~~~สวัสดีค่ะ~~~

หลังจากที่เราเคยมาตั้งกระทู้ถามสมาชิกว่าเคยมีใครซื้อของจาก ETSY บ้างมั้ยก็ได้ข้อมูลมาพอสมควรเลยขอขอบพระคุณท่านสมาชิกที่มาให้ข้อมูลเราในกระทู้นั้นนะคะ (กราบงามๆ 3 ที)

เราก็ได้ฤกษ์ตัดสินใจสั่งซื้อของใช้วินเทจมาใช้ เนื่องจากว่าเราจะถ่ายพรีเวดดิ้งพอดี ฮี่ๆ (หลังจากที่จดทะเบียนอยู่กินกะแฟนมานานในที่สุดก็ได้ฤกษ์แต่งงานค่ะ ) คอนเซ็ปต์พรีเวดดิ้งของเราก็จะออกแนววินเทจหน่อยๆ แบบเรียบๆ ไม่เยอะไม่เวอร์มาก เน้นที่อารมณ์ เพราะงั้นเราเลยตามหาชุดสไตล์วินเทจ ที่ดูเรียบๆแต่มีดีเทลนิดนึง กับมงกุฏดอกไม้ค่ะ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเว็บ ETSY กันก่อนสำหรับท่านที่ยังไม่รู้จัก ETSY จะเป็นเว็บไซต์รวมผู้ซื้อและผู้ขายของแฮนด์เมด ของมือสอง ซัพพลายเออร์ของ D.I.Y. สรุปง่ายๆคล้ายอเมซอนของแฮนด์เมดค่ะ เรื่องราคาก็มีตั้งแต่ถูกมากกกกกกกกกกกก ไปจนถึงแพงหูฉีกเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับร้านที่เราเข้าไปเลือกซื้อและวัสดุที่เจ้าของร้านนำมาใช้ด้วยค่ะ ร้านต่างๆใน ETSY จะมีมาจากทั่วโลกเลยค่ะ จากไทยเราก็มีค่ะ


ก่อนที่เราจะสั่งซื้อของได้เราต้องมีแอคเค้าท์ของตัวเองก่อนนะคะ ก็จัดการสมัครสมาชิกเว็ปให้เรียบร้อยค่ะ สามารถลิ้งค์กับแอคเค้าท์เฟซบุ้คได้เลยหรือตะเลือกสมัครทางอีเมล์ก็ได้ค่ะ เราเลือกสมัครสมาชิกทางอีเมล์ค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มบราวซ์เลยค่ะ (หลังจากสมัครเสร็จเว็บไซต์จะถามความสนใจโดยรวมของเราเพื่อเลือกสินค้าที่จะมาโชว์บนหน้าฟีดของเราด้วยค่ะ)

พอเรียบร้อยเราก็บราวซ์ไปเรื่อยๆค่ะ เจอร้านที่ถูกใจอยู่หลายร้านเราก็เฟเวอร์ริทต์ไว้ค่ะ โดยกดหัวใจ เวลาร้านที่เราเฟเวอร์ริทต์ไว้มีการอัพเดทสินค้าอะไรจะได้ขึ้นมาโชว์ที่หน้าฟีดของเราค่ะ เช่นร้านนี้ค่ะ


หลังจากที่เราดูไปเรื่อยๆ ค้นหาไปเรื่องๆ ผ่านมาหลายสัปดาห์ เราก็มาปิ๊งฟลาวเวอร์คลาวด์ของร้านร้านนึงค่ะ
แบบว่ากรี๊ดมากกกกกก นี่แหล่ะที่ช้านตามหา!!!! ราคาก็พอรับได้ เราก็เฟฟไว้ก่อนเลยค่ะ เอาไปคิดก่อน ฮ่าๆ เพราะมันต้องส่งมาจากอเมริกาไปไทยเรากลัวไม่ทันใช้ (ปกติเราจะอยู่ ตปท.ค่ะ แต่ช่วงนั้นจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่ไทย แล้วก็เลยถ่ายพรีไปด้วยเลย)


