สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
มีนิทานมาเล่านะครับ...นึกเอง มโนเอง
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำงานของคนไทยที่เคยไปทำงานตปท.คนหนึ่ง
…เด็กชายจม เป็นเด็กบ้านนอก...โตขึ้น ได้มีโอกาสไปเรียนในเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง...
ในวิชาวิทยาศาสตร์...คุณครูให้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ส่งประกวด หัวข้อ "ปาไข่อย่างไรให้ตกไม่แตก"... มีกติกาว่า ครูจะเป็นคนปาไข่เอง ปาลงบนดินสีแดง ให้ไข่ลงอย่างนิ่มนวล ไม่แตก ไม่ร้าว เก็บกลับมาต้มกินได้ และต้องมีสมาชิกในกลุ่ม 10 คน
ก็มีหลายกลุ่มส่งผลงานเข้าประกวด...หนึ่งในนั้น ก็เป็นกลุ่มของด.ช.จม … ตั้งชื่อกลุ่มว่าอย่างเท่ว่า กลุ่ม "หมาตีน (ผี)"
…หัวหน้ากลุ่ม เป็นเด็กหัวกะทิของร.ร. ได้รับรางวัลโครงงานวิทย์มามากมาย และมีสมาชิกระดับหัวกะทิของร.ร.อีกรวม 8 คน…บังเอิญว่า ด.ช.จม เดินผ่านห้องน้ำจะไปฉี่ แล้วสมาชิกกลุ่มนี้ยังขาดอีก 1 คน…จึงได้ลากเอาด.ช.จม เข้าร่วมกลุ่ม เพื่อให้ครบ 10 คน
…กลุ่ม "หมาตีน(ผี)" ก็ได้คิดวิธีต่างๆมากมาย ในการปาไข่ลงดินแดง ไม่ให้แตกร้าว...จนในที่สุด ก็ค้นพบวิธีการ "ปาไข่ลงดินแดงได้ไม่แตก"...และชนะเลิศอันดับหนึ่ง...วิธีและอุปกรณ์ในการปาไข่ลงพื้นไม่แตกนี้ ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในวงการ "ปาไข่"
…ชื่อหัวหน้ากลุ่ม และชื่อกลุ่ม ได้รับจารึกไว้ที่ หนังสือเกียรติประวัติของร.ร.ชื่อดังแห่งนี้...แน่นอนว่า ชื่อของด.ช.จม ไม่ได้อยู่ในนั้น...ก็ใช่สิ เขาไม่ได้เป็นคนคิดคนเดียวนี่นา ดีไม่ดี เขาอาจไม่ได้คิดอะไรเลยก็เป็นได้...ไม่มีใครรู้เนอะ เป็นเรื่องราวภายในกลุ่ม "หมาตีน (ผี)" เท่านั้นที่รู้
…เรื่องราว ก็ดูเหมือนจะมีเพียงเท่านี้ จบด้วยดี ปาไข่แล้วไม่แตก...
…แต่…
…
…
…เมื่อด.ช.จม กลับบ้านนอก...ต้องขอบอกก่อนว่า บ้านเกิดของด.ช.จมนี้ ค่อนข้างกันดาร ไกลปืนเที่ยง ข่าวสารต่างๆ ในเมืองใหญ่ ไม่ค่อยได้มาถึงที่นี่นัก...
