:: Man Utd : แฟนปีศาจแดง คิดยังไงกับการเสริมทีม 2014 นี้บ้างครับ? ::



ถัดจากฤดูกาลที่ล้มเหลว มาสู่การเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ที่ย่ำแย่ และตามมาด้วยการซื้อตัวที่โหดร้ายทารุณที่สุดในประวัติศาสตร์แมนฯยูไนเต็ด

เห็นมีแฟนตปท.แซวขำๆ นะว่าพวกตัวใหม่นี่แนวฝั่งซ้ายกันเพียบ 555 ชอว์, โรโฮ, บรินด์, ขยับสูงมาหน่อยก็ ดิมาเรีย


แนวรุก -
ทีมปล่อย ชิชาริโต้ กับ เวลเบ็ค ออกไป
แล้วแทนที่ด้วย ราดาเมล ฟัลเกา

ริมเส้น -
ทีมปล่อย นานี่ ออกไป (อาจจะบวก ว.ซาฮา ไปอีกคน)
และแทนที่ด้วย อังเคล ดิมาเรีย

ตรงกลาง -
ทีมปล่อย เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ คากาวะ ออกไป
และแทนที่ด้วย อันเดอ เอเรร่า

แผงหลัง -
ทีมปล่อย ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วีดิช, พาทริซ เอฟร่า, อเล็กซ์ บุตเนอร์ ออกไป
และแทนที่ด้วย ลุค ชอว์, มากอส โรโฮ, และ ดาลี่ย์ บลินด์


ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คงขึ้นอยู่กับแทคติคใหม่ของบอสด้วย ที่เป็นปัจจัยหลักในการปรับเปลี่ยนผู้เล่น พอเข้าใจว่าบางจุดอาจจะตรงใจแฟน และบางจุดอาจจะยังไม่ตรงใจเท่าไหร่

ประเด็นที่แฟนยูไนเต็ดคุยกันมาก คงเป็นการดีล เวลเบ็ค vs ฟัลเกา เพราะแน่นอนว่าแฟนๆ ย่อมอยากได้นักเตะระดับโลกเข้ามาเสริมทีมในช่วงที่ทีมกำลังต้องการแรงกระตุ้น ฉุดกระชากขึ้นมาจากช่วงเวลาที่ฟอร์มตกต่อเนื่องยาวนาน

แต่การปล่อย เวลเบ็ค ออกไปก็ทำให้สิ่งที่แฟนๆ คุ้นเคยมานาน กับการได้ดูเยาวชน เด็กท้องถิ่นของทีมค่อยๆ เติบโตขึ้นมาเป็นที่รัก ได้หายไป (บ้างแล้ว) ถ้าเอาแค่ตามหน้ากระดาษ สถิติของ Welbz ไม่น่าจะดีจะเล่นกระทั่งกับทีมกลางตารางด้วยซ้ำ แต่เพราะ "ศักยภาพ" ป๋าถึงได้ดันหนุ่มก้านยาวคนนี้มาตลอด

ด้วยมาตรฐานและความคาดหวังระดับ แมนฯยูไนเต็ด ทีมพร้อมให้โอกาสนักเตะทุกคนที่ฟอร์มแย่ๆ ได้  ...ตราบเท่าที่ทีมยังได้แชมป์

ย้อนกลับไป คงจำได้ สมัยยุคป๋า มีนักเตะตั้งหลายคนที่เคยถูกบ่น โขกสับ แต่ก็แขวนพระแคล้วคลาดมาได้ บ่นแล้วก็แล้วกันไป เพราะอะไร ก็เพราะทีมยังชนะ ทีมยังได้แชมป์ จะเล่นสวยบ้างไม่สวยบ้าง จะฟลุ๊คจะมาเฟีย สุดท้ายก็เป็นผู้ชูถ้วย

