บทบาทของอเมริกาในการสร้างกลุ่มดาอิช (ISIS) นั้นเป็นสิ่งที่ชัดเจน
ตามการรายงานของสำนักข่าวฟาร์ส : เว็บไซต์การวิเคราะห์ข่าว “Info Wars” ได้กล่าวถึงบทบาทของอเมริกาในการสร้างกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ไว้ในรายงานเชิงวิเคราะห์บทหนึ่ง “Info Wars” ได้วิเคราะห์ตรวจสอบหลักฐานและกรณีแวดล้อมต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่ชัดเจนของอเมริกาในการสร้างกลุ่มดาอิช (ISIS) และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มนี้ โดยอ้างอิงถึงคำสัมภาษณ์ของ “นายพลโทมัส แมคอินเออร์นีย์” (Thomas McInerney) จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ และวุฒิสมาชิก "แรนด์ พอล" (Rand Paul) ที่ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
ตามรายงานนี้ นายพลโทมัส แมคอินเออร์นีย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งถือว่าแนวคิดในการติดอาวุธให้กับกลุ่มต่อต้านซีเรียนั้นเป็นนโยบายที่ผิดพลาด โดยกล่าวว่า : ในทัศนะของผมแล้ว ในบางกรณีนั้น อเมริกาได้กระทำผิดพลาดที่ให้การสนับสนุนเพียงฝ่ายเดียว ตัวอย่างหนึ่งจากกรณีเหล่านี้ก็คือ การที่อเมริกาให้การสนับสนุนต่อกองทัพปลดปล่อยซีเรีย (Free Syrian Army)
นายพลโทมัส แมคอินเออร์นีย์ ได้ชี้ในระหว่างคำพูดของเขาว่า : อาวุธบางส่วนที่มีอยู่ในสถานกงสุลของอเมริกาในเมืองเบงกาซี ในปี 2012 นั้น ในที่สุดแล้วก็ได้พบเห็นอยู่ในมือของกองกำลังของกลุ่มดาอิช (ISIS) ในซีเรีย ดังนั้นอเมริกาจึงมีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กลับกลุ่มดาอิช (ISIS)
ตามรายงานของ “Info Wars” ในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา วุฒิสมาชิก "แรนด์ พอล" เป็นคนแรกที่ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ในเมืองเบงกาซีไว้ในอีกลักษณะหนึ่ง ตามความเชื่อของแรนด์ พอล ข้อเท็จจริงของเรื่องราวของสถานกงสุลอเมริกาในลิเบียนั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการการลักลอบขนอาวุธที่ทันสมัยไปยังซีเรียโดยผ่านตุรกี และการส่งมอบมันให้กับกองกำลังของกองทัพปลดปล่อยซีเรีย
แรนด์ พอล ได้ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นโดยกล่าวว่า : ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานใดๆ อยู่ในมือ แต่ก็เป็นที่น่าระแวงสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า อเมริกามีการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์จากลิเบียไปยังซีเรีย และส่งมอบมันให้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของบัชชาร อัลอะซัด
บนพื้นฐานของรายงานนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันกับคำแถลงของแรนด์ พอลนั้น ได้เป็นที่ปรากฏชัดว่า กระทรวงต่างประเทศของอเมริกาเอง ได้จ้างกลุ่มหนึ่งในเครือของอัลกออิดะฮ์ให้ปฏิบัติการในเมืองเบงกาซีเพื่อใช้เป็นเหตุผลข้ออ้าง ประมาณสามเดือนต่อมาข่าวต่างๆ ก็ถูกเผยแพร่ออกมาว่า ซีไอเอได้กำหนดให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติการต่างๆ ของตนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่เกี่ยวกับการลักลอบขนอาวุธ
ตามรายงานนี้ หลังจากการเผยแพร่ของข่าวนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซีเอ็นเอ็นก็ได้กล่าวในรายงานหนึ่งว่า มีเจ้าหน้าที่ของซีไอเอหลายสิบคนได้ปรากฏตัวอยู่ในช่วงเวลาของการโจมตีสถานกงสุลของอเมริกาในเมืองเบงกาซี เพื่อจัดการปิดข่าวไม่ให้มีการพูดคุยกันระหว่างบรรดาผู้ที่เป็นสื่อกลางกับรัฐสภาหรือสื่อมวลชนต่างๆ เกี่ยวกับแผนการลับในการลักลอบขนย้ายขีปนาวุธจากภาคพื้นดินสู่อากาศ จากลิเบียไปยังประเทศซีเรีย โดยผ่านดินแดนตุรกี และอาวุธเหล่านี้จะต้องไปถึงมือของกลุ่มต่อต้านในซีเรีย และหลังจากนั้นบรรดาผู้นำกลุ่มต่อต้านของซีเรียจะต้องเข้าสมทบกับกลุ่มดาอิช (ISIS)
ในตอนท้ายของรายงานนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า นอกเหนือจากการที่กลุ่มดาอิช (ISIS) จะได้รับอาวุธต่างๆ จากเมืองเบงกาซีแล้ว สมาชิกจำนวนมากของกลุ่มนี้ยังได้รับการฝึกอบรมโดยอเมริกา ในโครงการลับในประเทศจอร์แดนในปี 2012 ตามคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจอร์แดน สมาชิกของกลุ่มดาอิช (ISIS) หลายสิบคนได้รับการฝึกอบรมในประเทศจอร์แดน ในช่วงการช่วยเหลืออย่างลับๆ ต่อกองกำลังของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบัชชาร อัลอะซัด และพันธมิตรส่วนใหญ่ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต ตุรกีและกาตาร์ ก็ได้ให้การช่วยเหลือในการจัดหาอาวุธให้แก่กลุ่มดาอิช (ISIS) ด้วยเช่นกัน
ที่มา
http://islamicstudiesth.com/index.php/2012-06-04-06-47-60/2012-06-04-06-47-63/270-usa-creation-isis
ความชั่วร้ายของอเมริกาทีเกิดจากความต้องการเป็นใหญ่โดยไม่รู้จักพอ"บทบาทของเทวดาผู้พิทักษ์อิรัก"
ตามการรายงานของสำนักข่าวฟาร์ส : เว็บไซต์การวิเคราะห์ข่าว “Info Wars” ได้กล่าวถึงบทบาทของอเมริกาในการสร้างกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) ไว้ในรายงานเชิงวิเคราะห์บทหนึ่ง “Info Wars” ได้วิเคราะห์ตรวจสอบหลักฐานและกรณีแวดล้อมต่างๆ ที่ชี้ให้เห็นถึงบทบาทที่ชัดเจนของอเมริกาในการสร้างกลุ่มดาอิช (ISIS) และการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มนี้ โดยอ้างอิงถึงคำสัมภาษณ์ของ “นายพลโทมัส แมคอินเออร์นีย์” (Thomas McInerney) จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ และวุฒิสมาชิก "แรนด์ พอล" (Rand Paul) ที่ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น
ตามรายงานนี้ นายพลโทมัส แมคอินเออร์นีย์ ได้ให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งถือว่าแนวคิดในการติดอาวุธให้กับกลุ่มต่อต้านซีเรียนั้นเป็นนโยบายที่ผิดพลาด โดยกล่าวว่า : ในทัศนะของผมแล้ว ในบางกรณีนั้น อเมริกาได้กระทำผิดพลาดที่ให้การสนับสนุนเพียงฝ่ายเดียว ตัวอย่างหนึ่งจากกรณีเหล่านี้ก็คือ การที่อเมริกาให้การสนับสนุนต่อกองทัพปลดปล่อยซีเรีย (Free Syrian Army)
นายพลโทมัส แมคอินเออร์นีย์ ได้ชี้ในระหว่างคำพูดของเขาว่า : อาวุธบางส่วนที่มีอยู่ในสถานกงสุลของอเมริกาในเมืองเบงกาซี ในปี 2012 นั้น ในที่สุดแล้วก็ได้พบเห็นอยู่ในมือของกองกำลังของกลุ่มดาอิช (ISIS) ในซีเรีย ดังนั้นอเมริกาจึงมีบทบาทในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กลับกลุ่มดาอิช (ISIS)