…ด.ช.จม ได้กลับไปพร้อมวุฒิเรียนจบการศึกษาจากร.ร.ใหญ่ ชื่อดัง ในเมืองใหญ่...พร้อมกับดีกรีห้อยท้ายว่า "เป็นหนึ่งในทีมผู้คิดค้นวิธีปาไข่ลงดินแดงแล้วไม่แตก"
…ชาวบ้านในหมู่บ้าน ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ ให้ด.ช.จม เป็นยอดนักวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นผลงานระดับหัวเมืองใหญ่ เป็นอัจฉริยะประจำหมู่บ้าน...ทำแผ่นป้ายต้อนรับ จัดงานบรรยายให้ด.ช.จมได้ไปเปิดเผยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้...พร้อมกับคำต่อท้ายให้ชื่อด.ช.จมว่า "ด.ช.จม ผู้คิดค้นวิธีปาไข่ให้ไม่แตกแต่เพียงผู้เดียว"
...ด.ช.จม ก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆ ใครว่าเขาเป็นอัจฉริยะ สุดยอดนักประดิษฐ์ เขาก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆ ไม่ได้บอกว่า เขาไม่ได้คิดคนเดียวนะ ช่วยกันคิดหลายคน … ด.ช.จม ก็เออออไปกับคำสรรเสริญนี้ตลอดเสมอมา
… เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ในหมู่บ้านนั้นอย่างมากมาย … บางคน เป็นถึงระดับ "สาวก" ยอมออกตัวแทนด.ช.จมได้ทุกสถานการณ์
…
…ชาวหมู่บ้านนี้ ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้หมู่บ้านไหนๆในโลก...
…
…
...เวลาผ่านไป...หลายสิบปี...
ชาวหมู่บ้านนี้ ได้ไปเรียนในเมืองใหญ่กันมากขึ้น...ด.ช.จม เติบโตขึ้น เป็น นายจม...
…บางคนได้ไปเรียนในร.ร.เดียวกับนายจม...บางคนได้เรียนร.ร.ในจังหวัดอื่นที่โด่งดังไม่แพ้กัน...
…หลายคน ไปพร้อมความมุ่งมั่น อยากเป็นอัจฉริยะ คิดค้นโครงงานวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เท่ๆ เก๋ๆ อย่าง นายจม...
…ทุกคน ต่างก็ฉงนกันว่า เอ…ทำไม ไม่มีหลักฐาน หรือคำบอกกล่าวอะไรเกี่ยวกับ นายจมบ้างเลยนะ ในร.ร.นั้น…
…ค้นหาเอกสารทุกอย่าง...ถามอาจารย์เก่าๆ ทุกท่าน...รื้อค้นหา วิธีการปาไข่ให้ไม่แตก...ค้นจนไปเจอโครงงานที่นายจมบอกว่า เป็นผู้คิดค้นเพียงผู้เดียวอันนั้น...กลับไม่ปรากฎแม้แต่ เงาชื่อของนายจมเลย...ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครพูดถึง...
…ทำไมไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมาจากในหมู่บ้านนะ ว่า นายจมนี่แหละ สุดยอดอัจฉริยะ แห่งร.ร.ชื่อดังในเมืองใหญ่ หนึ่งเดียวผู้นี้ ไม่มีใครคิดวิธีปาไข่ให้ไม่แตกได้ มีแต่นายจมผู้นี้ผู้เดียวเท่านั้นที่คิดได้ (ด้วยวิธีขึ้นไปตีลังกาสามรอบครึ่ง แล้วม้วนหลังอีกห้ารอบ บนยอดตึกสูงที่สุดในเมืองนั้น...อันนี้ นายจมมาเพิ่มเติมข้อมูลในชาวบ้านฟังทีหลัง หลังจากที่ตระเวนบรรยายความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการปาไข่นั้น...แต่นายจม ไม่เคยแสดง การปาไข่อันล้ำลึกนั้นให้ชาวบ้านได้ดูเลยแม้แต่ครั้งเดียว)
…เหตุการณ์ก็ผ่านมานานแล้ว...
ชาวบ้านในหมู่บ้าน ก็เริ่มมาค่อนแคะ คอยถามแว่วๆกันเนืองๆ ว่า นายจม เป็นสุดยอดอัจฉริยะนักประดิษฐ์ จริงหรือ???
…นายจม ก็ไม่ตอบอะไร ไม่ปฏิเสธ ไม่แก้ไขใดๆ...ก็ยังคงมีเหล่า "สาวก" ที่ยังเชื่ออย่างสนิทใจท่วมท้นในความสุดยอดของนายจม และคอยออกตัวแก้ตัว แถลงไข แทนนายจมอยู่ตลอด...
