ได้ฟังข่าวแบบนี้เมื่อเช้าวันนี้ ถ้าให้ทายกันว่า "
ใครเป็นคนที่จะเสนอทางแก้ปัญหาแบบนี้?"
แน่นอนคำตอบที่ได้ ก็คือ "
ประธานสมาคมคนขับแท็คซี่ของพี่ไทยเราเอง"
ถ้าเรามาวิเคราะห์โดยปราศจากอคติกัน ก็จะจำแนกปัญหาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
ด้านปัญหา
1. ปัญหาหลักด้านต้นทุน นั่นคือ "
ของแพง"
--> ค่า LPG ที่จะปรับสูงขึ้น ตามแผนของรัฐบาล
--> ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ค่าเหล้ายาปลาปิ้ง ค่าเช่าบ้าน ค่าบำรุงเมีย ค่าโรงเรียนลูก ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น
(ไม่สุภาพ ต้องขออภัย พูดภาษาชาวบ้านมันได้ฟิวกว่า อิอิ)
2. ปัญหารถติด ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง แก้ไขยังไม่ได้ ณ บัดนาว
--> ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เติมบ่อยก็หมดเงินอีก
--> ใช้เวลามาก ในการไปส่งลูกค้าถึงเป้าหมาย ทำให้รับลูกค้าได้น้อยราย รายได้ก็ลดลง
3. ปัญหาคนขับมือใหม่ ไม่รู้เส้นทาง
--> เมื่อไม่รู้เส้นทางที่จะไป พี่ Taxi บางคนก็ไม่กล้าถามทางผู้โดยสาร และผู้โดยสารบางคนก็ด่าว่าพี่เขาว่าเขาขับรถวน ก็อาจจะไม่รับได้
4. ปัญหาระยะเวลาของการเช่ารถ Taxi
--> พี่ Taxi บางคนเช่ารถขับเป็นกะ ต่อวันจะมี 2 กะ คือ กะเช้า และ กะดึก (บางคนควบ บางคนไม่ควบ) ถ้าใกล้จะถึงเวลาส่งรถก็อาจจะไม่รับได้
(ถ้าเป็น Taxi เขียว-เหลือง จะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาส่งคืนรถครับ)
5. ปัญหาเรื่องอยากได้ทิปจากต่างชาติ
--> จริงๆสืบเนื่องมากจากเรื่องรายรับไม่มาก การรับคนต่างชาติในบางสถานที่ มักจะได้ทิปด้วย คนไทยเราไม่ค่อยให้กัน
ทำให้พี่ Taxi เราเสียนิสัยกันไปหมด
ุ6. ปัญหารูปร่างหน้าตาและสารรูปของผู้โดยสารเอง
--> ถ้าผู้โดยสารดูเถื่อนๆ หรือ ดูแบบไม่มีเงินเลย บางทีพี่ Taxi ก็อาจไม่รับได้ เพราะกลัวโดนทำอันตราย และกลัวเรื่องขับไปส่งแล้วไม่มีเงินจ่ายเขา
(จากประสบการณ์ที่เคยถามๆพี่คนขับมา เขาว่าเจอมาเยอะ เจ็บมาเยอะครับ อิอิ)
ึ7. ปัญหาเรื่องเชื้อเพลิงไม่พอ
--> ถ้าผู้โดยสารบางคนจะไปที่ไกลๆ หรือ ไปที่ย่านชุมชนรถติดๆ ถ้าพี่ Taxi มีเชื้อเพลิงไม่พอ ก็อาจจะไม่รับได้คับ
8. ปัญหารถ Taxi ที่มีมากเกินไป
--> ประมาณว่าคิดอะไรไม่ออก ก็มาขับ Taxi เพราะไม่มีความรู้ ไม่มีการศึกษา สมัครงานบริษัทเขาก็ไม่เอา แงๆ
--> คนบ้านนอก (แบบผม) ไม่มีงานทำ เพาะปลูกก็ไม่ได้ ก็เลยหวังว่าเข้าไปหาเงินในเมืองกรุง น่าจะช่วยได้
--> อู่ Taxi มีเยอะเกิ๊นนน รถมันก็เลยเยอะ สังเกตจากสีรถได้เลย มีเกือบจะครบทุกเฉดสีแล้วมั้ง 555
ส่วนด้านข้อดีละ
