ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลแพ่งให้ยกฟ้อง"คดีสัญญาณมือถืออันตราย"

เนื้อความข่าวตามนี้เลยครับ...

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลแพ่งให้ยกฟ้อง กรณีนายบุญส่ง (นามสมมุติ) เป็นฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม เรียกร้องให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือค่ายดัง  รื้อถอนเสาและเครื่องส่งสัญญาณคลื่นความถี่โทรศัพท์ออกจากดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาท โดยนายบุญส่งอ้างว่าเสารับ-ส่งสัญญาณคลื่นความถี่มีผลทำให้วิงเวียนศีรษะ สายตาพร่ามัว และความจำเสื่อม แต่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลแพ่งให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงรับฟังไม่ได้ว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากเครื่องส่งสัญญาณวิทยุโทรคมนาคม เป็นอันตรายหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ นอกจากนี้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้เป็นมลพิษ และสถานีฐานมิใช่แหล่งกำเนิดมลพิษ รวมทั้งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากเครื่องส่งสัญญาณ จากการตรวจสอบของกสทช.มีค่าต่ำกว่าที่กำหนดตามประกาศกทช. ดังนั้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าวจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์

ด้าน ดร.ชาญไชย  ไทยเจียม  อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และกรรมการสมาคมวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย กล่าวถึงกรณีคนทั่วไปกลัวคลื่นความถี่โทรศัพท์จากเสาส่งสัญญาณที่ตั้งอยู่ใกล้บ้านจะมีผลต่อสุขภาพ ว่าจริงๆแล้วคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของโทรศัพท์มือถือไม่มีผลต่อร่างกาย ไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธะเคมี ไม่ทำให้เซลล์กลายพันธุ์ อันที่จริงเราน่าจะกลัวการใช้โทรศัพท์นานๆมากกว่า เพราะกำลังคลื่นที่ส่งมาแนบชิดกับอวัยวะสำคัญคือสมอง และการโทรฯออกจะใช้คลื่นแรงมาก โดยเฉพาะในจุดอับสัญญาณ เช่น ในลิฟท์ และชั้นใต้ดิน แต่ขณะเดียวกันเสาส่งสัญญาณ กำลังส่งของคลื่นจะคงที่ ไม่วูบวาบเหมือนการโทรฯออก นอกจากนี้ยังคำถามว่าใช้ไปนานๆจะสะสมมีผลต่อร่างกายหรือไม่ ขณะนี้ในยุโรปมีการเก็บข้อมูลเป็นเวลา 20 ปี แต่ไม่มีใครกล้าฟันธงว่ามีผลหรือไม่มีผลต่อร่างกาย.  

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/Content/regional/264221/%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่