มาเล่าประสบการณ์การลงทุนครั้งแรกให้ฟังค่ะ แต่เป็นประสบการณ์ขาดทุนนะคะ 555 เอามาแชร์ให้ฟังกัน
คือเราแค่อยากลองหาเงินไปเที่ยวสิงคโปร์ค่ะ เลยอยากหาอาชีพเสริมมาทำเงินสักหน่อย
เลยเอากล้อง DSLR ที่ช่วงหลังไม่ค่อยได้ใช่ไปจำนำที่ Easy Money ค่ะ
(ขอโฆษณานิดนึงด้วยความประทับใจส่วนตัว : บริการดีค่ะ เงินให้ในราคาที่โอเคเลยค่ะ)
แล้วก็ลงทุนเปิดร้านอาหารปิ่นโตมาขายเพื่อนที่ทำงาน โดยลงทุนซื้อกล่องข้าวแบบที่เข้าไมโครเวฟได้เฉลี่ยกล่องละ 5 บาท แล้วก็ตื่นมาทำกับข้าวเองอะไรเองกับแม่ เพราะว่าแม่เราทำอาหารเก่งและเป็นแม่บ้านอยู่เลยไม่ต้องยุ่งยากมาก โดยจะเป็นการส่งอาหารถึงโต๊ะในมื้อเช้าทุกๆวันแบบร้อนๆค่ะ
ราคาก็อยู่ที่ 40-60 บาทค่ะ เมนูหลากหลายกันไป ส่วนใหญ่คือจะเป็นเมนูที่คุณแม่ทำให้เรากินบ่อยๆ
มีตั้งแต่เมนูไทยๆ แบบข้าวน้ำพริกกระปิ ไปจนถึงเมนูออกญี่ปุ่นอย่าง ข้าวแกงกระหรี่ แล้วก็ยังมีสลัดทงคัตสึด้วยค่ะ
ข้าวผัดมันกุ้ง 40 บาท
ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นหมูทอดทงคัตสึ 60 บาท
ข้าวห่อไข่แบบไข่ 2 ฟอง 40 บาท
ข้าวผัดอเมริกัน 45 บาท
ตอนแรกคาดหวังว่า ว้าวฉันต้องมีเงินไปเที่ยวแน่ๆเลย
แต่ในความเป็นจริงทำไปสามเดือน ก็ได้แค่พอดีตัวค่ะ
แหะแหะ คือมีกำไรบ้าง แต่เหนื่อยมากๆ แถมบางทีเราก็งานยุ่งจนไม่มีเวลาเดินไปถามเขาเอง ทำให้บางทีก็ไม่มีออเดอร์
แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ อย่างหนึ่งค่ะ ข้อดีเลยคือคุณแม่แฮปปี้กว่าการนั่งอยู่บ้านเฉยๆ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย แต่สนุกดูแฮปปี้กับการทำอาหาร คิดเมนู
แต่ที่แน่ๆ ทำให้เรารู้อย่างหนึ่งเลยว่าการทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งมันไม่ง่ายเลย ยิ่งไม่มีการวางแผนแบบเราเราแล้วยิ่งไม่ได้เรื่อง บางทีเราก็ไม่ได้มองปัญหาแบบครอบคลุมเช่นบางคนชอบกินแบบเรียบง่าย ไม่ชอบเมนูฟิวชั่น ไม่ชอบอะไรแปลกๆ ส่วนบางคนชอบกินแกงกะหรี่บ่อยๆ แถมพอทำไปเรื่อยๆ เริ่มตันค่ะว่าจะทำเมนูอะไรดีนะ บางส่วนก็ติงว่าราคาแพงไป
นี่ก็ยังไม่เข็ดค่ะ กลับมาจากสิงคโปร์มีไอเดียใหม่ๆ อยากทำขายอีก สงสัยต้องจับกล้องตัวเดิมไปจำนำอีกรอบ แหะ แหะ
แต่คงต้องวางแผนอีกสักหน่อย หากเพื่อนๆ มีคำแนะนำช่วยแนะนำติชมด้วยนะคะ เผื่อจะกลับมาเปิดครัวขายอีกรอบ ^^ แต่ถ้าไม่รอดอ่จจะต้องไปขายอย่างอื่นแทน ><
----------------------------------------------------------------------------------
หายไปหลายวันกลับเข้ามาอีกที ได้รับคำแนะนำดีๆหลายอย่างเลย ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
[แชร์ประสบการณ์]ลงทุนร้านอาหารปิ่นโตครั้งแรก..แต่บทเรียนกลับมาเพียบ
คือเราแค่อยากลองหาเงินไปเที่ยวสิงคโปร์ค่ะ เลยอยากหาอาชีพเสริมมาทำเงินสักหน่อย
เลยเอากล้อง DSLR ที่ช่วงหลังไม่ค่อยได้ใช่ไปจำนำที่ Easy Money ค่ะ
(ขอโฆษณานิดนึงด้วยความประทับใจส่วนตัว : บริการดีค่ะ เงินให้ในราคาที่โอเคเลยค่ะ)
แล้วก็ลงทุนเปิดร้านอาหารปิ่นโตมาขายเพื่อนที่ทำงาน โดยลงทุนซื้อกล่องข้าวแบบที่เข้าไมโครเวฟได้เฉลี่ยกล่องละ 5 บาท แล้วก็ตื่นมาทำกับข้าวเองอะไรเองกับแม่ เพราะว่าแม่เราทำอาหารเก่งและเป็นแม่บ้านอยู่เลยไม่ต้องยุ่งยากมาก โดยจะเป็นการส่งอาหารถึงโต๊ะในมื้อเช้าทุกๆวันแบบร้อนๆค่ะ
ราคาก็อยู่ที่ 40-60 บาทค่ะ เมนูหลากหลายกันไป ส่วนใหญ่คือจะเป็นเมนูที่คุณแม่ทำให้เรากินบ่อยๆ
มีตั้งแต่เมนูไทยๆ แบบข้าวน้ำพริกกระปิ ไปจนถึงเมนูออกญี่ปุ่นอย่าง ข้าวแกงกระหรี่ แล้วก็ยังมีสลัดทงคัตสึด้วยค่ะ
ข้าวผัดมันกุ้ง 40 บาท
ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นหมูทอดทงคัตสึ 60 บาท
ข้าวห่อไข่แบบไข่ 2 ฟอง 40 บาท
ข้าวผัดอเมริกัน 45 บาท
ตอนแรกคาดหวังว่า ว้าวฉันต้องมีเงินไปเที่ยวแน่ๆเลย
แต่ในความเป็นจริงทำไปสามเดือน ก็ได้แค่พอดีตัวค่ะ
แหะแหะ คือมีกำไรบ้าง แต่เหนื่อยมากๆ แถมบางทีเราก็งานยุ่งจนไม่มีเวลาเดินไปถามเขาเอง ทำให้บางทีก็ไม่มีออเดอร์
แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ อย่างหนึ่งค่ะ ข้อดีเลยคือคุณแม่แฮปปี้กว่าการนั่งอยู่บ้านเฉยๆ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย แต่สนุกดูแฮปปี้กับการทำอาหาร คิดเมนู
แต่ที่แน่ๆ ทำให้เรารู้อย่างหนึ่งเลยว่าการทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งมันไม่ง่ายเลย ยิ่งไม่มีการวางแผนแบบเราเราแล้วยิ่งไม่ได้เรื่อง บางทีเราก็ไม่ได้มองปัญหาแบบครอบคลุมเช่นบางคนชอบกินแบบเรียบง่าย ไม่ชอบเมนูฟิวชั่น ไม่ชอบอะไรแปลกๆ ส่วนบางคนชอบกินแกงกะหรี่บ่อยๆ แถมพอทำไปเรื่อยๆ เริ่มตันค่ะว่าจะทำเมนูอะไรดีนะ บางส่วนก็ติงว่าราคาแพงไป
นี่ก็ยังไม่เข็ดค่ะ กลับมาจากสิงคโปร์มีไอเดียใหม่ๆ อยากทำขายอีก สงสัยต้องจับกล้องตัวเดิมไปจำนำอีกรอบ แหะ แหะ
แต่คงต้องวางแผนอีกสักหน่อย หากเพื่อนๆ มีคำแนะนำช่วยแนะนำติชมด้วยนะคะ เผื่อจะกลับมาเปิดครัวขายอีกรอบ ^^ แต่ถ้าไม่รอดอ่จจะต้องไปขายอย่างอื่นแทน ><
----------------------------------------------------------------------------------
หายไปหลายวันกลับเข้ามาอีกที ได้รับคำแนะนำดีๆหลายอย่างเลย ขอบคุณมากๆเลยนะคะ