ความเดิมตอนที่แล้ว
ครั้งแรก แบกเป้ เที่ยวจีนคนเดียว ไม่ง้อทัวร์ แบบพูดจีนไม่ได้ อังกฤษไม่เก่ง ตอนที่ 1 กวางโจว
http://ppantip.com/topic/32512343
ครั้งแรก แบกเป้ เที่ยวจีนคนเดียว ไม่ง้อทัวร์ แบบพูดจีนไม่ได้ อังกฤษไม่เก่ง ตอนที่ 2 จางเจี่ยเจี้ย
http://ppantip.com/topic/32524189
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ลงจากเขาจางเจี่ยเจี้ยมาที่เมือง ผมก็รีบเดินไปที่สถานีรถบัสที่เรามาตอนแรก พอไปถึงก็ประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว
สถานีเริ่มปิดและพอสอบถามเจ้าหน้าที่ที่นั่นก็บอกว่าวันนี้รถที่จะไปเฟิ่งหวงไม่มีแล้ว เราก็เลยหน้าเสียเลย แต่ด้วยความที่ไม่ย่อท้อ
ก็เลยเดินเข้าไปด้านในเพื่อถามกับคิวรถตู้ เพราะด้านในสถานีมีคิวรถตู้ด้วย นึกภาพเอานะครับ ผมพูดภาษาอังกฤษ เขาพูดภาษาจีน
ต่างคนต่างไม่เข้าใจในภาษาที่ต่างฝ่ายกำลังสื่อสาร คำเดียวที่เราเข้าใจตรงกันนั่นคือ เฟิ่งหวง ซึ่งผมก็ได้ใจความมาว่ารถ
มีแค่รอบเดียวคือตอน 8.30 นาฬิกา ผมเลยถามเขาต่อว่า แล้วถ้าไม่ใช่รถบัสล่ะ รถไฟมีไหม เขาก็ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ เอาไงดีทีนี้
เราจะสื่อสารเขายังไงดีให้เขาเข้าใจว่าเราหมายถึงรถไฟ ก็เลยทำเสียงใส่เขาว่า ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู้น ปู้น อ่ะ You Know?
ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู้น ปู้น อ่ะ You Know? ปรากฏว่าเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี และเขาก็พูดกันเป็นภาษาจีนว่า @!%^$#@%@ ปู้นปู้น
@!%^$#@%@ ปู้นปู้น ซึ่งผมแปลไม่ออกได้ยินแต่ปู้น ๆ ก็ยังไม่เลิกลา ผมก็พยายามคิดเอาไงดีวะ เพราะต้องไปให้ได้
ค้างที่นี่ไม่ได้มันผิดแผน ก็เลยหยิบปากกา กับกระดาษที่พกติดตัวไปด้วยขึ้น แล้วก็วาดรูปรถไฟให้เขาดู เขาก็เรียกคนมาดู
ด้วยประมาณ 3-4 คน แต่ไม่มีใครมองรูปที่ผมวาดออกเลยว่ามันคือรถไฟพระเจ้า นี่ผมวาดรูปแย่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ตอนแรกวาด
เป็นแบบรถไฟรางแล้วมีควันขึ้นตรงหัวขบวน ไม่มีคนเข้าใจ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเอ๊ะ หรือรถไฟบ้านเขาเป็นหัวแบบรถไฟความเร็วสูง
เลยวาดใหม่ทำรูปหัวรถไฟเป็นแบบแหลม ๆ อ๊ะลองยื่นให้ดูใหม่ ก็ยังไม่มีใครมองออกอีก เอาไงดีฟ่ะเนี่ย 6 โมงเย็นกว่าแล้ว ทำไงดี
และสิ่งที่แว็บเข้ามาในหัวก็คือ เออใช่ เอาตั๋วรถไฟที่เรานั่งจากกวางโจว ไปลงฉางชาให้เขาดูดีกว่า เราก็เลยยื่นตั๋วรถไฟให้เขาดู
