หลังจากที่ย้ายออกไปอยู่บ้านนอกเมือง และเริ่มปั่นตอนเลิกงาน ด้วยเส้นทาง ถนนวงแหวน 2 กิโล และ เข้าในเมืองถึงสวนสาธารณะประจำจังหวัดอีก 8 กิโล รวมไป - กลับ 20 กิโล
ใช้เวลาหลังเลิกงานคือ 5 โมงเย็น ออกจากที่ทำงานถึงบ้านโดยรถยนต์ เพราะคุณแม่กลับด้วย เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมอุปกรณ์ ก็เกือบๆ 6 โมง ปั่นเข้าเมืองไป 10 กิโล แวะจิบน้ำเป็นช่วงๆ ถึงสวนสาธารณะ นั่งพักร้านเพื่อนเล็กน้อย ปั่นกลับ ก็จะเริ่มมืดที่ช่วง 2-4 กิโลสุดท้าย บางครั้งมืดตึ๊ดตื๋อ
แรกๆปั่น ก็ไม่มีอะไรนะคะ เป็นคนสายตาสั้นด้วย ก็ใส่แว่น
แล้วมีอยู่วันนึง ขณะที่ปั่นก่อนถึงบ้าน ประมาณ 1 กิโล ตอนนั้นมืดแล้ว ถนนวงแหวนช่วงนั้นมืดสนิท ไม่มีเสาไฟใดๆ มีเพียงแสงจากหน้ารถ ที่วิ่งบนเส้นทางเดียวกัน และสวนมาเป็นพักๆ
โป๊ะ ... แมลงเข้าตาข้างซ้าย เข้าไม่พอ ดิ้นขลุกขลัก อยากจะจอดก็ไม่กล้า บนถนนเลนสวนอย่างนี้ มืดขนาดนี้ ขยิบตาข้างซ้ายแน่น ชนิดที่ว่าแมลงคงขยับไม่ได้ แต่ มันก็ยังขยับอ่ะนะคะ น้ำตาไหลพราก เจ็บก็เจ็บ กลัวก็กลัว ขนลุก เหลืออีก 700 เมตรสุดท้าย ก็จะถึงบ้านแล้ว งือ งือ กลับถึงบ้าน รีบเข้าห้องน้ำ โอ้ว แมลงอะไรไม่รู้ ตัวดำเมี่ยมค่ะ เป็นศพอยู่ในเปลือกตา ตั้งแต่นาทีนั้น ไม่กล้าออกไปอีก ค้นหาอุปกรณ์ที่จะปกป้องดวงตาจากในเน็ตก็ไม่ชอบใจ
จนวันนึง ไปร้านขายของราคาเดียวน่ะค่ะ ก็ไปเจอ อุปกรณ์ชิ้นนี้ (ภาพประกอบจากเน็ตค่ะ เป็นของอีกยี่ห้อนึง แต่ลักษณะอย่างนี้ค่ะ) ขอใส่ spoil นะคะ เพราะยืมภาพมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอามาลองใส่ครอบแว่นไปเลย โป๊ะเชะค่ะ พอดีเลย กันได้ทุกอย่างฝุ่น ควัน แมลง ไม่ต้องกลัวแว่นตกด้วย 65 บาทเอง จัดไป
หลังจากที่หยุดไปหลายวัน พอได้อุปกรณ์มา ก็ออกไปปั่นต่อค่ะ (เราคิดว่า เราคงดูตลกมากแน่ๆเลยค่ะ 555)
คราวนี้ พอเริ่มมืด ไม่ห่วงแมลงเข้าตาแล้วค่ะ แต่แมลงบินมาชนแก้ม หลอนเลยค่ะ เคยโดนแมลงปีกแข็ง บินมาเสียบเข้ารูหูเลย
ตอนนั้นยืนอยู่นอกบ้าน อยู่ดีๆ เหมือนมีอะไรกระแทกเข้าที่รูหู เอามือตะปบ ติดแค่ปลายตัว แล้วมันก็เดินด้วยขาหนามๆเข้าไปในรูหู แทบขาดใจค่ะ พอมันเข้าไปลึกๆ มันปวดมากค่ะ ถึงกับทรุดเลยทีเดียว ตอนนั้นวิ่งเข้าบ้าน แม่ก็ช่วยเอาน้ำ เอาน้ำมันมะกอกเทใส่รูหู แล้วเทออก มันก็ไม่ออก มันขยับตัวที แทบตาย ร้องจนน้ำตาทะลักอ่ะค่ะ ไม่รู้ตัวอะไร กลัวมันทะลุแก้วหู เข้าไปในสมอง (ดูหนังมากไปหน่อยค่ะ หมอบอกทีหลังว่ามันเป็นไปไม่ได้ 555) ต้องไปโรงพยาบาล ระหว่างทาง เหงื่อนี่ออกท่วมเลยค่ะ แมลงขยับตัวทีก็ร้องที เจ็บก็เจ็บ กลัวก็กลัว แม่เลยบอกให้พี่ขับรถพาไปโรงพยาบาล
