หลังจากที่สร้างความตกตะลึงช็อควงการให้กับเกมเมอร์ทั้งใหม่และเก่า จากกรณีที่มีการขุดค้นพบกองทัพตลับเกม Atari E. T. ที่ถูกฝังกลบในนิวเม็กซิโกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด มีรายงานว่า สภาเทศบาลเมือง Alamogordo ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของตลับเกมกว่า 1,300 ตลับที่ถูกขุดค้น มีคำสั่งเห็นตรงกันที่จะนำตลับเกมออกประมูลและขายผ่านเว็บไซต์
โดยจำนวนที่สภาเทศบาลเมือง Alamogordo นำออกประมูลและขาย จะมีจำนวนราวครึ่งหนึ่งจากที่ขุดค้นพบ ขณะที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500 ตลับหรือมากกว่านั้น จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นของที่ระลึก รวมถึงการบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก
ทั้งนี้ ตลับเกม Atari E. T. ได้ถูกขนานว่าเป็นตลับเกมแห่งความอัปยศทันที หลังจากที่ขุดพบที่บริเวณที่ดินแห้งแล้งแห่งหนึ่งในนิวเม็กซิโก ซึ่งเป็นผลมาจากการล่มสลายของอุตสาหกรรมเกมในปี 1983 โดยก่อนหน้าที่มันจะกลายเป็นตลับเกมแห่งความปราชัย Atari ซึ่งเป็นบริษัทเกมชื่อดังในขณะนั้นได้ทุ่มเงินหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ จ่ายให้แก่ผู้กำกับ Steven Spielberg เพื่อการรับเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ชื่อดัง E.T. the Extra-Terrestrial หรือ อี.ที. เพื่อนรัก ในปี 1982 และต่อยอดความสำเร็จนั้นด้วยการวางขายตลับเกมที่มีชื่อเดียวกับภาพยนตร์ แต่ทว่าในที่สุด ความนิยมของเกมกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด ก่อนจะมีข่าวลือตามออกมาว่า บริษัทได้นำตลับเกมทั้งหมดไปเทกระจาดทิ้งในสถานที่แห่งหนึ่ง
ที่มา TechSpot
สภาเมืองฯ เม็กซิโก เตรียมนำตลับเกม Atari E. T. ที่ขุดพบออกประมูล
หลังจากที่สร้างความตกตะลึงช็อควงการให้กับเกมเมอร์ทั้งใหม่และเก่า จากกรณีที่มีการขุดค้นพบกองทัพตลับเกม Atari E. T. ที่ถูกฝังกลบในนิวเม็กซิโกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุด มีรายงานว่า สภาเทศบาลเมือง Alamogordo ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของตลับเกมกว่า 1,300 ตลับที่ถูกขุดค้น มีคำสั่งเห็นตรงกันที่จะนำตลับเกมออกประมูลและขายผ่านเว็บไซต์
โดยจำนวนที่สภาเทศบาลเมือง Alamogordo นำออกประมูลและขาย จะมีจำนวนราวครึ่งหนึ่งจากที่ขุดค้นพบ ขณะที่ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 500 ตลับหรือมากกว่านั้น จะถูกเปลี่ยนสถานะเป็นของที่ระลึก รวมถึงการบริจาคให้กับพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก
ทั้งนี้ ตลับเกม Atari E. T. ได้ถูกขนานว่าเป็นตลับเกมแห่งความอัปยศทันที หลังจากที่ขุดพบที่บริเวณที่ดินแห้งแล้งแห่งหนึ่งในนิวเม็กซิโก ซึ่งเป็นผลมาจากการล่มสลายของอุตสาหกรรมเกมในปี 1983 โดยก่อนหน้าที่มันจะกลายเป็นตลับเกมแห่งความปราชัย Atari ซึ่งเป็นบริษัทเกมชื่อดังในขณะนั้นได้ทุ่มเงินหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ จ่ายให้แก่ผู้กำกับ Steven Spielberg เพื่อการรับเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ชื่อดัง E.T. the Extra-Terrestrial หรือ อี.ที. เพื่อนรัก ในปี 1982 และต่อยอดความสำเร็จนั้นด้วยการวางขายตลับเกมที่มีชื่อเดียวกับภาพยนตร์ แต่ทว่าในที่สุด ความนิยมของเกมกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด ก่อนจะมีข่าวลือตามออกมาว่า บริษัทได้นำตลับเกมทั้งหมดไปเทกระจาดทิ้งในสถานที่แห่งหนึ่ง
ที่มา TechSpot