[CR] บันทึกการเดินทาง : ผู้หญิงหนึ่งคน จักรยานพับหนึ่งคัน ลุยเมืองกาญฯ 2 วัน 1 คืน (กรุงเทพ-กาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ)

นานาจักรยาน

สวัสดีค่ะ


เมื่อครั้งที่แล้ว เราได้ปั่นจักรยานไปเที่ยวไกลถึงมวกเหล็ก จ. สระบุรี โดยครั้งนั้นเรามีเป้าหมายใหญ่คือน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทริปนั้นทำให้รู้ว่าการเอาจักรยานขึ้นรถไฟเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายมาก และทำให้เราสามารถพาจักรยานไปปั่นเที่ยวในที่ใหม่ ๆ ซึ่งไกลออกไปได้อย่างสนุกสนานและน่าตื่นเต้น

โดยในกระทู้นี้จะยังคงเอาจักรยานขึ้นรถไฟไปปั่นเที่ยวต่างจังหวัดเช่นเดิม โดยสถานที่ที่เลือกนั้นคือจังหวัดกาญจนบุรี ด้วยเหตุผลที่ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่สามารถปั่นถึงได้ค่อนข้างเยอะ โดยเราสามารถเที่ยวได้ครบภายในวันเดียว แต่ด้วยความที่เป็นหน้าฝนและยังติดใจความงดงามของน้ำตกอยู่ ทริปนี้เลยต้องลากยาวไปเป็น 2 วัน 1 คืน สำหรับเที่ยวน้ำตกเอราวัณด้วย . . . ถ้าพร้อมแล้วก็จับแฮนด์จักรยานให้มั่นแล้วปั่นไปเที่ยวเมืองกาญด้วยกันเลย !
____________________________________
กาญจนบุรี : น้ำตก ภูเขา และประวัติศาสตร์โลก
____________________________________



เส้นทางการปั่นจักรยานที่วางไว้นั้นจะเริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟกาญจนบุรี ไล่สุดที่สะพานข้ามแม่น้ำแควจนถึงวัดไชยชุมพลวราราม (วัดใต้) โดยระหว่างเส้นทางนี้จะมีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายให้ได้แวะชมกันด้วย ซึ่งความจริงแล้วถ้ามีกำลังอีกนิดก็ปั่นไปได้ไกล ๆ อีก อาทิ วัดถ้ำเขาปูนและสุสานสัมพันธมิตรช่องไก่ แต่หากจะไป-กลับด้วยรถไฟภายในวันเดียวนั้นอาจต้องทำเวลาสักหน่อย สำหรับสภาพเส้นทางปั่นแถบทั้งหมดเป็นถนนลาดยางเหมือนในกรุงเทพ แต่ก็มีหลายจุดที่เป็นหลุมเป็นบ่ออาจต้องระวังสักนิด แต่สิ่งที่ควรระวังที่สุดคือสุนัขเจ้าถิ่น เพราะโดนไล่กวดแถบจะตลอดทริปเลย T^T

การเดินทาง
ขาไป                        เรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าเรือสาทร ลงท่าเรือวังหลัง > รถไฟชั้น 3 จากสถานีธนบุรี ลงสถานีกาญจนบุรี ฟรี
ขากลับ                      บขส สาย 81 จากสถานีขนส่งกาญจบุรี ลงสถีขนส่งสายใต้ใหม่ 95 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม      www.kanchanaburi-info.com/th/train.html

__________________________________________
ศุกร์ 5 กันยายน 2014 เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมพร้อม
__________________________________________


ก่อนออกทริปหนึ่งวัน ก็ทำเหมือนเช่นเคย ตรวจสภาพจักรยานให้เรียบร้อย ลิสสถานที่ที่จะไป เตรียมขนมนมเนยไปกินบนรถไฟเลยก็ดี ที่สำคัญสภาพร่างกายต้องนอนให้เพียงพอ ทริปนี่เราไปค้างก็ต้องเตรียมเรื่องที่พักด้วย
___________________________________________________
เสาร์ 6 กันยายน 2014 ตื่นสาย ปั่นยิก นั่งเรือ ต่อรถไฟไปเมืองกาญฯ
___________________________________________________


ตามแผนที่วางไว้ เราต้องตื่น 05:30 น. เพื่อปั่นไปที่สถานีธนบุรีให้ทันรถไฟเที่ยวแรก 07:50 น. แต่ดันตื่นสายไป 30 นาที T^T อาบน้ำ คว้าเป้เสร็จ กระโดดขึ้นจักรยาน แล้วปั่นยิกเลย โดยเรามาจากถนนนราธิวาส ปั่นเลี้ยวซ้ายเข้าสาทรใต้ พอเลยเจริญกรุงไปก็จะเจอสะพาน จากนั้นก็จูงมาที่ท่าเรือสาทร พับจักรยานให้เรียบร้อย แสตนด์บายที่โป๊ะ พอเรือมาก็ยกขึ้นเรือ ค่าโดยสาร 20 บาท ลงท่าเรือวังหลัง แล้วปั่นไปนิดหน่อยก็ถึงสถานีรถไฟธนบุรีแล้ว

พอถึงสถานีรถไฟก็รีบไปเอาตั๋วกับจนท. แล้วมานั่งรอที่ชานชาลา ตอนรอมีคุณน้าสะกิดถามเราว่ามาจาก Pantip หรอ เราก็งง ๆ บอกไม่ใช่ค่ะ แต่พอสังเกตุดูอีกทีมีแก้งค์จักรยานเต็มสถานีเลย ได้ความว่าเขาเช่าโบกี้รถไฟสองโบกี้เพื่อไปปั่นที่กาญจนบุรีเหมือนกัน แต่เราก็ได้แต่มองเพราะมาคนเดียวต้องนั่งโบกี้ธรรมดาไปและกัน . . . รถไฟมาแล้ว แต่สายนิดหน่อย ครั้งนี้เราได้นั่งตู้แบบหันหน้าเข้าหากัน โล่งดีนะ วางจักรยานได้ง่ายด้วย

เก็บภาพบรรยากาศระหว่างทางมาฝากกันด้วย

_________________________________
ล้อแตะเมืองกาญจนบุรี พร้อมลุยเต็มที่ เต็มวัน
_________________________________

ประมาณ 11:00 น. ก็ถึงสถานีรถไฟกาญจนบุรีแล้ว ถ่ายรูปกับป้ายเป็นที่ระลึกซักหน่อยดีกว่า

เข้าห้องน้ำห้องท่าเสร็จ คว้าแผนที่เส้นทางปั่นที่เตรียมไว้มาดูอีกที ก็ลุยเลย เป็นคนไม่ใช้ GRRS เพราะโทรศัพท์ไม่มีเนท ต้องจำแม่น ๆ แล้วเน้นถามทางชาวบ้าน ฟิลแบบนี้สนุกดีนะ

อมยิ้ม23สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟกาญจนบุรี ริมถนนแสงชูโต โดยที่นี่เป็นสุสานสำหรับเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ แม้ว่าจะมีการจัดสวนอย่างสวยงาม แต่ก็รู้สึกเศร้าใจเบา ๆ เพราะความตายคือผลจากสงครามที่ชัดเจนที่สุด



อมยิ้ม23สะพานข้ามแม่น้ำแคว
มาเมืองกาญทั้งทีถ้าไม่มาที่นี่คงไม่ได้ ปั่นเลี้ยวซ้ายจากถนนแสงชูโตเข้ามาถนนแม่น้ำแควจะปั่นง่ายกว่า โดนถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยเกสเฮ้าส์และร้านอาหาร ซึ่งตอนกลางคืนจะคึกคักเป็นพิเศษ โดยสะพานแห่งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ และเป็นดั่งอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2


อมยิ้ม23พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2
ตั้งอยู่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว เสียค่าเข้าเพียง 40 บาท แต่สามารถเข้าดูได้หลากหลายพิพิธภัณฑ์ภายในแห่งเดียว ตั้งแต่เรียนรู้เรื่องสงครามโลก เครื่องประดับและเสื้อผ้า นาฬิกา รวมถึงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควในมุมที่แปลกตาอีกด้วย




อมยิ้ม23วัดถาวรวราราม (วัดญวณ)
ปั่นกลับมาทางสุสานสัมพันธมิตรดอนรักแต่ว่าเลยไปอีกหน่อยตามถนนแม่น้ำแคว มองทางขวามือจะเจอกับวัดถาวรวราราม (วัดญวณ) ซึ่งแปลกตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน


อมยิ้ม23วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) และหอพระประวัติ
ตั้งอยู่ที่ถนนปากแพรก ใกล้กับวัดถาวรวราราม สร้างขึ้นสมัย ร.3 จุดเด่นคือภาพเขียนสีพุทธประวัติภายในอุโบสภหลังเก่า ใกล้กันยังมีหอพระประวัติด้วย




อมยิ้ม23ประตูเมืองเก่า กำแพงโบราณ และศาลหลักเมือง
ปั่นเข้ามาทางถนนปากแพรกเรื่อย ๆ จะเจอกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้ง 3 แห่ง แวะสักการะศาลหลักเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคล




จากตรงนี้จะปั่นไปที่พัก Nita Raft House ตั้งอยู่ที่ถนนปากแพรก จองมาราคา Agoda 785 บาท เป็นเกสเฮ้าส์ แต่วิวระดับ 5 ดาวมาก ช๋อบชอบ


อมยิ้ม23วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) และพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก
เก็บของที่ห้องพักเสร็จเรียบร้อย ก็ปั่นไปวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) อยู่ใกล้ ๆ ที่พักเราเลย วัดนี้เก่าแก่มากเพราะสร้างตั้งแต่ ร.1 เลย จุดเด่นคือซุ้มประตูเก่ารูปยักษ์ ข้าง ๆ กันก็มีพิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึกษา ค่าเข้ามชม 10 บาทเท่านั้น



อมยิ้ม23ถนนคนเดินและชุมชนเก่าปากแพรก

ความโชคดีของเราอย่างหนึ่งคือวันที่ไปมีงานที่ถนนปากแพรกพอดี ดังนั้นนอกจากจะมีถนนคนเดินตอนกลางคืนแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีและประกวดภาพถ่ายอีกด้วย โดยถนนปากแพรกนี้เป็นชุมชนเก่าซึ่งมีบ้านเรือนเก่าแก่และเป็นตำนานอยู่มากมาย

จบหนึ่งวันแล้ว เก็บที่เที่ยวที่ลิสมาครบแล้ว ^^ พอตกเย็นก็นั่งดูวิวที่ห้องเบา ๆ ความจริงใครอยากไปเช้าเย็นกลับก็ได้ แต่ต้องขึ้นรถไฟให้ทันประมาณ 14:45 น. นอนให้เต็มอื่มพรุ่งนี้จะไปพิชิตน้ำตกเอราวัณ !

____________________________________________________
อาทิตย์ 7 กันยายน 2014 พิชิตน้ำตกเอราวัณเจ็ดชั้น แต่ดันไม่ทันรถไฟ
____________________________________________________
ตื่นเช้าตรู่ เชคเอ้าท์แล้วฝากจักรยานไว้กับเกสเฮ้าส์ เราก็เดินไปสถานีขนส่งกาญจนบุรีเพื่อนั่งรถไปน้ำตกเอราวัณเที่ยว 8:00 น. เดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ขาไปเจองานปั่นจักรยานดูยิ่งใหญ่มาก แต่เราดันไม่รู้ซะงั้น ไปน้ำตกแทนและกัน - -

รถหวานเย็นไทยแลนด์ไสตล์ ค่าโดยสาร 50 บาท ระหว่างทางฝนตกหนักซะด้วย

10:00 น. ถึงแล้ว อุทยานแห่งชาติน้ำตกเอราวัณ ค่าเข้า 40 บาท

ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลุยกันเลยค่ะ  

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ในที่สุดก็ครบแล้ว สะใจจัง >< บรรยากาศทั่วไป เขียวชื่นใจมาก



ในที่สุดก็พิชิตน้ำตกเอราวัณทั้ง 7 ชั้นได้ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ไม่ทันรถเข้าเมืองรอบ 12:00 น. T^T ทำให้ไม่ทันรถไฟไปโดยปริยาย งานนี้เลยต้องรออีกที 14:00 น. ถึงตัวเมืองไปเอาจักรยาน แล้วกลับบขส. คันสุดท้าย 16:30 น. พอดี ลงสถานีขนส่งสายใต้แทน ค่าโดยสาร 95 บาท ส่วนจักรยานคิดเท่าคน 95 บาทเช่นกัน


เพี้ยนไฟลุก

การเดินทางครั้งนี้ทำให้เราพบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งการเอาชนะตัวเอง มิตรภาพ น้ำใจ ทั้งยังได้แผลด้วยนะ ฮ่า ๆ ชีวิตคนเรามันสั้นมากเมื่อเทียบกับโลกกว้าง ๆ ใบนี้ ดังนั้นถ้ามีโอกาส ถ้ามีความอยาก อย่ากลัวที่จะออกเดินทางนะ ไฟติ้ง !
ชื่อสินค้า:   จักรยาน,แบ่งปัน,AP
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่