ขอเกริ่นนิดนึงนะคะ คือเราจดทะเบียนสมรสกับคนเดินเรื่องหย่าต่างสำนักทะเบียนไปตั้งแต่ปีที่แล้ว (เรายื่นเรื่องและเอกสารในไทย แล้วทางสำนักทะเบียนที่ไทยจะส่งต่อไปยังสถานทูตที่อีกฝ่ายนึงอยู่ที่ต่างประเทศให้อีกทีนึง) และเรื่องก็ไปถึงที่สถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งอีกฝ่ายก็รับรู้มาโดยตลอดว่าเรื่องถึงไหนถึงไหนแล้ว เพราะตัวเค้าเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเรียกร้องให้เราเดินเรื่องให้ แถมยังกำชับนักกำชับหนาด้วยว่าให้รีบๆเดินเรื่องให้หน่อยเพราะมันทำให้เค้าประสาทกิน (เค้าใช้คำว่า It made me ill) อยากให้มันจบลงเร็วๆ ซึ่งเราก็รีบเดินเรื่องให้แล้ว ทั้งๆที่มันวุ่นวายมาก ทำซ้ำไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่พอเดินเรื่องได้เรียบร้อยแล้ว เรื่องส่งไปทางเค้าแล้ว เค้ากลับไม่ยอมเดินเรื่องต่อซะอย่างงั้นอะ! สิ่งที่เค้าพูดคือ เค้าหาคนไปเป็นพยานให้เค้าไม่ได้ (ต้องใช้พยานไปแสดงตัวและเซ็นต์เป็นพยานให้ที่สถานทูตด้วย 2 คน แถมต้องนัดทางสถานทูตล่วงหน้าและส่งเอกสารทางไปรษณีย์ก่อนล่วงหน้าเพื่อที่ทางสถานทูตจะได้เตรียมเอกสารต่างๆเอาไว้รอก่อน)
คืออีกฝ่ายเป็นชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ที่อังกฤษเลยและไม่มีแพลนจะมาไทยแถมมีเหตุผลเยอะแยะไปหมดที่สนับสนุนว่าเค้าไม่สามารถมาไทยได้ ให้ส่งเรื่องไปให้เค้าเซ็นต์ที่อังกฤษแทน และด้วยความที่เค้าเป็นหมอ เวลาจะลางานทีต้อง book วันหยุดก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนหรืออะไรไม่รู้ ลืมไปแล้ว แล้วก็งานยุ่งมากกกกกกกกกกกกกกก ยุ่งตลอด พอไม่ได้ทำงานก็ทำบ้าน ยุ่งมากกกกกกกกกก จนทำอะไรๆที่เราร้องขอแทบไม่เคยได้เลย (เป็นงี้ตั้งแต่ตอนคบกันแล้วค่ะ แต่เราก็พยายามปรับตัวเข้าหามาโดยตลอด) กระทั่งเค้าขอให้เราเดินเรื่องหย่าให้เราก็เดินเรื่องให้ แต่เค้าก็บอกว่ายุ่งมากๆยังไปไม่ได้ หรือไม่ก็บอกว่าไม่มีใครยอมไปเป็นพยานให้เลย ไม่ว่าเค้าจะขอร้องหรือจะให้เงินจ้างไปก็ตาม
เราเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เคยลองปรึกษาพี่คนนึงที่เป็นทนายเค้าก็บอกว่า ฟ้องหย่าไม่ได้หรอก ถึงฟ้องไปสุดท้ายก็ต้องให้เค้ามาเซ็นต์ใบหย่าอยู่ดี ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้วเหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องให้เราไปอังกฤษนี่ คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ ทั้งเรื่องการทำวีซ่าใหม่ เรื่องเงิน และที่บ้านคงไม่ยอมให้ไปแน่ๆ (แม่เราไม่พอใจเค้าเลย)
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
*มาเพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงค่ะ คือ เราจดทะเบียนสมรสกับเค้าไปเมื่อ พ.ศ. 2555 ที่ประเทศไทย แล้วก็ไม่เคยไปทำ GRO ค่ะ
เรากับเค้าทำสัญญาหย่าไปแล้ว ซึ่งระบุเอาไว้เลยว่า เราไม่เรียกร้องค่าเลี้ยงดูใดๆ(เราเองก็ไม่เคยให้เค้ามาส่งเสียอะไรเราตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว) เราไม่มีบุตรด้วยกัน ไม่มีทรัพย์สินใดๆร่วมกัน(ไม่มีอะไรที่ต้องมาแบ่ง)
*ขอแก้ไขเรื่องที่เพื่อนที่เป็นทนายบอกว่าสุดท้ายต้องให้เค้าเซ็นต์อยู่ดีค่ะ จากการหาข้อมูลตามคำแนะนำ และลองคุยกับเพื่อนอีกคนนึงดู เค้าก็บอกว่าฟ้องได้ค่ะแต่คงต้องรอให้ครบ 3 ปีก่อน เพราะเหมือนเคสของเราเป็นกรณีต่างคนต่างต้องการที่จะแยกกันอยู่มากกว่าที่ฝ่ายใดฝ่ายนึงทิ้งร้างไป 1 ปี
คือเคสเราเป็นเคสที่ว่า จดทะเบียนสมรสกันเพราะญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเราไม่ยินยอมให้เราไปหาฝ่ายชายที่อังกฤษโดยยังไม่ได้แต่งงานกัน (เค้าถือว่าเป็นการอยู่ก่อนแต่ง) พอจดทะเบียนแล้วเราก็บินไปอยู่ที่อังกฤษได้แค่ 1 เดือนก็กลับมาไทยแล้ว และก็ไม่ได้เจอกันไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเลยจะมีก็แต่แชทหน้าจอหรือโทรศัพท์แค่นั้น เนื่องจากฝ่ายชายมีอาชีพที่เค้าชอบอยู่ที่อังกฤษอยู่แล้วและอยากเก็บเงินให้ตั้งตัวได้ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยกับเรา แต่เราถามทีไรก็ไม่เคยได้คำตอบว่าเค้าจะมาไทยได้เมื่อไหร่ แถมทุกเดือนๆเค้าเองก็แทบไม่เหลือเงินเก็บเพราะต้องผ่อนบ้านกับผ่อนหนี้ที่กู้มาเรียนหมอ พอทำงานหนักเข้าก็ป่วยไม่สบายเข้าโรงพยาบาล เงินที่เคยมีเก็บก็ร่อยหรอไปจนหมด ไม่มีทีท่าว่าจะมาอยู่ไทยเลย ไปๆมาๆเค้าก็ขอให้เราหย่าให้เค้าเพื่อที่จะ undo การจดทะเบียนสมรสครั้งนั้น เพราะเค้าบอกว่าเค้ารู้สึกไม่พอใจมากๆที่เหมือนโดนมัดมือชกให้ต้องจดทะเบียนสมรสครั้งนั้น แล้วถ้าพร้อมเมื่อไหร่เราสองคนค่อยแต่งงานแล้วจดทะเบียนกันด้วยความต้องการของเราสองคนกันดีกว่า (ตอนที่จดกันนั่นเค้าก็ไม่ได้อยากจดหรอก แต่เพราะญาติผู้ใหญ่บีบมาแบบนั้น แล้วก็เป็นการสื่อสารที่ไม่ดีของเราเองทำให้เข้าใจผิดกันไปคนละทิศละทาง จนสุดท้ายเค้าก็ยอมจำใจจดทะเบียนสมรสกะเรา แล้วก็เก็บความไม่พอใจเอาไว้) เราก็เดินเรื่องหย่าต่างสำนักให้โดยเราเดินเรื่องที่ไทยแล้วส่งเรื่องไปสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ไปๆมาๆสุดท้ายก็เลิกกันจริงๆ และเป็นการหย่าขาดกันจริงๆด้วยเหตุผลหลายๆอย่างค่ะ
การจดทะเบียนหย่ากรณีอีกฝ่ายอยู่ต่างประเทศแล้วหาคนไปเป็นพยานให้ไม่ได้ ทำยังไงดีคะ?
คืออีกฝ่ายเป็นชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ที่อังกฤษเลยและไม่มีแพลนจะมาไทยแถมมีเหตุผลเยอะแยะไปหมดที่สนับสนุนว่าเค้าไม่สามารถมาไทยได้ ให้ส่งเรื่องไปให้เค้าเซ็นต์ที่อังกฤษแทน และด้วยความที่เค้าเป็นหมอ เวลาจะลางานทีต้อง book วันหยุดก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนหรืออะไรไม่รู้ ลืมไปแล้ว แล้วก็งานยุ่งมากกกกกกกกกกกกกกก ยุ่งตลอด พอไม่ได้ทำงานก็ทำบ้าน ยุ่งมากกกกกกกกกก จนทำอะไรๆที่เราร้องขอแทบไม่เคยได้เลย (เป็นงี้ตั้งแต่ตอนคบกันแล้วค่ะ แต่เราก็พยายามปรับตัวเข้าหามาโดยตลอด) กระทั่งเค้าขอให้เราเดินเรื่องหย่าให้เราก็เดินเรื่องให้ แต่เค้าก็บอกว่ายุ่งมากๆยังไปไม่ได้ หรือไม่ก็บอกว่าไม่มีใครยอมไปเป็นพยานให้เลย ไม่ว่าเค้าจะขอร้องหรือจะให้เงินจ้างไปก็ตาม
เราเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เคยลองปรึกษาพี่คนนึงที่เป็นทนายเค้าก็บอกว่า ฟ้องหย่าไม่ได้หรอก ถึงฟ้องไปสุดท้ายก็ต้องให้เค้ามาเซ็นต์ใบหย่าอยู่ดี ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้วเหมือนกันค่ะ
ส่วนเรื่องให้เราไปอังกฤษนี่ คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ ทั้งเรื่องการทำวีซ่าใหม่ เรื่องเงิน และที่บ้านคงไม่ยอมให้ไปแน่ๆ (แม่เราไม่พอใจเค้าเลย)
ขอคำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
*มาเพิ่มเติมข้อมูลนิดนึงค่ะ คือ เราจดทะเบียนสมรสกับเค้าไปเมื่อ พ.ศ. 2555 ที่ประเทศไทย แล้วก็ไม่เคยไปทำ GRO ค่ะ
เรากับเค้าทำสัญญาหย่าไปแล้ว ซึ่งระบุเอาไว้เลยว่า เราไม่เรียกร้องค่าเลี้ยงดูใดๆ(เราเองก็ไม่เคยให้เค้ามาส่งเสียอะไรเราตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว) เราไม่มีบุตรด้วยกัน ไม่มีทรัพย์สินใดๆร่วมกัน(ไม่มีอะไรที่ต้องมาแบ่ง)
*ขอแก้ไขเรื่องที่เพื่อนที่เป็นทนายบอกว่าสุดท้ายต้องให้เค้าเซ็นต์อยู่ดีค่ะ จากการหาข้อมูลตามคำแนะนำ และลองคุยกับเพื่อนอีกคนนึงดู เค้าก็บอกว่าฟ้องได้ค่ะแต่คงต้องรอให้ครบ 3 ปีก่อน เพราะเหมือนเคสของเราเป็นกรณีต่างคนต่างต้องการที่จะแยกกันอยู่มากกว่าที่ฝ่ายใดฝ่ายนึงทิ้งร้างไป 1 ปี
คือเคสเราเป็นเคสที่ว่า จดทะเบียนสมรสกันเพราะญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเราไม่ยินยอมให้เราไปหาฝ่ายชายที่อังกฤษโดยยังไม่ได้แต่งงานกัน (เค้าถือว่าเป็นการอยู่ก่อนแต่ง) พอจดทะเบียนแล้วเราก็บินไปอยู่ที่อังกฤษได้แค่ 1 เดือนก็กลับมาไทยแล้ว และก็ไม่ได้เจอกันไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกเลยจะมีก็แต่แชทหน้าจอหรือโทรศัพท์แค่นั้น เนื่องจากฝ่ายชายมีอาชีพที่เค้าชอบอยู่ที่อังกฤษอยู่แล้วและอยากเก็บเงินให้ตั้งตัวได้ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทยกับเรา แต่เราถามทีไรก็ไม่เคยได้คำตอบว่าเค้าจะมาไทยได้เมื่อไหร่ แถมทุกเดือนๆเค้าเองก็แทบไม่เหลือเงินเก็บเพราะต้องผ่อนบ้านกับผ่อนหนี้ที่กู้มาเรียนหมอ พอทำงานหนักเข้าก็ป่วยไม่สบายเข้าโรงพยาบาล เงินที่เคยมีเก็บก็ร่อยหรอไปจนหมด ไม่มีทีท่าว่าจะมาอยู่ไทยเลย ไปๆมาๆเค้าก็ขอให้เราหย่าให้เค้าเพื่อที่จะ undo การจดทะเบียนสมรสครั้งนั้น เพราะเค้าบอกว่าเค้ารู้สึกไม่พอใจมากๆที่เหมือนโดนมัดมือชกให้ต้องจดทะเบียนสมรสครั้งนั้น แล้วถ้าพร้อมเมื่อไหร่เราสองคนค่อยแต่งงานแล้วจดทะเบียนกันด้วยความต้องการของเราสองคนกันดีกว่า (ตอนที่จดกันนั่นเค้าก็ไม่ได้อยากจดหรอก แต่เพราะญาติผู้ใหญ่บีบมาแบบนั้น แล้วก็เป็นการสื่อสารที่ไม่ดีของเราเองทำให้เข้าใจผิดกันไปคนละทิศละทาง จนสุดท้ายเค้าก็ยอมจำใจจดทะเบียนสมรสกะเรา แล้วก็เก็บความไม่พอใจเอาไว้) เราก็เดินเรื่องหย่าต่างสำนักให้โดยเราเดินเรื่องที่ไทยแล้วส่งเรื่องไปสถานทูตไทย ณ กรุงลอนดอน เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ไปๆมาๆสุดท้ายก็เลิกกันจริงๆ และเป็นการหย่าขาดกันจริงๆด้วยเหตุผลหลายๆอย่างค่ะ