วิเคราะห์ คลิป อ้อนแฟน Yes แบบนักการตลาด ทฤษฎีสมคบคิด

ที่มา http://thaiinfonet.com/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B/%E0%B8%AD%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9F%E0%B8%99-yes/



บางท่านอ่านหัวเรื่องแล้ว อาจจะคิดว่า เฮ้ย ว่างมากหรือไง มาวิโค้งวิเคาะ คลิปไร้สาระอะไรนี่??? อยากจะบอกก่อนเลยว่า อ่านเรื่องนี้ให้จบ แล้วท่านจะรู้ว่ามันไม่ได้ไร้สาระเลย ตรงกันข้าม มันอาจจะช่วยให้ท่านได้เห็นอีกมุมมองที่ท่านคิดไม่ถึงมาก่อนเลยก็ได้

เนื่องจากคลิปดังกล่าวโด่งดังมากในโลกออนไลน์ ทีมงานไทยอินโฟเน็ต จึงอยากจะชวนท่านผู้อ่านมาร่วมกันวิเคราะห์คลิปนี้กันดีๆ สักครั้ง ไทยอินโฟเน็ตจะทำการฉายภาพแนวความคิดให้ท่านผู้อ่านได้ทราบแบบค่อยเป็นค่อยไป แล้วลองดูว่า ท่านผู้อ่านเห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร มาเริ่มกันเลยครับ

การวิเคราะห์ของเรา ตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ไม่มีความบังเอิญ

ข้อสังเกตที่ 1 คลิปนี้ตั้งใจถ่ายมาเพื่อปล่อยอยู่แล้ว
คลิปนี้ตั้งใจถ่ายมาเพื่อปล่อยอยู่แล้ว ไม่ใช่คลิปหลุด เพราะว่า…..
1. การถ่ายแบบไม่ให้หน้า ปกติ คู่รักที่ถ่ายคลิปส่วนตัวแบบนี้ไว้ดูเอง จะไม่ได้มีการหลบมุมกล้องไม่ให้เห็นใบหน้า แต่คลิปนี้ ตั้งใจหลบใบหน้า เพราะตั้งใจปล่อยอยู่แล้ว
2. ภาพที่เกิดบนคลิป ดูดีเกินไป แบบ too good to be true เมื่อเปรียบเทียบกับคลิปเรทเอ็กซ์ทั่วไป น้ำเสียง รูปร่าง เสื้อผ้า ท่าทางอ้อน และมีการโกนขนเรียบร้อย

ข้อสังเกตที่ 2 ใครคือผู้ได้รับผลประโยชน์จากคลิปนี้
ทุกสิ่งในโลกนี้ เกิดขึ้นจากผู้สร้างเพื่อหวังผลประโยชน์ และผู้เข้ามาร่วมตักตวงผลประโยชน์
1. ข่าวบันเทิง หลายสำนัก รีบออกมาชี้นำเลย ว่าเป็นเสียงดารา คนโน้นคนนี้
2. วันแรกของการปล่อยคลิปนี้ มีการนำภาพดาราที่เคยใส่เสื้อแบบเดียวกับสาวในคลิป ออกมาให้คนได้มโนกันไปต่างๆนานา
3. ภาพที่ชัดเจนที่สุดในคลิปนี้คือ เสื้อยืดสีขาว ที่เขียนว่า Love is in the air เป็น Disign ในคอลเลคชั่นของร้านเสื้อยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง
4. ในช่วงแรก คลิป Youtube ที่ถูกแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก มีป้ายโฆษณาของ Google Network ฝังอยู่ ตรงนี้ เจ้าของคลิป รับรายได้จากโฆษณา ล่าสุด Youtube ลบคลิปนี้ออกจากระบบแล้ว

มาถึงตรงนี้ ท่านผู้อ่านพอจะเห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่า คลิปนี้ มีใครอยู่เบื้องหลังบ้าง ผู้เขียนปูทางไว้ก่อน แล้วจะไปสรุปให้ตอนท้าย