1. พี่ Taxi จะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ... ก็อาจจะช่วยลดปัญหาเรื่องรายจ่ายลงได้บ้าง ในระยะเวลาหนึ่ง ถ้าของปรับขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็จะไม่เพียงพอเหมือนเดิม
2. พี่ Taxi จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น ... เมื่อได้เงินเยอะขึ้น ก็ย่อมอยากจะบริการคนให้ดีขึ้น ในระยะเวลาหนึ่งอีกเช่นเคย 555
ปล. คิดได้แค่สองข้อเองนะ พยายามแล้ว
การแก้ปัญหา
ผมไม่ขอสรุปละกันว่า มันจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ดูจากปัญหาต่างๆที่เกิด และข้อดีที่จะไปชดเชยปัญหาเหล่านั้น (พอไหวน่า 2 ต่อ 8 อิอิ)
ที่ผมเห็นมา คือ มีการ (พยายาม) แก้ปัญหาโดยการตั้งกฏหมายจราจรใหม่ ให้มีการเสียค่าปรับแก่พี่ Taxi ที่ไม่รับผู้โดยสารขึ้น
(ความเห็นส่วนตัว ตือ เขามีปัญหาเรื่องรายจ่ายอยู่แล้ว ยังจะไปซ้ำเติมเขาอีก ... ก็ไม่รู้สินะ)
ถ้าเราแก้ปัญหาไม่ตรงจุด มันก็จะไม่จบไม่สิ้นแน่นอน ทำได้ก็เพียงแค่ผักชีโรยหน้า และได้ชื่อว่า
พยายาม แก้ไขปัญหาแล้ว ขอเวลาหน่อย แค่นั้นเอง
อย่าโทษว่าเป็นปัญหาจากการเมือง ลดอคติ แล้วช่วยกันแก้สังคมไทยเราให้ไปด้วยกันดีกว่านะจ๊ะ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ^^
ผู้เขียน: โยโย หนุ่มคิดบวก
แก้ปัญหา Taxi ไม่รับผู้โดยสาร โดยการขึ้นค่าบริการอีก 10% เป็นทางออกจริงหรือ???
ได้ฟังข่าวแบบนี้เมื่อเช้าวันนี้ ถ้าให้ทายกันว่า "ใครเป็นคนที่จะเสนอทางแก้ปัญหาแบบนี้?"
แน่นอนคำตอบที่ได้ ก็คือ "ประธานสมาคมคนขับแท็คซี่ของพี่ไทยเราเอง"
ถ้าเรามาวิเคราะห์โดยปราศจากอคติกัน ก็จะจำแนกปัญหาเป็นข้อๆ ได้ดังนี้
ด้านปัญหา
1. ปัญหาหลักด้านต้นทุน นั่นคือ "ของแพง"
--> ค่า LPG ที่จะปรับสูงขึ้น ตามแผนของรัฐบาล
--> ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ค่าเหล้ายาปลาปิ้ง ค่าเช่าบ้าน ค่าบำรุงเมีย ค่าโรงเรียนลูก ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น
(ไม่สุภาพ ต้องขออภัย พูดภาษาชาวบ้านมันได้ฟิวกว่า อิอิ)
2. ปัญหารถติด ที่เป็นปัญหาเรื้อรัง แก้ไขยังไม่ได้ ณ บัดนาว
--> ทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เติมบ่อยก็หมดเงินอีก
--> ใช้เวลามาก ในการไปส่งลูกค้าถึงเป้าหมาย ทำให้รับลูกค้าได้น้อยราย รายได้ก็ลดลง
3. ปัญหาคนขับมือใหม่ ไม่รู้เส้นทาง
--> เมื่อไม่รู้เส้นทางที่จะไป พี่ Taxi บางคนก็ไม่กล้าถามทางผู้โดยสาร และผู้โดยสารบางคนก็ด่าว่าพี่เขาว่าเขาขับรถวน ก็อาจจะไม่รับได้
4. ปัญหาระยะเวลาของการเช่ารถ Taxi