…ชาวบ้าน ก็ต่างงงงวยกันมากขึ้นๆ มีข้อกังขากันมากขึ้น
...ข้อมูลที่นายจมบอกเล่าเอง...กับ...ข้อมูลที่ชาวบ้านหลายๆคนที่ติดต่อกับหัวเมืองใหญ่ๆได้ ทำไมมันต่างกันลิบลับนะ...
…
…
…
…
อย่างลืมนะครับ เรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องแต่งขึ้น จากจินตนาการของผมเอง...เพียงแต่ ได้รับ "แรงบันดาลใจ" จากบางเรื่องเท่านั้นเอง....
ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการทำงานของคนไทยที่เคยไปทำงานตปท.คนหนึ่ง
…เด็กชายจม เป็นเด็กบ้านนอก...โตขึ้น ได้มีโอกาสไปเรียนในเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง...
ในวิชาวิทยาศาสตร์...คุณครูให้ทำโครงงานวิทยาศาสตร์ส่งประกวด หัวข้อ "ปาไข่อย่างไรให้ตกไม่แตก"... มีกติกาว่า ครูจะเป็นคนปาไข่เอง ปาลงบนดินสีแดง ให้ไข่ลงอย่างนิ่มนวล ไม่แตก ไม่ร้าว เก็บกลับมาต้มกินได้ และต้องมีสมาชิกในกลุ่ม 10 คน
ก็มีหลายกลุ่มส่งผลงานเข้าประกวด...หนึ่งในนั้น ก็เป็นกลุ่มของด.ช.จม … ตั้งชื่อกลุ่มว่าอย่างเท่ว่า กลุ่ม "หมาตีน (ผี)"
…หัวหน้ากลุ่ม เป็นเด็กหัวกะทิของร.ร. ได้รับรางวัลโครงงานวิทย์มามากมาย และมีสมาชิกระดับหัวกะทิของร.ร.อีกรวม 8 คน…บังเอิญว่า ด.ช.จม เดินผ่านห้องน้ำจะไปฉี่ แล้วสมาชิกกลุ่มนี้ยังขาดอีก 1 คน…จึงได้ลากเอาด.ช.จม เข้าร่วมกลุ่ม เพื่อให้ครบ 10 คน
…กลุ่ม "หมาตีน(ผี)" ก็ได้คิดวิธีต่างๆมากมาย ในการปาไข่ลงดินแดง ไม่ให้แตกร้าว...จนในที่สุด ก็ค้นพบวิธีการ "ปาไข่ลงดินแดงได้ไม่แตก"...และชนะเลิศอันดับหนึ่ง...วิธีและอุปกรณ์ในการปาไข่ลงพื้นไม่แตกนี้ ได้รับการใช้อย่างแพร่หลายในวงการ "ปาไข่"
…ชื่อหัวหน้ากลุ่ม และชื่อกลุ่ม ได้รับจารึกไว้ที่ หนังสือเกียรติประวัติของร.ร.ชื่อดังแห่งนี้...แน่นอนว่า ชื่อของด.ช.จม ไม่ได้อยู่ในนั้น...ก็ใช่สิ เขาไม่ได้เป็นคนคิดคนเดียวนี่นา ดีไม่ดี เขาอาจไม่ได้คิดอะไรเลยก็เป็นได้...ไม่มีใครรู้เนอะ เป็นเรื่องราวภายในกลุ่ม "หมาตีน (ผี)" เท่านั้นที่รู้
…เรื่องราว ก็ดูเหมือนจะมีเพียงเท่านี้ จบด้วยดี ปาไข่แล้วไม่แตก...
…แต่…
…
…
…เมื่อด.ช.จม กลับบ้านนอก...ต้องขอบอกก่อนว่า บ้านเกิดของด.ช.จมนี้ ค่อนข้างกันดาร ไกลปืนเที่ยง ข่าวสารต่างๆ ในเมืองใหญ่ ไม่ค่อยได้มาถึงที่นี่นัก...
…ด.ช.จม ได้กลับไปพร้อมวุฒิเรียนจบการศึกษาจากร.ร.ใหญ่ ชื่อดัง ในเมืองใหญ่...พร้อมกับดีกรีห้อยท้ายว่า "เป็นหนึ่งในทีมผู้คิดค้นวิธีปาไข่ลงดินแดงแล้วไม่แตก"
…ชาวบ้านในหมู่บ้าน ต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ ให้ด.ช.จม เป็นยอดนักวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นผลงานระดับหัวเมืองใหญ่ เป็นอัจฉริยะประจำหมู่บ้าน...ทำแผ่นป้ายต้อนรับ จัดงานบรรยายให้ด.ช.จมได้ไปเปิดเผยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้...พร้อมกับคำต่อท้ายให้ชื่อด.ช.จมว่า "ด.ช.จม ผู้คิดค้นวิธีปาไข่ให้ไม่แตกแต่เพียงผู้เดียว"
...ด.ช.จม ก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆ ใครว่าเขาเป็นอัจฉริยะ สุดยอดนักประดิษฐ์ เขาก็ไม่ได้โต้แย้งใดๆ ไม่ได้บอกว่า เขาไม่ได้คิดคนเดียวนะ ช่วยกันคิดหลายคน … ด.ช.จม ก็เออออไปกับคำสรรเสริญนี้ตลอดเสมอมา
… เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ในหมู่บ้านนั้นอย่างมากมาย … บางคน เป็นถึงระดับ "สาวก" ยอมออกตัวแทนด.ช.จมได้ทุกสถานการณ์
…
…ชาวหมู่บ้านนี้ ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้หมู่บ้านไหนๆในโลก...
…
…
...เวลาผ่านไป...หลายสิบปี...
ชาวหมู่บ้านนี้ ได้ไปเรียนในเมืองใหญ่กันมากขึ้น...ด.ช.จม เติบโตขึ้น เป็น นายจม...
…บางคนได้ไปเรียนในร.ร.เดียวกับนายจม...บางคนได้เรียนร.ร.ในจังหวัดอื่นที่โด่งดังไม่แพ้กัน...
…หลายคน ไปพร้อมความมุ่งมั่น อยากเป็นอัจฉริยะ คิดค้นโครงงานวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เท่ๆ เก๋ๆ อย่าง นายจม...
…ทุกคน ต่างก็ฉงนกันว่า เอ…ทำไม ไม่มีหลักฐาน หรือคำบอกกล่าวอะไรเกี่ยวกับ นายจมบ้างเลยนะ ในร.ร.นั้น…
…ค้นหาเอกสารทุกอย่าง...ถามอาจารย์เก่าๆ ทุกท่าน...รื้อค้นหา วิธีการปาไข่ให้ไม่แตก...ค้นจนไปเจอโครงงานที่นายจมบอกว่า เป็นผู้คิดค้นเพียงผู้เดียวอันนั้น...กลับไม่ปรากฎแม้แต่ เงาชื่อของนายจมเลย...ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีใครพูดถึง...
…ทำไมไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมาจากในหมู่บ้านนะ ว่า นายจมนี่แหละ สุดยอดอัจฉริยะ แห่งร.ร.ชื่อดังในเมืองใหญ่ หนึ่งเดียวผู้นี้ ไม่มีใครคิดวิธีปาไข่ให้ไม่แตกได้ มีแต่นายจมผู้นี้ผู้เดียวเท่านั้นที่คิดได้ (ด้วยวิธีขึ้นไปตีลังกาสามรอบครึ่ง แล้วม้วนหลังอีกห้ารอบ บนยอดตึกสูงที่สุดในเมืองนั้น...อันนี้ นายจมมาเพิ่มเติมข้อมูลในชาวบ้านฟังทีหลัง หลังจากที่ตระเวนบรรยายความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการปาไข่นั้น...แต่นายจม ไม่เคยแสดง การปาไข่อันล้ำลึกนั้นให้ชาวบ้านได้ดูเลยแม้แต่ครั้งเดียว)
…เหตุการณ์ก็ผ่านมานานแล้ว...
ชาวบ้านในหมู่บ้าน ก็เริ่มมาค่อนแคะ คอยถามแว่วๆกันเนืองๆ ว่า นายจม เป็นสุดยอดอัจฉริยะนักประดิษฐ์ จริงหรือ???
…นายจม ก็ไม่ตอบอะไร ไม่ปฏิเสธ ไม่แก้ไขใดๆ...ก็ยังคงมีเหล่า "สาวก" ที่ยังเชื่ออย่างสนิทใจท่วมท้นในความสุดยอดของนายจม และคอยออกตัวแก้ตัว แถลงไข แทนนายจมอยู่ตลอด...
…ชาวบ้าน ก็ต่างงงงวยกันมากขึ้นๆ มีข้อกังขากันมากขึ้น
...ข้อมูลที่นายจมบอกเล่าเอง...กับ...ข้อมูลที่ชาวบ้านหลายๆคนที่ติดต่อกับหัวเมืองใหญ่ๆได้ ทำไมมันต่างกันลิบลับนะ...
…
…
…
…
อย่างลืมนะครับ เรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องแต่งขึ้น จากจินตนาการของผมเอง...เพียงแต่ ได้รับ "แรงบันดาลใจ" จากบางเรื่องเท่านั้นเอง....
ความคิดเห็นที่ 6
ผมรู้มานานแล้ว เมื่อก่อนก็มีแชร์ในเฟสบุค แล้วก็เคยมีดราม่าในบอร์ดเก่าพันทิปไปสองรอบ
จริงๆมีมากกว่านั้นแต่บางกระทู้โดนเก็บ
เอออีกอย่าง เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะสันดานเสียอย่างนึงของคนไทยบางคน(เยอะนะ)
คือชอบเป็นผู้ฟังไม่ชอบคิดเองก็เลยโดนจูงจมูกง่าย ยิ่งคนที่พูดเป็นพวกมียศศักดิ์ใหญ่โต
เป็นด๊อกเตอร์พวกนี้พูดอะไรมั่วๆก็ตามต้องมีคนที่หลงเชื่อ เชื่อโดยไม่คิดซะด้วย
แถมคนที่เชื่อบางคนก็เป็นพวกการศึกษาดีซะด้วยสิ เป็นเพราะแบบนี้ ตรรกกะเพี้ยนๆ
ถึงได้เกิดขึ้นมากมายในบ้านเรา
จริงๆมีมากกว่านั้นแต่บางกระทู้โดนเก็บ
เอออีกอย่าง เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะสันดานเสียอย่างนึงของคนไทยบางคน(เยอะนะ)
คือชอบเป็นผู้ฟังไม่ชอบคิดเองก็เลยโดนจูงจมูกง่าย ยิ่งคนที่พูดเป็นพวกมียศศักดิ์ใหญ่โต
เป็นด๊อกเตอร์พวกนี้พูดอะไรมั่วๆก็ตามต้องมีคนที่หลงเชื่อ เชื่อโดยไม่คิดซะด้วย
แถมคนที่เชื่อบางคนก็เป็นพวกการศึกษาดีซะด้วยสิ เป็นเพราะแบบนี้ ตรรกกะเพี้ยนๆ
ถึงได้เกิดขึ้นมากมายในบ้านเรา
ความคิดเห็นที่ 4
เจ้าของฟาร์ม Apple ก็มีส่วนช่วยคิดค้น แรงโน้มถ่วงนะครับ
นิวตันมันแค่คนป่าวประกาศ
เจ้าของฟาร์มนั่งสมาธิทุกเช้า ก่อนเดินทางมาปลูกต้นแอปเปิ้ล ก่อนที่จะบรรลุได้ว่าต้องปลูกให้นานเท่าไรจึงจะมีลูกแอปเปิ่ลตกบนพื้นโลกได้ เพื่อให้นิวตันเห็นและไปประกาศต่อ
ชาบู Steve Jobs
อ้าว คนละ Apple !!!!!!
