เนื่องจากผมใช้ Sigma 1909 sts (ความเร็ว+รอบขา+HR) มาได้ปีครึ่งพอดี ตัวเซนเซอร์จับความเร็วที่ผมเคยทำหักแล้วติดกาวช้างไว้ ก็ได้หักออกมาอีกรอบ และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องหาไมล์อันใหม่มาประจำการ แต่คิดแล้วคิดอีก ก็ยังติดใจในคุณภาพเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปของไมล์ยี่ห้อนี้ แต่มันมีข้อเสียที่ทุกคนพูดตรงกันแม้แต่รีวิวของเมืองนอก คือตัวเรือนมันหลุดออกจากฐานไมล์ง่ายมากๆ จนบางคนหลุดหายไปแล้วมารู้ตัวที่หลังก็มี.......แต่ผมก็ยังไม่เข็ด เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ
ไมล์ที่ส่องไว้คือ Sigma 16.12 sts เป็นไมล์ที่มีความเร็ว+รอบขา (1,900-2,000 บาท) โดยรุ่นนี้ปรับปรุงมาจาก Sigma 1609 sts.....ซึ่งผมคิดถึงความคุ้มค่า ในแง่ที่ผมยังสามารถใช้เรื่อนไมล์ตัวเก่า (ถ้าวันไหนอยากดู HR) ได้กับเซนเซอร์ความเร็วและรอบขาของรุ่นนี้ได้เลย หรืออีกนัยนึงคือผมจะมีเซนเซอร์วัดรอบขาเหลือสำรอง 1 ตัว กับไมล์ที่ใช้งานได้ 2 ชุด หรือสุดท้ายก็อาจจะหานาฬิกา HR ของ Sigma มาใช้กับสายคาดอกที่มีเหลืออยู่
สภาพไมล์ตัวเก่า
จริงๆผมจะซื้อแค่เซนเซอร์ความเร็วอย่างเดียว 750 บาท และใช้ไมล์ตัวเดิมก็ได้ แต่ดูจากสภาพข้างบนซึ่งมันก็เกิดจากการหลุดระหว่างปั่น ถ้าผมนับไม่ผิดก็ 4 ครั้งได้ จนกรอบตัวเรือนแตก ต้องเอาเทปสายไฟพันปุ่มด้านบนเอาไว้เลย
ข้อแตกต่างที่รุ่นนี้ทำได้ดีขึ้น คือฐานยึดตะเกียบของตัวเซนเซอร์เปลี่ยนจากโลหะเป็นยาง (รุ่นเก่า เซนเซอร์เป็นชิ้นเดียวกับฐานจับตะเกียบทำจากโลหะ ส่วนรุ่นใหม่ เป็นฐานจับตะเกียบทำจากยางและแยกชิ้นกับตัวเซนเซอร์) มันเลยมีการให้ตัวที่ดีขึ้นมาก คงเพราะมีปัญหาการหักเกิดขึ้นบ่อยๆในรุ่นเก่า.........แต่ที่ผมผิดหวังมากคือ ตัวเรือนไมล์กับฐานยึดสเต็ม ยังล๊อคไม่แน่นอย่างที่ควรจะเป็น
พอผมลองติดตั้งเสร็จ ก็คิดว่าต้องหาทางยึดตัวเรือนให้แน่นขึ้น ไม่งั้นมันคงไม่แคล้วจะต้องลงไปกลิ้งกลางถนนเหมือนตัวเก่าแน่ๆ.....ในที่สุดก็เจอวิธีแบบง่ายๆจากรีวิวผู้ใช้เวปนอก โดยผมมาดัดแปลงเล็กน้อย
พระเอกของเรา....ผมจิ๊กเอาของคนข้างๆมา
เอายางมัดผมมาพันรอบแกนล๊อคตัวเรือนไมค์ซัก 3 รอบ (หนังยางมัดถุงแกงมันใหญ่ไป ใช้ไม่ได้นะครับ)
ใส่เรือนไมล์กลับไปตามปกติ ตอนใส่มันจะเฟริมขึ้นหน่อยนะครับ......ซึ่งตัวยางมัดผม คงจะทำหน้าที่คล้ายๆกับเทปพันท่อน้ำประมาณนั้น
