แชร์ประสบการณ์น่าปวดหัวกับโครงการ iCondo เพชรเกษม 39
เราซื้อคอนโดของโครงการ property perfect เพราะเชื่อมั่นในภาพลักษณ์และคุณภาพของโครงการ โดยเฉพาะใช้ช่างผู้รับเหมาจากอิตาเลียน-ไทย
ทำให้เรารู้สึกว่าโครงการไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทั้งในเชิงการก่อสร้างและการบริหารงาน...
จริงแล้ว โครงการนี้กำหนดเสร็จล่าช้าไปถึง 2 ปี เนื่องจากติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีความอดทน ไม่ขายต่อ ยอมเช่าคอนโดที่อื่นไปก่อน
เพราะคอนโดนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและที่ทำงานด้วย แต่เมื่อโครงการใกล้จะเสร็จ ฝ่ายโอนก็เร่งให้โอนห้องเร็วๆ โดยการใช้โปรโมชั่นต่างๆ เป็นตัวล่อ
เช่น ฟรีค่าโอน ฟรีค่าประกันมิเตอร์น้ำไฟ ฯลฯ จึงเริ่มเข้ามาตรวจสภาพห้อง และเมื่อเข้ามาเห็นห้องครั้งแรก..............
.........เมื่อเห็นห้องครั้งแรกก็ตกใจกับสภาพมาก ห้องเหมือนจะเรียบร้อยก็ไม่ใช่ เจอรอย เจอตำหนิ เจอไปซะทุกส่วนของห้อง ข้าวของวางเกะกะ ทั้งที่ฝ่ายโอนบอกว่าเข้ามาตรวจรับห้องได้เลย (สภาพแบบนี้จะไปอยู่ยังไง) สภาพส่วนกลางก็ยังสร้างไม่เสร็จ ถนนยังเทแค่ทรายด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าแบบฟอร์มจดเพื่อแก้งานหน้าเดียวไม่พอ หลังจากนั้นจึงนัดวันมาตรวจห้องใหม่อีกครั้งหนึ่ง....
การนัดวันมาตรวจห้อง แม้ว่าจะกำชับกับฝ่ายช่างแล้วว่าหากยังแก้ไขยังไม่เสร็จ ให้โทรแจ้งด้วย เพราะทุกครั้งที่ช่างนัดมักจะนัดวันธรรมดาที่เราทำงาน
หากช่างไม่โทรมาแจ้งจึงแสดงว่าแก้ไขงานเสร็จแล้ว แต่จากการตรวจห้องเกิน 10 ครั้ง ฝ่ายช่างไม่เคยโทรมาแจ้งแม้แต่ครั้งเดียว ให้ walk in เข้ามาแล้วก็พบกับภาพเดิมๆซ้ำๆ งานจุดเดิมๆที่ไม่ได้แก้ หรือจะเจอจุดปัญหาจุดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครั้ง
มีครั้งหนึ่งเรามาตรวจห้องและงานแก้ไขเยอะมากจนเราโมโห พอจะนัดวันเราจึงถามช่างว่า "คิดว่าทั้งหมดจะเสร็จเมื่อไรคะ จะได้เข้ามาตรวจตอนนั้นทีเดียวเลย" ฝ่ายช่างบอกว่า "ผมไม่รู้ว่าจะแก้เสร็จเมื่อไร ผมก็รับปากไม่ได้"
เมื่อฝ่ายช่างพูดแบบนี้ เราจึงไปคุยกับฝ่ายโอนว่า จริงๆแล้วเราก็อยากได้โปรโมชั่นที่ว่า แต่ในเมื่อห้องไม่เรียบร้อยจะให้โอนได้อย่างไร ฝ่ายโอนก็รับปากว่าจะตามฝ่ายช่างให้แก้ไขให้เสร็จ และจะเป็นผู้นัดเรามาเอง แต่ทุกครั้งที่ฝ่ายโอนโทรมานัด ก็เจอสภาพเดิมๆ คือ ไม่ได้แก้ไขจุดเดิม และก็มีจุดใหม่เพิ่มให้แก้ตลอด
จุดที่ทำให้เรารับไม่ได้สำหรับฝ่ายช่างมากที่สุด คือ จุดของลูกบิดประตูที่ส่วนของตัวล็อคไม่ผสานกับเดือยประตู (ของปกติจะต้องแนบสนิดกัน) เราบอกให้ช่างแก้ไขโดยการเปลี่ยนลูกบิดตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่ได้รับการแก้ไข จนครั้งก่อนสุดท้ายที่เรามาตรวจก็พบว่าตัวล็อคกับเดือยประตูผสานกันแนบสนิด เราจึงทดลองกดลงไป ปรากฏว่ากดไม่ลง และทำให้ล็อคประตูไม่ได้ จึงเรียกช่างมาดู ... ช่างบอกว่าเขาหยอดกาวไว้ หากต้องการให้สนิดก็ต้องเอากาวแปะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่สนิดเหมือนเดิม ... นี่หรือคือความรู้ของช่างผู้เชี่ยวชาญจากอิตาเลียน-ไทย....
