ก่อนอื่นขอเล่าที่มาก่อนว่าตอนเด็กๆเราก็ฟันปกติดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าเราเป็นคนที่ฟันซี่ใหญ่มาก พออายุซัก 19 ฟันก็เริ่มเบียดกันจนฟันข้างหน้าเริ่มยื่นออกและซ้อนกัน ตอนนั้นเราก็อยากดัดฟันนะแต่ไม่มีเงิน(ไม่อยากขอพ่อแม่) ก็เลยปล่อยไปก่อน ในช่วงระหว่างที่เราเก็บเงินรอหวังจะไปจัดฟัน ขากรรไกรเราก็เริ่มมีเสียงคลิกๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะเราเป็นคนที่กระดูกชอบลั่นอยู่แล้ว พออายุ 24 ทำงานมีเงินใช้เองละ ก็เลยคิดจะไปจัดฟันอย่างจริงจัง พอไปหาหมอที่คลีนิค คุณหมอก็ไม่ยอมจัดให้ บอกขากรรไกรเรามีปัญหานะ ให้ไปลองพบหมอที่มหิดลดูก่อน ถ้าหมอทางมหิดลเค้าOK เค้าจะดัดให้ เราก็ไปตามคำแนะนำ
     พอเรามาหาหมอที่มหิดล ก็พบกับคุณหมอผู้ชายหล่อเหลาที่น้ำเสียงเล็กแหลม เค้าบอกกับเราว่า " ฉันว่าเธอไม่ต้องจัดหรอก ฟันหน่ะ ฟันเธอก็ไม่ได้เหยินอะไรจนหน้าเกลียด ถ้าเธอไปทำฉันก็การันตีให้เธอไม่ได้หรอกนะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะอ้าปากไม่ได้ หรืออ้าปากแล้วค้างไปเลย หรืออาจจะหายเลยก็ได้ แต่ฉันว่านะ ถ้าเธอไม่ได้กะจะไปประกวดนางสาวไทยไรอ่ะนะ ก็ไม่ต้องดัดหรอก หรือเธออยากทำ ก็เรื่องของเธอแต่ฉันไม่รับประกันนะว่าจะเกิดไรขึ้นบ้าง" ฟังแล้วก็ เอิ่ม... -_-"  เลยถามคุณหมอใหม่ งั้นรักษาอาการคลิกๆนี่ได้มั้ยคะ คุณหมอตอบว่า "ปวดมะ ถ้าไม่ปวดก็ไม่ต้องรักษา แค่อย่าอ้าปากให้เกินลิ้นแตะเพดาน แล้วก็เคี้ยวข้าวท้ง2 ข้างให้มันเท่าๆกัน อย่ากินของเหนียวของแข็ง" สรุปคือเราต้องพับโครงการการจัดฟันไปโดยปริยาย
     พอเราอายุ26 ฟันคุดเจ้ากรรมก็อักเสบ เราเลยไปผ่าฟันคุดที่โรงพยาบาลแถวบ้าน ซี่ล่างขวา หน้าบวมไปเป็นอาทิตย์เลย แต่ที่รู้สึกไม่ดีไปกว่านั้นคือ ทำไมยาชาไม่หมดฤทธิ์ซะทีนะ จนถึงวันตัดไหม เราบอกหมอว่า หมอทำไมมันไม่หายชาคะ หมอฉีดยาชาเยอะหรอ หรือแพ้ยาชารึป่าว หมอตอบ " อ้าว...หมอไม่ได้บอกเราหรอว่าเคสเราฟันมันนอนมา อาจมีอาการชาได้นะเพราะรากฟันมันไปอยู่ในโพรงเส้นประสาท (@[]@) (ตกใจแทบช็อค แล้วมัยไม่บอกก่อน แหง๊ ) ถามหมอต่อ แล้วจะรักษายังไงจะหายมั้ย หมอก็ให้หลับตาเอาสำลีเอาเหล็กไรมะรุมาจิ้มๆแล้วถามว่ารู้สึกมั้ย ฮือๆไม่รู้สึกตั้งแต่ขากรรไกรลงมาถึงปากล่างครึ่งนึงเลย หมอถอนหายใจ1ที แล้วบอกว่า " รอดูอาการไปก่อนนะ มันจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าโชคดีมันจะหายภายใน1เดือน ถ้าโชคร้ายหน่อยก็หายภายใน 6เดือน (แอบดีใจ) แต่ถ้าโชคร้ายสุดๆก็ เกิน6เดือนแล้วก็จะไม่หายแล้ว แต่ของเราเป็นค่อนข้างเยอะ (คุณหมอทำร้ายจิตใจอย่างแรง T^T )
รอเวลาค่ะทีนี้ หมอนัดทุดสัปดาห์ หลังจากผ่านไป2อาทิตย์ อาการหน้าบวมเริ่มกลับสู่ภาวะใกล้ปกติ แต่ปวดมากเคี้ยวข้าวไม่ได้ เจ็บแป๊บตลอดเวลา เมื่อยปวดขากรรไกแบบที่ไม่รู้จะทำยังไง ยาแก้ปวดก็เอาไม่อยู่ ยิ่งเจออากาศเย็นๆยิ่งทรมานมาก ตัดสินใจไปหาคุณหมอก่อนวันนัด หมอบอกเคสเราเป็น 1 ใน1000 ที่มีอาการแทรกซ้อน หมอก็อธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ 1.อาการชาจากเส้นประสาทกระทบกระเทือนซึ่งหมอไม่รู้ว่ามันขาดรึป่าว 2. อาการปลายประสาทอักเสบทำให้เกิดอาการเสียวแปล๊บ ซึ่งเส้นประสาทจะใช้เวลาในการรักษาตัวเองนานมาก 3. อาการกล้ามเนื้ออักเสบ ซึ่งเกิดจากการนั่งทำงาน ซึ่งเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ หลัง คอ และหน้า มันคือเส้นเดียวกัน เชื่อมโยงถึงกัน เมื่อกล้ามเนื้อหลังเรามีปัญหาทำให้ เส้นและกล้ามเนื้อบนหน้าเรามีผลกระทบไปด้วย แล้วเส้นประสาทฟันเรากำลังบาดเจ็บ โดนกล้ามเนื้อหลังซ้ำเข้าไปอาการเลยทวีคูณ หมอก็ให้ยาลดปวดปลายประสาทมา ซึ่งหมอบอกว่ายาตัวนี้คนแพ้เยอะอาจมีผลข้างเคียงมาก ถ้าแพ้ให้รีบมาหาหมอทันที เราก็กลับไปทาน อาการปวดบรรเทาลงเพียงเล็กน้อย แต่ได้อาการหน้ามืดเวียนหัวมาแทน
เรารักษาแบบนี้ต่อมาเรื่อยๆกินยานี้ทุกวันจนวงอาการชาแคบลง อาการปวดก็น้อยลง แต่มันใช้เวลาผ่านมาถึง2 ปีแล้ว ตอนนี้เรากำลังจะ28 ทั้งอาการชา อาการปวด ขากรรไกรข้างขวา ก็ยังไม่หาย ขากรรไกข้างซ้ายเริ่มปวด และฟันคุดข้างซ้ายอักเสบเป็นระยะๆ หมอบอกถ้าผ่าก็มีสิทธิเป็นเหมือนข้างขวา 70% อยากถามผู้รู้หน่อยค่ะ ว่าเราควรจะทำไงดี เราเครียดมากเลย ควรย้ายโรงพยาบาลมั้ย หรือมีโรงพยาบาลไหนที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้เป็นพิเศษรึป่าว หรือต้องผ่าตัด ต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ขอโทษนะคะที่ถามเยอะ และขอบคุณที่ทนอ่านมาถึงตรงนี้นะคะ ใครมีความรู้ช่วยแนะทำทีคะ หรือใครมีอาการเหมือนเราก็มาแชร์ประสพการณ์กันได้นะคะ