--> พี่ Taxi บางคนเช่ารถขับเป็นกะ ต่อวันจะมี 2 กะ คือ กะเช้า และ กะดึก (บางคนควบ บางคนไม่ควบ) ถ้าใกล้จะถึงเวลาส่งรถก็อาจจะไม่รับได้
(ถ้าเป็น Taxi เขียว-เหลือง จะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาส่งคืนรถครับ)
5. ปัญหาเรื่องอยากได้ทิปจากต่างชาติ
--> จริงๆสืบเนื่องมากจากเรื่องรายรับไม่มาก การรับคนต่างชาติในบางสถานที่ มักจะได้ทิปด้วย คนไทยเราไม่ค่อยให้กัน
ทำให้พี่ Taxi เราเสียนิสัยกันไปหมด
ุ6. ปัญหารูปร่างหน้าตาและสารรูปของผู้โดยสารเอง
--> ถ้าผู้โดยสารดูเถื่อนๆ หรือ ดูแบบไม่มีเงินเลย บางทีพี่ Taxi ก็อาจไม่รับได้ เพราะกลัวโดนทำอันตราย และกลัวเรื่องขับไปส่งแล้วไม่มีเงินจ่ายเขา
(จากประสบการณ์ที่เคยถามๆพี่คนขับมา เขาว่าเจอมาเยอะ เจ็บมาเยอะครับ อิอิ)
ึ7. ปัญหาเรื่องเชื้อเพลิงไม่พอ
--> ถ้าผู้โดยสารบางคนจะไปที่ไกลๆ หรือ ไปที่ย่านชุมชนรถติดๆ ถ้าพี่ Taxi มีเชื้อเพลิงไม่พอ ก็อาจจะไม่รับได้คับ
8. ปัญหารถ Taxi ที่มีมากเกินไป
--> ประมาณว่าคิดอะไรไม่ออก ก็มาขับ Taxi เพราะไม่มีความรู้ ไม่มีการศึกษา สมัครงานบริษัทเขาก็ไม่เอา แงๆ
--> คนบ้านนอก (แบบผม) ไม่มีงานทำ เพาะปลูกก็ไม่ได้ ก็เลยหวังว่าเข้าไปหาเงินในเมืองกรุง น่าจะช่วยได้
--> อู่ Taxi มีเยอะเกิ๊นนน รถมันก็เลยเยอะ สังเกตจากสีรถได้เลย มีเกือบจะครบทุกเฉดสีแล้วมั้ง 555
ส่วนด้านข้อดีละ
1. พี่ Taxi จะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ... ก็อาจจะช่วยลดปัญหาเรื่องรายจ่ายลงได้บ้าง ในระยะเวลาหนึ่ง ถ้าของปรับขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็จะไม่เพียงพอเหมือนเดิม
2. พี่ Taxi จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น ... เมื่อได้เงินเยอะขึ้น ก็ย่อมอยากจะบริการคนให้ดีขึ้น ในระยะเวลาหนึ่งอีกเช่นเคย 555
ปล. คิดได้แค่สองข้อเองนะ พยายามแล้ว
การแก้ปัญหา
ผมไม่ขอสรุปละกันว่า มันจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ดูจากปัญหาต่างๆที่เกิด และข้อดีที่จะไปชดเชยปัญหาเหล่านั้น (พอไหวน่า 2 ต่อ 8 อิอิ)
ที่ผมเห็นมา คือ มีการ (พยายาม) แก้ปัญหาโดยการตั้งกฏหมายจราจรใหม่ ให้มีการเสียค่าปรับแก่พี่ Taxi ที่ไม่รับผู้โดยสารขึ้น
(ความเห็นส่วนตัว ตือ เขามีปัญหาเรื่องรายจ่ายอยู่แล้ว ยังจะไปซ้ำเติมเขาอีก ... ก็ไม่รู้สินะ)
ถ้าเราแก้ปัญหาไม่ตรงจุด มันก็จะไม่จบไม่สิ้นแน่นอน ทำได้ก็เพียงแค่ผักชีโรยหน้า และได้ชื่อว่า พยายาม แก้ไขปัญหาแล้ว ขอเวลาหน่อย แค่นั้นเอง
อย่าโทษว่าเป็นปัญหาจากการเมือง ลดอคติ แล้วช่วยกันแก้สังคมไทยเราให้ไปด้วยกันดีกว่านะจ๊ะ
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ^^
ผู้เขียน: โยโย หนุ่มคิดบวก