เรื่องมีอยู่ว่าเราซื้อรถมอเตอร์ไซค์ต่อจากพี่คนนึง ขอให้ชื่อว่าพี่เอละกันค่ะ พี่เอซื้อรถมาแต่ยังผ่อนไม่หมด จึงขายดาวน์ให้เราแล้วให้เรามาผ่อนต่อ เราก็ผ่อนจนถึงงวดสุดท้าย เราเข้าไปที่สำนักงานใหญ่ของไฟแนนซ์ ขอเอ่ยนามนะคะ บริษัท ธนบรรณ จำกัด เพื่อจ่ายค่างวดงวดสุดท้าย และทำเรื่องโอนเล่มทะเบียน เรายื่นเอกสารทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ โดยชี้แจงว่าเราซื้อรถต่อมาจากพี่เอ แล้วมาผ่อนต่อ ขอให้ดำเนินการโอนเป็นชื่อเรา จนท.ตรวจสอบเอกสารความยินยอมของพี่เอครบถ้วนแล้ว เรียกชำระค่าบริการ และถามเราว่าให้จัดส่งเอกสารตามที่อยู่ของพี่เอเลยนะคะ (แอบคิดในใจก็บอกอยู่ว่าให้โอนเป็นชื่อเรา ทำไมยังต้องส่งเป็นชื่อพี่เอ แต่ช่างมันเถอะ) เราจัดแจงเขียนที่อยู่ใหม่ให้บอกว่าเป็นที่อยู่ของเรา ไม่ต้องส่งให้พี่เอแล้ว ออกมาด้วยความสบายใจ
หลังจากนั้น 1 เดือน 9 วัน เราโทรไปถามทางไฟแนนซ์ เค้าบอกส่งเล่มมาทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน เราขอหมายเลขพัสดุเพื่อเช็คสถานะ จนอีกหนึ่งสัปดาห์เรายังไม่ได้รับ จึงโทรไผถามไปรษณีย์ เค้าบอกว่าไปส่งแล้ว แต่ไม่มีผู้รับหนึ่งครั้ง และมาส่งวันเสาร์ที่ทำงานปิดหนึ่งครั้ง (แอบงงว่ามาส่งครั้งแรกทำไมเราไม่ได้ ทั้งที่บอกน้องที่ออฟฟิตไว้ว่าจะมีพัสดุมา เนื่องจากเราต้องออกไปทำงานตึกอื่นด้วย) เราเลยแจ้งความประสงค์ไปรับเอง เมื่อไปถึงบอกชื่อนามสกุล ไม่พบในระบบค่ะ(แอบงง) นึกได้ว่าขอเลขที่พัสดุจากไฟแนนซ์ไว้ เลยได้บอกจนท. ถึงหาเจอ แต่สิ่งที่เราพบคือ บริษัทจ่าหน้าซองถึงพี่เอ แต่เป็นที่อยู่เรา(มันใช่หรอ...แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ถึงมือเราแล้ว) เปิดดูความเรียบร้อยในเล่มทะเบียน ชื่อนามสกุล ที่อยู่ เป็นของเราถูกต้องหมด แต่มาดูพรบ.ก็ตกใจ เพราะแทนที่จะเป็นชื่อเรากลับเป็นชื่อพี่เอ เอาละสิ...ชักเริ่มคิดแล้วว่า บริษัททำไมทำให้เราผิด ตั้งแต่จ่าหน้าซองแล้ว เมื่อเราโทรไปถามที่สนง.ใหญ่ เราแจ้งว่าพรบ.ทำไมผิดชื่อ ทั้งที่เล่มทะเบียนเป็นชื่อเรา คำตอบที่เราได้รับคือ บริษัทต่อพรบ.ให้ตามชื่อผู้ทำสัญญาเช่าซื้อ ถ้าอยากจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนเอาเองที่บริษัทกลาง(เป็นบริษัทที่เค้าซื้อพรบ.มาให้) และยังบอกแบบให้ความรู้เราด้วยว่า พรบ.คุ้มคริงคนขี่ ไม่ได้คุ้มครองเจ้าของรถ(เราชักเริ่มโมโหแล้ว) เราถามว่านี่คือความรับผิดชอบหรอ ขอโทษสักคำก็ไม่มี ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด นางตัดสายเรา โทรไปก็ไม่รับอีก
เราอยากให้ช่วยตอบข้อสงสัยให้เราหน่อยว่าเรื่องที่จ่าหน้าซองผิด กับพรบ.ผิดชื่อนี่ มันความผิดเราหรอ เรารู้สึกว่าเค้าทำงานแบบใช้แรงไม่ใช้สมองเลยอ่ะ ทั้งที่เล่มทะเบียนเป็นชื่อเรา แต่ต่อพรบ.ชื่อพี่เอ ตลกอ่ะ หรือเราควรจะโทษตัวเราเองที่ไม่เน้นย้ำกับทางบริษัทตั้งแต่แรก ว่าทุกอย่างต้องเป็นชื่อเรา
เราเสียความรู้สึกมาก ใครช่วยตอบเราทีว่าที่เราคิดว่าบริษัททำงานไม่ดีพอ เราคิดไปเองรึเปล่า
มันเป็นความผิดพลาดของฉัน หรือบริษัทไฟแนนซ์กันแน่ รบกวนผู้รู้ช่วยด้วยค่ะ
หลังจากนั้น 1 เดือน 9 วัน เราโทรไปถามทางไฟแนนซ์ เค้าบอกส่งเล่มมาทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน เราขอหมายเลขพัสดุเพื่อเช็คสถานะ จนอีกหนึ่งสัปดาห์เรายังไม่ได้รับ จึงโทรไผถามไปรษณีย์ เค้าบอกว่าไปส่งแล้ว แต่ไม่มีผู้รับหนึ่งครั้ง และมาส่งวันเสาร์ที่ทำงานปิดหนึ่งครั้ง (แอบงงว่ามาส่งครั้งแรกทำไมเราไม่ได้ ทั้งที่บอกน้องที่ออฟฟิตไว้ว่าจะมีพัสดุมา เนื่องจากเราต้องออกไปทำงานตึกอื่นด้วย) เราเลยแจ้งความประสงค์ไปรับเอง เมื่อไปถึงบอกชื่อนามสกุล ไม่พบในระบบค่ะ(แอบงง) นึกได้ว่าขอเลขที่พัสดุจากไฟแนนซ์ไว้ เลยได้บอกจนท. ถึงหาเจอ แต่สิ่งที่เราพบคือ บริษัทจ่าหน้าซองถึงพี่เอ แต่เป็นที่อยู่เรา(มันใช่หรอ...แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ถึงมือเราแล้ว) เปิดดูความเรียบร้อยในเล่มทะเบียน ชื่อนามสกุล ที่อยู่ เป็นของเราถูกต้องหมด แต่มาดูพรบ.ก็ตกใจ เพราะแทนที่จะเป็นชื่อเรากลับเป็นชื่อพี่เอ เอาละสิ...ชักเริ่มคิดแล้วว่า บริษัททำไมทำให้เราผิด ตั้งแต่จ่าหน้าซองแล้ว เมื่อเราโทรไปถามที่สนง.ใหญ่ เราแจ้งว่าพรบ.ทำไมผิดชื่อ ทั้งที่เล่มทะเบียนเป็นชื่อเรา คำตอบที่เราได้รับคือ บริษัทต่อพรบ.ให้ตามชื่อผู้ทำสัญญาเช่าซื้อ ถ้าอยากจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนเอาเองที่บริษัทกลาง(เป็นบริษัทที่เค้าซื้อพรบ.มาให้) และยังบอกแบบให้ความรู้เราด้วยว่า พรบ.คุ้มคริงคนขี่ ไม่ได้คุ้มครองเจ้าของรถ(เราชักเริ่มโมโหแล้ว) เราถามว่านี่คือความรับผิดชอบหรอ ขอโทษสักคำก็ไม่มี ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด นางตัดสายเรา โทรไปก็ไม่รับอีก
เราอยากให้ช่วยตอบข้อสงสัยให้เราหน่อยว่าเรื่องที่จ่าหน้าซองผิด กับพรบ.ผิดชื่อนี่ มันความผิดเราหรอ เรารู้สึกว่าเค้าทำงานแบบใช้แรงไม่ใช้สมองเลยอ่ะ ทั้งที่เล่มทะเบียนเป็นชื่อเรา แต่ต่อพรบ.ชื่อพี่เอ ตลกอ่ะ หรือเราควรจะโทษตัวเราเองที่ไม่เน้นย้ำกับทางบริษัทตั้งแต่แรก ว่าทุกอย่างต้องเป็นชื่อเรา
เราเสียความรู้สึกมาก ใครช่วยตอบเราทีว่าที่เราคิดว่าบริษัททำงานไม่ดีพอ เราคิดไปเองรึเปล่า