แล้วก็ปิดชื่อสถานีปลายทางแล้วก็ชี้ไปตรงที่เราปิดแล้วพูดว่า เฟิ่งหวง เฟิ่งหวง เขาก็บอกเรามาเป็นภาษาจีน ซึ่งไม่เข้าใจ ได้ยินแต่คำว่า
จิโช่ จิดโช่ แล้วเขาก็ทำมือประมาณว่าให้เดินออกไปจากสถานีแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอสถานีรถไฟ เราก็เลยขอบคุณเขาเสร็จก็รีบเดินไป
พอไปยืนที่หน้าสถานีรถบัส ก็มองไปทางขวา เห็นแล้วตอนแรกนึกว่าห้าง เลยไม่ได้สนใจ เราก็รีบ ๆ เดินไปที่สถานีรถไฟ เดินไปได้ไม่
กี่ก้าวมีคนวิ่งตามเรามาแล้วตะโกนว่า เฟิ่งหวง เฟิ่งหวง เราได้ยินคำว่าเฟิ่งหวงเลยรีบหันไปมอง เขาก็กวักมือเรียกว่า เฟิ่งหวง เราเห็น
เช่นนั้นก็เลยเดินย้อนกลับไป แล้วเขาก็บอกเราว่าเฟิ่งหวง 100หยวน เราก็คิดว่าโหย 500บาทเลยเหรอ ในใจก็คิดว่าแต่ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้
เอาไงดีวะ แล้วเขาก็ชี้ไปทางสถานีรถไฟว่าที่นั่นอะก็ราคา 100หยวน แต่ไปแทกซี่ดีกว่าสบายกว่า เราก็เลยโอเคตกลง พอตกลงแต่ยัง
ไม่ได้จ่ายเงินนะ เขาก็บอกว่าให้รออีก 2 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ภาษามือล้วนๆที่เข้าใจได้นะครับ เราก็เลยถามว่าเมื่อไหร่โดยการชี้ไปที่
นาฬิกาข้อมือของเรา เขาก็ทำท่าว่า เฮ้ อย่าไปสนใจ เราก็อ้าวแล้วตูจะได้ไปเมื่อไหร่วะเนี่ย ทีนี้ก็มีอีกคนเดินมาหาเราแล้วบอกว่าไป
ตอนนี้เลยไหม 300หยวนไม่ต้องรอ เราก็โหย 300 หยวน แพงเว่อร์ เราเลยหันไปถามเขาอีกทีว่า เมื่อไหร่รถจะออก เขาก็ทำท่าว่าไม่ต้อง
ไปสนใจ รอก่อนอีก 2 คนกำลังมา ตอนนั้นผมโดนล้อมไปด้วยคนจีนประมาณ 5-6 คน ทุกคนต่างพยายามหว่านล้อมและพูดเชิญชวน
ต่าง ๆ นา ๆ จนผมเกิดความรำคาญ และหงุดหงิด เลยพูดออกไปเสียงดังว่า No No No Thank you Bye! แล้วผมก็เดินออกมาจาก
วงล้อมแล้วรีบเดินไปที่สถานีรถไฟ ตอนนั้นภาวนาว่าอย่าให้ตั๋วที่ไปเฟิ่งหวงหมดเลย พอไปถึงก็บอกเขาว่าเฟิ่งหวง เขาก็สตั้นไป 3 วิ
แล้วก็คีย์ข้อมูลให้เรา พอเราได้รับบัตรมา ราคาแค่ 19.50หยวนเองครับ อย่างแรกที่ห้ามลืมคือ เช็คจุดหมายปลายทาง ปรากฏว่าเป็น
Jishou ซึ่งดีตรงที่ว่าเราหาข้อมูลมาบ้างแล้วว่า ถ้านั่งรถไฟจากจางเจี่ยเจี้ยต้องไปลงที่ Jishou ก่อน แล้วค่อยต่อรถบัสเข้าเฟิ่งหวง
เพราะรถไฟไปลงเฟิ่งหวงเลยไม่มี เราก็เอาแล้ว รถไฟออก 19.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45นาที ไปถึงที่ Jishouจะมีรถบัสไหมนะ
ความกังวลยังไม่สิ้นสุดจริง ๆ
ระหว่างทางที่นั่งรถไปเจออยู่สถานีหนึ่งอยากถ่ายรูปเก็บไว้มาก ๆ แต่ว่าถ่ายไม่ทันจริง ๆ เมืองเขาสวยมาก เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วย
หุบเขา สวยจริง ๆ ครับ พอถึงเมือง Jishou เราก็เดินออกไปตามทางออกโดยตามคนอื่น ๆ ไป พอออกไปปุ๊บก็เจอเลยครับ รถทัวร์
