วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกหนักแล้วรถในกรุงเทพฯ ติดหนักมากกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะถนนที่ปกติรถก็ติดมากอยู่แล้วในช่วงเวลาเร่งด่วน อย่างถ.ลาดพร้าว ถ.พระรามสี่ ผมอยากรู้ถึงสาเหตุจริงๆ ครับในเชิงวิชาการว่า ทำไมเวลาฝนตกหนัก(จริงๆ ไม่จำเป็นต้องตกหนักก็ได้) แล้วรถถึงติดมากขึ้นกว่าเดิมมากเลยครับ ส่วนตัวผมคิดว่า พอฝนตกรถที่วิ่งอยู่บนถนนก็ทำความเร็วได้น้อยลงเพราะถนนลื่นมากขึ้น ทำให้รถที่ขับตามมาก็ต้องวิ่งช้าลงด้วย ทำให้เกิดการชะลอความเร็วต่อเนื่อง พอถึงสี่แยกไฟแดงก็กลายเป็นการเริ่มสร้างรถติดสะสมต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ จากแยกหนึ่งไปสู่อีกแยกหนึ่ง ซึ่งในกทม. ก็มีระบบขนส่งมวลชนที่ยังไม่ครอบคลุมในทุกพื้นที่อยู่แล้ว ระบบรถไฟฟ้า ระบบราง รถเมล์ ก็ยังดูไม่ค่อยเป็นระบบ ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน สังเกตได้อีกอย่างนึงคือเวลาฝนตกหนักๆ รถไฟฟ้าต่างๆ ทั้ง BTS ใต้ดิน มักจะมีผู้มาใช้บริการมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า อันนี้น่าจะเหมือนๆ กับในต่างประเทศ เคยไปเกาหลีมา เวลาหิมะตกหนักๆ คนจะแห่มาลงมานั่งใต้ดินกันหมดครับ คนแน่นกว่าช่วง rush hour ปกติหลายเท่ามาก อันนี้เข้าใจว่าบนถนน ถนนลื่นมากเพราะหิมะตก ถ้าเป็นรถปกติที่ไม่ได้มียางสำรอง หรือยางที่มีโซ่มาคล้องไว้กันล้อฟรีนี่จะเคลื่อนที่ไปบนหิมะที่ตกหนักๆ ได้ลำบากมาก คนที่ปกติขับรถส่วนมากจึงจอดรถไว้แล้วลงมาขึ้นใต้ดินแทน
ไม่รู้ว่ามีใครเคยทำวิจัย หรือทำผลสำรวจถึงสาเหตุที่เวลาฝนตกแล้วรถถึงติดมากขึ้นกว่าเดิมไหมครับ ไม่เอาสาเหตุที่รถติดปกตินะครับ อันนี้เหมือนจะรู้ๆ กันอยู่ว่าปริมาณรถในกทม. มากกว่าปริมาณถนนที่วิ่งได้อยู่แล้ว และระบบขนส่งมวลชนก็ยังไม่ครอบคลุมอย่างที่บอกครับ
ทำไมเวลาฝนตกแล้วรถถึงติดมากขึ้นกว่าเดิมครับ อยากรู้คำตอบเป็นความรู้ ไม่ดราม่านะครับ
ไม่รู้ว่ามีใครเคยทำวิจัย หรือทำผลสำรวจถึงสาเหตุที่เวลาฝนตกแล้วรถถึงติดมากขึ้นกว่าเดิมไหมครับ ไม่เอาสาเหตุที่รถติดปกตินะครับ อันนี้เหมือนจะรู้ๆ กันอยู่ว่าปริมาณรถในกทม. มากกว่าปริมาณถนนที่วิ่งได้อยู่แล้ว และระบบขนส่งมวลชนก็ยังไม่ครอบคลุมอย่างที่บอกครับ