นิวตันมันแค่คนป่าวประกาศ
เจ้าของฟาร์มนั่งสมาธิทุกเช้า ก่อนเดินทางมาปลูกต้นแอปเปิ้ล ก่อนที่จะบรรลุได้ว่าต้องปลูกให้นานเท่าไรจึงจะมีลูกแอปเปิ่ลตกบนพื้นโลกได้ เพื่อให้นิวตันเห็นและไปประกาศต่อ
ชาบู Steve Jobs
อ้าว คนละ Apple !!!!!!
แสดงความคิดเห็น
อยากรู้ว่าตกลง ดร.อา-จ-องเค้าทำงานให้NASAจริงรึเปล่าครับ?
เพราะ จขกท.เองก็เคยดูโฆษณาตัวนึงแล้วเชื่อมาตลอดว่าคนไทยเก่งมาก ถ้าที่เพจเขียนนี้เป็นเรื่องจริงนี่....ช็อคครับ
โควตมาจากเพจ โจ๊ก***ครับ อาจมีคำไม่สุภาพก็ขออภัยด้วยครับ
""คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไรก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก"
.
เป็นคำพูดติดหูมาจากโฆษณาๆหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดสำนวนพวกนี้มักจะเป็นโฆษณาพวกเบียร์ไม่ก็เหล้า เพราะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นโฆษณาเบียร์ไทยอันไหนโฆษณาทำนองว่า เฮ้ย เบียร์นี้ดื่มแล้วนุ่มคอ เมาวะ หรอยแรง หรอยจังนิ อะไรทำนองนี้เลยฮะ
.
ย้อนกลับไปในวัยที่ยังไม่มีขนในที่ลับ(ขนรักแร้ อย่าคิดลึกสัส)
จำได้คร่าวๆว่าโฆษณาชิ้นนี้เชิดชูว่ามีคนไทยคนหนึ่ง ได้คิดค้นระบบลงจอดให้กับยานของ NASA ผมฟังตอนแรก แม่ คนไทยเทพเลยวะ เทพ เทพ เทพ ถ้าเราตั้งใจอย่างเขา เราต้องทำได้อย่างเขาแน่ๆ เพราะเค้าก็คนไทยเหมือนกับเรา
.
ใช่ฮะ เรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้คือเรื่องเกี่ยวกับท่าน ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
.
นึกยังไงถึงเล่า ? เห็นว่า สพฐ.ตั้ง ดร.อาจอง ชุมสาย เป็นประธานบอร์ดรื้อหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศน่ะฮะ เลยอยากเอาประวัติแกมาลงซักหน่อย ซึ่งแน่นอนมันย่อมเป็นประวัติที่เราๆท่านๆหาอ่านกันไม่ได้ง่ายๆหรอก
.
ตั้งแต่เล็กจนโตผมเชื่อมาโดยตลอดว่าท่านเป็นผู้คิดค้นระบบลงจอดให้กับ NASA เพราะเห็นท่านพูดบนเวทีนู้นที บนเวทีนี้ที ด้วยความภูมิใจ ผมเองก็ภูมิใจฮะที่เห็นคนไทยเก่งขนาดนี้
.
แต่คำถามคือ ที่เค้าพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ?
.
จากที่ผมได้อ่านจากผู้รู้หลายๆท่านทำให้ทราบว่า เรื่องที่ดร.ท่านนี้เล่าล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้นครับ
.
อย่างแรกเลย เค้าไม่ได้เป็น"ผู้คิดค้น"ระบบลงจอดของยานไวกิ้ง(โดยเค้าอ้างว่าคิดได้เพราะการนั่งสมาธิ)
ลิงค์ที่แกพูดว่าแกนั่งสมาธิ แล้วเกิดปิ๊งขึ้นมา ชมตั้งแต่นาทีที่ 5 เป็นต้นไปฮะ
http://www.youtube.com/watch?v=0Tj9HaPxfhc
.
