พาณิชย์ชี้โอกาสสินค้าไทยสดใส หลังประธานาธิบดีใหม่อินโดนีเซียรับตำแหน่ง

กระทู้ข่าว
ประธานาธิบดีใหม่อินโดนีเซียประกาศแผนพัฒนาเศรษฐกิจครั้งใหญ่ส่งผลให้เกิดโอกาสการค้าการลงทุนแก่ผู้ประกอบการไทยหลายด้าน

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า หลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซีย "นายโจโก วิโดโด" จะเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยไปยังอินโดนีเซียเพิ่มมากขึ้น ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโจโก วิโดโด ที่จะเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศโดยจะสร้างถนนเพิ่ม 2,000 กิโลเมตร ท่าเรือใหม่ 10 แห่ง สนามบินใหม่ 10 แห่ง สร้างย่านการค้าใหม่ 500 แห่ง ปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา รวมถึงพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อโยงระหว่างประเทศที่ยังไม่ได้มาตรฐานสากล ลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน และเร่งแก้ไขกฎระเบียบด้านการค้าการลงทุนของอินโดนีเซีย รวมถึงขั้นตอน กระบวนการติดต่อราชการที่มีความยุ่งยากซับซ้อนให้โปร่งใสและเอื้อต่อการลงทุนด้วย


นางอัมพวันฯ ยังเพิ่มเติมอีกว่า อินโดนีเซียเป็นตลาดที่น่าสนใจ ด้วยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน มีอัตราการเติบโตสูงมีประชากรมากที่สุด 248 ล้านคน และมีทรัพยากรที่สำคัญ เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ดีบุก นิกเกิล ทองคำ เงิน เหล็ก มีทรัพยากรทางน้ำและทางการเกษตร ทีมีความหลากหลาย ปัจจุบันอินโดนีเซีย อยู่ระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ การแปรรูปสินค้าเกษตร และประมง เหมืองแร่ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ

ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ อินโดนีเซียเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการเป็นฐานการผลิตแห่งใหม่ ด้วยมีความพร้อมด้านแรงงาน มีทรัพยากรที่ อุดมสมบูรณ์ และความต้องการบริโภคภายในประเทศที่สูงขึ้น ซึ่งล่าสุดโตโยตาเพิ่งเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ที่เมือง คาราวัง ในฝั่งตะวันตกของชวา อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมต้นน้ำและกลางน้ำของอินโดนีเซียยังไม่เข้มแข็งนัก จึงถือเป็นโอกาสของไทยในการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องจากจีนได้ย้ายฐานการผลิตมายังไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และญี่ปุ่นเน้นให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการ R&D ของภูมิภาค เพื่อเป็นฐานการผลิตเจาะตลาด CLMV ที่มีความต้องการด้านยานยนต์สูงซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถรักษาความเป็นหมายเลข 1 ของอาเซียนด้านยานยนต์เอาไว้ได้

หลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนาย โจโก วิโดโด คาดว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการส่งออก สินค้าไทยกลุ่มยานยนต์ พลาสติก เครื่องจักรกลการเกษตร น้ำตาลทราย และเครื่องปรับอากาศ ด้านการลงทุน ไทยควรใช้อินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตสินค้าต้นทุนต่ำเพื่อการแข่งขันในตลาดโลก และเป็นตลาดสำหรับสินค้า อีกทางหนึ่ง สำหรับสาขาที่น่าสนใจในอินโดนีเซีย ได้แก่ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารฮาลาล น้ำมัน ถ่านหิน และเหมืองแร่ สินค้าเกษตรแปรรูป ประมง สปา บริการทางการแพทย์ ธุรกิจก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้าง


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1410516299

เอิ่ม นายโจโก วิโดโด  นี่มาจากการเลือกตั้งนะฮะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่