ปกติคนมักจะค้านว่า อย่าซื้อสัตว์เลี้ยงจากจตุจักร มีทั้งความคิดเห็นในด้านลบ เป็นกลาง ส่วนด้านบวกแทบไม่มี อาจจะเพราะถ้าแมวไม่ได้เป็นอะไร ก็ไม่ค่อยมีใครมาแชร์ลักษณะว่า "เค้าซื้อแมวมาจากเจเจล่ะ แข็งแรงไม่ป่วยไม่เป็นอะไรเลย" <---- การแชร์อะไรแบบนี้จึงหาดูได้ยากกว่าการแชร์ว่าประสบปัญหา ถ้าแชร์ก็มักจะแชร์เรื่องอื่นๆจิปาถะ ทั่วไป
แต่เคยอ่านเจอจากเวปนึง เค้าเล่าถึงซื้อหมา-แมว ที่จัตุจักรอย่าซื้อกับร้านทั่วไป ให้ซื้อตอนเย็นที่ร้านอื่นๆเริ่มปิดจะมีร้านริมถนน (ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะว่าเป็นแบบไหนเพราะไม่เคยเดินเย็นๆ ปกติจะไปเจเจช่วง7โมงเช้าไม่เกิน11โมงค่ะ) ร้านเหล่านี้สัตว์จะสุขภาพดีกว่า คนเล่าบอกว่า ซื้อได้ราคาถูกกว่า แถมที่ได้มาไม่เป็นโรคอะไรเลยแข็งแรงแม้แต่เชื้อราก็ไม่มี (ตอนนั้นที่อ่านมีภาพให้ดูตอนซื้อกับตอนโตด้วยค่ะ โตมาเป็นหนุ่มหล่อเลย) แล้วก็มีคนอื่นมาตอบกระทู้ว่าซื้อแบบเดียวกันเลยซื้อจากริมทางตอนเย็น แมวแข็งแรงไม่เป็นโรคอะไรเลยเช่นกัน
ทีนี้ดูสาเหตุนะคะ ว่าทำไมร้านข้างทางถึงว่ากันว่าดีกว่า(บางท่านที่ให้ความเห็นเป็นกลางก็เคยแจงไว้ค่ะเกี่ยวกับแมวในตลาดเจเจ)
1.ในร้านจตุจักร เมื่อปิดร้านสัตว์ก็จะอยู่ในกรงแบบนั้น และบางร้านสัตว์ขังรวมกันหลายตัว จตุจักรมีสัตว์ที่หลากหลาย มีความชื้นที่มากกว่า(ที่มาของโรครา)สัตว์ต้องอยู่ที่เจเจทั้งวันทั้งคืน จนกว่าจะขายออก แต่ร้านข้างทางตอนเย็น มาขายแค่ตอนเย็น-ดึกๆ ปิดร้านก็พาสัตว์กลับบ้าน
2.ร้านจตุจักรส่วนใหญ่รับสัตว์มาขาย ยิ่งบางทีมาจากหลากหลายที่ โอกาสที่มีสัตว์ป่วยปนมาแล้วมาแพร่ให้ตัวอื่นๆจึงมีมากขึ้น แต่ร้านข้างทางส่วนมากเป็นเจ้าของเพาะเลี้ยงเองแล้วนำมาขาย
-อันนี้ต้องขอนอกเรื่องยาวหน่อยนะคะ เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะคะ เป็นอีกหนึงคนที่ซื้อแมวมาจากจตุจักรโดยไม่ได้ตั้งใจ กะไปซื้อซูการ์ซักตัว หันไปสบตาแมวลูกครึ่งสามสีเข้าก็ปิ๊งเทอ เคยคิดว่าอยากเลี้ยงแมวสามสีไม่ก็ลายวัว ใจชอบแมวตัวเมียมากกว่าตัวผู้นิดหน่อยอยู่แล้วด้วย จึงเข้าไปคุยกะทางร้านเค้าบอกเพิ่งเอามาเมื่อเช้า (ปกติเดินเจเจบ่อยค่ะเกือบทุกอาทิตย์ เพราะงั้นบางร้านเดินผ่านมาเกือบเดือนแมวก็ยังอยู่ก็มีค่ะ)กลายเป็นได้แมวกลับบ้าน มีราที่ปลายหูข้างนึงเล็กน้อย ทายา2อาทิตย์ขนก็ขึ้น ก็ทาต่อไปอีกซักพัก
อาการยอดฮิตอีกอย่างที่เป็นกันแทบทุกคนที่ซื้อจากเจเจ คือถ่ายเหลว แน่นอนว่าเค้าโดนแยกจากแม่มาก่อนหน้าน่าจะกินนมเป็นหลัก พอทางร้านให้อาหารเปียกแมวจึงถ่ายเหลว ได้สามสีอายุ50วันมา ถ่ายเหลวอยู่1อาทิตย์ หลังจากนั้นรับวัคซีนปกติ (ถ่ายเป็นก้อนยาสีฟันแทนระหว่างนี้ ถามคุณหมอ คุณหมอบอกไม่เป็นไร ให้กินแต่อาหารเม็ดอย่างเดียวดู ใช้เวลาราวๆ7-10วัน เป็นก้อนแข็งปกติ)
ด้วยความที่โดนปลุกทุกเช้าวันละหลายรอบ จึงเกิดความคิดว่าจะหาเพื่อนให้ จึงไปร้านเดิม และได้เปอเซียอายุ2เดือนมา ตัวนี้ถ่ายเหลวอยู่นาน(ตอนซื้อถามทางร้านว่าน้องแมวตัวนี้อยู่ร้านนานหรือยัง ร้านบอกมาวันพฤ เราไปเจเจวันเสาร์ ก็ชั่งใจนิดนึง เพราะแมวทิ้งเจเจ2-3วัน โอกาสที่เค้าได้รับเชื้อโรคจากเจเจก็จะมีมากขึ้น แต่เนี่ยงจากมาทุกอาทิตย์ 3ครั้งแล้ว กลัวถ้ารอมาดูคราวหน้าอีก สามสีจะโตไปแล้วกลัวจะไม่รับน้องใหม่ จึงอยากรีบพามาไวๆจะได้สนิทกันเป็นเพื่อนเล่นกัน)ได้ของแถมเชื้อรามาด้วยเป็นทั้งตัว(ตอนเอากลับมาก็แวะคลีนิคเช็คสุขภาพโดยรวมก่อนเลย วัดไข้ เช็คไรหู เช็คกระจกตา ส่องดูตัวอย่างอึมีถ่ายเหลวก่อนถึงคลีนิค แรกๆไม่แน่ใจตรงปลายหูใช่เชื้อราหรือเปล่า ผ่านไป3สัปดาห์ ขนร่วงเย๊อะ แปรงขนให้ หลุดมาเป็นกระจุกเลย จึงแหวกขนเค้าดูถึงเห็น คิดว่าราแน่ๆ เนี่องจากขนฟู ตอนเห็นคิดว่าเป็นไม่เย๊อะ แต่พอพาไปหาคุณหมอไถขน เค้าเป็นทั้งตัวเลยค่ะ เป็นดวงๆหลายที่เลย คาดว่าที่เป็นเย๊อะอาจจะเพราะอยู่เจเจมา2-3วันความชื้น+เป็นแมวขนยาว ไม่ได้รักษาแต่แรก กว่าจะรู้ก็ปาเข้าไป3อาทิตย์จึงลุกลาม) รักษาได้3อาทิตย์ เอามาติดสามสีอีกเพราะเล่นปล้ำกันทุกวัน จึงได้รักษาคู่กัน 2 ตัวเลย และมักแวะไปคุยกะที่ร้านที่ซื้อเจ้า2พี่น้องนี่มาเรื่อยๆ แบบทักทายค่ะคนขายค่ะ จนวันนึงได้เจอพ่อของเจ้าเปอเซียที่ซื้อมาด้วย มีตัวเมียด้วย2ตัวคิดว่าเป็นแม่คนขายบอกไม่ใช่แม่เจ้าตัวนั้นไม่ได้เอากลับ พอดีพ่อค้าเค้าจะเอากลับ ตจว. ร้านนี้เค้าเพาะเองค่ะ แต่เค้าบอกว่าก็มีบางทีที่ไม่ใช่
ทุกวันนี้เปอเซีย4เดือนครึ่งแล้วแข็งแรงเลี้ยงง่ายน่ารักมากค่ะ ติดตรงเผือกไปหน่อย ส่วนลูกครึ่ง5เดือนครึ่งแล้วเป็นแมวสามสีเอาใจยาก เรื่องมากสุดๆ