มาปัจจุบัน สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ไฟลนก้น ถึงจุดที่พื้นให้ความผิดพลาดเริ่มหดเล็กลงเรื่อยๆ ความอดทนของแฟนบอลเริ่มต่ำลง ที่ยืนของนักเตะที่ "ไม่สำเร็จรูป" จึงลดน้อยลงตามไปด้วย

หากสลับช่วงเวลาแล้ว ถ้า คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ เกิดเข้ามาที่ โอล แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงนี้ ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าแฟนๆ จะอดทนรับฟอร์มสร้างไม่เสร็จของดาวโรจน์รายนี้ได้หรือไม่ หรือต้องระเห็จออกไปอีกราย


ในระยะยาว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปี อาจจะ 2 อาจจะ 3 ปี เราก็คงได้คำตอบเองว่า การปล่อย แดนนี่ เวลเบ็ค ของ หลุยส์ ฟานกัล เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่


แต่ส่วนตัว ก็ไม่เคยอยากแช่งชักหักกระดูกให้อดีตเด็กผีทั้งหลายเล่นไม่ดีนะ อยากให้ทุกคนออกไปแล้วประสบความสำเร็จ บางที เวลเบ็ค อาจได้ขึ้นไปแทนที่ ฟานเพอร์ซี ที่เอมิเรตก็เป็นได้! (ขนาดนั้นเลยนะ 555)



กลับมาที่การเสริมทีม แผงหลัง ดูไม่น่าไว้วางใจเลย ไม่มีเซ็นเตอร์สำเร็จรูปเข้ามาเลย จะว่าบอสไว้ใจ โจนส์, สมอลลิ่ง, อีวานส์ หรือจนปัญญาจะดึง "ของจริง" ที่อื่นมาได้ ก็ยากจะเดา

ตรงกลาง จากข่าวทั้งหลาย ไม่ว่ากับ วิดัล หรือ สตรูทมัน ก็น่าจะชัดว่าบอสมองเหมือนแฟนๆ ว่ากลางยวบไปหน่อย และ เอเรร่า น่าจะเหมาะกับเกมที่ทีมได้ครองบอล เป็นพวกจ่ายบอล ไม่ใช่พวกไปวิ่งไล่เอาบอลคืนมาจากคู่แข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ระยะหลังนักเตะยูไนเต็ดต้องทำบ่อยเหลือเกิน

"หัวหอก" ของยูไนเต็ดนั้นคมกริบอยู่แล้ว RVP & Roon พ่วงด้วย "Little Pea" พิสูจน์ตัวเองมาตั้งแต่ยุคป๋ายังคุมทีม และไม่น่าเป็นคำถาม การมาของ ฟัลเกา ก็อาจคล้ายๆ มี iPhone 5s อยู่แล้วแต่ไปถอย iPhone 6 มา ก็ดีขึ้น แต่ที่มีก็ดีและแทบไม่จำเป็นต้องเสริมอยู่แล้ว

ปัญหาของยูไนเต็ดไม่น่าใช่ที่การจบสกอร์ แต่หาช่องเจาะไม่เจอเลยต่างหาก ลำเลียงบอลขึ้นไปด้วยความเร็วระดับรถจักรยานบนทางลูกรัง

ให้ทีมระดับ มาดริด, บาซ่า, บาเยิร์น ถ้าทำช้า ปล่อยให้คู่แข่งมาแพ็คเกมรับตามที่จัดแจงมา ก็ยังปวดหัวและยากจะเข้าทำ

ขนาดมีพวก "ข้ามาคนเดียว" ประเภท โรนัลโด้, เมสซี่, หรือ ร็อบเบน ยังยาก

หัวหอกของยูไนเต็ด เป็นหัวหอกคุณภาพ แต่ไม่ใช่พวกข้าเสกเองได้ทุกอย่าง ต้องมีแผนกอื่นคอยทำหน้าที่สนับสนุนตามสมควร


