เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
ปกติตามอ่านห้องแป้ง กับกระทู้ดราม่าอย่างเดียว ถ้าเข้ามาห้องรัชดาสักนิด เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น T^T
ประเด็นคือ... เราได้ขายบิ๊กไบท์ให้กับบุคคลท่านนึงไป ต่อไปนี้ขอเรียกว่า"นายเอ" เป็นการขายดาวน์ โดยที่เรายังคงผ่อนกับไฟแน๊นอยู่
(จริงๆเราไม่มีสิทธิทำแบบนี้เพราะถือว่าไฟแน๊นเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์รถ และเราเป็นผู้ครอบครองรถตามหลักของกฎหมาย ที่เราทำคือ
การยักยอกทรัพย์ และไฟแน๊นอาจฟ้องแพ่งได้ด้วย>> เราพึ่งมารู้ทีหลังอ่ะ TT^TT รู้ก่อนจะไม่ทำเลยจริงๆ)
ตอนที่ทำสัญญาซื้อขาย เราก็ขอแค่บัตรประชาชน+สำเนาทะเบียนบ้านของนายเอ คือเอามาแค่นี้จริงๆ ระหว่างทำสัญญาก็มีการพุดคุยกัน
นายเอก็เล่าให้ฟังว่าติดแบลคลิส รถกระบะโดนยึดเนื่องจากกิจการล้มลูกน้องหนี ตนเปิดร้านทำป้ายอยุแถววัชรพล อยากได้รถมาวิ่งงาน
ซึ่งเราก็งงนะ ทำไมไม่เอารถมอไซต์ธรรมดาอ่ะ ??? แต่ก็ไม่เอะใจอะไรเลย ให้รถเค้าไปง่ายๆ โดยเก็บเงินค่าดาวน์มา8,500฿
แล้วนายเอ ก็ต้องผ่อนอีก 29งวด ก็คือผ่อนต่อจากเรา ถ้าผ่อนครบไฟแน๊นโอนรถเป็นชื่อเรา เราก็จะโอนรถเป็นชื่อนายเอให้
ทีนี้ผ่านมาได้เดือนกว่าๆถึงเวลาที่นายเอต้องจ่ายค่างวด งวดแรกวันที่5 กันยายน
วันเสาร์ที่ผ่านมา เรานึกขึ้นได้ว่ามันเลยจ่ายค่างวดมาหลายวันแล้วนี่หว่า นายเอไม่เห็นโทรมาบอกเลยว่าจ่ายแล้วนะ มันเงียบวังเวง
วันจันทร์เราเลยโทรเชคกับไฟแน๊น ปรากฎว่า ยังไม่มีการชำระงวดรถเข้ามาเลย !!!! ตกใจมากอ่ะ ใจไม่ดีเลย มันเบี้ยวตรูแน่ๆ
เราเลยโทรไปหาเบอร์ที่นายเอให้ไว้ ก็ปรากฎว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนที่นายเอพามาเป็นเพื่อนตอนซื้อรถ
ก็ถามเพื่อนนายเอว่า นายเอใช้เบอร์อะไรกันแน่ เพื่อนเค้าก็ให้เบอร์มาแต่เราโทรไม่ติด ปิดเครื่อง ................
โทรทุกวัน จนถึงเมื่อวันอังคาร ยังโทรไม่ติด เพื่อนนายเอก้ไม่รับ เอาเบอร์อื่นโทรไปรับละก็ให้คนอื่นคุย ละก้ตัดสาย
ส่งข้อความไปหา ดราม่าก้แล้วจะให้เงินค่าตามรถก็แล้ว เงียบบบกริบ มันคงหมดหนทางที่เราจะคุยกันผ่านทางโทรศัพท์แล้วแหละ
เราเลยส่งเมลไปหาไฟแน๊น ขอปรึกษาเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ระหว่างนี้เราก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ว่าควรจะทำยังไง จนได้เวลาเลิกงาน
เอาฟร่ะ ไปหาตำรวจละกัน ก็ไปปรึกษาแบ่งปันเรื่องราวให้พี่เค้าฟัง เค้าก็แนะนำมาว่า
ให้ไปที่ สน.ท้องที่ ที่เราทำสัญญา แล้วใส่ซองให้เดินเรื่องแทรกแซงรูปคดี ให้มันมีประโยชน์กับเรา
อาจจะเป็นกรณีรถหายหรืออะไรก็ว่าไป มาถึงตอนนี้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง
วันพุธ มีโทรศัพท์จากฝ่ายกฎหมาย ของไฟแน๊นเข้ามา ให้คำปรึกษาที่เราถามไป เค้าก็ตอบกลับมาว่า
1. ไปสน. เพื่อร้องทุกข์ ลงบันทึกประจำวัน