ถึงโรงพยาบาล พี่ก็จอดให้ลงหน้าห้องฉุกเฉินก่อน วิ่งเข้าไปบอกพยาบาล ช่วยทีค่ะ แมลงเข้าหู แล้วก็แบบแมลงมันดิ้นน่ะค่ะ ทรุดลงนั่งโอ๊ยยยย สะอื้นเลย พยาบาลเดินมาสายตาประมาณ เยอะไปมั๊ยเธอ แต่ก็บอกค่ะอย่าร้อง อย่าร้อง แค่แมลงเข้าหูเอง (อืมมมมม ถ้าตัวเล็กๆเข้าก็ไม่เคยร้องนะคะ)
พาขึ้นไปนอนบนเตียง เรานี่สั่นทั้งตัวอ่ะค่ะ มันปวดอยู่ในหู พูดไม่ถูก พยาบาลก็เอาน้ำมันมาเทใส่หู ก็บอกว่า เมื่อกี๊ใส่แล้วไม่ออก พอเทมันก็ดิ้น เราก็ร้องอีก พยาบาลก็กดเราบอกให้นอนนิ่งๆ อย่าเพิ่งเท ทิ้งไว้สักพัก แมลงจะตาย
ก็เลยได้ทราบว่า เวลาแมลงเข้าหู เทน้ำมันหรือน้ำเข้าหูแล้ว ให้อยู่นิ่งๆก่อน แมลงตายแล้วค่อยเทออก ไม่ใช่เทเข้าไป แล้วเทออกเลยนะคะ
คุณหมอมาแล้วทีนี้ เดินหัวเราะมาเลย " ร้องทำไม โตแล้ว แมลงเข้าหูแค่นี้เอง " คิดในใจ ลองมั๊ยคะ ปกติไม่ใช่คนสำออยนะเนี่ย งือ งือ หมอเอาไฟฉายมาส่อง เปลี่ยนเสียงเลย
" ตัวอะไรเนี๊ย " เอาไฟเอาคีมมา พยาบาลเริ่มมามุงแล้วค่ะ คุณหมอเอาคีมคีบแล้วขยับ เราโอ๊ยยยย เสียงคุณหมอพูดกับพยาบาล ไม่ได้ ไม่ได้ ตัวใหญ่มาก มันแน่นรูหูเลย แล้วก็บอกเรา " หมอดึงออกมาทีเดียวไม่ได้นะคะ ต้องค่อยๆหักแล้วคีบออกมา เจ็บหลายทีหน่อยนะคะ "
หลังจากเสร็จแล้ว พยาบาลเอาใส่ถุงมาให้ดู เป็นแมลงปีกแข็งดำๆค่ะ ตัวยาวเป็นนิ้วอ่ะ พยาบาลบอก คนไข้จะเอามั๊ยคะ ด้วยความที่เจ็บ ลืมไป เลยส่ายหน้า พยาบาลเลยเอาไปเรียกคนอื่นดู 555 ผลคือ แก้วหูเป็นแผล ในหูเป็นแผลจากขาแมลง
ตอนที่ปั่นมาหลายวัน ไม่ได้คิดนะคะ พอเริ่มคิดแค่นั้นแหล่ะ กลัวเลย
ปั่นแบบ เอามือปิดหูสลับข้างไปมา จนถึงบ้าน แล้วก็ไปค้นเอาผ้าบัฟ ที่ซื้อมาไว้ขี่มอเตอร์ไซค์ มาทดลองใส่ค่ะ แบบปิดหู ปิดจมูก ปิดปากเลย มันสุดยอดมากเลยทีเดียว กลางวันปั่น ไม่ใช้อุปกรณ์เสริมพวกนี้เลยค่ะ ใช้แต่เวลาปั่นตอนมืด ไม่รู้ว่า ท่านอื่นใส่กันแดดหรือ กันอะไรกัน แต่ของตัวเองนี่ ใส่กันแมลงอย่างเดียวเลยค่ะ
เลยมาแบ่งปันประสบการณ์ และอยากถามด้วยค่ะว่า
ที่ใส่โน่น ใส่นี่กันเยอะๆ มีเพราะเหตุผลอะไรอีกบ้างมั๊ยคะ
