ไม่น่าเชื่อ ยังมีผู้ปกครองสอนเด็กว่าให้แลบลิ้นใส่คนเป็นตาแดง แล้วตัวเองจะไม่เป็น ได้ยินมากับหู เด็กข้างบ้านวิ่งเล่นกัน แล้วชวนกันเข้ามาจะเล่นเกมส์ที่ร้านดิฉัน (ที่บ้านเป็นร้านเกมส์) เด็กคนนึงกำลังเป็นโรคตาแดง สังเกตุเห็นทันที ดิฉันรีบห้าม แล้วบอกให้รีบไปหาแม่ให้พาไปหาหมอ หรือซื้อยาล้างตา หยอดตาเดี๋ยวนี้เลย แล้วบอกเด็กอีกคนที่มาด้วยกัน ว่าให้ไปล้างมือ เอาน้ำยาล้างตาเดี๋ยวนี้เช่นกัน แต่ได้รับคำตอบจากเด็กว่า แลบลิ้นใส่เพื่อนแล้ว ไม่เป็นตาแดงแน่นอน อึ้งซิคะ เด็ก ป.3 ก็ไม่เด็กแล้วนะ ถามไปได้ความว่า ยายเป็นคนบอก เฮ้อ..เอาเข้าไป
มาถึงเรื่องอึ้งรอบสอง เด็กคนที่เป็นตาแดง หายไป 5 วัน กลับมาป้วนเปี้ยนหน้าร้าน ใส่แว่นตามาด้วย แต่สังเกตุเห็นเลยว่าตาแดงจากที่เป็นข้างเดียว ลามไปอีกข้างแล้ว กลายเป็นโรคตาแดงสองข้างเลย มาบอกเราว่าจะหายแล้ว อยากขอเข้ามาเล่นเกมส์ได้รึยัง เราก็อธิบายว่านี่ยังไม่หายนะ ลามแล้วด้วย หนูต้องพักผ่อนอยู่บ้าน นอนหลับตานานๆ ขยันหยอดตา ยังไม่ให้เข้าร้านนะ เพราะมันเป็นโรคติดต่อ ป้าต้องรับผิดชอบเด็กคนอื่นที่เขาไม่เป็นตาแดงด้วย เด็กคนนั้นก็หายไปสักพัก แล้วก็กลับมาใหม่พร้อมกับแม่ บอกว่าเอาแม่มาเป็นพยาน ว่าไม่ติด เอ้า เอาเข้าไป (รู้แล้วล่ะว่าตาแดงไม่หายเพราะมีแม่แบบนี้นี่เอง) จะเข้ามาเล่นเกมส์ให้ได้ ดิฉันเลยจัดไปชุดใหญ่ค่ะ (อาจจะดูซีเรียสมาก เพราะตัวเองเป็นภูมิแพ้ และตาเคยโดนเชือกดีดจนม่านตาเคลื่อน อักเสบ ตั้งแต่ต้นปีรักษามา 4 รอบแล้ว แค่โดนขี้ฝุ่นก็เป็นเรื่องต้องไปหาหมอได้ ถ้าติดเชื้อเป็นตาแดงอีกครั้ง ก็มีโอกาสเสี่ยงโรคจะร้ายแรงกว่าคนอื่น นี่คือเหตุผล) คือคุณแม่ทำไมไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกตัวเอง และลูกคนอื่นเลย ไม่ใช้ผ้าปิดตา ไม่สั่งให้ลูกพักผ่อนอยู่บ้าน จนจะ 10 วันลูกอาการไม่ดีขึ้นก็ไม่พาไปหาหมอ เราได้ยินเด็กพูดมาคำนึงว่าแม่บอกเดี๋ยวมันก็หายเอง แสดงว่าไม่ได้มียาหยอด ยาล้างตา หรือยาทาน เลยก็เป็นได้ ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นกับเด็กคนอื่นปกติ ไปโรงเรียนปกติ โรงเรียนนี้แย่มากค่ะ เด็กเป็นตาแดงก็ให้ไปโรงเรียน จนตอนนี้จะเป็นตาแดงยกโรงเรียนแล้ว ที่ร้านจะไม่รับเด็กจากโรงเรียนนี้เลย ไม่ให้เข้า ไม่อยากเสี่ยง คุณครูเองก็น่าจะกลัวมาติดตัวเองบ้างก็ดีนะ แต่เหมือนไม่ทำอะไรเลย
มาถึงเด็กคนที่แลบลิ้นใส่เพื่อน เป็นตาแดงเรียบร้อยแล้วเมื่อเย็น เป็นทีเดียวสองข้างเลย แดงน่ากลัวมาก ไหนคุณแม่บอกไม่ติดๆ ยังไงก็ไม่เป็น เล่นด้วยกันได้ (ไม่ติดพ่องดิ) มีความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นสักนิดโรคจะไม่ระบาดขนาดนี้
ปล.ฝากคุณแม่ที่ลูกเป็นตาแดง ช่วยดูแลแบบใกล้ชิด ให้พักผ่อนอยู่บ้านเถอะค่ะ เหตุผลนี้อาจจะคิดไปเอง คือมีความรู้สึกว่าโรคภัยสมัยนี้มันร้ายแรง และอาการรุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก อันที่จริงอยากหายเร็วเราใช้วิธีไปฉีดยาฆ่าเชื้อที่คลินิคค่ะ แต่ก็ไม่จำเป็นนะคะสำหรับโรคตาแดง เป็นความคิดเห็นสวนตัว
ไม่น่าเชื่อ ยังมีผู้ปกครองสอนเด็กว่าให้แลบลิ้นใส่คนเป็นตาแดง
มาถึงเรื่องอึ้งรอบสอง เด็กคนที่เป็นตาแดง หายไป 5 วัน กลับมาป้วนเปี้ยนหน้าร้าน ใส่แว่นตามาด้วย แต่สังเกตุเห็นเลยว่าตาแดงจากที่เป็นข้างเดียว ลามไปอีกข้างแล้ว กลายเป็นโรคตาแดงสองข้างเลย มาบอกเราว่าจะหายแล้ว อยากขอเข้ามาเล่นเกมส์ได้รึยัง เราก็อธิบายว่านี่ยังไม่หายนะ ลามแล้วด้วย หนูต้องพักผ่อนอยู่บ้าน นอนหลับตานานๆ ขยันหยอดตา ยังไม่ให้เข้าร้านนะ เพราะมันเป็นโรคติดต่อ ป้าต้องรับผิดชอบเด็กคนอื่นที่เขาไม่เป็นตาแดงด้วย เด็กคนนั้นก็หายไปสักพัก แล้วก็กลับมาใหม่พร้อมกับแม่ บอกว่าเอาแม่มาเป็นพยาน ว่าไม่ติด เอ้า เอาเข้าไป (รู้แล้วล่ะว่าตาแดงไม่หายเพราะมีแม่แบบนี้นี่เอง) จะเข้ามาเล่นเกมส์ให้ได้ ดิฉันเลยจัดไปชุดใหญ่ค่ะ (อาจจะดูซีเรียสมาก เพราะตัวเองเป็นภูมิแพ้ และตาเคยโดนเชือกดีดจนม่านตาเคลื่อน อักเสบ ตั้งแต่ต้นปีรักษามา 4 รอบแล้ว แค่โดนขี้ฝุ่นก็เป็นเรื่องต้องไปหาหมอได้ ถ้าติดเชื้อเป็นตาแดงอีกครั้ง ก็มีโอกาสเสี่ยงโรคจะร้ายแรงกว่าคนอื่น นี่คือเหตุผล) คือคุณแม่ทำไมไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกตัวเอง และลูกคนอื่นเลย ไม่ใช้ผ้าปิดตา ไม่สั่งให้ลูกพักผ่อนอยู่บ้าน จนจะ 10 วันลูกอาการไม่ดีขึ้นก็ไม่พาไปหาหมอ เราได้ยินเด็กพูดมาคำนึงว่าแม่บอกเดี๋ยวมันก็หายเอง แสดงว่าไม่ได้มียาหยอด ยาล้างตา หรือยาทาน เลยก็เป็นได้ ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นกับเด็กคนอื่นปกติ ไปโรงเรียนปกติ โรงเรียนนี้แย่มากค่ะ เด็กเป็นตาแดงก็ให้ไปโรงเรียน จนตอนนี้จะเป็นตาแดงยกโรงเรียนแล้ว ที่ร้านจะไม่รับเด็กจากโรงเรียนนี้เลย ไม่ให้เข้า ไม่อยากเสี่ยง คุณครูเองก็น่าจะกลัวมาติดตัวเองบ้างก็ดีนะ แต่เหมือนไม่ทำอะไรเลย
มาถึงเด็กคนที่แลบลิ้นใส่เพื่อน เป็นตาแดงเรียบร้อยแล้วเมื่อเย็น เป็นทีเดียวสองข้างเลย แดงน่ากลัวมาก ไหนคุณแม่บอกไม่ติดๆ ยังไงก็ไม่เป็น เล่นด้วยกันได้ (ไม่ติดพ่องดิ) มีความรับผิดชอบต่อตัวเองและผู้อื่นสักนิดโรคจะไม่ระบาดขนาดนี้
ปล.ฝากคุณแม่ที่ลูกเป็นตาแดง ช่วยดูแลแบบใกล้ชิด ให้พักผ่อนอยู่บ้านเถอะค่ะ เหตุผลนี้อาจจะคิดไปเอง คือมีความรู้สึกว่าโรคภัยสมัยนี้มันร้ายแรง และอาการรุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก อันที่จริงอยากหายเร็วเราใช้วิธีไปฉีดยาฆ่าเชื้อที่คลินิคค่ะ แต่ก็ไม่จำเป็นนะคะสำหรับโรคตาแดง เป็นความคิดเห็นสวนตัว