ดักรออยู่หน้าทางออก ผมอ่านไม่ออกหรอกครับว่ารถทัวร์คันนั้นไปที่ไหน เลยเดินเข้าไปถามเขาว่า เฟิ่งหวง เขาก็ชี้ไปที่รถแล้วบอกว่า
เฟิ่งหวง ๆ ผมก็เลยถามเขาว่าเท่าไหร่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ เขาก็ตอบกลับมาว่า 30หยวน ผมก็เลยโอเค ขึ้นไปนั่งอย่างสบายใจ
แต่ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ซึ่งระหว่างนั้นก็กังวลว่าจะเลยหรือเปล่า พยายามมองตลอดทางว่าถึงหรือยัง จนมาเจอป้ายบอกทาง
อีก 9 กิโมเมตร ก็ใจชื้นขึ้นมา นั้งไปจนเห็นได้ชัดว่านี่แหละเฟิ่งหวง เมืองริมน้ำเต็มไปด้วยแสงสี แล้วก็มีคนขอลง ผมก็เลยเดินไปถาม
เขาว่านี่เฟิ่งหวงใช่ไหม เพราะกลัวว่าจะเลยป้าย เขาก็บอกว่าใช่ ผมเลยลงตาม แล้วก็เดินไปถามร้านค้าอีกว่านี่เฟิ่งหวงใช่ไหม เขาก็บอก
ว่าให้เดินลงไปตรงนี้ได้เลย ซึ่งทางลงอยู่ข้าง ๆ ร้านเขานั่นเอง แต่จะให้แนะนำ รถคันที่มาเฟิ่งหวงน่าจะไปจอดตรงท่ารถเฟิ่งหวงนะครับ
เผื่อใครที่ไปแล้วกลัวหลงไม่ต้องกลัวนะครับ เราจะรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของเราเอง
[CR] ครั้งแรก แบกเป้ เที่ยวจีนคนเดียว ไม่ง้อทัวร์ แบบพูดจีนไม่ได้ อังกฤษไม่เก่ง ตอนจบ เฟิ่งหวง
ครั้งแรก แบกเป้ เที่ยวจีนคนเดียว ไม่ง้อทัวร์ แบบพูดจีนไม่ได้ อังกฤษไม่เก่ง ตอนที่ 1 กวางโจว
http://ppantip.com/topic/32512343
ครั้งแรก แบกเป้ เที่ยวจีนคนเดียว ไม่ง้อทัวร์ แบบพูดจีนไม่ได้ อังกฤษไม่เก่ง ตอนที่ 2 จางเจี่ยเจี้ย
http://ppantip.com/topic/32524189
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากที่ลงจากเขาจางเจี่ยเจี้ยมาที่เมือง ผมก็รีบเดินไปที่สถานีรถบัสที่เรามาตอนแรก พอไปถึงก็ประมาณ 6 โมงเย็นแล้ว
สถานีเริ่มปิดและพอสอบถามเจ้าหน้าที่ที่นั่นก็บอกว่าวันนี้รถที่จะไปเฟิ่งหวงไม่มีแล้ว เราก็เลยหน้าเสียเลย แต่ด้วยความที่ไม่ย่อท้อ
ก็เลยเดินเข้าไปด้านในเพื่อถามกับคิวรถตู้ เพราะด้านในสถานีมีคิวรถตู้ด้วย นึกภาพเอานะครับ ผมพูดภาษาอังกฤษ เขาพูดภาษาจีน
ต่างคนต่างไม่เข้าใจในภาษาที่ต่างฝ่ายกำลังสื่อสาร คำเดียวที่เราเข้าใจตรงกันนั่นคือ เฟิ่งหวง ซึ่งผมก็ได้ใจความมาว่ารถ
มีแค่รอบเดียวคือตอน 8.30 นาฬิกา ผมเลยถามเขาต่อว่า แล้วถ้าไม่ใช่รถบัสล่ะ รถไฟมีไหม เขาก็ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ เอาไงดีทีนี้
เราจะสื่อสารเขายังไงดีให้เขาเข้าใจว่าเราหมายถึงรถไฟ ก็เลยทำเสียงใส่เขาว่า ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู้น ปู้น อ่ะ You Know?