ถ้าตัวเองยังไม่ได้คิด จะได้เริ่มคิดค่ะ
มีใครเคยมีประสบการณ์หลอน จนทำให้มีผลต่อการปั่นจักรยานมั๊ยคะ
ใช้เวลาหลังเลิกงานคือ 5 โมงเย็น ออกจากที่ทำงานถึงบ้านโดยรถยนต์ เพราะคุณแม่กลับด้วย เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมอุปกรณ์ ก็เกือบๆ 6 โมง ปั่นเข้าเมืองไป 10 กิโล แวะจิบน้ำเป็นช่วงๆ ถึงสวนสาธารณะ นั่งพักร้านเพื่อนเล็กน้อย ปั่นกลับ ก็จะเริ่มมืดที่ช่วง 2-4 กิโลสุดท้าย บางครั้งมืดตึ๊ดตื๋อ
แรกๆปั่น ก็ไม่มีอะไรนะคะ เป็นคนสายตาสั้นด้วย ก็ใส่แว่น
แล้วมีอยู่วันนึง ขณะที่ปั่นก่อนถึงบ้าน ประมาณ 1 กิโล ตอนนั้นมืดแล้ว ถนนวงแหวนช่วงนั้นมืดสนิท ไม่มีเสาไฟใดๆ มีเพียงแสงจากหน้ารถ ที่วิ่งบนเส้นทางเดียวกัน และสวนมาเป็นพักๆ
โป๊ะ ... แมลงเข้าตาข้างซ้าย เข้าไม่พอ ดิ้นขลุกขลัก อยากจะจอดก็ไม่กล้า บนถนนเลนสวนอย่างนี้ มืดขนาดนี้ ขยิบตาข้างซ้ายแน่น ชนิดที่ว่าแมลงคงขยับไม่ได้ แต่ มันก็ยังขยับอ่ะนะคะ น้ำตาไหลพราก เจ็บก็เจ็บ กลัวก็กลัว ขนลุก เหลืออีก 700 เมตรสุดท้าย ก็จะถึงบ้านแล้ว งือ งือ กลับถึงบ้าน รีบเข้าห้องน้ำ โอ้ว แมลงอะไรไม่รู้ ตัวดำเมี่ยมค่ะ เป็นศพอยู่ในเปลือกตา ตั้งแต่นาทีนั้น ไม่กล้าออกไปอีก ค้นหาอุปกรณ์ที่จะปกป้องดวงตาจากในเน็ตก็ไม่ชอบใจ
จนวันนึง ไปร้านขายของราคาเดียวน่ะค่ะ ก็ไปเจอ อุปกรณ์ชิ้นนี้ (ภาพประกอบจากเน็ตค่ะ เป็นของอีกยี่ห้อนึง แต่ลักษณะอย่างนี้ค่ะ) ขอใส่ spoil นะคะ เพราะยืมภาพมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เอามาลองใส่ครอบแว่นไปเลย โป๊ะเชะค่ะ พอดีเลย กันได้ทุกอย่างฝุ่น ควัน แมลง ไม่ต้องกลัวแว่นตกด้วย 65 บาทเอง จัดไป
หลังจากที่หยุดไปหลายวัน พอได้อุปกรณ์มา ก็ออกไปปั่นต่อค่ะ (เราคิดว่า เราคงดูตลกมากแน่ๆเลยค่ะ 555)
คราวนี้ พอเริ่มมืด ไม่ห่วงแมลงเข้าตาแล้วค่ะ แต่แมลงบินมาชนแก้ม หลอนเลยค่ะ เคยโดนแมลงปีกแข็ง บินมาเสียบเข้ารูหูเลย
ตอนนั้นยืนอยู่นอกบ้าน อยู่ดีๆ เหมือนมีอะไรกระแทกเข้าที่รูหู เอามือตะปบ ติดแค่ปลายตัว แล้วมันก็เดินด้วยขาหนามๆเข้าไปในรูหู แทบขาดใจค่ะ พอมันเข้าไปลึกๆ มันปวดมากค่ะ ถึงกับทรุดเลยทีเดียว ตอนนั้นวิ่งเข้าบ้าน แม่ก็ช่วยเอาน้ำ เอาน้ำมันมะกอกเทใส่รูหู แล้วเทออก มันก็ไม่ออก มันขยับตัวที แทบตาย ร้องจนน้ำตาทะลักอ่ะค่ะ ไม่รู้ตัวอะไร กลัวมันทะลุแก้วหู เข้าไปในสมอง (ดูหนังมากไปหน่อยค่ะ หมอบอกทีหลังว่ามันเป็นไปไม่ได้ 555) ต้องไปโรงพยาบาล ระหว่างทาง เหงื่อนี่ออกท่วมเลยค่ะ แมลงขยับตัวทีก็ร้องที เจ็บก็เจ็บ กลัวก็กลัว แม่เลยบอกให้พี่ขับรถพาไปโรงพยาบาล
