Lucy ลูซี่ สวย พิฆาต

คำเตือน++
//เนื้อหาบางส่วนกล่าวถึงฉากในภาพยนตร์//

เขียนวิเคราะห์ถึงเฉพาะส่วนหลักใหญ่ใจความ, สัญลักษณ์ และอ่านหรือรู้แล้วมีประโยชน์นะครับ
รายละเอียดปลีกย่อยอื่น และส่วนที่ไม่ได้เขียนถึง เป็นเพียงผงชูรสของหนังเท่านั้น
และด้วยเนื้อหาที่ค่อนข้างยาว ขอไม่ใส่ภาพประกอบนะครับ แต่ผู้อ่านสามารถค้นหาเพิ่มเติมด้วยตัวเองครับ

พื้นหลังของหนัง เป็นหนังปรัชญา-ศาสนาเปรียบเทียบ พุทธ-คริสต์-วิทยาศาสตร์ (ในแง่ที่มีบริบทเหมือนศาสนาสำหรับยุคใหม่)
แน่นอนว่า genre และหน้าหนังหลักยังคงเป็น Sci-fi, Action, Thriller (ความหมายของทริลเลอร์คือมีการนำ-
เสนอเนื้อหาหรือแก่นของเรื่องที่ค้านสามัญสำนึกหรือความเข้าใจของผู้คนในโลกความเป็นจริง)



ตอนต้นเรื่อง..ลูซี่ไม่ใช่กวาง (ทริคลวงผู้ชมนิดหน่อย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คำใบ้อยู่ที่ลายเสื้อคลุมของลูซี่ครับ ภาพอินเสิร์ทแค่หลอกให้คิดไขว้ตามไปเฉย ๆ
เสือขย้ำกวาง หมายถึงการพ้นจากทุกข์คือเราต้องไล่งับความกลัว จงเป็นเสือ ไม่ใช่กวางที่โดนความกลัวของตัวเองกลืนกิน
(อารมณ์เป็นสิ่งที่เกิดภายในตัวเราเอง ด้วยความจำได้หมายรู้บางอย่างบนคาบเวลาของประสบการณ์)

สีน้ำเงินของยา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นสีที่มีความหมายถึง ความศรัทธาอันแรงกล้า, สัจจธรรม (ซึ่งในแง่สัจจธรรม ถูกใช้เป็นสีเม็ดยา
ใน The Matrix เช่นกัน ส่วนสีแดงหมายถึง "มรณะสักขี" คือผู้ยอมรับในคำสอนหรือความเชื่อหนึ่ง
และพลีชีพอย่างต้องสัตย์สาบานไว้ได้อย่างไม่ยอมเปลี่ยนความเชื่อ)


หนังมีความเป็นคริสต์สูงกว่าพุทธอย่างที่หลายคนพยายามมองเพื่อทำความเข้าใจหนังครับ

ฉากไหนเป็นพุทธ (มหายานนะครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ห้องแต่งตั้งคนเดินยา, มีมังกรใหญ่บนเพดาน มังกรแบบจีนเป็นสัญลักษณ์ของสุริยะเทพ
ซึ่งหมายถึงพระเจ้าในแบบคติทางจีนโบราณ (โดยทั่วไปสุริยะเทพนั้น เป็นพระเจ้าในหลายอารยธรรม
อันจะมีสัญลักษณ์แตกต่างกันไป ในพุทธศิลป์โบราณใช้ดอกบัว ซึ่งตามประวัติศาสตร์แล้วรับมาจาก-
อารยธรรมไอยคุปต์) มังกรจีนนี้เราเห็นได้ทั่วไปในสถาปัตยกรรมของวัดพุทธศาสนานิกายมหายาน

ในทางกลับกัน ทางคริสตศิลป์ใช้มังกรเป็นสัญลักษณ์ของพญามารหรือซาตาน, บาป, ศาสนานอกรีต

คนเดินยา 4 คน เป็นเพศชาย 3 คนและเพศหญิง 1 คน

เลข 4 ในพุทธมหายาน (รับคติที่จะกล่าวถึงนี้มาจากศาสนาพราหมณ์) หมายถึงคติที่มีการแบ่งจักรวาลออกเป็น 4 ทวีป
1.อุตรกุรุทวีป 2.ปุพพวิเทหะทวีป 3.อมรโคยานทวีป 4.ชมพูทวีป โดยที่ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่คือชมพูทวีป
Lucy จึงเป็นเพศหญิงคนเดียวอันเป็นเพศที่ให้กำเนิดได้ ในฉากนี้จึงหมายถึงชมพูทวีปหรือโลกอันเป็นที่เกิดของมนุษย์ทั้งปวง
4 คนนี้ยืนในตำแหน่ง "ท้องมังกร" และกำลังจะออกจากปากมังกร นำสัจจธรรมไปเผยแพร่ต่อมนุษย์โลก

CPH4 คือ..?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หลายกระทู้เขียนถึงชื่อจริงของมันไปแล้ว ผมจะชี้ในหนังว่าเค้าเล่าไว้อย่างไรว่ามันคืออะไรก็แล้วกันครับ ซึ่งมี 2 ซีเควนซ์ด้วยกัน

- ชายคนที่ถูกจับมานั่งทดสอบยาตรงหน้าลูซี่ บนเสื้อพิมพ์สกรีนไว้ว่า "YOUTH IN REVOLT"
ข้อความนี้บอกว่าข้างในเกิดอะไรขึ้นเมื่อรับยาเข้าไป..เป็นการเปรียบเปรย (ลองเอาไปแปลกันดูเองนะครับ สนุก ๆ)

- ลูซี่หลังจากต้องเป็นคนเดินยา ถูกคลุมหัวด้วยถุงผ้า ภาพช่วงนี้จะเหมือนทารกในครรภ์นั่นเอง
และเหตุการณ์ในห้องขังที่ร่างกายกำลังต้องดูดซึมยาที่ถุงแตกในท้อง นำเสนอภาพแบบภาวะไร้น้ำหนักหรือพ้นแรงโน้มถ่วง
ดูหวือหวาครับ แต่เทียบดี ๆ คล้ายจะเล่าถึงทารกที่เหมือนลอยเท้งเต้งในครรภ์นั่นเอง ในช่วงที่สารนี้กำลังขยายความให้กับเซลล์ต่าง ๆ
ไม่ต่างกับที่เกิดกับทารกในครรภ์เช่นกัน ..ซึ่งเมื่อสิ้นสุดแล้ว..ก็หยุด. ลูซี่เกิดใหม่แล้ว)

ศาสนาพุทธ เล่าให้เป็นโรงพยาบาล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชื่อของโรงพยาบาลคือ Tri-Service General Hospital. เป็นโรงพยาบาลที่มีอยู่จริงในประเทศใต้หวัน
แว่บแรกอาจคิดว่าชื่อ Tri-Service อาจจะหมายถึงพระตรีเอกานุภาพในคริสตศาสนาหรือไม่?
แต่บริบททั้งหมดในห้องผ่าตัดชี้ว่าเป็นพุทธครับ.

Lucy อยู่ในภาวะที่แยกได้แล้ว..
ระหว่างเวทนาอันเกิดจากผัสสะ (ร่างกายอันมีระบบประสาท) VS. เวทนาอันเกิดจากสัญญา (ความจำได้หมายรู้)

มีการระลึกชาติถึงความทรงจำในชีวิตที่ผ่านมาภายใต้คาบเวลาการเกิดทางกายครั้งเดียวกัน สืบย้อนไปได้ถึงรสน้ำนมแม่ในปากตัวเอง
และหลั่งน้ำตาเป็นอาการที่บอกว่าจิตเกิดปีติตามสัญญาที่สืบย้อนได้ ..ซึ่งทั้งหมดในฉากต่อเนื่องจากชื่อโรงพยาบาลถึงจบตรงนี้
ทำให้สามารถอธิบายได้ในทางพุทธศาสนาเท่านั้น โดยเฉพาะในแง่ที่ลูซี่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดในทางกายตั้งแต่สมอง
ไม่ใช่เพราะทางจิตจินตนาการไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เป็นอาการของผู้ปฏิบัติจากญาณ 1-3 (นามรูปปริจเฉทญาณ ..ปัญญากำหนดรู้เข้าใจโลกและส่วนหมายความ,
นามรูปปัจจัยปริคคหญาณ ..ปัญญารู้ว่าโลกและหมายความนั้นเกิดจากเหตุและปัจจัยส่งเสริมกัน, สัมมสนญาณ ..ปัญญาจักขุ เห็นจากปัญญาภายใน
ถึงการแปรปรวนของสภาพสิ่งต่าง ๆ  ว่าไม่คงอยู่ไปตลอด ไม่ได้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้โดยตัวมันเอง บทบาทเกิดจากการเปรียบตามกาละเทศะชั่วครั้ง ๆ ไปจึงเปลี่ยนได้เสมอ)

(หมอคือคณะสงฆ์ มีหน้าที่รักษาผู้เจ็บป่วยทางวิญญาณ จำต้องถามว่าสิ่งที่ลูซี่ต้องการรู้คืออะไรก่อน จึงจะตอบแนวทางต่อไปของมันได้)

การอ้างอิงพุทธว่าเป็นดังโรงพยาบาล คือการอ้างว่าพุทธศาสนานั้นไม่ใช่ศาสนาตามกรอบความเข้าใจของชาวตะวันตกโดยทั่วไป
แต่เป็นแหล่งความรู้เรื่องสัจจธรรมแบบดิบ ๆ เลย ..เพราะโรงพยาบาลคือ..สถานที่ที่คนทุกศาสนาเดินเข้าไปพึ่งพิงได้


Saint Lucy (นักบุญลูซี่)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซีเควนซ์ที่บอกว่าลูซี่ตัวเอกของหนังหมายถึงนักบุญลูซี่ในศาสนาคริสต์ คือซีเควนซ์ที่ลูซี่บุกเดี่ยวกลับไปที่โรงแรม
สีเขียวของเสื้อคลุมผู้ป่วยนั้น เป็นสีที่หมายถึงชีวิตที่มีชัยเหนือความตาย และเป็นสีของน้ำที่ใช้-
สำหรับพิธีรับสมาชิกใหม่ของคนที่อยู่นอกรีตศาสนาคริสต์ นัยว่ามาประกาศสัจจธรรมถึงมิสเตอร์จาง
และเมื่อถอดเสื้อคลุมออก ก็เป็นเสื้อสีขาวด้านใน สีขาวเป็นอีกสีหนึ่งของสัจจธรรมและพระเจ้า

สัญลักษณ์ของนักบุญลูซี่คือ dagger (กริช, มีด) ซึ่งลูซี่พกมาด้านหลังถึงสองเล่มด้วยกัน

อีกสองสัญลักษณ์ของนักบุญลูซี่ที่หนังหยิบมาใช้ในช่วงสุดท้ายของเรื่อง คือ
ดวงตา (โฟกัสภาพ) และ ตำนานการเป็นมรณะสักขีซึ่งทำให้สถานะกลายเป็นนักบุญภายหลัง คือการ "ถูกเผาทั้งเป็น"
ซึ่งในหนังไม่มีไฟที่เผาตรง ๆ แต่จะเป็นการยิงกันนอกห้องวิจัย และการค่อย ๆ กลายร่างเป็นสีดำก่อนจะ 100%
โดยสีดำนั้นใช้แทนร่างกายที่มอดไหม้ของนักบุญลูซี่ที่เป็นตำนานทางหนึ่ง (มีการเล่าในตำนานไว้หลายแบบด้วยกัน-
แต่เรื่องกริชนั้นมาจากแนวที่เล่าว่าไม่สามารถเผาให้ตายได้ แต่ตายด้วยการใช้กริชแทงคอ, ส่วนดวงตามาจากแนว-
ที่เล่าว่ามีการควักดวงตาออกมาก่อนถูกประหาร เล่ากันไว้ทั้งแนวที่มีผู้อื่นควัก และนักบุญลูซี่ควักเอง เรื่องดวงตานี้
ในภาพเขียนถึงนักบุญลูซี่บางภาพ จะมีภาพที่เป็นถาดที่มีดวงตาวางอยู่ในถาด. หมายถึงการเป็นพยานต่อความรู้แจ้ง.
ที่ตอนสุดท้ายลูซี่ได้เห็นการเกิดดับของจักรวาลและสัจจธรรมด้วยตาในเป็นปัจจัตตังเฉพาะตนเอง.)