ทำเสร็จแล้วมันแน่นขึ้นมากครับ ป้องกันการหลุดเวลากดปุ่มดูข้อมูลหรือเผลอเอามือปัดไปโดนจนหลุดในขณะปั่นได้อย่างแน่นอน
ปล.1 น้าแมวอยากให้ผมลองเล่นไมล์เทพไปเลย แต่ผมขอเก็บเงินไว้ลงโปรเจคอื่นก่อนนะครับ อิอิ
ปล.2 เซนเซอร์ความเร็วผมตั้งใจติดกลับหัว เพราะชอบให้มันอยู่ฝั่งเดียวกับเซนเซอร์รอบขา ใช้งานได้ปกติครับ
ใครใช้ไมล์ Sigma เชิญทางนี้
ไมล์ที่ส่องไว้คือ Sigma 16.12 sts เป็นไมล์ที่มีความเร็ว+รอบขา (1,900-2,000 บาท) โดยรุ่นนี้ปรับปรุงมาจาก Sigma 1609 sts.....ซึ่งผมคิดถึงความคุ้มค่า ในแง่ที่ผมยังสามารถใช้เรื่อนไมล์ตัวเก่า (ถ้าวันไหนอยากดู HR) ได้กับเซนเซอร์ความเร็วและรอบขาของรุ่นนี้ได้เลย หรืออีกนัยนึงคือผมจะมีเซนเซอร์วัดรอบขาเหลือสำรอง 1 ตัว กับไมล์ที่ใช้งานได้ 2 ชุด หรือสุดท้ายก็อาจจะหานาฬิกา HR ของ Sigma มาใช้กับสายคาดอกที่มีเหลืออยู่
สภาพไมล์ตัวเก่า
จริงๆผมจะซื้อแค่เซนเซอร์ความเร็วอย่างเดียว 750 บาท และใช้ไมล์ตัวเดิมก็ได้ แต่ดูจากสภาพข้างบนซึ่งมันก็เกิดจากการหลุดระหว่างปั่น ถ้าผมนับไม่ผิดก็ 4 ครั้งได้ จนกรอบตัวเรือนแตก ต้องเอาเทปสายไฟพันปุ่มด้านบนเอาไว้เลย
ข้อแตกต่างที่รุ่นนี้ทำได้ดีขึ้น คือฐานยึดตะเกียบของตัวเซนเซอร์เปลี่ยนจากโลหะเป็นยาง (รุ่นเก่า เซนเซอร์เป็นชิ้นเดียวกับฐานจับตะเกียบทำจากโลหะ ส่วนรุ่นใหม่ เป็นฐานจับตะเกียบทำจากยางและแยกชิ้นกับตัวเซนเซอร์) มันเลยมีการให้ตัวที่ดีขึ้นมาก คงเพราะมีปัญหาการหักเกิดขึ้นบ่อยๆในรุ่นเก่า.........แต่ที่ผมผิดหวังมากคือ ตัวเรือนไมล์กับฐานยึดสเต็ม ยังล๊อคไม่แน่นอย่างที่ควรจะเป็น
พอผมลองติดตั้งเสร็จ ก็คิดว่าต้องหาทางยึดตัวเรือนให้แน่นขึ้น ไม่งั้นมันคงไม่แคล้วจะต้องลงไปกลิ้งกลางถนนเหมือนตัวเก่าแน่ๆ.....ในที่สุดก็เจอวิธีแบบง่ายๆจากรีวิวผู้ใช้เวปนอก โดยผมมาดัดแปลงเล็กน้อย
พระเอกของเรา....ผมจิ๊กเอาของคนข้างๆมา
เอายางมัดผมมาพันรอบแกนล๊อคตัวเรือนไมค์ซัก 3 รอบ (หนังยางมัดถุงแกงมันใหญ่ไป ใช้ไม่ได้นะครับ)
ใส่เรือนไมล์กลับไปตามปกติ ตอนใส่มันจะเฟริมขึ้นหน่อยนะครับ......ซึ่งตัวยางมัดผม คงจะทำหน้าที่คล้ายๆกับเทปพันท่อน้ำประมาณนั้น
ทำเสร็จแล้วมันแน่นขึ้นมากครับ ป้องกันการหลุดเวลากดปุ่มดูข้อมูลหรือเผลอเอามือปัดไปโดนจนหลุดในขณะปั่นได้อย่างแน่นอน
ปล.1 น้าแมวอยากให้ผมลองเล่นไมล์เทพไปเลย แต่ผมขอเก็บเงินไว้ลงโปรเจคอื่นก่อนนะครับ อิอิ
ปล.2 เซนเซอร์ความเร็วผมตั้งใจติดกลับหัว เพราะชอบให้มันอยู่ฝั่งเดียวกับเซนเซอร์รอบขา ใช้งานได้ปกติครับ