ฉึกฉัก ฉึกฉัก ปู้น ปู้น อ่ะ You Know? ปรากฏว่าเขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี และเขาก็พูดกันเป็นภาษาจีนว่า @!%^$#@%@ ปู้นปู้น
@!%^$#@%@ ปู้นปู้น ซึ่งผมแปลไม่ออกได้ยินแต่ปู้น ๆ ก็ยังไม่เลิกลา ผมก็พยายามคิดเอาไงดีวะ เพราะต้องไปให้ได้
ค้างที่นี่ไม่ได้มันผิดแผน ก็เลยหยิบปากกา กับกระดาษที่พกติดตัวไปด้วยขึ้น แล้วก็วาดรูปรถไฟให้เขาดู เขาก็เรียกคนมาดู
ด้วยประมาณ 3-4 คน แต่ไม่มีใครมองรูปที่ผมวาดออกเลยว่ามันคือรถไฟพระเจ้า นี่ผมวาดรูปแย่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ตอนแรกวาด
เป็นแบบรถไฟรางแล้วมีควันขึ้นตรงหัวขบวน ไม่มีคนเข้าใจ ก็นึกขึ้นมาได้ว่าเอ๊ะ หรือรถไฟบ้านเขาเป็นหัวแบบรถไฟความเร็วสูง
เลยวาดใหม่ทำรูปหัวรถไฟเป็นแบบแหลม ๆ อ๊ะลองยื่นให้ดูใหม่ ก็ยังไม่มีใครมองออกอีก เอาไงดีฟ่ะเนี่ย 6 โมงเย็นกว่าแล้ว ทำไงดี
และสิ่งที่แว็บเข้ามาในหัวก็คือ เออใช่ เอาตั๋วรถไฟที่เรานั่งจากกวางโจว ไปลงฉางชาให้เขาดูดีกว่า เราก็เลยยื่นตั๋วรถไฟให้เขาดู
แล้วก็ปิดชื่อสถานีปลายทางแล้วก็ชี้ไปตรงที่เราปิดแล้วพูดว่า เฟิ่งหวง เฟิ่งหวง เขาก็บอกเรามาเป็นภาษาจีน ซึ่งไม่เข้าใจ ได้ยินแต่คำว่า
จิโช่ จิดโช่ แล้วเขาก็ทำมือประมาณว่าให้เดินออกไปจากสถานีแล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอสถานีรถไฟ เราก็เลยขอบคุณเขาเสร็จก็รีบเดินไป
พอไปยืนที่หน้าสถานีรถบัส ก็มองไปทางขวา เห็นแล้วตอนแรกนึกว่าห้าง เลยไม่ได้สนใจ เราก็รีบ ๆ เดินไปที่สถานีรถไฟ เดินไปได้ไม่
กี่ก้าวมีคนวิ่งตามเรามาแล้วตะโกนว่า เฟิ่งหวง เฟิ่งหวง เราได้ยินคำว่าเฟิ่งหวงเลยรีบหันไปมอง เขาก็กวักมือเรียกว่า เฟิ่งหวง เราเห็น
เช่นนั้นก็เลยเดินย้อนกลับไป แล้วเขาก็บอกเราว่าเฟิ่งหวง 100หยวน เราก็คิดว่าโหย 500บาทเลยเหรอ ในใจก็คิดว่าแต่ถ้าไม่ไปก็ไม่ได้
เอาไงดีวะ แล้วเขาก็ชี้ไปทางสถานีรถไฟว่าที่นั่นอะก็ราคา 100หยวน แต่ไปแทกซี่ดีกว่าสบายกว่า เราก็เลยโอเคตกลง พอตกลงแต่ยัง
ไม่ได้จ่ายเงินนะ เขาก็บอกว่าให้รออีก 2 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ภาษามือล้วนๆที่เข้าใจได้นะครับ เราก็เลยถามว่าเมื่อไหร่โดยการชี้ไปที่
นาฬิกาข้อมือของเรา เขาก็ทำท่าว่า เฮ้ อย่าไปสนใจ เราก็อ้าวแล้วตูจะได้ไปเมื่อไหร่วะเนี่ย ทีนี้ก็มีอีกคนเดินมาหาเราแล้วบอกว่าไป