เพราะจริงๆแล้ว NASA จ้างบริษัท Martin Marrietta ให้เป็นผู้บริหารโครงการยานอวกาศ และก็ออกแบบยานให้ได้ตามที่ NASA สั่ง
.
ซึ่งบริษัท Martin Marrietta ก็ไปหาผู้ผลิต "ชิ้นส่วน"ต่างๆ มาจากหลายๆที่ครับ และมีอยู่ชิ้นส่วนนึงที่ไปจ้างบริษัท นิโครเมกา(ไมโครเมกา) ให้ผลิตชิปส่งสัญญาณไมโครเวฟ
.
ซึ่ง ดร. อาจอง แกทำงานอยู่ในบริษัทนิโครเมกา(ไมโครเมกา)นี่แหละ สรุปคือแกเป็นเพียงผู้ผลิต"ชิ้นส่วนหนึ่ง"ของยานอวกาศครับ ไม่ใช่เป็น"ผู้คิดค้นระบบลงจอด" ตามที่แกกล่าวอ้างว่า นั่งสมาธิอยู่ดีๆก็เกิดปิ๊งระบบไอพ่นฝักบัวได้ เพราะไอระบบไอพ่นฝักบัวที่ว่านั้น บริษัท Martin marrietta เป็นคนคิดครับ ไม่ใช่ ดร. อาจอง
.
แล้วแกก็พูดให้คนเข้าใจไปว่าแกเป็นนักวิทยาศาสตร์ NASA !!!
.
อันนี้เป็นลิงค์อ้างอิงที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ไว้ครับ
.
1) https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10205042479043496&set=p.10205042479043496&type=1
.
2)https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10205042452802840&set=p.10205042452802840&type=1
.
ที่ฮากว่านั้น ถ้าเราลองค้นหาคำว่า นักวิทย์ดีเด่น อาจอง ชุมสาย
เราจะเจอหลายเวปที่อ้างว่า แกได้รางวัลนักวิทย์ดีเด่นปี 2527
ทั้งที่จริงๆแล้ว ในปี 2527 คนที่ได้รางวัลนักวิทย์ดีเด่นคือ ศ.ดร. ยงยุทธ ยุทธวงศ์
.
เวปที่อ้าง
http://sciexpo.sskru.ac.th/index.php/scientists-thailand11
.
ข้อเท็จจริง
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
.
ใครอยากรู้เรื่องวีระกรรมความเงิบของ ดร. คนนี้ เชิญอ่านดราม่าของจ่าพิชิตได้ฮะ
http://drama-addict.com/2011/04/26/%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%99/
.
.
ถามว่า ที่ผมเล่ามาทั้งหมดผมต้องการจะสื่ออะไร
ผมแค่อยากจะบอกว่าในโลกนี้มันมีทั้งคนที่พร้อมจะพูดจริง และพร้อมที่จะพูดครับ เราต้องแยกแยะให้ออก อย่าเพิ่งรีบเชื่อสิ่งที่เค้าพูด
.
และที่สำคัญคนส่วนมากที่ มีหน้ามีตาในสังคมด้วยนี่ซิ
.
ลองคิดกันเล่นๆละกันฮะ ถ้าคนอย่างนี้ได้รับหน้าที่เป็นประธานบอร์ดรื้อหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศ ชีวิตลูกๆหลายๆของท่านจะเป็นอย่างไร
.
นี่ยังไม่รวมที่แกเคยแพล่มว่าถ้าสร้างพีระมิดใหญ่ๆแล้วให้เด็กไปนอนข้างในจะได้รับพลังงาน แล้วถ้าเอาพีระมิดวางใต้เตียงจะทำให้เด็กนอนหลับสนิท
ลิงค์ข้อมูล
https://www.facebook.com/quoteV2/photos/pb.511585615610016.-2207520000.1409410873./556076124494298/?type=1
"
(มีคอมเม้นนึงบอกว่า งี้ถ้าทำงานเป็นเด็กเสริฟMcDonaldร้านข้างๆNASAก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งขององการNASAแล้วสินะ ฮาาาาาาาาาาา)