ปล.ตัวฟลาวเวอร์คราวน์นี่ปกติเค้าจะทำแบบ made to order ค่ะ แต่เราไปเร่งเค้ายิกๆว่ากลัวไม่ทันๆ เพราะเราต้องเผื่อเวลาเดินทางของสินค้าไว้ประมาน 2-3 อาทิตย์ค่ะ เค้าก็เลยเอาของของลูกค้าคนอื่นมาส่งให้เราก่อน ในวันนั้นที่เราสั่งเลย (กราบขอบพระคุณคุณโรส เจ้าของร้านมากๆ)

ได้ฟลาวเวอร์คลาวน์มาแล้วเหลือชุด เราก็หาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ จนมาเจอชุดนี้! กรี๊ดอีกรอบค่ะ นี่แหล่ะใช่เลย ไซส์เราด้วย ราคาก็ไม่เวอร์มาก ตำหนิน้อย ชุดนี้ตามที่เจ้าของร้านให้ข้อมูลมาเป็นชุดจากยุค 70s ค่ะ ตัดเลียนแบบแบรนด์ดังของยุคนั้น Gunne Sax ค่ะ ราคาก็เลยไม่แพงมาก วัสดุที่ใช้ก็ไม่ได้เวอร์อะไร


โอ้ะ นิดนึง ก่อนที่เราจะตัดสินใจอะไรนี่ต้องอ่านรายละเอียดของสินค้าที่เจ้าของร้านให้มาด้วยนะคะ เพื่อความชัวร์ จะได้เห็นภาพ รู้ข้อมูลจริงๆของสินค้าที่เราจะสั่งค่ะ เพราะเราสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ โดยไม่ได้เห้นสินค้าจริงจึงต้องระวังแล้วก็อ่านข้อมูลให้มากที่สุดค่ะ อย่างเช่นชุดที่เราสั่งมานี่เป็นชุดแต่งงานมือสองตั้งแต่ปี 70s มีตำหนินิดหน่อยตรงชายกระโปรง ผ้าเป็นชีฟอง+ไนลอน อะไรเทือกนี้ เราก็โอเค แล้วก็เฟฟไว้ เอาไปคิดก่อน หุหุ


ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เราก็ส่งข้อความไปคุยกับเจ้าของร้านทั้งสองร้านค่ะ เรื่องชิปสินค้าไปประเทศไทย อันนี้สำคัญมากค่ะ เพราะบางร้านไม่ส่งสินค้ามาประเทศไทยค่ะ เหตุผลที่เราได้มาจากเจ้าของร้านหลายๆร้านที่เราคุยด้วยคือ สินค้าหายระหว่างส่งค่ะ หึหึ คือพอสินค้าออกนอกระบบไปรษณีย์ของประเทศเค้าแล้วเค้าจะแทรคสินค้าไม่ได้ค่ะ แล้วพอลูกค้ามาแจ้งว่าไม่ได้รับสินค้า บางร้านก็ต้องส่งให้ใหม่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะหายอีกมั้ย หรือ บางทีลูกค้าไม่คุย มารีวิวร้านเค้าให้ได้คะแนนแย่ๆอะไรแบบนี้ ทางร้านก็เสียความรู้สึกค่ะ บางร้านขึ้นแบล็คลิสต์ให้ประเทศไทยไปเลยค่ะ

หลังจากคุยกันไปมาเรื่องถามเรื่องเวลาที่ใช้ส่ง ค่าส่ง นู่นนี่มากมายเราก็ได้ฤกษ์สั่งค่ะ ซึ่งเราสั่งหวุดหวิดสองอาทิตย์ก่อนที่เราจะกลับไทยเลย หวาดเสียวว่าของจะถึงไม่ทันใช้มากกกกก ต่อไปเราจะไม่ทำแบบนี้อีก!