ถ้าทีมจัดการกับเรื่องเกมรุกประเภท ตะกุกตะกัก แบบที่เป็นอยู่ไม่ได้ เราก็อาจได้เห็น RVP กับ ฟัลเกา เดินเกาก้นแกรกๆ แบบเหงาๆ ที่ด้านหน้าในขณะที่บอลยังวนไปวนมาอยู่แถวๆ กลางสนามหาทางไปไม่เจอ แล้วสุดท้ายก็ไปวัดใจกับไตรเทพ โจนส์, สมอลลิ่ง, อีวานส์ กันอีกรอบ


ถ้าเปรียบเป็นคน ครึ่งตัวบนของแมนฯยูไนเต็ด ก็หล่อระดับฮอลลีวู้ดไปแล้ว แขนขวาเป็นรูนี่ย์ แขนซ้ายเป็นดิมาเรีย หัวกับหน้าเป็นฟานเพอร์ซีกับฟัลเกา มีหัวใจเป็นฮวน มาต้า มีเอวมีพุงหน่อยๆ แบบ เอเรร่า, เฟลช, คาริค หรือ เฟลไลนี่ 5555 อ้อ และ อันแดสัน

จะเป็นห่วง ก็ช่วงล่าง...

ก็ไม่แน่ครับ RVG แกอาจหาทางจัดการกับแผงหลังได้ หรือถ้าไม่งั้น ก็ไปลุ้นอีกทีอีก 3 เดือนข้างหน้า ปีใหม่โน่นเลย



...จริงๆ เป็นแบบนี้ผมก็ดีใจเล็กๆ ตรงที่เห็นหลายคนแล้วที่เคยบอกว่า เอา เดวิด มอยส์ ทำไม จัดผจก.เทพๆ เก่งๆ ไปเลย จะเรื่องใจหรือ commitment ไว้ให้มันตามมาทีหลัง ต้องเอาผลงานและความสำเร็จก่อน

ก็อย่างที่บอก "ชื่อชั้น" ก็คล้ายใบปริญญา เป็นแค่ reference เป็นแค่เอาไว้อ้างอิง ถึงเวลาทำจริง เจ้าแต้มต่อเก่าๆ ที่เคยสั่งสมมาไว้ ก็เหลือ 0

2 ในผจก.ทีมที่ดีที่สุดในโลก อย่าง มูรินโญ่ หรือ เซอร์ อเล็กซ์ ก็เป็นเคยพวกที่ "มาจากไหนฟระ" กันทั้งนั้น

และคงไม่ต้องตอกย้ำ search ชื่อผจก.ระดับพระกาฬที่ล้มเหลว ตกม้าตาย มีมามากมานักต่อนัก ให้ระดับ "แชมป์โลก" ยังเหลวมาแล้ว

"คนที่ใช่" ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ไม่มีบัญญัติไตรยางค์ ไม่สามารถเทียบกันง่ายๆ ได้ เคยเก่งที่โน่นจะมาเก่งที่นี่ เคยเทพที่นั่นจะมาเทพที่นี่ อย่าว่าแต่ผจก.ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ซับซ้อน เอาแค่ นักเตะ นักฟุตบอลธรรมดาๆ นี่ก็หักปากกาเซียนเทพ scout กันมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว



ก็ได้แต่หวัง ว่า โอล แทร็ฟฟอร์ด จะกลับมาแข็งแกร่งได้ในเร็ววัน และไม่กลายเป็นทีมที่เปลี่ยนผจก.บ่อยเป็นทิชชู่เหมือนสารพัดโคตรทีมทั่วยุโรป หรือกลายเป็น "สุสานยอดผจก." ที่ต้องแบกเครดิตมาทิ้งที่นี่กันหมด

อาจดูตื่นตูมไปหน่อย แต่ใจก็กลัวนะ..



ป.ล. มีใครรู้มั้ยครับว่า โรโฮ กับ บลินด์ จะเข้ามาเล่นตำแหน่งอะไร?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่