2. ติดต่อไฟแน๊น เพื่อมอบอำนาจให้เรา
3. กลับไปที่ สน.เดิม ยื่นเอกสารมอบอำนาจ เพื่อแจ้งความคดีอาญา เอาผิดกับนายเอเรื่องช่อโกง ยักยอกทรัพย์
ทางตำรวจจะรับพิจารณาคดี และออกหมายเรียกนายเอมาที่สน. ถ้านายเอไม่มา ตำรวจจะออกหมายจับ
*** แต่อย่าขาดส่งค่างวดรถนะ ไม่งั้นไฟแน๊นฟ้องเรากลับ
สรุปคือตอนนี้ก็ติดต่อเพื่อนนายเอ และตัวนายเอไม่ได้เลย กะว่าวันเสาร์นี้จะตามไปดูที่อยู่ในบัตรประชาชน
เพื่อนๆคนไหนมีวิธีการค้นหาบุคคลโดยที่เรามีหลักฐานแค่นี้บ้างไหม แถววัชรพลมีร้านทำป้ายพิกัดไหนมั่ง
หรือใครพบเจอ >>>
Honda cbr250สีเทา เลขทะเบียน ฬสท167 กรุงเทพมหานคร <<<
ช่วยแจ้งหน่อยนะคะเรามีรางวัลสำหรับผู้ที่ตามรถเจอค่ะ
ซึ่งเบื้องต้นเราก็คงต้องผ่อนรถต่อไป พร้อมกับพลิกแผ่นดินหานายเอ
ใครที่คิดจะขายดาวน์รถ คิดใหม่อีกทีนะคะ ต้องนั่งเครียดทุกเดือนเลยค่ะว่าเค้าจะส่งค่างวดรถหรือยัง??? เฮ้อออ =="
ไม่ใช่ว่าเราเดินเรื่องตามกฎหมายทุกอย่างแล้วจะได้รถคืนมาง่ายๆ
มันขึ้นกับหลายๆฝ่าย การจัดการด้วย มาถึงตรงนี้ต้องเตรียมใจแล้วว่า รถเราอาจกลายเป็นชิ้นส่วนไปแล้วก้ได้
สุดท้าย คนผ่อนก็คือเรา ผ่อนทั้งๆที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง เส้าเลยอ่ะ
ข้อความด้านล่างนี้เอามาจากอากู๋กูเกิ้ลค่ะ
>> ถ้าผู้ขายดาวน์ (ผู้เสียหาย) รายเดียวไปแจ้งข้อหาฉ้อโกงทรัพย์โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และยอมความได้
แต่ถ้ามิจฉาชีพยอมส่งค่างวดรถให้ 2 เดือน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ ซึ่งในลักษณะดังกล่าว
คดีความจะกลายเป็นคดีแพ่งทันที่ ดังนั้น มิจฉาชีพ จะทำโดยแยกกระจายต่างพื้นที่
เพื่อไม่ให้เหยื่อหรือผู้เสียหาย รวมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพราะถ้ารวมกันได้ 10 คน
ข้อหาจะกลายเป็นฉ้อโกงประชาชนโทษหนักขึ้นและสามารถยึดทรัพย์ได้
โดยไม่ต้องสนใจว่า กลุ่มมิจฉาชีพ จะส่งงวดรถ 2 เดือนหรือไม่
และประเด็น คดีฉ้อโกงทรัพย์นั้น พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียก มิจฉาชีพ 2 ครั้ง ถึงจะออกหมายจับ
โดยใช้เวลา 40 วัน อยากเตือน ผู้เป็นเจ้าของรถทุกคน คิดจะ “ขายดาวน์” รถยนต์ มีล้อ กว่าจะออกหมายจับ
การติดตามหารถกลับคืนเป็นเรื่องยากมาก บางคันหาไม่เจอ กลายเป็นชิ้นส่วนไปแล้วครับ
ประเด็นสุดท้ายพนักงานสอบสวน กับตำรวจโรงพักไม่ตามคดีให้ คือ ไม่สนใจตามจับคนร้ายและตามรถให้
คือปัญหาสุดท้ายทำให้ท้ายสุด ผู้ขายดาวน์ (ผู้เสียหาย) ได้เงินมานิดเดียว ต้องรับผิดชอบค่ารถทั้งหมดที่ซื้อมาจาก ไฟแนนซ์
นี้เป็นเรื่องเตือนภัย และขอย้ำว่า อย่าคิดได้เงินมาง่ายๆ จากการ “ขายดาวน์” สุดท้ายต้องเจ็บและต้องทน ผ่อนค่างวด ทั้งที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง
ปล. นายวัชระ กันแย้ม เคยก่อคดีฉ่อโกงรถ และถูกจับหลายครั้งเกี่ยวกับการพนัน
ฝากเตือน บวกกับปรึกษาค่ะ เมื่อเกิดปัญหา “ขายดาวน์” ผู้ซื้อไม่ยอมผ่อนค่างวดต่อ
ปกติตามอ่านห้องแป้ง กับกระทู้ดราม่าอย่างเดียว ถ้าเข้ามาห้องรัชดาสักนิด เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้น T^T
ประเด็นคือ... เราได้ขายบิ๊กไบท์ให้กับบุคคลท่านนึงไป ต่อไปนี้ขอเรียกว่า"นายเอ" เป็นการขายดาวน์ โดยที่เรายังคงผ่อนกับไฟแน๊นอยู่
(จริงๆเราไม่มีสิทธิทำแบบนี้เพราะถือว่าไฟแน๊นเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์รถ และเราเป็นผู้ครอบครองรถตามหลักของกฎหมาย ที่เราทำคือ
การยักยอกทรัพย์ และไฟแน๊นอาจฟ้องแพ่งได้ด้วย>> เราพึ่งมารู้ทีหลังอ่ะ TT^TT รู้ก่อนจะไม่ทำเลยจริงๆ)
ตอนที่ทำสัญญาซื้อขาย เราก็ขอแค่บัตรประชาชน+สำเนาทะเบียนบ้านของนายเอ คือเอามาแค่นี้จริงๆ ระหว่างทำสัญญาก็มีการพุดคุยกัน
นายเอก็เล่าให้ฟังว่าติดแบลคลิส รถกระบะโดนยึดเนื่องจากกิจการล้มลูกน้องหนี ตนเปิดร้านทำป้ายอยุแถววัชรพล อยากได้รถมาวิ่งงาน
ซึ่งเราก็งงนะ ทำไมไม่เอารถมอไซต์ธรรมดาอ่ะ ??? แต่ก็ไม่เอะใจอะไรเลย ให้รถเค้าไปง่ายๆ โดยเก็บเงินค่าดาวน์มา8,500฿
แล้วนายเอ ก็ต้องผ่อนอีก 29งวด ก็คือผ่อนต่อจากเรา ถ้าผ่อนครบไฟแน๊นโอนรถเป็นชื่อเรา เราก็จะโอนรถเป็นชื่อนายเอให้
ทีนี้ผ่านมาได้เดือนกว่าๆถึงเวลาที่นายเอต้องจ่ายค่างวด งวดแรกวันที่5 กันยายน
วันเสาร์ที่ผ่านมา เรานึกขึ้นได้ว่ามันเลยจ่ายค่างวดมาหลายวันแล้วนี่หว่า นายเอไม่เห็นโทรมาบอกเลยว่าจ่ายแล้วนะ มันเงียบวังเวง
วันจันทร์เราเลยโทรเชคกับไฟแน๊น ปรากฎว่า ยังไม่มีการชำระงวดรถเข้ามาเลย !!!! ตกใจมากอ่ะ ใจไม่ดีเลย มันเบี้ยวตรูแน่ๆ
เราเลยโทรไปหาเบอร์ที่นายเอให้ไว้ ก็ปรากฎว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนที่นายเอพามาเป็นเพื่อนตอนซื้อรถ
ก็ถามเพื่อนนายเอว่า นายเอใช้เบอร์อะไรกันแน่ เพื่อนเค้าก็ให้เบอร์มาแต่เราโทรไม่ติด ปิดเครื่อง ................
โทรทุกวัน จนถึงเมื่อวันอังคาร ยังโทรไม่ติด เพื่อนนายเอก้ไม่รับ เอาเบอร์อื่นโทรไปรับละก็ให้คนอื่นคุย ละก้ตัดสาย
ส่งข้อความไปหา ดราม่าก้แล้วจะให้เงินค่าตามรถก็แล้ว เงียบบบกริบ มันคงหมดหนทางที่เราจะคุยกันผ่านทางโทรศัพท์แล้วแหละ
เราเลยส่งเมลไปหาไฟแน๊น ขอปรึกษาเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ระหว่างนี้เราก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ ว่าควรจะทำยังไง จนได้เวลาเลิกงาน
เอาฟร่ะ ไปหาตำรวจละกัน ก็ไปปรึกษาแบ่งปันเรื่องราวให้พี่เค้าฟัง เค้าก็แนะนำมาว่า
ให้ไปที่ สน.ท้องที่ ที่เราทำสัญญา แล้วใส่ซองให้เดินเรื่องแทรกแซงรูปคดี ให้มันมีประโยชน์กับเรา
อาจจะเป็นกรณีรถหายหรืออะไรก็ว่าไป มาถึงตอนนี้รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยนึง
วันพุธ มีโทรศัพท์จากฝ่ายกฎหมาย ของไฟแน๊นเข้ามา ให้คำปรึกษาที่เราถามไป เค้าก็ตอบกลับมาว่า
1. ไปสน. เพื่อร้องทุกข์ ลงบันทึกประจำวัน