ถึงโรงพยาบาล พี่ก็จอดให้ลงหน้าห้องฉุกเฉินก่อน วิ่งเข้าไปบอกพยาบาล ช่วยทีค่ะ แมลงเข้าหู แล้วก็แบบแมลงมันดิ้นน่ะค่ะ ทรุดลงนั่งโอ๊ยยยย สะอื้นเลย พยาบาลเดินมาสายตาประมาณ เยอะไปมั๊ยเธอ แต่ก็บอกค่ะอย่าร้อง อย่าร้อง แค่แมลงเข้าหูเอง (อืมมมมม ถ้าตัวเล็กๆเข้าก็ไม่เคยร้องนะคะ)
พาขึ้นไปนอนบนเตียง เรานี่สั่นทั้งตัวอ่ะค่ะ มันปวดอยู่ในหู พูดไม่ถูก พยาบาลก็เอาน้ำมันมาเทใส่หู ก็บอกว่า เมื่อกี๊ใส่แล้วไม่ออก พอเทมันก็ดิ้น เราก็ร้องอีก พยาบาลก็กดเราบอกให้นอนนิ่งๆ อย่าเพิ่งเท ทิ้งไว้สักพัก แมลงจะตาย
ก็เลยได้ทราบว่า เวลาแมลงเข้าหู เทน้ำมันหรือน้ำเข้าหูแล้ว ให้อยู่นิ่งๆก่อน แมลงตายแล้วค่อยเทออก ไม่ใช่เทเข้าไป แล้วเทออกเลยนะคะ
คุณหมอมาแล้วทีนี้ เดินหัวเราะมาเลย " ร้องทำไม โตแล้ว แมลงเข้าหูแค่นี้เอง " คิดในใจ ลองมั๊ยคะ ปกติไม่ใช่คนสำออยนะเนี่ย งือ งือ หมอเอาไฟฉายมาส่อง เปลี่ยนเสียงเลย
" ตัวอะไรเนี๊ย " เอาไฟเอาคีมมา พยาบาลเริ่มมามุงแล้วค่ะ คุณหมอเอาคีมคีบแล้วขยับ เราโอ๊ยยยย เสียงคุณหมอพูดกับพยาบาล ไม่ได้ ไม่ได้ ตัวใหญ่มาก มันแน่นรูหูเลย แล้วก็บอกเรา " หมอดึงออกมาทีเดียวไม่ได้นะคะ ต้องค่อยๆหักแล้วคีบออกมา เจ็บหลายทีหน่อยนะคะ "
หลังจากเสร็จแล้ว พยาบาลเอาใส่ถุงมาให้ดู เป็นแมลงปีกแข็งดำๆค่ะ ตัวยาวเป็นนิ้วอ่ะ พยาบาลบอก คนไข้จะเอามั๊ยคะ ด้วยความที่เจ็บ ลืมไป เลยส่ายหน้า พยาบาลเลยเอาไปเรียกคนอื่นดู 555 ผลคือ แก้วหูเป็นแผล ในหูเป็นแผลจากขาแมลง
ตอนที่ปั่นมาหลายวัน ไม่ได้คิดนะคะ พอเริ่มคิดแค่นั้นแหล่ะ กลัวเลย
ปั่นแบบ เอามือปิดหูสลับข้างไปมา จนถึงบ้าน แล้วก็ไปค้นเอาผ้าบัฟ ที่ซื้อมาไว้ขี่มอเตอร์ไซค์ มาทดลองใส่ค่ะ แบบปิดหู ปิดจมูก ปิดปากเลย มันสุดยอดมากเลยทีเดียว กลางวันปั่น ไม่ใช้อุปกรณ์เสริมพวกนี้เลยค่ะ ใช้แต่เวลาปั่นตอนมืด ไม่รู้ว่า ท่านอื่นใส่กันแดดหรือ กันอะไรกัน แต่ของตัวเองนี่ ใส่กันแมลงอย่างเดียวเลยค่ะ
เลยมาแบ่งปันประสบการณ์ และอยากถามด้วยค่ะว่า
ที่ใส่โน่น ใส่นี่กันเยอะๆ มีเพราะเหตุผลอะไรอีกบ้างมั๊ยคะ
ถ้าตัวเองยังไม่ได้คิด จะได้เริ่มคิดค่ะ