ดวงตายังมีการใช้เป็นสัญลักษณ์ไขว้ศาสนาคริสต์และพุทธมหายานอยู่ด้วย
คือลูซี่หลังจากที่ใช้มีดปักมือมิสเตอร์จาง ได้มีการใช้นิ้วแตะเหนือคิ้ว
ซึ่งภาพปลายทางนั้นเป็นตำแหน่งของ "ดวงตามังกร".

ไดอะล็อกที่ดูคาบเกี่ยวปรัชญาพื้นฐานเรื่องตัวตนและการถือว่าดำรงอยู่..กับพุทธ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือการกล่าวถึง ความเจ็บ + egoism = กูเจ็บ, และมนุษย์ปฏิเสธสัจจธรรมเพราะหลงคว้าเพียงชั้น "ความรู้สึก" อันเป็นเครื่องใช้ผ่านกิเลส..ใช้ชี้ตัวสร้างตนให้ตัวเองได้
ไดอะล็อกตรงนี้ชี้หมายความกลับไปที่ความกลัวและการเอาตัวรอด, ซึ่งถ้าขยายมาตราส่วนและมิติให้ใหญ่หน่อย หนังนำเสนอว่า
มนุษย์หนึ่งร่างที่มีชีวิตและสำนึกนั้น มีพฤติการณ์ IMMORTALITY/REPRODUCTION ไม่ต่างกับเซลล์พื้นฐาน ..ซึ่งเป็นอะไรที่ธรรมชาติมาก

ฉากที่บอกว่าเป็นคริสต์ "เกือบโจ่งแจ้ง"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงพยาบาลในปารีส ชื่อ "Hopital Val-de-Grace" ซึ่งมีอยู่จริงอีกเหมือนกัน
Val-de-Grace นั้นในสมัยโบราณกว่านี้เป็นโบสถ์คาทอลิคครับ ถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลตอนปฏิวัติฝรั่งเศส
ที่ใช้คำว่า "เกือบ" ..เพราะว่ามีบางอย่างที่นั่นที่คนดูไม่เห็น แต่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์อย่างเต็มที่
ปรกติแล้วโบสถ์ในศาสนาคริสต์จะสร้างอาคาร (ผัง) เป็นรูปกางเขนละติน โดยมีส่วนอาคารที่เป็นโดมครอบ
โดมด้านในมองขึ้นไปข้างบนของที่นี่ จะมีภาพวาดของพระตรีเอกานุภาพอยู่ครับ (พระบิดา-พระบุตร-พระจิตเจ้า)
ซึ่งในหนังจะมีช็อตลักษณะภาพที่มองจากด้านบนลงมา ประมาณว่าเป็นมุมมองของพระเจ้ามองลงมา
มองลงมาเห็นภาพความตายแบบเจตนามาจัดสรรค์ถึงในโบสถ์แห่งนี้ เพื่อช่วงชิงสัจจธรรมสู่มือพ่อค้า
(สัจจธรรมต้องให้ปัจเจกบุคคลสัมผัสเอง รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง เป็น "ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน
..ไม่ใช่ของมาเร่ขายให้คนที่ไม่ถึงพร้อมแก่เวลาแห่งสำนึกอันสมควร ไปเสพจนลุ่มหลง หรือศรัทธาแบบงมงาย)
ใช้คำว่าเกือบโจ่งแจ้ง เพราะผู้ชมไม่ได้รับการนำเสนอภาพวาดนี้นั่นเอง ต้องอาศัยหาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ของโบสถ์นี้แทน
(มุมกล้องเดียวกันนี้ใช้ตอนปิดเรื่องอีกด้วย ซึ่งหมายความตรง ๆ ว่าลูซี่เป็นหนึ่งเดียวหรือเข้าสู่สถานะเดียวกับพระเจ้าแล้ว
เพราะจะมีเสียงพูดของลูซี่ โดยที่มุมกล้องมองจากด้านบนลงล่างตรง ๆ และถอยขึ้นจนภาพมืด.)
(ที่นี่เป็นโบสถ์มาก่อน ในขณะที่ Tri-Service General Hospital ไม่เคยเป็นโบสถ์มาก่อน ..นัยยะจึงต่างกัน)

บทสนทนาในห้องวิจัยช่วงเกือบท้ายคือไคลแม็กซ์ของหน้าหนัง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การกล่าวถึงคาบเวลาและมาตราส่วน เพื่อที่จะบอกว่า ถ้าเราเอาคาบเวลาออก นั่นคือสภาวะแบบสัจจธรรม
คือไม่มีคำศัพท์หรือภาษาใด ๆ และแบบจำลองทางความคิดที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น (ไม่ใช่วิวัฒนาการ) จะมาระบุว่ามีหรือไม่มีอะไรได้.
ทัศน์ใหม่ที่หนังเสนอไว้คือ (แต่ไม่อยู่ในไดอะล็อก) ..กาลเวลาเป็นอะไรบางอย่างที่คล้ายกับเซลล์
คือมันดูมีพฤติการณ์แบบ IMMORTALITY/REPRODUCTION เหมือนกัน. คือตัวมันเองไร้คาบ แต่สามัญสำนึกของมนุษย์ต่างหากที่ล้อมกรอบมันชั่วครั้งเป็นเวลาขึ้นมา
การกำหนดว่าอนุภาคใดคือตัวใด เครื่องมือสำคัญอย่างนึงก็คือ "คาบเวลา" ..ซึ่งไดอะล็อกของหนังขยายความเทียบให้เป็นอภิปรัชญา
..ว่าคนเราที่เป็นตัวเองได้อย่างไร..ก็อาศัยการระบุคาบเวลา

ส่วนไดอะล็อกที่หลายคนตั้งคำถามในหลายบอร์ดคือ "เราไม่ได้ตายจริง" ..หมายถึงว่า
การตายนั้นเองก็เป็นเรื่องของคาบเวลาและ egoism ..แต่ในระดับสัจจธรรมจะไม่สามารถตาย..เพราะไม่มีคาบเวลาและ egoism

วิทยาศาสตร์ ในฐานะ "ศาสนายุคใหม่"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สั้น ๆ คือการที่ลูซี่ "ส่งต่อ" ..แฟลชไดรฟ์แห่งสัจจธรรมทั้งปวงให้แก่นักวิทยาศาสตร์นั่นเอง
เพื่อให้วิทยาศาสตร์รับช่วงต่อในการถ่ายทอดสัจจธรรมแก่มนุษยชาติต่อไป
ในทิศทางที่เป็นวิชาการ อันเป็นกลางสำหรับคนหมู่ใหญ่ ไม่ลุ่มหลงมัวเมาก่อสงครามศาสนาได้เหมือนอดีตกาล

ซีนย้อนแย้งภาพวาด The Creation of Adam.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สัญลักษณ์ทางคริสต์ที่เด่นที่สุด คือการเลียนแบบภาพเขียน "The Creation of Adam" ..โดยให้ Lucy (คน) แตะปลายนิ้ว Lucy (มนุษย์วานร)
เรื่องน่าสังเกตทางภาพคือรายละเอียดที่ไม่เหมือนในภาพเขียนต้นฉบับ คือ 1.อยู่กลับข้างกัน 2.ใช้น้ำแทนเมฆ 3.Lucy (คน) นั่งบนเก้าอี้แทนบัลลังก์
(แต่ก็สื่อว่าเป็นสถานะแบบพระเจ้า) 4.เป็นเพศหญิงทั้งคู่ ซึ่งตรงกันข้ามกับภาพเขียนชัดเจน แถมวานรในทางคริสตศิลป์แล้วมีความหมายที่ไม่ดีนักครับ
(หมายถึงบาป ..ผมพยายามไม่กล่าวถึงความเป็นเพศหญิงเช่นเอวานะครับ) รวม ๆ แล้วช็อตนี้ฝั่งคาทอลิกอาจไม่โอเคนัก.
(แต่เพศหญิงโดยทั่วไปในทางศิลปะและปรัชญาการปกครองในยุโรปสมัยก่อน ก็เป็นสัญลักษณ์ของ "แผ่นดิน" หรือดินแดน
..ซึ่งกับหนังทำให้ Lucy ทั้งสองเป็นสัญลักษณ์แทนโลกในนามพระแม่ธรณีแบบสากล, Gaia)


มีต่อนะครับ..