คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 29
จากเท่าที่ศึกษามา ผมคิดว่าข้อ "1. ไม่ไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน" ปลอดภัยสุดครับ เพราะว่าเป็นแค่ความผิดลหุโทษ ไม่มีตำรวจคนไหนมาตามจับคุณหรอก เมื่อคุณไม่ไปลงบัญชีคุณก็จะไม่มีชื่ออยู่ในบัญชีทหารกองเกินของสัสดี และในเมื่อไม่มีชื่ออยู่ในบัญชี สัสดีก็จะออกหมายเรียกให้คุณมารับการตรวจเลือกไม่ได้
"มาตรา ๔๔ บุคคลใดไม่มาลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๘ หรือ
ไม่มาลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ตามมาตรา ๑๙ หรือไม่ยอมลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๒๑ หรือ
ไม่มารับหมายเรียกที่อำเภอตามมาตรา ๒๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ"
ข้อ 2, 3 และ 4 ผลออกมาจะเป็นแบบเดียวกันคือ สัสดีจะไปแจ้งความกับตำรวจ ให้ตำรวจออกหมายจับเราครับ ซึ่งหมายจับคดีนี้จะมีอายุความ 10 ปี
จากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมา ตำรวจไม่สนใจจะมาตามจับหรอกครับ สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้อย่างสบายๆ ทำบัตรประชาชน ทำใบขับขี่ได้ตามปกติ แต่ทำพาสปอร์ตและออกนอกประเทศไม่ได้นะครับ (สามารถออกไปประเทศเพื่อนบ้านแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยใช้ใบผ่านแดนชั่วคราวได้ไม่มีปัญหา) และอาจจะมีปัญหาเวลาไปสมัครงาน เพราะว่าบางแห่งเค้าจะตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับทางตำรวจ ซึ่งจะเจอหมายจับของเราแน่ๆ
"มาตรา ๔๕ บุคคลใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือก
เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียกของนายอำเภอ หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจเลือก
หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือหลีกเลี่ยง หรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ เพื่อจะไม่ให้เข้า
รับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัตินี้ หรือบุคคลใดเข้ารับราชการทหารกองประจำการ
แทนผู้อื่น หรือเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยสัญญาว่า
จะช่วยเหลือผู้หนึ่งผู้ใดมิให้ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี"
หนีแบบข้อ 2, 3 และ 4 นี้ต้องหนี 10 ปีจนหมดอายุความครับ พอหนีครบ 10 ปีเราก็จะอายุ 31 (ในกรณีที่เราหนีตอนอายุ 21 ปี) ถ้าดูตามมาตรา 39 ทหารกองเกินเมื่ออายุครบ 30 ปีบริบูรณ์ จะถูกปลดเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 2 ซึ่งก็หมายความว่าเราไม่ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์แล้วครับ เพราะว่าเราถูกปลดเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 2 แล้ว (ถ้าดูตามกฎหมาย การเกณฑ์ทหารจะเกณฑ์จากทหารกองเกินเท่านั้น ไม่มีกฎหมายข้อไหนระบุว่าให้เกณฑ์จากทหารกองหนุนได้)
ข้อ 5. แบบนี้จะต้องหนีจนถึงวันปลดประจำการณ์ครับ พอเลยวันปลดทหารก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว (เพราะว่าเราปลดแล้วไง) หนีแบบนี้ตำรวจไม่จับนะครับ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับตำรวจเลย เกี่ยวกับทหารล้วนๆ
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ผมเขียนจากประสบการณ์ และจากการศึกษาในข้อกฎหมาย (พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗) ถ้าท่านใดมีข้อท้วงติงรบกวนแสดงความเห็นได้เลย ผมน้อมรับฟังครับ
พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
http://www.tdd.mi.th/pdf/%E0%B8%9E.%E0%B8%A3.%E0%B8%9A.%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%202497.pdf
"มาตรา ๔๔ บุคคลใดไม่มาลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๘ หรือ
ไม่มาลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ตามมาตรา ๑๙ หรือไม่ยอมลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๒๑ หรือ
ไม่มารับหมายเรียกที่อำเภอตามมาตรา ๒๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ"
ข้อ 2, 3 และ 4 ผลออกมาจะเป็นแบบเดียวกันคือ สัสดีจะไปแจ้งความกับตำรวจ ให้ตำรวจออกหมายจับเราครับ ซึ่งหมายจับคดีนี้จะมีอายุความ 10 ปี
จากประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมา ตำรวจไม่สนใจจะมาตามจับหรอกครับ สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้อย่างสบายๆ ทำบัตรประชาชน ทำใบขับขี่ได้ตามปกติ แต่ทำพาสปอร์ตและออกนอกประเทศไม่ได้นะครับ (สามารถออกไปประเทศเพื่อนบ้านแบบไปเช้าเย็นกลับ โดยใช้ใบผ่านแดนชั่วคราวได้ไม่มีปัญหา) และอาจจะมีปัญหาเวลาไปสมัครงาน เพราะว่าบางแห่งเค้าจะตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับทางตำรวจ ซึ่งจะเจอหมายจับของเราแน่ๆ
"มาตรา ๔๕ บุคคลใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือกทำการตรวจเลือก
เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามหมายเรียกของนายอำเภอ หรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจเลือก
หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือหลีกเลี่ยง หรือขัดขืนด้วยประการใด ๆ เพื่อจะไม่ให้เข้า
รับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัตินี้ หรือบุคคลใดเข้ารับราชการทหารกองประจำการ
แทนผู้อื่น หรือเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยสัญญาว่า
จะช่วยเหลือผู้หนึ่งผู้ใดมิให้ต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี"
หนีแบบข้อ 2, 3 และ 4 นี้ต้องหนี 10 ปีจนหมดอายุความครับ พอหนีครบ 10 ปีเราก็จะอายุ 31 (ในกรณีที่เราหนีตอนอายุ 21 ปี) ถ้าดูตามมาตรา 39 ทหารกองเกินเมื่ออายุครบ 30 ปีบริบูรณ์ จะถูกปลดเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 2 ซึ่งก็หมายความว่าเราไม่ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์แล้วครับ เพราะว่าเราถูกปลดเป็นทหารกองหนุนชั้นที่ 2 แล้ว (ถ้าดูตามกฎหมาย การเกณฑ์ทหารจะเกณฑ์จากทหารกองเกินเท่านั้น ไม่มีกฎหมายข้อไหนระบุว่าให้เกณฑ์จากทหารกองหนุนได้)
ข้อ 5. แบบนี้จะต้องหนีจนถึงวันปลดประจำการณ์ครับ พอเลยวันปลดทหารก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว (เพราะว่าเราปลดแล้วไง) หนีแบบนี้ตำรวจไม่จับนะครับ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับตำรวจเลย เกี่ยวกับทหารล้วนๆ
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้ผมเขียนจากประสบการณ์ และจากการศึกษาในข้อกฎหมาย (พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗) ถ้าท่านใดมีข้อท้วงติงรบกวนแสดงความเห็นได้เลย ผมน้อมรับฟังครับ
พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗
http://www.tdd.mi.th/pdf/%E0%B8%9E.%E0%B8%A3.%E0%B8%9A.%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%202497.pdf
แสดงความคิดเห็น
หนีทหาร ขั้นตอนอันตรายที่สุดน่ากลัวที่สุด และขั้นตอนปลอดภัยที่สุด
2.อายุย่างเข้า 21 ปี ไม่ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียก คนที่คิดหนีทหารวิธีนี้ ปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ต้องใช้เวลากี่ปีจึงพ้นผิด %การไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่มากน้อยเพียงใด
3.ไม่ไปรับการตรวจเลือกคนเข้ากองประจำการ คนที่คิดหนีทหารวิธีนี้ ปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ต้องใช้เวลากี่ปีจึงพ้นผิด %การไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่มากน้อยเพียงใด
4.จับได้ใบแดง พอถึงเวลากำหนดเข้ากองประจำการไม่ไปตามนัด คนที่คิดหนีทหารวิธีนี้ ปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ต้องใช้เวลากี่ปีจึงพ้นผิด%การไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่มากน้อยเพียงใด
5.เข้ากองประจำการแล้ว หาวันเวลาหนีออกมาโดยยังไม่ครบกำหนดปลดทหาร เช่น เข้ามาได้เพียง 3 วัน ก็หาวิธีหนีออกจากค่ายทหาร แล้วไปกบดานตามที่ต่างๆ คนที่คิดหนีทหารวิธีนี้ ปลอดภัยมากน้อยเพียงใด ต้องใช้เวลากี่ปีจึงพ้นผิด%การไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่มากน้อยเพียงใด
มีคนบอกมาว่า ข้อ 5 อันตรายที่สุดและน่ากลัวที่สุด ไม่มั่นใจถูกต้องหรือเปล่า เพราะเสี่ยงเสียชีวิตจากการถูกซ้อมสูง