*เกริ่นนอกเรื่องไปเย๊อะ ประเด็นที่จะเล่าในข้อ2คือ มีวันนึงแวะร้านประจำดูแมวเค้าเหมือนเคย(เป็นคนชอบแมวค่ะ เจอก็ชอบไปดู เมื่อก่อนไปบ้านเพื่อนจุดประสงค์ก็เพราะจะไปเล่นแมวนี่แหละ) แล้ววันนึงเห็นแม่ค้าร้านนึงกำลังทำการซื่อขายแมวกับ ช คนนึง แมวถูกใส่กรงขนาดเล็กอายุน่าจะราวๆ50วัน-2เดือน เป็นแมวเปอเซีย ยืนเบียดกันราวๆ8-10ตัว แม่ค้าต่อราคาว่าลดได้มั้ยเพราะมีตัวนึงเป็นหวัด(เราก็มองแบบมองผ่านๆไม่กล้ามองเย๊อะ อืม มีน้ำมูกนิดๆ ตาดูแฉะๆหน่อย เรามองว่าครึ่งนึงเป็นหวัดมากกว่า แต่เป็นน้อยแค่ดูตาเยิ้มๆอาจจะเยิ้มเพราะแมวเปอเซียเป็นแมวที่มีน้ำตาง่ายก็ได้ แต่มีตัวนึงแฉะชัด) ช ก็ตอบว่า หมดนี่หมื่นห้า แม่ค้าก็พูดราวๆลดไม่ได้หรอมีตัวนึงเป็นหวัด ช ก็ยืนยันเหมือนเดิมหมดนี่หมื่นห้า (จำนวนแมวกับราคาอาจจะไม่เป๊ะนะคะ เพราะเราความจำแย่มากค่ะ) ใจก็คิด โห ส่งถูกมากอ่ะ แต่แมวมีทั้งตัวปกติ และตัวป่วยๆ ตัวป่วยๆแม่ค้าอาจจะจับแยกไว้แล้วยัดพาราให้ เช็ดตาเช็ดจมูกแล้ววางขาย(บางร้านทำนะคะ ยัดพาราให้แมวกิน เคยอ่านเจอในพันทิพย์นี่แหละค่ะ แต่ร้านที่เราเจอเราก็ไม่รู้ว่าเค้าทำหรือเปล่า) ส่วนตัวไหนดูยังปกติ เราก็คิดในใจว่าจะรอดจากการติดโรคหรอเนี่ย อยู่เบียดกันซะขนาดนี้ ถึงตอนนี้ปกติ แต่อาจจะได้รับเชื้อไปละแค่ยังไม่แสดงอาการ อาการอาจจะออกตอนคนซื้อเอากลับบ้านไปเลี้ยงซักระยะ ถ้าเป็นแค่หวัดคนซื้อไปแมวยังมีโอกาสรอด แต่ถ้าหัดโอกาสรอดน้อยมาก
แล้วลองคิดดูนะคะ เจเจมีร้านเปิดที่มีแมวป่วย ลูกค้าเลือกแมวลูบแมวสัมผัสแมวจากร้านนึง แล้วไปดูแมวสัมผัสแมวอีกร้านนึง โอกาสการแพร่เชื้อข้ามร้านก็สามารถเกิดขึ้นได้
เคยอ่านเจอจากที่ใดไม่แน่ใจ เพราะเป็นคนที่อ่านเรื่อยเปื่อยไปทั่ว เลยไม่มั่นใจว่าอ่านเจอจากพันทิพย์หรือเปล่า แต่เคยมีคนมาโพสบอกว่า ฟาร์มบางแห่ง จะคัดเอาแมวที่ป่วยไปส่งเจเจในราคาถูกด้วยค่ะ
3. ร้านริมทางตอนเย็น ความแอดอัดความอับจะเบาบางกว่าตลาดเจเจตอนกลางวัน ไม่ว่าจะจำนวนร้านที่เปิด และจำนวนสัตว์ในแต่ละร้านที่นำมาขาย
4.อากาศร้านริมทางตอนเย็นเย็นกว่าค่ะ เคยเดินตอนเจเจใกล้ๆเที่ยง(กำลังจะกลับ) เห็นร้านเปิดขายแมว แมวเปอเซียยืนหอบแฮ่กๆๆๆ แบบหมาหอบเลยค่ะ เค้าคงร้อนมาก ขนาดไม่ได้โดนแดดนะคะ แต่อากาศวันนั้นก็ร้อนอบอ้าว นึกถึงคนสิคะ คงหน้ามืด รู้สึกหวิวๆ ทำเอาป่วยเป็นไข้ได้เลย