ตอนนี้เลยไหม 300หยวนไม่ต้องรอ เราก็โหย 300 หยวน แพงเว่อร์ เราเลยหันไปถามเขาอีกทีว่า เมื่อไหร่รถจะออก เขาก็ทำท่าว่าไม่ต้อง
ไปสนใจ รอก่อนอีก 2 คนกำลังมา ตอนนั้นผมโดนล้อมไปด้วยคนจีนประมาณ 5-6 คน ทุกคนต่างพยายามหว่านล้อมและพูดเชิญชวน
ต่าง ๆ นา ๆ จนผมเกิดความรำคาญ และหงุดหงิด เลยพูดออกไปเสียงดังว่า No No No Thank you Bye! แล้วผมก็เดินออกมาจาก
วงล้อมแล้วรีบเดินไปที่สถานีรถไฟ ตอนนั้นภาวนาว่าอย่าให้ตั๋วที่ไปเฟิ่งหวงหมดเลย พอไปถึงก็บอกเขาว่าเฟิ่งหวง เขาก็สตั้นไป 3 วิ
แล้วก็คีย์ข้อมูลให้เรา พอเราได้รับบัตรมา ราคาแค่ 19.50หยวนเองครับ อย่างแรกที่ห้ามลืมคือ เช็คจุดหมายปลายทาง ปรากฏว่าเป็น
Jishou ซึ่งดีตรงที่ว่าเราหาข้อมูลมาบ้างแล้วว่า ถ้านั่งรถไฟจากจางเจี่ยเจี้ยต้องไปลงที่ Jishou ก่อน แล้วค่อยต่อรถบัสเข้าเฟิ่งหวง
เพราะรถไฟไปลงเฟิ่งหวงเลยไม่มี เราก็เอาแล้ว รถไฟออก 19.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45นาที ไปถึงที่ Jishouจะมีรถบัสไหมนะ
ความกังวลยังไม่สิ้นสุดจริง ๆ
ระหว่างทางที่นั่งรถไปเจออยู่สถานีหนึ่งอยากถ่ายรูปเก็บไว้มาก ๆ แต่ว่าถ่ายไม่ทันจริง ๆ เมืองเขาสวยมาก เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วย
หุบเขา สวยจริง ๆ ครับ พอถึงเมือง Jishou เราก็เดินออกไปตามทางออกโดยตามคนอื่น ๆ ไป พอออกไปปุ๊บก็เจอเลยครับ รถทัวร์
ดักรออยู่หน้าทางออก ผมอ่านไม่ออกหรอกครับว่ารถทัวร์คันนั้นไปที่ไหน เลยเดินเข้าไปถามเขาว่า เฟิ่งหวง เขาก็ชี้ไปที่รถแล้วบอกว่า
เฟิ่งหวง ๆ ผมก็เลยถามเขาว่าเท่าไหร่เป็นภาษาอังกฤษนะครับ เขาก็ตอบกลับมาว่า 30หยวน ผมก็เลยโอเค ขึ้นไปนั่งอย่างสบายใจ
แต่ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ซึ่งระหว่างนั้นก็กังวลว่าจะเลยหรือเปล่า พยายามมองตลอดทางว่าถึงหรือยัง จนมาเจอป้ายบอกทาง
อีก 9 กิโมเมตร ก็ใจชื้นขึ้นมา นั้งไปจนเห็นได้ชัดว่านี่แหละเฟิ่งหวง เมืองริมน้ำเต็มไปด้วยแสงสี แล้วก็มีคนขอลง ผมก็เลยเดินไปถาม
เขาว่านี่เฟิ่งหวงใช่ไหม เพราะกลัวว่าจะเลยป้าย เขาก็บอกว่าใช่ ผมเลยลงตาม แล้วก็เดินไปถามร้านค้าอีกว่านี่เฟิ่งหวงใช่ไหม เขาก็บอก
ว่าให้เดินลงไปตรงนี้ได้เลย ซึ่งทางลงอยู่ข้าง ๆ ร้านเขานั่นเอง แต่จะให้แนะนำ รถคันที่มาเฟิ่งหวงน่าจะไปจอดตรงท่ารถเฟิ่งหวงนะครับ
เผื่อใครที่ไปแล้วกลัวหลงไม่ต้องกลัวนะครับ เราจะรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของเราเอง