เป้าหมายถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากสำหรับทุกๆคน ที่ทำให้ผู้คนมีแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นแนวทางของตัวเองและก็ผลกำไรที่ได้รับ ผมเองก็จะชอบพูดกับพวกเราในเว็บบล็อกนี้ แต่เรื่องแบบนี้เราจะต้องทำอย่างรอบคอบ
วันนี้ผมมี 4 แนวทางในการทำเป้าหมายตามที่เราได้ตั้งเอาไว้ ผมไม่ได้พยายามบอกให้พวกเราตั้งเป้าหมายสูงๆเอาไว้ ซึ่งมันก็อยู่ที่การประเมินเป้าหมายของแต่ละคนเอง แต่ตรงจุดนี้พวกเราจะต้องวางความคิดในการเยียวยาการเล่นหุ้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายให้ได้ ซึ่งมีดังนี้คือ
1.จะต้องมีสัญชาตญาณในการทำกำไรให้ได้แต่ละเดือนว่าจะทำยอดให้ได้เท่าไร
ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนี้กันได้ และจะต้องทำการฝึกฝนเรื่องนี้เป็นพิเศษ บางครั้งเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ทุกคนจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีในการตัดสินใจเข้าไปเล่นแต่ละครั้ง พวกเราแต่ละคนก็จะต้องใช้ความรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม
พวกเราเคยรู้สึกมีสัญชาตญาณในเรื่องจังหวะโอกาสที่เหมาะสมบ้างหรือเปล่า เคยพูดกับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้หรือเปล่าในการเล่นหุ้นแต่ละปี
หากเราตัดสินใจที่จะควบคุมเงินทุนผลกำไรให้ได้ในแต่ละเดือน ด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย แบบนี้เราจะเห็นจังหวะโอกาสน้อยลงหรือเปล่า เรื่องนี้ก็ต้องดูความเสี่ยงของตัวเองที่ได้รับแต่ละครั้ง มันจะช่วยให้พวกเราสามารถเดินเกมได้ตามกรอบและก็เพิ่มวงเงินเข้าไปเล่นได้อย่างเหมาะสม การยึดมั่นกับการเดินเกมของเราเป็นสิ่งที่ดี และผมเองก็ไม่แนะนำให้พวกเราเดินเกมนอกแผนเป็นอันขาด อย่างไรก็ดีการใช้สัญชาตญาณในการเล่นหุ้นมันก็เป็นส่วนสำคัญอยู่เหมือนกันและก็ทำให้เราทำกำไรได้ดีไม่แพ้กัน
เราจะต้องพิจารณาตรวจสอบในเดือนต่อๆไปด้วย เราอาจจะต้องจับตาดูการเล่นหุ้นตัวเองไม่ให้คาดสายตา ถือเป็นบททดสอบกับตัวเองและก็ทำให้เรารู้ถึงความเสี่ยงที่ได้รับด้วย
2.จะต้องตั้งจุดตัดขาดทุนในการเล่นหุ้นแต่ละสัปดาห์
เรื่องนี้เทรดเดอร์ทุกคนจะต้องฝึกฝนเรื่องนี้จนติดเป็นนิสัย เงินในบัญชีของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะต้องแน่ใจว่าเราสามารถปกป้องเงินทุนให้ขาดทุนน้อยที่สุดแม้ว่าจะได้ผลกำไรจากการเล่นหุ้นดีแค่ไหนก็ตาม ตรงจุดนี้เราจะต้องเล่นหุ้นด้วยเงินน้อยๆเมื่อเรารู้สึกแย่ และก็วางเงินมากขึ้นก็ต่อเมื่อเรารู้สึกดีแล้ว
3.จะต้องตรวจสอบเครื่องมือที่ตัวเองใช้อยู่
บางทีเราอาจจะเล่นหุ้นหลายตัวด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็ชอบเล่นหุ้นหลายตัวอยู่เหมือนกันและก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงวิธีเล่น ความจริงแล้ว การถือครองหุ้น (หรือ Short หุ้น) จะต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและก็ต้องดูความเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง แต่ทุกๆครั้งเราจะต้องดูจังหวะโอกาสแต่ละครั้ง และเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้หรอกแม้ว่าหุ้นจะเคลื่อนไหวดีแค่ไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องดูเครื่องมือตัวเองในการทำกำไร ดูเรื่องความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้น และก็สามารถยืนยันการทำกำไรของเราได้หากมาถูกทาง และอย่าลืมว่าเครื่องมือทางเทคนิคมันไม่เคยเคลื่อนไหวถูกต้องเสมอไป เราจะต้องดูรายละเอียดต่างๆให้ลึกขึ้นกว่านี้ ซึ่งมันก็อาจทำให้เราขนหัวลุกกับหุ้นเรากำลังถืออยู่ก็เป็นได้
จะดีเลย เราจะต้องมีความยืดหยุ่นในการทำกำไรแต่ละครั้ง ไม่ว่าเราจะเล่นซื้อตอนหุ้นขึ้นหรือ Short ตอนที่หุ้นลง แต่มันยังมีเครื่องมืออีกมายที่ทำให้เราสามารถวางกลยุทธ์เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ได้
4.จะต้องเล่นหุ้นกลุ่มอื่นๆให้รอบด้าน
หุ้นมันก็มีหลายตัว หลายกลุ่มด้วยกัน ที่มีดัชนีเคลื่อนไหวแตกต่างกันออกไป เราอาจจะต้องจับตาดูหุ้นแต่ละกลุ่ม (อย่างเช่นหุ้นกลุ่มพลังงาน) และก็เชื่อว่ามันกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าหุ้นแต่ละกลุ่มจะขึ้นกันหมดทุกตัว ในกรณีตัวอย่างหุ้น XLE หรือ หุ้นที่คล้ายๆกันก็มีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันออกไป
หรือบางทีเราอาจจะพบว่าตลาดหุ้นมันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับหุ้นแต่ละตัว ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยดีนักและก็ไม่สามารถเล่นหุ้นแบบ Swing Trade ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องพิจารณาดูหุ้นแต่ละกลุ่มให้ดีๆ ที่มีหุ้นเป็นร้อยเป็นพันให้เราเล่นอีกจำนวนมาก ที่เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับตลาดหุ้นภาพรวม
จะเอาให้ดีเลยก็คือจะต้องหาหุ้นที่มันไม่ได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับดัชนีอะไรเลย และก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมราคาหุ้น ซึ่งหุ้นพวกนี้จะมีการเคลื่อนไหวได้เร็วและแรง และก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราจะต้องหาหุ้นประเภทนี้เอาไว้อยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามเราจะต้องต่อสู้กับเป้าหมายที่เราได้วางอาไว้ จะต้องแน่ใจว่าเราทำงานหนักและก็มีโอกาสเข้าถึงเป้าหมายได้ ผมรู้ว่าพวกเราต้องทำได้แน่นอน
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
4 แนวทางในการทำเป้าหมายให้ได้อย่างที่ต้องการ
วันนี้ผมมี 4 แนวทางในการทำเป้าหมายตามที่เราได้ตั้งเอาไว้ ผมไม่ได้พยายามบอกให้พวกเราตั้งเป้าหมายสูงๆเอาไว้ ซึ่งมันก็อยู่ที่การประเมินเป้าหมายของแต่ละคนเอง แต่ตรงจุดนี้พวกเราจะต้องวางความคิดในการเยียวยาการเล่นหุ้น เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายให้ได้ ซึ่งมีดังนี้คือ
1.จะต้องมีสัญชาตญาณในการทำกำไรให้ได้แต่ละเดือนว่าจะทำยอดให้ได้เท่าไร
ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนี้กันได้ และจะต้องทำการฝึกฝนเรื่องนี้เป็นพิเศษ บางครั้งเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ทุกคนจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีในการตัดสินใจเข้าไปเล่นแต่ละครั้ง พวกเราแต่ละคนก็จะต้องใช้ความรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม
พวกเราเคยรู้สึกมีสัญชาตญาณในเรื่องจังหวะโอกาสที่เหมาะสมบ้างหรือเปล่า เคยพูดกับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้หรือเปล่าในการเล่นหุ้นแต่ละปี
หากเราตัดสินใจที่จะควบคุมเงินทุนผลกำไรให้ได้ในแต่ละเดือน ด้วยเงินจำนวนเล็กน้อย แบบนี้เราจะเห็นจังหวะโอกาสน้อยลงหรือเปล่า เรื่องนี้ก็ต้องดูความเสี่ยงของตัวเองที่ได้รับแต่ละครั้ง มันจะช่วยให้พวกเราสามารถเดินเกมได้ตามกรอบและก็เพิ่มวงเงินเข้าไปเล่นได้อย่างเหมาะสม การยึดมั่นกับการเดินเกมของเราเป็นสิ่งที่ดี และผมเองก็ไม่แนะนำให้พวกเราเดินเกมนอกแผนเป็นอันขาด อย่างไรก็ดีการใช้สัญชาตญาณในการเล่นหุ้นมันก็เป็นส่วนสำคัญอยู่เหมือนกันและก็ทำให้เราทำกำไรได้ดีไม่แพ้กัน
เราจะต้องพิจารณาตรวจสอบในเดือนต่อๆไปด้วย เราอาจจะต้องจับตาดูการเล่นหุ้นตัวเองไม่ให้คาดสายตา ถือเป็นบททดสอบกับตัวเองและก็ทำให้เรารู้ถึงความเสี่ยงที่ได้รับด้วย
2.จะต้องตั้งจุดตัดขาดทุนในการเล่นหุ้นแต่ละสัปดาห์
เรื่องนี้เทรดเดอร์ทุกคนจะต้องฝึกฝนเรื่องนี้จนติดเป็นนิสัย เงินในบัญชีของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จะต้องแน่ใจว่าเราสามารถปกป้องเงินทุนให้ขาดทุนน้อยที่สุดแม้ว่าจะได้ผลกำไรจากการเล่นหุ้นดีแค่ไหนก็ตาม ตรงจุดนี้เราจะต้องเล่นหุ้นด้วยเงินน้อยๆเมื่อเรารู้สึกแย่ และก็วางเงินมากขึ้นก็ต่อเมื่อเรารู้สึกดีแล้ว
3.จะต้องตรวจสอบเครื่องมือที่ตัวเองใช้อยู่
บางทีเราอาจจะเล่นหุ้นหลายตัวด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าผมเองก็ชอบเล่นหุ้นหลายตัวอยู่เหมือนกันและก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงวิธีเล่น ความจริงแล้ว การถือครองหุ้น (หรือ Short หุ้น) จะต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงและก็ต้องดูความเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง แต่ทุกๆครั้งเราจะต้องดูจังหวะโอกาสแต่ละครั้ง และเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้หรอกแม้ว่าหุ้นจะเคลื่อนไหวดีแค่ไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องดูเครื่องมือตัวเองในการทำกำไร ดูเรื่องความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้น และก็สามารถยืนยันการทำกำไรของเราได้หากมาถูกทาง และอย่าลืมว่าเครื่องมือทางเทคนิคมันไม่เคยเคลื่อนไหวถูกต้องเสมอไป เราจะต้องดูรายละเอียดต่างๆให้ลึกขึ้นกว่านี้ ซึ่งมันก็อาจทำให้เราขนหัวลุกกับหุ้นเรากำลังถืออยู่ก็เป็นได้
จะดีเลย เราจะต้องมีความยืดหยุ่นในการทำกำไรแต่ละครั้ง ไม่ว่าเราจะเล่นซื้อตอนหุ้นขึ้นหรือ Short ตอนที่หุ้นลง แต่มันยังมีเครื่องมืออีกมายที่ทำให้เราสามารถวางกลยุทธ์เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ได้
4.จะต้องเล่นหุ้นกลุ่มอื่นๆให้รอบด้าน
หุ้นมันก็มีหลายตัว หลายกลุ่มด้วยกัน ที่มีดัชนีเคลื่อนไหวแตกต่างกันออกไป เราอาจจะต้องจับตาดูหุ้นแต่ละกลุ่ม (อย่างเช่นหุ้นกลุ่มพลังงาน) และก็เชื่อว่ามันกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าหุ้นแต่ละกลุ่มจะขึ้นกันหมดทุกตัว ในกรณีตัวอย่างหุ้น XLE หรือ หุ้นที่คล้ายๆกันก็มีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันออกไป
หรือบางทีเราอาจจะพบว่าตลาดหุ้นมันก็ไม่ได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับหุ้นแต่ละตัว ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยดีนักและก็ไม่สามารถเล่นหุ้นแบบ Swing Trade ได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะยังไงเราก็ต้องพิจารณาดูหุ้นแต่ละกลุ่มให้ดีๆ ที่มีหุ้นเป็นร้อยเป็นพันให้เราเล่นอีกจำนวนมาก ที่เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกับตลาดหุ้นภาพรวม
จะเอาให้ดีเลยก็คือจะต้องหาหุ้นที่มันไม่ได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับดัชนีอะไรเลย และก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมราคาหุ้น ซึ่งหุ้นพวกนี้จะมีการเคลื่อนไหวได้เร็วและแรง และก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราจะต้องหาหุ้นประเภทนี้เอาไว้อยู่เสมอ
อย่างไรก็ตามเราจะต้องต่อสู้กับเป้าหมายที่เราได้วางอาไว้ จะต้องแน่ใจว่าเราทำงานหนักและก็มีโอกาสเข้าถึงเป้าหมายได้ ผมรู้ว่าพวกเราต้องทำได้แน่นอน
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net