อีกแง่มุมหนึ่งของระบบ SOTUS

คำว่าโซตัส (SOTUS) มีความหมายตามตัวอักษรคือ

S = Seniority หรือ อาวุโส หมายถึง ความเกรงใจเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน
O = Order หรือระเบียบวินัย สิ่งนี้จำเป็นมากในชีวิตที่ต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มในสังคม
T = Tradition หรือประเพณี เป็นสิ่งที่เห็นว่าดี ถูกต้องและประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมา
U = Unity หรือความสามัคคี คือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
S = Spirit หรือน้ำใจ หมายถึง การมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เกื้อกูล ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน


เครดิต http://www.dek-d.com/board/view/988422/

                เนื่องด้วยมีข่าวเกี่ยวกับการรับน้องจนทำให้น้องเสียชีวิต จนทำให้หลายคนๆมองว่าระบบ SOTUS ไม่ดี เราเรียนวิศวกรรมโยธาอยู่ ม แห่งหนึ่งเราเป็นผู้หญิงค่ะ เราอยากมาเล่าเกี่ยวกับการรับน้องการอยู่ด้วยกันแบบระบบโซตัส ก่อนอื่นเราจะประชุมกันตั้งแต่ปิดเทอมใหญ่ก่อนที่น้องๆจะเข้ามาว่าน้องมีกี่คนแล้วเราจะรวบรวมเงินกันเพื่อที่จะใช้จ่ายในการรับน้อง คือ ค่าน้ำ ค่าเครื่องมือพยาบาล ค่าเลี้ยงข้าวเย็นน้อง ค่าเสื้อกิจกรรมน้อง
แล้วเราจะแบ่งกันออกเป็น 4 หน่วยคือ หน่วยวางแผนงาน หน่วยพี่ว๊าก หน่วยรีแล๊ก หน่วยพยาบาล และหน่วยพี่ยาม
หน่วยแผนงาน ทำหน้าที่วางแผนงานในแต่ละวันจะมีกิจกรรมอะไรบ้าง(จะต้องส่งแผนงานให้อาจารย์ทางอีเมลทุกวัน)
หน่วยพี่ว๊าก เป็นคนสอนเรื่องกฎต่างๆ เป็นคนกดดัน เทสบูม ทำโทษ
หน่วยรีแล๊ก สอนบูมสอนเพลง แล้วทำกิจกรรมให้น้องๆหายเครียดจากการถูกกดดัน
หน่วยพยาบาล ดูแลน้องๆที่ป่วย น้องที่เป็นลม ค่อยหิ้วยาตามน้อง(มีรถมูลนิธิด้วยนะหากเกิดเหตุฉุกเฉิน)
หน่วยพี่ยาม จะเป็นคนเฝ้ารถที่น้องๆเอามาจอด
จะมีทำหนังสือเพลง 1 เล่มแล้วจะให้เขียน ชื่อ วันเกิด โรคประจำตัว ซึ่งการรับน้องในแต่ละวันจะมีอาจารย์ 1 คน มาเฝ้าเวร
                จะมีการเปิดประชุมเชียร์แล้วเริ่มรับน้อง และ ปิดประชุมเชียร์เมื่อรับชุดฝึกงาน ในระหว่างที่อยู่ในการประชุมเชียร์นั้นน้องๆจะต้องไว้ทรงผมที่เรียบร้อยแต่งชุดนักศึกษาก็ต้องเรียบร้อย ห้ามใส่ยีนส์ ห้ามปล่อยชายเสื้อ ห้ามใส่ตุ้มหู ถ้ารุ่นพี่เห็นว่าแต่งตัวไม่เรียบร้อยสามรถลงโทษได้ทันที(ส่วนใหญ่โดนลุกนั้ง) เมื่อปิดประชุมเชียร์แล้วก็เปลี่ยนมาใส่ชุดฝึกงานและเตรียมตัวเป็นรุ่นพี่ต่อไป ซึ่งหลายคนคงตั้งคำถามว่า ทำไม? ต้องกดดันน้อง น้องทำไม่ได้ทำไมต้องลงโทษ ทำไมต้องรับน้องหนัก เราคิดว่าการที่จะทำให้คนเป็นร้อยต่างถินฐาน ต่างสถาบัน ต่างคนต่างมีอีโก้ มาอยู่ด้วยกันแล้วจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในเมื่อน้องๆต้องอยู่ด้วยกันอีกหลายปี เราไม่อยากให้เขาแยกหญิงชาย รวยจน เก่งหรือไม่เก่ง การที่ทำให้น้องๆลำบากมาด้วยกันมันสามารถทำให้เขาละลายพฤติกรรมเข้าหากันได้จริงๆ การที่รับหนักจนน้องๆต้องเหนื่อยกายอย่างมากประเด็ดสำคัญไม่ได้อยู่ที่กายลำบากแต่เรากำลังจะฝึกจิตใจเขาให้สามารถรับแรงกดดันที่จะเจออีกมากมายในชีวิตการเรียนวิศวรรม กิจกรรมก็ไปปลูกต้นไม้แถวตึกหรือทำความสะอาดตึกบ้างแลปบ้าง เมื่อรับน้องเสร็จน้องๆจะสนิทกันเกือบทุกคนน้องๆจะไม่แบ่งแยกกันและเราจะได้ว่าที่วิศวกรที่กำลังใจดีและกำลังกายดีอีกด้วยนะ ระบบโซตัสที่ปฏิบัติตามแล้วเกิดความสร้างสรรค์มันก็มีอยู่ที่รุ่นพี่จะทำให้เกิดประโยชน์ได้หรือไม่

หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนี้กระทู้แรกเลย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่