สุดท้ายก็ต้องยอมโอนห้องแบบไม่ได้โปรโมชั่นอะไร เพื่อแลกกับสภาพห้องที่ดีที่สุด
แต่จุดที่แย่ที่สุด คือ เรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ....
เมื่อเราย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโดนี้ ถือว่าเป็นห้องแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ ก็พบว่า ไม่มี รปภ. ดูแลจุดใดเลย มีแต่ทางเข้าประตูใหญ่จำนวน 1 คน รปภ.ซึ่งได้มาในปัจจุบันประจำตึกเป็นเพราะการที่ลูกบ้านรวมตัวกันโทรไปร้องเรียนที่ call center ของโครงการ property perfect
ก็พยายามอยู่แบบสงบๆ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้าง อะไรนิดๆหน่อยๆ ก็พยายามแก้ไขเอง แต่ก็เริ่มทนไม่ไหวเมื่อพบว่า
(1) ขุมทรัพย์ในท่อน้ำ
... น้ำในห้องน้ำ เมื่ออาบน้ำแล้วทำไมมันเจิ่งนอง น้ำไม่ไหลลงท่อน้ำแบบ flow อดทนไม่ไหวก็ไปซื้อที่คีบถ่านมาลองคีบๆดู ก็เลยพบสาเหตุที่น้ำไม่ลง
ทั้งกระดาษกาว เทปพันท่อ เศษกระจก และแน่นอน ก้อนปูนแน่นๆหลายก้อน ความักง่ายของช่างผู้เชี่ยวชาญจากอิตาเลียน-ไทย
พอเราไปแจ้งนิติ นิติก็ให้ช่างมาดูและต่อท่อยางลงและเปิดน้ำแรงๆ แป๊บนึง หลังจากนั้นก็หันมาบอกเราว่า ... นี่ไงครับ น้ำลงแล้ว
(ตรูอยากจะบอกว่ามันลงตั้งแต่ตรูคีบๆๆออกมาแล้ว)
(2) น้ำตก
... ในห้องนอนอันแสนสุขของเรา ไม่คิดว่าโครงการจะแถม "น้ำตก" ให้ในห้องนอนด้วย
พื้นลามิเนต เจิ่งนองด้วยน้ำจากห้องข้างบน (ซึ่งยังไม่มีคนอยู่) เป็นรอยคราบสนิมไหลมาจากเพดานถึงพื้นด้านล่าง เวลาเริ่มไหลก็ทุ่มกว่าๆ
นิติไม่มีการรับสายใดๆ เพราะไม่ใช่เวลางานเขา เราก็นั่งเช็ดทั้งคืน น้ำตาจิไหลพร้อมๆน้ำรั่ว ตอนเช้านิติ มาพร้อมกับช่าง ช่างก็มองๆแล้วบอกว่าต้องเลาะเพดานออกเพื่อหาสาเหตุ ..... เดชะบุญ วิศวกรโครงการมาดูด้วย ก็ให้ไปเปิดห้องข้างบน พบว่าท่อน้ำห้องข้างบนรั่ว (บริเวณซิ้งค์น้ำ) และโทษว่าเป็นที่ช่างเฟอร์นิเจอร์ทำงานไม่เรียบร้อย แต่สุดท้ายช่างคนนั้นก็เป็นคนไปแก้ไขงาน และน้ำก็หยุดไหล
เมื่อน้ำแห้ง ก็ต้องโทรไปหานิติอีก ว่าให้ทำไงต่อ ช่างก็มาดูใหม่อีก บอกว่าให้ช่างสีมาทาทับเลย .... โอ่แม่เจ้า
(3) รอยร้าวระหว่างเรา (กับเพื่อนข้างห้อง)
ไม่รู้เพราะบุญพาหรือกรรมซัด เมื่อเพื่อนข้างห้องเริ่มจะเข้ามาอยู่ ซึ่งการเข้ามาอยู่ของเขาพาความ "แตกร้าว" มาให้กับเรา เนื่องจากว่า....
1. เขาเปลี่ยนวงกบประตูใหม่ทั้งหมด แต่การเปลี่ยนนำมาซึ่งการเจาะ การเคาะ การทุบ
2. เขาต่อท่อ บิวอินทุกอย่าง ด้วยตัวเขาเองทั้งหด
ชื่นชมในความเก่งของเขาที่ทำเองทุกอย่าง เสียงดังๆ เราก็พออดทนได้ ก็ใช้วิธีเปิดเพลงเอา ไปเดินเล่นข้างนอกเอา แต่เรื่องราวรอยร้าวมันก็เกิดขึ้น..
..เมื่อเราพบ "รอยร้าว" ของจริงในห้อง 4 จุด ร้าวตั้งแต่เพดานจนพื้นห้อง 2 จุด และร้าวตรงวงกบหน้าต่าง และประตู (เป็นการกระเทาะของปูน) เมื่อพบดังน้นก็เรียกช่าง ... ช่างตรวจสอบรอยร้ายแล้วก็พบว่า ที่รอยร้าวเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะว่า "เราเปิดแอร์" ...........หรือเพราะเราไม่มีความรู้เรื่องช่าง เลยไม่เข้าใจว่าห้องร้าวกับการเปิดแอร์ มันมาเกี่ยวกันยังไง
(ขออภัยไม่มีรูป เหตุการณ์สดๆร้อนๆ ค่ะ ไว้จะถ่ายมาอัพคะ)
(4) นิติ เอ๋ย.........
ระบบการทำงานของนิติ เป็นอะไรที่บริหารได้แย่มาก นิติไม่มีการตามงาน ไม่มีความน่าเชื่อถือในการพูดจา (พูดจาไม่รู้เรื่อง และดูไม่มีความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการคอนโด) ไม่มีความสามารรถในการเจรจาและประสานงานกับฝ่ายช่าง การตัดสินใจบางอย่างนิติใช้เป็นความรับผิดชอบเมื่อมีการประชุมลูกบ้านแล้วเท่านั้น
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงจุดใหญ่ๆ ที่เห็นชัดๆ ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างของลูกบ้านคนอื่นๆ อีก ที่ทุกคนได้แต่อดทนอดกลั้นเพราะก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตทุ่มเงินเป็นล้านๆเพื่อซื้อสิ่งที่คิดว่าจะเป็น "บ้าน" มาอยู่อาศัย แต่ก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน
จึงอยากให้ผู้ที่คิดจะซื้อคอนโดอยู่ อาจต้องมีความรู้หลายๆอย่างในเรื่องช่าง ไม่ว่าจะปะปา น้ำ ไฟ โครงสร้าง บางอย่างมองเผินๆ อาจจะเรียบร้อย แต่เมื่ออยู่ไปเมื่อพบปัญหา จะได้แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ และใช้ในการเจรจากับช่าง ไม่ให้ช่างแก้งานแบบ ผักชีโรยหน้า ไปวันๆ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านคะ
[CR] แชร์ประสบการณ์น่าปวดหัวกับโครงการ iCondo เพชรเกษม 39
เราซื้อคอนโดของโครงการ property perfect เพราะเชื่อมั่นในภาพลักษณ์และคุณภาพของโครงการ โดยเฉพาะใช้ช่างผู้รับเหมาจากอิตาเลียน-ไทย
ทำให้เรารู้สึกว่าโครงการไม่น่าจะมีปัญหาอะไรทั้งในเชิงการก่อสร้างและการบริหารงาน...
จริงแล้ว โครงการนี้กำหนดเสร็จล่าช้าไปถึง 2 ปี เนื่องจากติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีความอดทน ไม่ขายต่อ ยอมเช่าคอนโดที่อื่นไปก่อน
เพราะคอนโดนี้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและที่ทำงานด้วย แต่เมื่อโครงการใกล้จะเสร็จ ฝ่ายโอนก็เร่งให้โอนห้องเร็วๆ โดยการใช้โปรโมชั่นต่างๆ เป็นตัวล่อ
เช่น ฟรีค่าโอน ฟรีค่าประกันมิเตอร์น้ำไฟ ฯลฯ จึงเริ่มเข้ามาตรวจสภาพห้อง และเมื่อเข้ามาเห็นห้องครั้งแรก..............
.........เมื่อเห็นห้องครั้งแรกก็ตกใจกับสภาพมาก ห้องเหมือนจะเรียบร้อยก็ไม่ใช่ เจอรอย เจอตำหนิ เจอไปซะทุกส่วนของห้อง ข้าวของวางเกะกะ ทั้งที่ฝ่ายโอนบอกว่าเข้ามาตรวจรับห้องได้เลย (สภาพแบบนี้จะไปอยู่ยังไง) สภาพส่วนกลางก็ยังสร้างไม่เสร็จ ถนนยังเทแค่ทรายด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าแบบฟอร์มจดเพื่อแก้งานหน้าเดียวไม่พอ หลังจากนั้นจึงนัดวันมาตรวจห้องใหม่อีกครั้งหนึ่ง....
การนัดวันมาตรวจห้อง แม้ว่าจะกำชับกับฝ่ายช่างแล้วว่าหากยังแก้ไขยังไม่เสร็จ ให้โทรแจ้งด้วย เพราะทุกครั้งที่ช่างนัดมักจะนัดวันธรรมดาที่เราทำงาน
หากช่างไม่โทรมาแจ้งจึงแสดงว่าแก้ไขงานเสร็จแล้ว แต่จากการตรวจห้องเกิน 10 ครั้ง ฝ่ายช่างไม่เคยโทรมาแจ้งแม้แต่ครั้งเดียว ให้ walk in เข้ามาแล้วก็พบกับภาพเดิมๆซ้ำๆ งานจุดเดิมๆที่ไม่ได้แก้ หรือจะเจอจุดปัญหาจุดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครั้ง
มีครั้งหนึ่งเรามาตรวจห้องและงานแก้ไขเยอะมากจนเราโมโห พอจะนัดวันเราจึงถามช่างว่า "คิดว่าทั้งหมดจะเสร็จเมื่อไรคะ จะได้เข้ามาตรวจตอนนั้นทีเดียวเลย" ฝ่ายช่างบอกว่า "ผมไม่รู้ว่าจะแก้เสร็จเมื่อไร ผมก็รับปากไม่ได้"
เมื่อฝ่ายช่างพูดแบบนี้ เราจึงไปคุยกับฝ่ายโอนว่า จริงๆแล้วเราก็อยากได้โปรโมชั่นที่ว่า แต่ในเมื่อห้องไม่เรียบร้อยจะให้โอนได้อย่างไร ฝ่ายโอนก็รับปากว่าจะตามฝ่ายช่างให้แก้ไขให้เสร็จ และจะเป็นผู้นัดเรามาเอง แต่ทุกครั้งที่ฝ่ายโอนโทรมานัด ก็เจอสภาพเดิมๆ คือ ไม่ได้แก้ไขจุดเดิม และก็มีจุดใหม่เพิ่มให้แก้ตลอด
จุดที่ทำให้เรารับไม่ได้สำหรับฝ่ายช่างมากที่สุด คือ จุดของลูกบิดประตูที่ส่วนของตัวล็อคไม่ผสานกับเดือยประตู (ของปกติจะต้องแนบสนิดกัน) เราบอกให้ช่างแก้ไขโดยการเปลี่ยนลูกบิดตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่ได้รับการแก้ไข จนครั้งก่อนสุดท้ายที่เรามาตรวจก็พบว่าตัวล็อคกับเดือยประตูผสานกันแนบสนิด เราจึงทดลองกดลงไป ปรากฏว่ากดไม่ลง และทำให้ล็อคประตูไม่ได้ จึงเรียกช่างมาดู ... ช่างบอกว่าเขาหยอดกาวไว้ หากต้องการให้สนิดก็ต้องเอากาวแปะ ไม่อย่างนั้นก็ไม่สนิดเหมือนเดิม ... นี่หรือคือความรู้ของช่างผู้เชี่ยวชาญจากอิตาเลียน-ไทย....
สุดท้ายก็ต้องยอมโอนห้องแบบไม่ได้โปรโมชั่นอะไร เพื่อแลกกับสภาพห้องที่ดีที่สุด
แต่จุดที่แย่ที่สุด คือ เรื่องราวต่อไปนี้ค่ะ....
เมื่อเราย้ายเข้ามาอยู่ในคอนโดนี้ ถือว่าเป็นห้องแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ ก็พบว่า ไม่มี รปภ. ดูแลจุดใดเลย มีแต่ทางเข้าประตูใหญ่จำนวน 1 คน รปภ.ซึ่งได้มาในปัจจุบันประจำตึกเป็นเพราะการที่ลูกบ้านรวมตัวกันโทรไปร้องเรียนที่ call center ของโครงการ property perfect
ก็พยายามอยู่แบบสงบๆ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้าง อะไรนิดๆหน่อยๆ ก็พยายามแก้ไขเอง แต่ก็เริ่มทนไม่ไหวเมื่อพบว่า
(1) ขุมทรัพย์ในท่อน้ำ
... น้ำในห้องน้ำ เมื่ออาบน้ำแล้วทำไมมันเจิ่งนอง น้ำไม่ไหลลงท่อน้ำแบบ flow อดทนไม่ไหวก็ไปซื้อที่คีบถ่านมาลองคีบๆดู ก็เลยพบสาเหตุที่น้ำไม่ลง
ทั้งกระดาษกาว เทปพันท่อ เศษกระจก และแน่นอน ก้อนปูนแน่นๆหลายก้อน ความักง่ายของช่างผู้เชี่ยวชาญจากอิตาเลียน-ไทย
พอเราไปแจ้งนิติ นิติก็ให้ช่างมาดูและต่อท่อยางลงและเปิดน้ำแรงๆ แป๊บนึง หลังจากนั้นก็หันมาบอกเราว่า ... นี่ไงครับ น้ำลงแล้ว
(ตรูอยากจะบอกว่ามันลงตั้งแต่ตรูคีบๆๆออกมาแล้ว)
(2) น้ำตก
... ในห้องนอนอันแสนสุขของเรา ไม่คิดว่าโครงการจะแถม "น้ำตก" ให้ในห้องนอนด้วย
พื้นลามิเนต เจิ่งนองด้วยน้ำจากห้องข้างบน (ซึ่งยังไม่มีคนอยู่) เป็นรอยคราบสนิมไหลมาจากเพดานถึงพื้นด้านล่าง เวลาเริ่มไหลก็ทุ่มกว่าๆ
นิติไม่มีการรับสายใดๆ เพราะไม่ใช่เวลางานเขา เราก็นั่งเช็ดทั้งคืน น้ำตาจิไหลพร้อมๆน้ำรั่ว ตอนเช้านิติ มาพร้อมกับช่าง ช่างก็มองๆแล้วบอกว่าต้องเลาะเพดานออกเพื่อหาสาเหตุ ..... เดชะบุญ วิศวกรโครงการมาดูด้วย ก็ให้ไปเปิดห้องข้างบน พบว่าท่อน้ำห้องข้างบนรั่ว (บริเวณซิ้งค์น้ำ) และโทษว่าเป็นที่ช่างเฟอร์นิเจอร์ทำงานไม่เรียบร้อย แต่สุดท้ายช่างคนนั้นก็เป็นคนไปแก้ไขงาน และน้ำก็หยุดไหล
เมื่อน้ำแห้ง ก็ต้องโทรไปหานิติอีก ว่าให้ทำไงต่อ ช่างก็มาดูใหม่อีก บอกว่าให้ช่างสีมาทาทับเลย .... โอ่แม่เจ้า
(3) รอยร้าวระหว่างเรา (กับเพื่อนข้างห้อง)
ไม่รู้เพราะบุญพาหรือกรรมซัด เมื่อเพื่อนข้างห้องเริ่มจะเข้ามาอยู่ ซึ่งการเข้ามาอยู่ของเขาพาความ "แตกร้าว" มาให้กับเรา เนื่องจากว่า....