5.ร้านริมทางต่อรองราคาถูกกว่าร้านในเจเจค่ะ แต่ก็ต้องขยันเดินดูนะคะ บางร้านก็ใจดีมากยอมลดให้ บางร้านก็ไม่ลดเพราะขายราคาถูกแล้ว
**เท่าที่นึกออกตอนนี้มีเท่านี้ค่ะ ท่านอื่นๆที่เคยเดินร้านริมทางตอนเย็นมาแชร์เพิ่มได้นะคะ เพราะส่วนตัวไม่เคยเดินตอนเย็นเลย อ่านมาอย่างเดียวค่ะ
ร้านริมทางก็ใช่ว่าไม่มีป่วยนะคะ ส่วนตัวคิดว่าโอกาสป่วยก็น่าจะมีได้เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับในเจเจตอนกลางวันแล้ว เจเจดูจะมีความเสี่ยงกว่า แม้แมวตอนไปส่งที่เจเจไม่ได้ป่วย แต่เพราะสภาพแวดล้อม ก็ทำให้เค้าสามารถติดโรคต่างๆมาได้จากที่เจเจ
ร้านตู้กระจกเคยไปยืนดูเหมือนกันค่ะ แมวก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะดีกว่าร้านเปิด เพราะอย่างที่บอกค่ะ ว่าเค้าก็มีสิทธิ์ได้แมวป่วยมาไม่ว่าจะจากลูกค้าแหละที่เป็นพาหะไปสัมผัสแมวป่วย หรือจากแมวที่มาส่งมีแมวป่วย บางร้านบอกเพาะเองมีฟาร์ม แต่ก็มักรับมาขายด้วยถ้ามีคนมาเสนอขายให้ในราคาไม่แพง(เคยมีคนมาแชร์ในพันทิพย์นี่แหละค่ะว่าเคยแกล้งเสนอขาย จะดูว่าเค้าเพาะเองจริงหรือเปล่า)
ถ้าจะเลือกสัตว์จากเจเจ ก็ต้องระวังเหมือนกันค่ะ ถ้าได้มาแค่ท้องเสีย เชื้อรา ส่วนตัวไม่ค่อยซีเรียสค่ะ เพราะปรับอาหารแมวมักจะท้องเสียอยู่แล้ว เชื้อราเปอเซียก็เป็นง่ายอยู่แล้ว แต่จะซีเรียสก็คือโรคติดต่อร้ายแรง เช่น หัด fib เอดส์ ลูคิเมีย
บางคนซื้อแมวจากคนรู้จักที่เลี้ยงเอง แล้วแมวเป็นลูคิเมียก็มีมาแล้ว(อ่านในพันทิพย์อีกแหละค่ะ)
บางคนซื้อแมวจากฟาร์ม แมวเป็นราเต็มตัวก็เคยอ่านเจอมา(จากเวปขายแมวเวปนึง)
แมวไม่ว่าได้รับมาจากทางไหนก็มีความเสี่ยงค่ะ ไม่ว่าจะแมวหาบ้าน หรือแมวซื้อ
ส่วนตัวคิดว่าปลอดภัยที่สุดก็น่าจะ คนที่เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ได้เลี้ยงเย๊อะขนาดเป็นฟาร์ม(เพราะเค้าจะได้ดูแลแมวได้ทั่วถึง) วัคซีนครบ พ่อแม่แมวสุขภาพแข็งแรง แล้วออกลูก และขาย กรณีนี้เจ้าของแมวจะให้แมวมีลูกไม่กี่ครอกก็ปิดอู่แล้วค่ะ แม่แมวจึงไม่โทรม(นึกถึงคนเน้นเพาะขายสิคะ แม่แมวคงโทรมน่าดู หน้าที่ผลิตลูกๆๆๆ ออกลูกถี่ตั้งท้องถี่ แม่อ่อนแอก็น่าจะส่งผลให้ลูกไม่แข็งแรงเท่าที่ควรจะเป็น)
ปลอดภัยรองมาก็คิดว่าฟาร์มค่ะ เพราะเค้าจะสำคัญเรื่องเครดิสฟาร์มเค้ามาก ถ้ามีเสียชื่อไปแล้ว เซิทหาประวัติดูโดยอากู๋ได้ หรือถามๆในเวปบอร์ทที่เกี่ยวข้องก็จะเจอประวัติค่ะ
เจเจ หรือตลาดที่สัตว์เย๊อะๆ ก็เสี่ยงอย่างที่เล่ามาค่ะ บางทีสัตว์นั้นๆอาจจะไม่ได้ป่วยแต่แรกเริ่มที่ถูกส่งมาที่เจเจ แต่เพราะสภาพแวดล้อม ทำให้เค้าติดโรคมา
แบ่งปันความเห็นสัตว์เลี้ยงจากจตุจักรค่ะ
แต่เคยอ่านเจอจากเวปนึง เค้าเล่าถึงซื้อหมา-แมว ที่จัตุจักรอย่าซื้อกับร้านทั่วไป ให้ซื้อตอนเย็นที่ร้านอื่นๆเริ่มปิดจะมีร้านริมถนน (ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันค่ะว่าเป็นแบบไหนเพราะไม่เคยเดินเย็นๆ ปกติจะไปเจเจช่วง7โมงเช้าไม่เกิน11โมงค่ะ) ร้านเหล่านี้สัตว์จะสุขภาพดีกว่า คนเล่าบอกว่า ซื้อได้ราคาถูกกว่า แถมที่ได้มาไม่เป็นโรคอะไรเลยแข็งแรงแม้แต่เชื้อราก็ไม่มี (ตอนนั้นที่อ่านมีภาพให้ดูตอนซื้อกับตอนโตด้วยค่ะ โตมาเป็นหนุ่มหล่อเลย) แล้วก็มีคนอื่นมาตอบกระทู้ว่าซื้อแบบเดียวกันเลยซื้อจากริมทางตอนเย็น แมวแข็งแรงไม่เป็นโรคอะไรเลยเช่นกัน
ทีนี้ดูสาเหตุนะคะ ว่าทำไมร้านข้างทางถึงว่ากันว่าดีกว่า(บางท่านที่ให้ความเห็นเป็นกลางก็เคยแจงไว้ค่ะเกี่ยวกับแมวในตลาดเจเจ)
1.ในร้านจตุจักร เมื่อปิดร้านสัตว์ก็จะอยู่ในกรงแบบนั้น และบางร้านสัตว์ขังรวมกันหลายตัว จตุจักรมีสัตว์ที่หลากหลาย มีความชื้นที่มากกว่า(ที่มาของโรครา)สัตว์ต้องอยู่ที่เจเจทั้งวันทั้งคืน จนกว่าจะขายออก แต่ร้านข้างทางตอนเย็น มาขายแค่ตอนเย็น-ดึกๆ ปิดร้านก็พาสัตว์กลับบ้าน
2.ร้านจตุจักรส่วนใหญ่รับสัตว์มาขาย ยิ่งบางทีมาจากหลากหลายที่ โอกาสที่มีสัตว์ป่วยปนมาแล้วมาแพร่ให้ตัวอื่นๆจึงมีมากขึ้น แต่ร้านข้างทางส่วนมากเป็นเจ้าของเพาะเลี้ยงเองแล้วนำมาขาย
-อันนี้ต้องขอนอกเรื่องยาวหน่อยนะคะ เล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะคะ เป็นอีกหนึงคนที่ซื้อแมวมาจากจตุจักรโดยไม่ได้ตั้งใจ กะไปซื้อซูการ์ซักตัว หันไปสบตาแมวลูกครึ่งสามสีเข้าก็ปิ๊งเทอ เคยคิดว่าอยากเลี้ยงแมวสามสีไม่ก็ลายวัว ใจชอบแมวตัวเมียมากกว่าตัวผู้นิดหน่อยอยู่แล้วด้วย จึงเข้าไปคุยกะทางร้านเค้าบอกเพิ่งเอามาเมื่อเช้า (ปกติเดินเจเจบ่อยค่ะเกือบทุกอาทิตย์ เพราะงั้นบางร้านเดินผ่านมาเกือบเดือนแมวก็ยังอยู่ก็มีค่ะ)กลายเป็นได้แมวกลับบ้าน มีราที่ปลายหูข้างนึงเล็กน้อย ทายา2อาทิตย์ขนก็ขึ้น ก็ทาต่อไปอีกซักพัก
อาการยอดฮิตอีกอย่างที่เป็นกันแทบทุกคนที่ซื้อจากเจเจ คือถ่ายเหลว แน่นอนว่าเค้าโดนแยกจากแม่มาก่อนหน้าน่าจะกินนมเป็นหลัก พอทางร้านให้อาหารเปียกแมวจึงถ่ายเหลว ได้สามสีอายุ50วันมา ถ่ายเหลวอยู่1อาทิตย์ หลังจากนั้นรับวัคซีนปกติ (ถ่ายเป็นก้อนยาสีฟันแทนระหว่างนี้ ถามคุณหมอ คุณหมอบอกไม่เป็นไร ให้กินแต่อาหารเม็ดอย่างเดียวดู ใช้เวลาราวๆ7-10วัน เป็นก้อนแข็งปกติ)
ด้วยความที่โดนปลุกทุกเช้าวันละหลายรอบ จึงเกิดความคิดว่าจะหาเพื่อนให้ จึงไปร้านเดิม และได้เปอเซียอายุ2เดือนมา ตัวนี้ถ่ายเหลวอยู่นาน(ตอนซื้อถามทางร้านว่าน้องแมวตัวนี้อยู่ร้านนานหรือยัง ร้านบอกมาวันพฤ เราไปเจเจวันเสาร์ ก็ชั่งใจนิดนึง เพราะแมวทิ้งเจเจ2-3วัน โอกาสที่เค้าได้รับเชื้อโรคจากเจเจก็จะมีมากขึ้น แต่เนี่ยงจากมาทุกอาทิตย์ 3ครั้งแล้ว กลัวถ้ารอมาดูคราวหน้าอีก สามสีจะโตไปแล้วกลัวจะไม่รับน้องใหม่ จึงอยากรีบพามาไวๆจะได้สนิทกันเป็นเพื่อนเล่นกัน)ได้ของแถมเชื้อรามาด้วยเป็นทั้งตัว(ตอนเอากลับมาก็แวะคลีนิคเช็คสุขภาพโดยรวมก่อนเลย วัดไข้ เช็คไรหู เช็คกระจกตา ส่องดูตัวอย่างอึมีถ่ายเหลวก่อนถึงคลีนิค แรกๆไม่แน่ใจตรงปลายหูใช่เชื้อราหรือเปล่า ผ่านไป3สัปดาห์ ขนร่วงเย๊อะ แปรงขนให้ หลุดมาเป็นกระจุกเลย จึงแหวกขนเค้าดูถึงเห็น คิดว่าราแน่ๆ เนี่องจากขนฟู ตอนเห็นคิดว่าเป็นไม่เย๊อะ แต่พอพาไปหาคุณหมอไถขน เค้าเป็นทั้งตัวเลยค่ะ เป็นดวงๆหลายที่เลย คาดว่าที่เป็นเย๊อะอาจจะเพราะอยู่เจเจมา2-3วันความชื้น+เป็นแมวขนยาว ไม่ได้รักษาแต่แรก กว่าจะรู้ก็ปาเข้าไป3อาทิตย์จึงลุกลาม) รักษาได้3อาทิตย์ เอามาติดสามสีอีกเพราะเล่นปล้ำกันทุกวัน จึงได้รักษาคู่กัน 2 ตัวเลย และมักแวะไปคุยกะที่ร้านที่ซื้อเจ้า2พี่น้องนี่มาเรื่อยๆ แบบทักทายค่ะคนขายค่ะ จนวันนึงได้เจอพ่อของเจ้าเปอเซียที่ซื้อมาด้วย มีตัวเมียด้วย2ตัวคิดว่าเป็นแม่คนขายบอกไม่ใช่แม่เจ้าตัวนั้นไม่ได้เอากลับ พอดีพ่อค้าเค้าจะเอากลับ ตจว. ร้านนี้เค้าเพาะเองค่ะ แต่เค้าบอกว่าก็มีบางทีที่ไม่ใช่
ทุกวันนี้เปอเซีย4เดือนครึ่งแล้วแข็งแรงเลี้ยงง่ายน่ารักมากค่ะ ติดตรงเผือกไปหน่อย ส่วนลูกครึ่ง5เดือนครึ่งแล้วเป็นแมวสามสีเอาใจยาก เรื่องมากสุดๆ
*เกริ่นนอกเรื่องไปเย๊อะ ประเด็นที่จะเล่าในข้อ2คือ มีวันนึงแวะร้านประจำดูแมวเค้าเหมือนเคย(เป็นคนชอบแมวค่ะ เจอก็ชอบไปดู เมื่อก่อนไปบ้านเพื่อนจุดประสงค์ก็เพราะจะไปเล่นแมวนี่แหละ) แล้ววันนึงเห็นแม่ค้าร้านนึงกำลังทำการซื่อขายแมวกับ ช คนนึง แมวถูกใส่กรงขนาดเล็กอายุน่าจะราวๆ50วัน-2เดือน เป็นแมวเปอเซีย ยืนเบียดกันราวๆ8-10ตัว แม่ค้าต่อราคาว่าลดได้มั้ยเพราะมีตัวนึงเป็นหวัด(เราก็มองแบบมองผ่านๆไม่กล้ามองเย๊อะ อืม มีน้ำมูกนิดๆ ตาดูแฉะๆหน่อย เรามองว่าครึ่งนึงเป็นหวัดมากกว่า แต่เป็นน้อยแค่ดูตาเยิ้มๆอาจจะเยิ้มเพราะแมวเปอเซียเป็นแมวที่มีน้ำตาง่ายก็ได้ แต่มีตัวนึงแฉะชัด) ช ก็ตอบว่า หมดนี่หมื่นห้า แม่ค้าก็พูดราวๆลดไม่ได้หรอมีตัวนึงเป็นหวัด ช ก็ยืนยันเหมือนเดิมหมดนี่หมื่นห้า (จำนวนแมวกับราคาอาจจะไม่เป๊ะนะคะ เพราะเราความจำแย่มากค่ะ) ใจก็คิด โห ส่งถูกมากอ่ะ แต่แมวมีทั้งตัวปกติ และตัวป่วยๆ ตัวป่วยๆแม่ค้าอาจจะจับแยกไว้แล้วยัดพาราให้ เช็ดตาเช็ดจมูกแล้ววางขาย(บางร้านทำนะคะ ยัดพาราให้แมวกิน เคยอ่านเจอในพันทิพย์นี่แหละค่ะ แต่ร้านที่เราเจอเราก็ไม่รู้ว่าเค้าทำหรือเปล่า) ส่วนตัวไหนดูยังปกติ เราก็คิดในใจว่าจะรอดจากการติดโรคหรอเนี่ย อยู่เบียดกันซะขนาดนี้ ถึงตอนนี้ปกติ แต่อาจจะได้รับเชื้อไปละแค่ยังไม่แสดงอาการ อาการอาจจะออกตอนคนซื้อเอากลับบ้านไปเลี้ยงซักระยะ ถ้าเป็นแค่หวัดคนซื้อไปแมวยังมีโอกาสรอด แต่ถ้าหัดโอกาสรอดน้อยมาก
แล้วลองคิดดูนะคะ เจเจมีร้านเปิดที่มีแมวป่วย ลูกค้าเลือกแมวลูบแมวสัมผัสแมวจากร้านนึง แล้วไปดูแมวสัมผัสแมวอีกร้านนึง โอกาสการแพร่เชื้อข้ามร้านก็สามารถเกิดขึ้นได้
เคยอ่านเจอจากที่ใดไม่แน่ใจ เพราะเป็นคนที่อ่านเรื่อยเปื่อยไปทั่ว เลยไม่มั่นใจว่าอ่านเจอจากพันทิพย์หรือเปล่า แต่เคยมีคนมาโพสบอกว่า ฟาร์มบางแห่ง จะคัดเอาแมวที่ป่วยไปส่งเจเจในราคาถูกด้วยค่ะ
3. ร้านริมทางตอนเย็น ความแอดอัดความอับจะเบาบางกว่าตลาดเจเจตอนกลางวัน ไม่ว่าจะจำนวนร้านที่เปิด และจำนวนสัตว์ในแต่ละร้านที่นำมาขาย
4.อากาศร้านริมทางตอนเย็นเย็นกว่าค่ะ เคยเดินตอนเจเจใกล้ๆเที่ยง(กำลังจะกลับ) เห็นร้านเปิดขายแมว แมวเปอเซียยืนหอบแฮ่กๆๆๆ แบบหมาหอบเลยค่ะ เค้าคงร้อนมาก ขนาดไม่ได้โดนแดดนะคะ แต่อากาศวันนั้นก็ร้อนอบอ้าว นึกถึงคนสิคะ คงหน้ามืด รู้สึกหวิวๆ ทำเอาป่วยเป็นไข้ได้เลย
5.ร้านริมทางต่อรองราคาถูกกว่าร้านในเจเจค่ะ แต่ก็ต้องขยันเดินดูนะคะ บางร้านก็ใจดีมากยอมลดให้ บางร้านก็ไม่ลดเพราะขายราคาถูกแล้ว
**เท่าที่นึกออกตอนนี้มีเท่านี้ค่ะ ท่านอื่นๆที่เคยเดินร้านริมทางตอนเย็นมาแชร์เพิ่มได้นะคะ เพราะส่วนตัวไม่เคยเดินตอนเย็นเลย อ่านมาอย่างเดียวค่ะ
ร้านริมทางก็ใช่ว่าไม่มีป่วยนะคะ ส่วนตัวคิดว่าโอกาสป่วยก็น่าจะมีได้เหมือนกัน แต่ถ้าเทียบกับในเจเจตอนกลางวันแล้ว เจเจดูจะมีความเสี่ยงกว่า แม้แมวตอนไปส่งที่เจเจไม่ได้ป่วย แต่เพราะสภาพแวดล้อม ก็ทำให้เค้าสามารถติดโรคต่างๆมาได้จากที่เจเจ
ร้านตู้กระจกเคยไปยืนดูเหมือนกันค่ะ แมวก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะดีกว่าร้านเปิด เพราะอย่างที่บอกค่ะ ว่าเค้าก็มีสิทธิ์ได้แมวป่วยมาไม่ว่าจะจากลูกค้าแหละที่เป็นพาหะไปสัมผัสแมวป่วย หรือจากแมวที่มาส่งมีแมวป่วย บางร้านบอกเพาะเองมีฟาร์ม แต่ก็มักรับมาขายด้วยถ้ามีคนมาเสนอขายให้ในราคาไม่แพง(เคยมีคนมาแชร์ในพันทิพย์นี่แหละค่ะว่าเคยแกล้งเสนอขาย จะดูว่าเค้าเพาะเองจริงหรือเปล่า)
ถ้าจะเลือกสัตว์จากเจเจ ก็ต้องระวังเหมือนกันค่ะ ถ้าได้มาแค่ท้องเสีย เชื้อรา ส่วนตัวไม่ค่อยซีเรียสค่ะ เพราะปรับอาหารแมวมักจะท้องเสียอยู่แล้ว เชื้อราเปอเซียก็เป็นง่ายอยู่แล้ว แต่จะซีเรียสก็คือโรคติดต่อร้ายแรง เช่น หัด fib เอดส์ ลูคิเมีย
บางคนซื้อแมวจากคนรู้จักที่เลี้ยงเอง แล้วแมวเป็นลูคิเมียก็มีมาแล้ว(อ่านในพันทิพย์อีกแหละค่ะ)
บางคนซื้อแมวจากฟาร์ม แมวเป็นราเต็มตัวก็เคยอ่านเจอมา(จากเวปขายแมวเวปนึง)
แมวไม่ว่าได้รับมาจากทางไหนก็มีความเสี่ยงค่ะ ไม่ว่าจะแมวหาบ้าน หรือแมวซื้อ
ส่วนตัวคิดว่าปลอดภัยที่สุดก็น่าจะ คนที่เลี้ยงแมวระบบปิด ไม่ได้เลี้ยงเย๊อะขนาดเป็นฟาร์ม(เพราะเค้าจะได้ดูแลแมวได้ทั่วถึง) วัคซีนครบ พ่อแม่แมวสุขภาพแข็งแรง แล้วออกลูก และขาย กรณีนี้เจ้าของแมวจะให้แมวมีลูกไม่กี่ครอกก็ปิดอู่แล้วค่ะ แม่แมวจึงไม่โทรม(นึกถึงคนเน้นเพาะขายสิคะ แม่แมวคงโทรมน่าดู หน้าที่ผลิตลูกๆๆๆ ออกลูกถี่ตั้งท้องถี่ แม่อ่อนแอก็น่าจะส่งผลให้ลูกไม่แข็งแรงเท่าที่ควรจะเป็น)
ปลอดภัยรองมาก็คิดว่าฟาร์มค่ะ เพราะเค้าจะสำคัญเรื่องเครดิสฟาร์มเค้ามาก ถ้ามีเสียชื่อไปแล้ว เซิทหาประวัติดูโดยอากู๋ได้ หรือถามๆในเวปบอร์ทที่เกี่ยวข้องก็จะเจอประวัติค่ะ
เจเจ หรือตลาดที่สัตว์เย๊อะๆ ก็เสี่ยงอย่างที่เล่ามาค่ะ บางทีสัตว์นั้นๆอาจจะไม่ได้ป่วยแต่แรกเริ่มที่ถูกส่งมาที่เจเจ แต่เพราะสภาพแวดล้อม ทำให้เค้าติดโรคมา