ตามรายงานของ “Info Wars” ในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา วุฒิสมาชิก "แรนด์ พอล" เป็นคนแรกที่ได้เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์ในเมืองเบงกาซีไว้ในอีกลักษณะหนึ่ง ตามความเชื่อของแรนด์ พอล ข้อเท็จจริงของเรื่องราวของสถานกงสุลอเมริกาในลิเบียนั้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับโครงการการลักลอบขนอาวุธที่ทันสมัยไปยังซีเรียโดยผ่านตุรกี และการส่งมอบมันให้กับกองกำลังของกองทัพปลดปล่อยซีเรีย
แรนด์ พอล ได้ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นโดยกล่าวว่า : ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานใดๆ อยู่ในมือ แต่ก็เป็นที่น่าระแวงสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า อเมริกามีการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์จากลิเบียไปยังซีเรีย และส่งมอบมันให้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของบัชชาร อัลอะซัด
บนพื้นฐานของรายงานนี้ ในช่วงเวลาเดียวกันกับคำแถลงของแรนด์ พอลนั้น ได้เป็นที่ปรากฏชัดว่า กระทรวงต่างประเทศของอเมริกาเอง ได้จ้างกลุ่มหนึ่งในเครือของอัลกออิดะฮ์ให้ปฏิบัติการในเมืองเบงกาซีเพื่อใช้เป็นเหตุผลข้ออ้าง ประมาณสามเดือนต่อมาข่าวต่างๆ ก็ถูกเผยแพร่ออกมาว่า ซีไอเอได้กำหนดให้มีการตรวจสอบการปฏิบัติการต่างๆ ของตนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่เกี่ยวกับการลักลอบขนอาวุธ
ตามรายงานนี้ หลังจากการเผยแพร่ของข่าวนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ซีเอ็นเอ็นก็ได้กล่าวในรายงานหนึ่งว่า มีเจ้าหน้าที่ของซีไอเอหลายสิบคนได้ปรากฏตัวอยู่ในช่วงเวลาของการโจมตีสถานกงสุลของอเมริกาในเมืองเบงกาซี เพื่อจัดการปิดข่าวไม่ให้มีการพูดคุยกันระหว่างบรรดาผู้ที่เป็นสื่อกลางกับรัฐสภาหรือสื่อมวลชนต่างๆ เกี่ยวกับแผนการลับในการลักลอบขนย้ายขีปนาวุธจากภาคพื้นดินสู่อากาศ จากลิเบียไปยังประเทศซีเรีย โดยผ่านดินแดนตุรกี และอาวุธเหล่านี้จะต้องไปถึงมือของกลุ่มต่อต้านในซีเรีย และหลังจากนั้นบรรดาผู้นำกลุ่มต่อต้านของซีเรียจะต้องเข้าสมทบกับกลุ่มดาอิช (ISIS)
ในตอนท้ายของรายงานนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า นอกเหนือจากการที่กลุ่มดาอิช (ISIS) จะได้รับอาวุธต่างๆ จากเมืองเบงกาซีแล้ว สมาชิกจำนวนมากของกลุ่มนี้ยังได้รับการฝึกอบรมโดยอเมริกา ในโครงการลับในประเทศจอร์แดนในปี 2012 ตามคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจอร์แดน สมาชิกของกลุ่มดาอิช (ISIS) หลายสิบคนได้รับการฝึกอบรมในประเทศจอร์แดน ในช่วงการช่วยเหลืออย่างลับๆ ต่อกองกำลังของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบัชชาร อัลอะซัด และพันธมิตรส่วนใหญ่ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต ตุรกีและกาตาร์ ก็ได้ให้การช่วยเหลือในการจัดหาอาวุธให้แก่กลุ่มดาอิช (ISIS) ด้วยเช่นกัน
ที่มา http://islamicstudiesth.com/index.php/2012-06-04-06-47-60/2012-06-04-06-47-63/270-usa-creation-isis