ข้อสังเกตที่ 3 นักการตลาดออนไลน์ รู้แนวคิดนี้ดี แต่ก็เล่นด้วย ร่วมฉกฉวยผลประโยชน์ ด้วยการขยายข่าว
วิธีการทำไวรัลคลิปแนวนี้ นักการตลาดออนไลน์ หรือ คนทำโฆษณารู้ดี ว่าเกิดการตั้งใจ ไม่ใช่เหตบังเอิญ ดังที่เราเคยเห็นคลิปแนวนี้มาก่อน ยกตัวอย่างเช่น คลิปหญิงสาวแกล้งเป็นลมในห้าง แล้วแฟนทิ้งถุงชอบปิ้งใส่ เพียงแต่ว่า คลิปนี้ เล่นแรงๆ แนวเรทเอ็กซ์ไปเลย เห็นอวัยวะเพศหญิง มีการพูดคำหยาบ(ที่ในบางบริบทถือว่าเป็นภาษาพูดทั่วไป)

ข้อสังเกตที่ 4 มีการวางตำแหน่งของพรีเซ็นเตอร์ให้เป็นดารา
คลิปนี้ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่เทคนิคทางการตลาดที่ซับซ้อนอีกนิดนึง จะช่วยฝังภาพจำลงในสมองของคนดูได้ว่า นี่คือคลิปของดารา โดยที่ไม่ต้องให้เห็นหน้าพรีเซนเตอร์เลย
ขั้นตอนก็ทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1. จัดวางองค์ประกอบในคลิปให้น่าเชื่อได้ว่าเป็นคลิปของดารา หรือคนที่มีฐานะทางสังคม เช่น เสื้อผ้า สำเนียงภาษา น้ำเสียง เนื้อเสียง ที่ใกล้เคียงกับบุคคลที่ต้องการ
2. ใช้สื่ออื่นช่วยในการชี้นำ เช่น คอมเม้นต์หน้าม้า โพสข้อความชี้นำ หรือรายการทีวีบันเทิง ไปสัมภาษณ์ดาราที่โดนชี้นำ

ข้อสังเกตที่ 5 หลังจากคลิปนี้โด่งดัง เกิดอะไรขึ้นบ้าง???
1. มีดาราที่เรารู้จัก และไม่รู้จักโผล่มาออกทีวี ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ใช่ตนเองแน่นอน เป็นจำนวนมาก แบบนี้ถือว่าดาราและช่องได้ประโยชน์จากคลิปนี้ แบบเนียนๆ
2. มีคนถามหาเสื้อแบบนี้ ว่ามีขายที่ไหน แบบนี้ ร้านเสื้อชื่อดัง ได้รับประโยชน์จากคลิปนี้ แบบเนียนๆ
3. เว็บไซต์ที่ลงข่าวคลิปนี้ ก็ได้รับประโยชน์แบบเนียนๆ
4. เจ้าของคลิปนี้ รู้ดีที่สุด ว่าทำคลิปนี้มาเพื่ออะไร ซึ่งก็แน่นอนว่า รับประโยชน์จากคลิปนี้ไปนานแล้ว แบบเนียนๆ

สรุปจากมุมมองของไทยอินโฟเน็ต
คลิปนี้ ตั้งใจถ่ายทำขึ้นมาเพื่อปล่อยโดยเฉพาะ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นคลิปไวรัล(มีการแชร์ต่ออย่างแพร่หลาย) โดยมีทีมงานเบื้องหลังจำนวนมาก (ไม่ใช่คลิปแบบ Home Made) ผ่านการคิด วางแผนอย่างดี มีการลำดับขั้นตอนของการปล่อยข่าวเพื่อชี้นำด้วย ถึงแม้ว่าคลิปนี้เป็นคลิปเรทเอ็กซ์ แต่ไม่มีใครเสียชื่อเสียงจากคลิปนี้ เพราะไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลในคลิปได้ ตรงกันข้าม กับเป็นการสร้างกระแสข่าวให้กับหลายๆฝ่าย คลิปนี้มีความยาว 46.7 วินาที เสื้อ Design แบบที่ปรากฏในคลิปได้ประโยชน์เต็มๆ จากการฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดาราที่ถูกโยงใย ก็ได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง ช่องทีวี ก็มีข่าวให้เล่นต่อได้อีก เยอะแยะมากมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่