองลิ้มชิมรส ขนมอร่อยๆ เอามาแชร์กันได้นะคะ  ﺴ♕*★

พลุพลุพลุ อมยิ้ม29อมยิ้ม29อมยิ้ม29 พลุพลุพลุ


1. ข้าวเหนียวมะม่วง
   ขนมหวานแบบไทยๆ ที่นำมะม่วงสุกเหลืองอร่ามมาทานคู่กับข้าวเหนียวมูนราดด้วยน้ำกะทิ
ฟังแล้วน่าทานเป็นอย่างยิ่ง ข้าวเหนียวมะม่วง จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษในฤดูร้อน
ทำจากข้าวเหนียว เช่น ข้าวเหนียวเขี้ยวงู มูนกับหัวกะทิ เกลือป่น และน้ำตาลทรายขาว
กินกับเนื้อมะม่วงสุก ที่นิยมคือ มะม่วงอกร่อง และมะม่วงน้ำดอกไม้ อาจราดกะทิ และโรยถั่วบางชนิด แล้วแต่ชอบใจ
ข้าวเหนียวในขนมหวานชนิดนี้มีสรรพคุณเป็นของร้อนรสหวาน จะช่วยบำรุงพลัง
ตลอดจนบำบัดอาการเหงื่อออกมาก และท้องเสีย โดยเฉพาะมะม่วงที่มีรสหวานปนเปรี้ยวนั้น ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ไอ และขับลมได้




2. แครมบรูเล่ ( Creme Brulee)
   แครมบรูเล่ มีความหมายว่า ‘ครีมที่ถูกเผา’ เป็นของหวานชนิดหนึ่ง ที่ฐานของขนมจนถึงส่วนกลางคือคัสตาร์ดไข่
ชั้นขนมด้านบนจะถูกราดด้วยคาราเมลที่ถูกทำให้ข้นด้วยการเผาไฟ สีจึงคล้ำลงเพราะความร้อน จัดเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้อง
โดยทั่วไปแล้ว คัสตาร์ดไข่จะใช้สารสกัดวานิลลาหรือวานิลลาฝักเพื่อให้กลิ่น (เพื่อความเข้มข้นของกลิ่นตามวัตถุประสงค์)
แต่เรายังพบคัสตาร์ดในรูปแบบอื่นได้อีก เช่น ผิวมะนาว, ผิวส้ม, ช็อกโกแลต, อะมาเร็ตโต้, กรองด์แมนิเย่ร์,
กาแฟ, เหล้าหวาน, ชาเขียว, พิตตาชิโอ, มพร้าว และผลไม้อื่น




3. นาไนโม บาร์ ( Nanaimo Bars)
   ขนมหวานสัญชาติแคนาเดียน จะแบ่งขนมเป็น 3 ชั้น คือ ส่วนฐาน, ส่วนไส้ และส่วนบน
เริ่มจากฐานจะมีรสชาติออกเค็มๆกรอบ ทำจากมะพร้าวอบกรอบ, ถั่วและแครกเกอร์
ส่วนที่ 2 คือไส้ ตามสูตรตั้งเดิมจะเป็นรสวนิลาคัสตาร์ด  ส่วนที่ 3 คือ ช็อคโกแลตกานาช
ที่ตกแต่งหน้าทำจากช็อคโกแลตกับเนย  ข้อดีของขนมนี้คือ ไม่มีเตาอบก็ทำได้ค่ะ
แถมรสชาติก็อร่อยด้วยแต่ตัวไส้อาจจะหวานไปหน่อย ขนมชนิดนี้เป็นที่นิยมในแถบอเมริกาเหนือ




4. แอปเปิ้ล พาย ( Apple Pie )
   แม้ชื่อจะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี
ได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 สมัยก่อนตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา
พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน




5. แบล็คฟอเรสท์เค้ก ( BlackForestCake )
   ด้วยความมีชื่อเสียงในเรื่องเบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลาย
เป็นสถานที่ดื่ม-กินยอดนิยม โดยเค้กช็อกโกแลตที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดี
ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมนี และได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์ด้วยฝีมือของช่างทำเค้กในกรุงเบอร์ลิน)  




6. ฮาโล ฮาโล ( Halo Halo)
    ของหวานจานเด็ดของชาวฟิลิปปินส์ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน
แต่ดูๆ ไปก็คล้ายกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง
เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อม โดยสามารถหารับประทานได้ทุกที่ในกรุงมะนิลา




7. กุหลาบ จามาน ( Gulab Jamun)
    กุหลาบจามุน หรือ กุหลาบยามุน เป็นขนมปังหวานที่ไม่ค่อยไม่ถูกปากฝรั่ง (รวมถึงคนที่ไม่ชอบของหวานจัดๆ ด้วย)
แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดียตอนใต้ ทำจากแป้งผสมนม ปั้นกลมๆ
ทอดในเนยกี (Ghee) จากนั้นทำน้ำเชื่อมโดยใส่ลูกกระวานและน้ำดอกไม้เทศ
พอน้ำเชื่อมอุ่นก็เทใส่กุหลาบจามุนที่ทอดไว้แล้ว เวลากินแนะนำว่าต้องกินคู่กับน้ำชา
เพราะขนมชนิดนี้มีรสชาติหวานมาก ต้องค่อยๆ ลองชิมลองกินทีละน้อยๆ
เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาล และประเทศในแถบเอเชียใต้




8. ไดฟุกุ ( Daifuku )
    Daifukumochi  แปลว่า โมจิโชคดี คือ ขนมหวานญี่ปุ่นประกอบไปด้วยโมจิกลมๆเล็กๆ ( แป้งเหนียวๆ)
สอดไส้ด้วยไส้หวานๆ โดยทั่วไปจะเป็นไส้อังโกะ (ถั่วแดงหวานทำมาจากถั่วอซุคิ)
ไดฟุกุมีหลากหลายแบบ ทั่วไปจะเป็นสีขาว เขียวอ่อน ชมพูอ่อน สอดไส้อังโกะ มี 2 ขนาด
ขนาดแรกประมาณเหรียญครึ่งดอลล่า อีกขนาดหนึ่งขนาดประมาณฝ่ามือ บางขนมจะเป็นไส้ผลไม้
หรือไม่ก็ ผลไม้ผสมอังโกะ หรือ เมลอนบด ไดฟุกุเกือบทั้งหมดจะคลุมไปด้วยชั้นของข้าวโพด หรือ มันฝรั่ง
ทั้งนี้เพื่อทำให้แป้งเกาะกันกับไส้ไม่ให้แยกออกจากกัน บ้างก็ใช้น้ำตาล หรือ ผงโกโก้ ทำแทน
โมจิสึคิ คือวิธีการทำโมจิ และ ไดฟุกุ ดั้งเดิม และสามารถทำโดยการเข้าไมโครเวฟได้ด้วย
ในประเทศญี่ปุ่น โมจิ และ ไดฟุกุ เป็นที่นิยมมาก




9. บาคลาวา ( Baklava)
    ประวัติที่แท้จริงของ บาคลาวา ยากที่จะระบุให้แน่ชัด เพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจากทั้งจักรวรรดิอ็อตโตมัน
ดินแดนเมโสโปเตเมีย และอาหรับ ขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว
น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติแบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึงถิ่น
ที่อ้างว่าเป็นจุดกำเนิดทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ กรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุต
แม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความอร่อย




10. ทีรามิสุ ( Tiramisu )
    เค้กชื่อดังของอิตาลี (แต่ชื่อคล้ายญี่ปุ่น) ทำขึ้นจากคุกกี้เลดี้ฟิงเกอร์ ราดกาแฟเอสเปรสโซ่
สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการ
ที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทำเค้กให้สามีรับประทาน
เพราะเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลัง และแคล้วคลาดจากอันตราย






(✿◕‿◕) ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมและร่วมแชร์ภาพขนมแสนอร่อยนะคะ (◕‿◕✿)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่