2. ติดต่อไฟแน๊น เพื่อมอบอำนาจให้เรา
3. กลับไปที่ สน.เดิม ยื่นเอกสารมอบอำนาจ เพื่อแจ้งความคดีอาญา เอาผิดกับนายเอเรื่องช่อโกง ยักยอกทรัพย์
ทางตำรวจจะรับพิจารณาคดี และออกหมายเรียกนายเอมาที่สน. ถ้านายเอไม่มา ตำรวจจะออกหมายจับ
*** แต่อย่าขาดส่งค่างวดรถนะ ไม่งั้นไฟแน๊นฟ้องเรากลับ
สรุปคือตอนนี้ก็ติดต่อเพื่อนนายเอ และตัวนายเอไม่ได้เลย กะว่าวันเสาร์นี้จะตามไปดูที่อยู่ในบัตรประชาชน
เพื่อนๆคนไหนมีวิธีการค้นหาบุคคลโดยที่เรามีหลักฐานแค่นี้บ้างไหม แถววัชรพลมีร้านทำป้ายพิกัดไหนมั่ง
หรือใครพบเจอ >>> Honda cbr250สีเทา เลขทะเบียน ฬสท167 กรุงเทพมหานคร <<<
ช่วยแจ้งหน่อยนะคะเรามีรางวัลสำหรับผู้ที่ตามรถเจอค่ะ
ซึ่งเบื้องต้นเราก็คงต้องผ่อนรถต่อไป พร้อมกับพลิกแผ่นดินหานายเอ
ใครที่คิดจะขายดาวน์รถ คิดใหม่อีกทีนะคะ ต้องนั่งเครียดทุกเดือนเลยค่ะว่าเค้าจะส่งค่างวดรถหรือยัง??? เฮ้อออ =="
ไม่ใช่ว่าเราเดินเรื่องตามกฎหมายทุกอย่างแล้วจะได้รถคืนมาง่ายๆ
มันขึ้นกับหลายๆฝ่าย การจัดการด้วย มาถึงตรงนี้ต้องเตรียมใจแล้วว่า รถเราอาจกลายเป็นชิ้นส่วนไปแล้วก้ได้
สุดท้าย คนผ่อนก็คือเรา ผ่อนทั้งๆที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง เส้าเลยอ่ะ
ข้อความด้านล่างนี้เอามาจากอากู๋กูเกิ้ลค่ะ
>> ถ้าผู้ขายดาวน์ (ผู้เสียหาย) รายเดียวไปแจ้งข้อหาฉ้อโกงทรัพย์โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และยอมความได้
แต่ถ้ามิจฉาชีพยอมส่งค่างวดรถให้ 2 เดือน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ ซึ่งในลักษณะดังกล่าว
คดีความจะกลายเป็นคดีแพ่งทันที่ ดังนั้น มิจฉาชีพ จะทำโดยแยกกระจายต่างพื้นที่
เพื่อไม่ให้เหยื่อหรือผู้เสียหาย รวมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เพราะถ้ารวมกันได้ 10 คน
ข้อหาจะกลายเป็นฉ้อโกงประชาชนโทษหนักขึ้นและสามารถยึดทรัพย์ได้
โดยไม่ต้องสนใจว่า กลุ่มมิจฉาชีพ จะส่งงวดรถ 2 เดือนหรือไม่
และประเด็น คดีฉ้อโกงทรัพย์นั้น พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียก มิจฉาชีพ 2 ครั้ง ถึงจะออกหมายจับ
โดยใช้เวลา 40 วัน อยากเตือน ผู้เป็นเจ้าของรถทุกคน คิดจะ “ขายดาวน์” รถยนต์ มีล้อ กว่าจะออกหมายจับ
การติดตามหารถกลับคืนเป็นเรื่องยากมาก บางคันหาไม่เจอ กลายเป็นชิ้นส่วนไปแล้วครับ
ประเด็นสุดท้ายพนักงานสอบสวน กับตำรวจโรงพักไม่ตามคดีให้ คือ ไม่สนใจตามจับคนร้ายและตามรถให้
คือปัญหาสุดท้ายทำให้ท้ายสุด ผู้ขายดาวน์ (ผู้เสียหาย) ได้เงินมานิดเดียว ต้องรับผิดชอบค่ารถทั้งหมดที่ซื้อมาจาก ไฟแนนซ์
นี้เป็นเรื่องเตือนภัย และขอย้ำว่า อย่าคิดได้เงินมาง่ายๆ จากการ “ขายดาวน์” สุดท้ายต้องเจ็บและต้องทน ผ่อนค่างวด ทั้งที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง
ปล. นายวัชระ กันแย้ม เคยก่อคดีฉ่อโกงรถ และถูกจับหลายครั้งเกี่ยวกับการพนัน