1. เขาเปลี่ยนวงกบประตูใหม่ทั้งหมด แต่การเปลี่ยนนำมาซึ่งการเจาะ การเคาะ การทุบ
2. เขาต่อท่อ บิวอินทุกอย่าง ด้วยตัวเขาเองทั้งหด
ชื่นชมในความเก่งของเขาที่ทำเองทุกอย่าง เสียงดังๆ เราก็พออดทนได้ ก็ใช้วิธีเปิดเพลงเอา ไปเดินเล่นข้างนอกเอา แต่เรื่องราวรอยร้าวมันก็เกิดขึ้น..
..เมื่อเราพบ "รอยร้าว" ของจริงในห้อง 4 จุด ร้าวตั้งแต่เพดานจนพื้นห้อง 2 จุด และร้าวตรงวงกบหน้าต่าง และประตู (เป็นการกระเทาะของปูน) เมื่อพบดังน้นก็เรียกช่าง ... ช่างตรวจสอบรอยร้ายแล้วก็พบว่า ที่รอยร้าวเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะว่า "เราเปิดแอร์" ...........หรือเพราะเราไม่มีความรู้เรื่องช่าง เลยไม่เข้าใจว่าห้องร้าวกับการเปิดแอร์ มันมาเกี่ยวกันยังไง
(ขออภัยไม่มีรูป เหตุการณ์สดๆร้อนๆ ค่ะ ไว้จะถ่ายมาอัพคะ)
(4) นิติ เอ๋ย.........
ระบบการทำงานของนิติ เป็นอะไรที่บริหารได้แย่มาก นิติไม่มีการตามงาน ไม่มีความน่าเชื่อถือในการพูดจา (พูดจาไม่รู้เรื่อง และดูไม่มีความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการคอนโด) ไม่มีความสามารรถในการเจรจาและประสานงานกับฝ่ายช่าง การตัดสินใจบางอย่างนิติใช้เป็นความรับผิดชอบเมื่อมีการประชุมลูกบ้านแล้วเท่านั้น
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงจุดใหญ่ๆ ที่เห็นชัดๆ ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างของลูกบ้านคนอื่นๆ อีก ที่ทุกคนได้แต่อดทนอดกลั้นเพราะก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตทุ่มเงินเป็นล้านๆเพื่อซื้อสิ่งที่คิดว่าจะเป็น "บ้าน" มาอยู่อาศัย แต่ก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน
จึงอยากให้ผู้ที่คิดจะซื้อคอนโดอยู่ อาจต้องมีความรู้หลายๆอย่างในเรื่องช่าง ไม่ว่าจะปะปา น้ำ ไฟ โครงสร้าง บางอย่างมองเผินๆ อาจจะเรียบร้อย แต่เมื่ออยู่ไปเมื่อพบปัญหา จะได้แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ และใช้ในการเจรจากับช่าง ไม่ให้ช่างแก้งานแบบ ผักชีโรยหน้า ไปวันๆ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านคะ