เราก็เพลสออร์เดอร์ แล้วก็จ่ายเงินด้วยบัตรวีซ่าเดบิตของ KTB ค่ะ


พอเพลสออร์เดอร์เสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยก็จะมีเมล์คอนเฟิร์มมาจาก ETSY ค่ะ หลังจากนั้นเราก็ตั้งตารอ ขอบอกว่าช่วงรอนี่ เข้าไปเช็คแทรคกิ้งที่แอคเค้าท์ตัวเองทุกวัน ฮ่าๆ ตื่นเต้นมาก (เราเลือกส่งแบบธรรมดาของ USPS ค่ะ)
จนกระทั่งผ่านไปสองอาทิตย์ เราเตรียมตัวจะกลับไทย ด้วยความที่เวอร์เข้าไปเช็คแทรคกิ้งทุกวัน ก็เริ่มกังวลเพราะ แทรคมันหยุดที่ LA มาชาตินึงแล้ว


เราก็ส่งข้อความไปคุยกะเจ้าของร้านทั้งสองก็ได้ความตามที่ว่าไว้ข้างบนค่ะ เราก็เอาเลขแทรคกิ้งมาเช็คกับเว็บของไปรษณีย์ไทยก็พบว่า "ไม่มีข้อมูล"

"ไม่มีข้อมูล" "ไม่มีข้อมูล" "ไม่มีข้อมูล" "ไม่มีข้อมูล" "ไม่มีข้อมูล" "ไม่มีข้อมูล"

ขอบอกเลยตอนนั้นรู้สึกแบบ เง้อออออ งานเข้า!! เครียดมาก กังวลมาก หาเสิร์ชข้อมูลในเน็ตไปทั่วเรื่องเกี่ยวกะไปรษณีย์ไทย ยิ่งอ่านยิ่งจิตตกเข้าไปใหญ่ คือจิตตกมากว่าทำไมช้านไม่เลือกแคริเออร์ดีๆ ทำไมต้องงกเลือกไปรษณีย์ปกติ (คือไปรษณีย์บ้านเค้าเราก็ไว้ใจนะ แต่ไปรษณีย์ไทยนี่สิ....) ทำไม ทำไม ทำม้ายยยยยยยยย
แต่เราทำได้แค่รอและภาวนาให้เราไม่โชคร้ายอย่างหลายๆเคสที่เราไปอ่านมา.........

และในที่สุดเราก็กลับมาไทยค่ะ ซึ่งกรี๊ดมากกก เพราะของมาถึงแล้ว!! (เราต้องไปทำบุญที่วัดเลยค่ะ เพราะพูดไว้ว่าถ้าของมาถึงไม่มีปัญหาจะเข้าวัดทำบุญ แหะๆ) ซึ่งเราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะตื่นเต้นมากเห็นซองกะกล่องจ่าหน้าจากอเมริกาปุ๊บฉีกทันที แหะๆ ไม่ได้คิดว่าจะมารีวิวด้วย ขออภัยค่ะ
ซึ่งของทั้งสองชิ้นเหมือนรูปเป๊ะๆค่ะ ชุดแต่งงานก็ตำหนิตามที่เจ้าของร้านบอกไว้เป๊ะๆ และสภาพดีมากมาย
นี่เป็นรูปฟลาวเวอร์คราวด์ของเรานะคะ บี้ๆหน่อยเพราะตอนนี้เรากลับมา ตปท.แล้วแต่หอบมาด้วยเอาไว้ในกระเป๋าเลยโดนทับแบนเลย


ส่วนนี่เป็นชุดหลังจากที่แก้กับซักแห้งแล้วค่ะ (ถือโอกาสอวดรูปพรีนิดหน่อยเลยด้วย แหะๆ ขอเซนเซอร์หน้านิดนึงนะคะ เขิน)  
เต็มตัวค่ะ
[img][/img]

ครึ่งตัว
[img][/img]

ด้านหลัง
[img][/img]

ภาพรวม (อันนี้ใช้กล้องมือถือถ่ายเลยมัวๆ แหะๆ)
[img][/img]
โดนรวมแล้วเราพอใจกับการสั่งของครั้งนี้มากๆค่ะ ซึ่งมีสั่งอีกคราวหน้าแน่นอนแต่ถ้าต้องส่งไปที่ไทยอีกเราจะเลือกส่งกับแคริเออร์แล้วค่ะ ไม่เอาไปรษณีย์ธรรมดา ไม่อยากรู้สึกตุ้มๆต่อมๆแบบนั้นอีกแล้ว หนูเครียด!

โอ้ หลังจากได้ของเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมไปรีวิวให้ร้านนะคะ (ถ้าไม่รีวิวระบบของ Etsy จะส่งเมล์มาทวงยิกๆเลยค่ะ)
ตัวอย่าง


และการรีวิวสั่งของออนไลน์ครั้งแรกของเราก็จบลงด้วยประการฉะนี้ค่า ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะคะ
ขอบคุณค่า




ปล.ชุดเราโดนภาษีด้วยค่ะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไหร่