ครอบครัวผมเริ่มจากฐานะปานกลาง พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ผมยังเด็ก แยกกันอยู่คนละจังหวัด พ่อต้องย้ายจังหวัดบ่อย แม่เป็นคนเลี้ยงผมกับน้อง(ผมมีน้อง1คน) ส่วนพ่อคอยช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย ทางสังคมจะดูเหมือนว่าคบกันอยู่ แต่ความจริง พ่อจะกลับบ้าน2-3เดือนครั้ง พ่อผมมีเมียน้อยครับ เท่าที่จำได้ก็หลายคน(คบทีละคน) คบแต่ละคนก็หลายปี สุดท้ายก็เลิก จนมาถึงคนปัจจุบันนี่แหละ....
อายุผมปีนี้ก็30นิดๆ มีลูก2คน ผมภูมิใจในตัวพ่อมาตลอด ทุกครั้งที่ผมกับน้องมีเรื่องเดือดร้อน(เรื่องเงิน) พ่อจะช่วยเหลือทุกครั้ง ไม่ว่าตัวเองจะมีหรือไม่มี ก็จะพยามช่วยหาหยิบยืมมาจนได้ ช่วงนึงที่ธุรกิจผมเดือดร้อน พ่อโอนเงินมา แล้วโทรมาให้กำลังใจบอกว่า
พ่อเลี้ยงลูกมาขนาดนี้ ต่อให้ต้องเลี้ยงไปทั้งชีวิต ก็ไม่เป็นไรหรอก เข้มแข็งไว้นะลูก คำพูดนี้ผมจำได้มาตลอด(พิมไปน้ำตาซึมไป) ปกติพ่อผมเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยแสดงออก ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่ผมฟังแล้วความรู้สึกในใจเอ่อล้น รับรู้ได้ว่า พ่อรักผมมากนะ (ยิ่งมารู้จากปากพ่อทีหลังว่าช่วงนั้นต้องไปยืมเงินคนอื่น เดินเข้า-ออกธนาคารเป็นว่าเล่น บางเดือนเงินจะออกไปกินข้าวยังไม่มีเลย ผมยิ่งรู้สึกรักพ่อมาก และภูมิใจที่ได้เป็นลูกของพ่อ)
จนสุดท้ายธุรกิจผมก็เจ๊ง ตอนทำผมเอาบ้านไปเข้าแบ๊งค์ไว้ พ่อผมก็เอาบ้านออกให้ แล้วสั่งห้ามผมกับน้องว่า ห้ามเอาบ้านเข้าแบ๊งอีกตลอดไป เพราะถ้าไม่มีพ่อ แล้วลูกพลาดจะไม่มีบ้านอยู่ แล้วผมก็เริ่มทำธุรกิจใหม่ 2-3ปีที่ผ่านมา เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาที่เล่าให้พ่อฟัง ว่าเดือนนี้ผมได้กำไรเท่าไหร่ เห็นพ่อภูมิใจในตัวเรา ผมก็ดีใจ ส่วนงานและธุรกิจของพ่อในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ดีเอามากๆ มากกว่าผมเป็นสิบๆเท่า
จนมากลางปีที่ผ่านมา พ่อผมบอกจะสร้างบ้านใหม่ให้ผม ติดกับบ้านที่ผมอยู่ปัจจุบัน ผมยิ่งรู้สึกว่าพ่อรักผมมาก (พ่อซื้อบ้านให้น้องผมไปแล้วเมื่อต้นปี เลยจะให้ผมบ้าง)
แต่แล้วไม่กี่วันที่ผ่านมา พ่อผมกลับบ้าน มาบอกผมว่า พ่อผมมีเด็ก คบกันมา3-4ปีแล้ว เป็นคนดี ฐานะที่บ้านยากจน อายุห่างกับพ่อผมเกิน30ปี เด็กกว่าผมอีก ปกติพ่อจะไม่พูดเรื่องกิ๊กพ่อเลย และผมก็ไม่เคยอยากรู้
แล้วคำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าก็คือ พ่อผมอยากให้เด็กคนนี้มีลูก พ่ออยากไปสร้างบ้าน ทำธุรกิจร่วมกับผู้หญิงคนนี้ อยากมีคนคอยดูแลทั้งพ่อผมและผู้หญิงคนนั้นยามแก่เฒ่า ถ้าพ่อผมเป็นอะไรไป เค้าก็จะอยู่คนเดียว อนาคตเค้าจะเป็นอย่างไร เลยอยากจะมาขอ น้ำเชื้อของผม ไปผสมเทียมกับผู้หญิงคนนั้น แล้วให้เหตุผลว่า สมบัติของเค้าจะได้ให้กับเด็กคนนี้ที่เป็นลูกหลาน เค้าจะได้ไม่เสียดาย ไม่คิดมาก แต่ผมคงไม่ได้อะไรแล้ว เพราะผมมั่นคงแล้ว ตรงไปเปล่าพ่อ!! ให้ผมคิดว่ายังไงเด็กคนนี้ก็เป็นลูกผม ผู้หญิงก็เป็นแม่ของลูกผม ตรรกะนี้ทำผมสับสนไปเป็นวัน
ผมคิดว่า ที่พ่อพูดแบบนี้ เพราะตัวเค้าเองทำหมันแล้ว อายุ60แล้ว กลัวแก้หมันแล้วน้ำเชื้อไม่แข็งแรง เลยมาขอผม ผมเครียดครับ ผมไม่อยากให้เลย ผมไม่ได้อยากมีลูกกับคน ที่ผมไม่ได้รัก ต่อให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มันก็ต้องรับรู้เรื่องราวโดยตลอด ผมไม่อยากให้ครอบครัวผมมีปัญหา ผมบอกพ่อไป พ่อก็น้อยใจครับ ถ้าผมไม่ช่วยเค้าก็จะหาวิธีของเค้าเอง แล้วก็ว่าผมว่าผม เป็นคนเห็นแก่ตัว เค้าให้ผมมาทั้งชีวิต เค้าขอแค่นี้ทำไมผมถึงให้ไม่ได้
... ในฐานะที่ผมเป็นลูก เป็นพ่อคน และก็ยังเป็นหัวหน้าครอบครัว ... ผมควรทำอย่างไรดีครับ ...
- ไม่เคยคิดว่าครอบครัวตัวเองมีปัญหาเลยสักครั้ง มีครบทั้งพ่อทั้งแม่ ถึงแม้จริงๆพ่อกับแม่หย่ากันมาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้เพิ่งรู้สึกว่าน่าจะมีปัญหา
- ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ผมไม่อยากหักหลังแม่ หักหลังเมียผม ไม่อยากให้อนาคตครอบครัวมีปัญหา ไม่อยากต้องตอบคำถามลูกๆ
- เรื่องบ้านที่พ่อกำลังจะสร้างให้ผม ผมก็ไม่กล้าคุย ไม่กล้าปรึกษา เพราะไม่กล้าเรียกร้องอะไร แต่ถ้าจะไม่เอาผมก็ว่าผมโง่มาก
- พ่อบอกว่า สิ่งที่จะทำให้ครั้งนี้เพราะอยากให้ผมมั่นคง เค้าจะได้ไม่ต้องห่วงผมอีก (คือไม่อยากจะให้อะไรผมแล้วประมานนั้น)
- ทรัพย์สินที่พ่อผมมีทั้งหมด จะให้กับผู้หญิง พ่อผมบอกว่าเค้าเปนคนดี จะอยู่กับพ่อผมไปจนวันตายว่างั้น (แต่ทำไมพ่อไม่คิดจะอยู่กับพวกผม)
- ผมถามพ่อไปว่า ถ้าพ่อไม่มีเงิน เค้าจะอยู่กับพ่อไหม แต่พวกผม เราอยู่กันตั้งแต่เราไม่มีเงิน ยังไงก็ต้องอยู่กับพ่อจนตาย พ่อผมตอบว่า ไม่ได้คิด เพราะพ่อมีเงินแถมยังมีมากด้วย ผมก็พูดไม่ออกครับ
- สำหรับความคิดผม ไม่มี ผู้หญิงดีๆ เค้าไม่มาเกาะผู้ชายคราวพ่อที่มี ครอบครัวอยู่แล้วหรอกนะ แถมยังอยากมีลูก เพื่อความมั่นคงของตัวเองด้วย ถึงแม้ต้นทุนชีวิตคุณจะต่ำ คุณก็น่าจะเลือกทางที่มันดีกว่านี้ได้นะครับ
- ที่จริงเรื่องทรัพย์สินผมไม่ได้คิดมาก ทำใจได้นะ ถ้าผู้หญิงเค้าดีจริงๆก็ให้เค้าไปเหอะ เมื่อก่อนชีวิตลำบากกว่านี้ ยังผ่านมาได้เลย แต่อย่ามาขอในเรื่องที่ผมลำบากใจแบบนี้เลย ผมไม่อยากมีปัญหาครอบครัวในอนาคต
- เป็นลูกพ่อมา30กว่าปี เพิ่งจะมีตอนนี้ ที่รู้สึกว่าพ่อ ไม่เหมือนพ่อที่ตัวเองเคยรู้จัก คุยกันไม่สนิทใจ ทั้งๆที่พ่อ ก็คือพ่อคนเดิม
- ถ้าเลือกได้ อยากให้พ่อเป็นคนไม่มีเงิน แล้วกลับมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัวดีกว่า ผม น้อง แม่ และหลานๆ ก็อยากให้พ่อมาอยู่ที่บ้านครับ
- ถึงยังไง พ่อก็ยังเป็นไอดอลของผม ผมมองแผ่นหลังพ่อ แล้วบอกกับตัวเองตลอด ว่าต้องเก่งอย่างพ่อให้ได้ ...ผมรักพ่อผมมากครับ
*อ่านความคิดเห็นท่านอื่นเรื่องทรัพย์สินแล้ว ขอมาพิมเสริมหน่อยครับ ผมไม่ได้ห่วงเรื่องทรัพย์สินครับ คือตอนนี้ตัวผมมีรายได้ประมาน6หลักต้นๆต่อเดือน มีทั้งบ้านและรถ คงเป็นสาเหตุทำให้พ่อผมคิดว่าผมมั่นคงแล้ว(แต่พ่อผมมากกว่าผมประมานสิบเท่าครับ) พ่อบอกว่าในตอนอายุเท่ากันผมมีมากกว่าพ่อซะด้วยซ้ำ พ่อผมสู้เองคนเดียวไม่มีปู่ย่าคอยช่วย ผมเป็นลูกพ่อผมก็ต้องทำได้เหมือนกันครับ ผมเลยไม่ห่วงเรื่องนี้(ให้กำลังใจตัวเองว่าผมต้องทำได้) ที่มีอยู่ครอบครัวผมก็พออยู่กันได้ครับ แต่ผมปวดหัวเรื่องน้ำเชื่อ และเสียใจกับคำต่อว่าของพ่อ ที่บอกว่า ถ้าผมปฎิเสธคือ ผมเห็นแก่ตัว ใจแคบ ครับ พ่อให้ผมมาทั้งชีวิตแล้ว แล้วพอเค้าขอล่ะ ผมให้ไม่ได้หรือ บลาๆ และให้เวลาผมตัดสินใจจนถึงสิ้นเดือน
ผมกับพ่อ ...ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ ผมควรทำยังไงดี
อายุผมปีนี้ก็30นิดๆ มีลูก2คน ผมภูมิใจในตัวพ่อมาตลอด ทุกครั้งที่ผมกับน้องมีเรื่องเดือดร้อน(เรื่องเงิน) พ่อจะช่วยเหลือทุกครั้ง ไม่ว่าตัวเองจะมีหรือไม่มี ก็จะพยามช่วยหาหยิบยืมมาจนได้ ช่วงนึงที่ธุรกิจผมเดือดร้อน พ่อโอนเงินมา แล้วโทรมาให้กำลังใจบอกว่า พ่อเลี้ยงลูกมาขนาดนี้ ต่อให้ต้องเลี้ยงไปทั้งชีวิต ก็ไม่เป็นไรหรอก เข้มแข็งไว้นะลูก คำพูดนี้ผมจำได้มาตลอด(พิมไปน้ำตาซึมไป) ปกติพ่อผมเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยแสดงออก ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกเลยมั้ง ที่ผมฟังแล้วความรู้สึกในใจเอ่อล้น รับรู้ได้ว่า พ่อรักผมมากนะ (ยิ่งมารู้จากปากพ่อทีหลังว่าช่วงนั้นต้องไปยืมเงินคนอื่น เดินเข้า-ออกธนาคารเป็นว่าเล่น บางเดือนเงินจะออกไปกินข้าวยังไม่มีเลย ผมยิ่งรู้สึกรักพ่อมาก และภูมิใจที่ได้เป็นลูกของพ่อ)
จนสุดท้ายธุรกิจผมก็เจ๊ง ตอนทำผมเอาบ้านไปเข้าแบ๊งค์ไว้ พ่อผมก็เอาบ้านออกให้ แล้วสั่งห้ามผมกับน้องว่า ห้ามเอาบ้านเข้าแบ๊งอีกตลอดไป เพราะถ้าไม่มีพ่อ แล้วลูกพลาดจะไม่มีบ้านอยู่ แล้วผมก็เริ่มทำธุรกิจใหม่ 2-3ปีที่ผ่านมา เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ ผมมีความสุขทุกครั้งเวลาที่เล่าให้พ่อฟัง ว่าเดือนนี้ผมได้กำไรเท่าไหร่ เห็นพ่อภูมิใจในตัวเรา ผมก็ดีใจ ส่วนงานและธุรกิจของพ่อในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ดีเอามากๆ มากกว่าผมเป็นสิบๆเท่า
จนมากลางปีที่ผ่านมา พ่อผมบอกจะสร้างบ้านใหม่ให้ผม ติดกับบ้านที่ผมอยู่ปัจจุบัน ผมยิ่งรู้สึกว่าพ่อรักผมมาก (พ่อซื้อบ้านให้น้องผมไปแล้วเมื่อต้นปี เลยจะให้ผมบ้าง)
แต่แล้วไม่กี่วันที่ผ่านมา พ่อผมกลับบ้าน มาบอกผมว่า พ่อผมมีเด็ก คบกันมา3-4ปีแล้ว เป็นคนดี ฐานะที่บ้านยากจน อายุห่างกับพ่อผมเกิน30ปี เด็กกว่าผมอีก ปกติพ่อจะไม่พูดเรื่องกิ๊กพ่อเลย และผมก็ไม่เคยอยากรู้
แล้วคำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าก็คือ พ่อผมอยากให้เด็กคนนี้มีลูก พ่ออยากไปสร้างบ้าน ทำธุรกิจร่วมกับผู้หญิงคนนี้ อยากมีคนคอยดูแลทั้งพ่อผมและผู้หญิงคนนั้นยามแก่เฒ่า ถ้าพ่อผมเป็นอะไรไป เค้าก็จะอยู่คนเดียว อนาคตเค้าจะเป็นอย่างไร เลยอยากจะมาขอ น้ำเชื้อของผม ไปผสมเทียมกับผู้หญิงคนนั้น แล้วให้เหตุผลว่า สมบัติของเค้าจะได้ให้กับเด็กคนนี้ที่เป็นลูกหลาน เค้าจะได้ไม่เสียดาย ไม่คิดมาก แต่ผมคงไม่ได้อะไรแล้ว เพราะผมมั่นคงแล้ว ตรงไปเปล่าพ่อ!! ให้ผมคิดว่ายังไงเด็กคนนี้ก็เป็นลูกผม ผู้หญิงก็เป็นแม่ของลูกผม ตรรกะนี้ทำผมสับสนไปเป็นวัน
ผมคิดว่า ที่พ่อพูดแบบนี้ เพราะตัวเค้าเองทำหมันแล้ว อายุ60แล้ว กลัวแก้หมันแล้วน้ำเชื้อไม่แข็งแรง เลยมาขอผม ผมเครียดครับ ผมไม่อยากให้เลย ผมไม่ได้อยากมีลูกกับคน ที่ผมไม่ได้รัก ต่อให้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่มันก็ต้องรับรู้เรื่องราวโดยตลอด ผมไม่อยากให้ครอบครัวผมมีปัญหา ผมบอกพ่อไป พ่อก็น้อยใจครับ ถ้าผมไม่ช่วยเค้าก็จะหาวิธีของเค้าเอง แล้วก็ว่าผมว่าผม เป็นคนเห็นแก่ตัว เค้าให้ผมมาทั้งชีวิต เค้าขอแค่นี้ทำไมผมถึงให้ไม่ได้
... ในฐานะที่ผมเป็นลูก เป็นพ่อคน และก็ยังเป็นหัวหน้าครอบครัว ... ผมควรทำอย่างไรดีครับ ...
- ไม่เคยคิดว่าครอบครัวตัวเองมีปัญหาเลยสักครั้ง มีครบทั้งพ่อทั้งแม่ ถึงแม้จริงๆพ่อกับแม่หย่ากันมาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้เพิ่งรู้สึกว่าน่าจะมีปัญหา
- ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง ผมไม่อยากหักหลังแม่ หักหลังเมียผม ไม่อยากให้อนาคตครอบครัวมีปัญหา ไม่อยากต้องตอบคำถามลูกๆ
- เรื่องบ้านที่พ่อกำลังจะสร้างให้ผม ผมก็ไม่กล้าคุย ไม่กล้าปรึกษา เพราะไม่กล้าเรียกร้องอะไร แต่ถ้าจะไม่เอาผมก็ว่าผมโง่มาก
- พ่อบอกว่า สิ่งที่จะทำให้ครั้งนี้เพราะอยากให้ผมมั่นคง เค้าจะได้ไม่ต้องห่วงผมอีก (คือไม่อยากจะให้อะไรผมแล้วประมานนั้น)
- ทรัพย์สินที่พ่อผมมีทั้งหมด จะให้กับผู้หญิง พ่อผมบอกว่าเค้าเปนคนดี จะอยู่กับพ่อผมไปจนวันตายว่างั้น (แต่ทำไมพ่อไม่คิดจะอยู่กับพวกผม)
- ผมถามพ่อไปว่า ถ้าพ่อไม่มีเงิน เค้าจะอยู่กับพ่อไหม แต่พวกผม เราอยู่กันตั้งแต่เราไม่มีเงิน ยังไงก็ต้องอยู่กับพ่อจนตาย พ่อผมตอบว่า ไม่ได้คิด เพราะพ่อมีเงินแถมยังมีมากด้วย ผมก็พูดไม่ออกครับ
- สำหรับความคิดผม ไม่มี ผู้หญิงดีๆ เค้าไม่มาเกาะผู้ชายคราวพ่อที่มี ครอบครัวอยู่แล้วหรอกนะ แถมยังอยากมีลูก เพื่อความมั่นคงของตัวเองด้วย ถึงแม้ต้นทุนชีวิตคุณจะต่ำ คุณก็น่าจะเลือกทางที่มันดีกว่านี้ได้นะครับ
- ที่จริงเรื่องทรัพย์สินผมไม่ได้คิดมาก ทำใจได้นะ ถ้าผู้หญิงเค้าดีจริงๆก็ให้เค้าไปเหอะ เมื่อก่อนชีวิตลำบากกว่านี้ ยังผ่านมาได้เลย แต่อย่ามาขอในเรื่องที่ผมลำบากใจแบบนี้เลย ผมไม่อยากมีปัญหาครอบครัวในอนาคต
- เป็นลูกพ่อมา30กว่าปี เพิ่งจะมีตอนนี้ ที่รู้สึกว่าพ่อ ไม่เหมือนพ่อที่ตัวเองเคยรู้จัก คุยกันไม่สนิทใจ ทั้งๆที่พ่อ ก็คือพ่อคนเดิม
- ถ้าเลือกได้ อยากให้พ่อเป็นคนไม่มีเงิน แล้วกลับมาอยู่ด้วยกันกับครอบครัวดีกว่า ผม น้อง แม่ และหลานๆ ก็อยากให้พ่อมาอยู่ที่บ้านครับ
- ถึงยังไง พ่อก็ยังเป็นไอดอลของผม ผมมองแผ่นหลังพ่อ แล้วบอกกับตัวเองตลอด ว่าต้องเก่งอย่างพ่อให้ได้ ...ผมรักพ่อผมมากครับ
*อ่านความคิดเห็นท่านอื่นเรื่องทรัพย์สินแล้ว ขอมาพิมเสริมหน่อยครับ ผมไม่ได้ห่วงเรื่องทรัพย์สินครับ คือตอนนี้ตัวผมมีรายได้ประมาน6หลักต้นๆต่อเดือน มีทั้งบ้านและรถ คงเป็นสาเหตุทำให้พ่อผมคิดว่าผมมั่นคงแล้ว(แต่พ่อผมมากกว่าผมประมานสิบเท่าครับ) พ่อบอกว่าในตอนอายุเท่ากันผมมีมากกว่าพ่อซะด้วยซ้ำ พ่อผมสู้เองคนเดียวไม่มีปู่ย่าคอยช่วย ผมเป็นลูกพ่อผมก็ต้องทำได้เหมือนกันครับ ผมเลยไม่ห่วงเรื่องนี้(ให้กำลังใจตัวเองว่าผมต้องทำได้) ที่มีอยู่ครอบครัวผมก็พออยู่กันได้ครับ แต่ผมปวดหัวเรื่องน้ำเชื่อ และเสียใจกับคำต่อว่าของพ่อ ที่บอกว่า ถ้าผมปฎิเสธคือ ผมเห็นแก่ตัว ใจแคบ ครับ พ่อให้ผมมาทั้งชีวิตแล้ว แล้วพอเค้าขอล่ะ ผมให้ไม่ได้หรือ บลาๆ และให้เวลาผมตัดสินใจจนถึงสิ้นเดือน