LUCY หนังที่เป็นมากกว่าหนังแอคชั่นธรรมดา แต่มันคือยิ่งกว่าอภิปรัชญาและประเด็นทางศาสนาพุทธที่น่าสนใจ อยากรู้ว่าเป็นยังไง เลื่อนอ่านในคอมเมนท์นะครับ สปอยล์ 100 % ใครดูแล้วลองมาแชร์ความคิดเห็นกันดู จะทำให้สนุกกับการดูยิ่งขึ้น หนังดีที่ฝรั่งไม่เข้าใจแต่คนไทยเก็ท ตีแผ่ถึงแก่น วิทยาศาสตร์ ศาสนา การแพทย์ ปรัชญา อยากรู้ว่าเป็นยังไงเลื่อนลงไปอ่านเลยครับ
สมองคนเรา เขาเชื่อกันว่า เราใช้ทำงานแค่ 10% เอง ขนาดไอสไตน์ก็ใช้แค่นี้ ถ้ามันใช้ได้มากกว่า 10% มนุษย์จะฉลาดขนาดอภิมหาอัจฉริยะขนาดไหน หนังมันก็จับตรงนี้มาเล่น ให้ยาตัวนึงในร่างนางเอก มันก็เลยทำให้นางเอกฉลาดล้ำเกินคน อ่านหนังสือเป็นหมื่นเป็นล้านเล่มแล้วจำได้หมด คิดวิเคราะห์ประมวลผลทุกอย่างได้เร็ว ความรู้สึกดีเยี่ยม รู้สึกได้ถึงเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายที่ทำงาน เมื่อเวลาผ่านไปนางเอกก็ยิ่งฉลาดขึ้นๆ เพราะปริมาณยารั่วเข้าร่างกายมากขึ้น จาก 10 เป็น 20 เป็น 30 มากขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าถึงร้อยเมื่อไหร่ก็จะเปรียบได้กับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คือรู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่าง ถอดจิต ถอดวิญญาณ เดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้ ตามหลักทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์ E = mc2
CPH4 ในเรื่องนั้นมีจริง ในเรื่องเป็นชื่อสมมุติ
แต่ชื่อจริงๆในทางการแพทย์เรียกว่า Protocadherin-2 (Pcad-2) เริ่มสร้างในสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ในบริมาณย้อยมว้ากกก แต่จะตรวจพบได้ในเซลล์ประสาทบริเวณก้านสมอง (brain stem) ในสัปดาห์ที่ 8 และจะกระจายไปทั่วสมองทารกในสัปดาห์ที่ 11 พอสัปดาห์ที่ 18 ก็จะเริ่มพบในเส้นประสาทแล้วก็จะค่อยๆลดลงไปจนไม่เหลือ ว่าง่ายๆ สารตัวนี้สร้างมาในช่วงที่ระบบสมองและประสาทส่วนกลาง (central nervous system) ของทารกกำลังพัฒนา ทำให้การสื่อประสาทในเซลล์สมองดีขึ้น เส้นใยประสาทยาวขึ้น
The expression was hardly visible at the 6th week of pregnancy, and began to become visible along the nerve fiber in the brain stem at the 8th week, and spread over the entire brain at the 11th week. At the 18th week, however, expression in the nerve fascicles, which had been visible by that time, was no longer visible or had decreased. These results suggest that Pcad-2 appears relatively early in the critical stage of development of the fetal CNS, and is involved in the induction, fasciculation, and extension of axons.
ก่อนที่นางเอกจะมีสมองทำงานได้เต็มที่ลิมิต 100% ศาสตรจารย์นอร์แมนผู้ซึ่งศึกษาการทำงานของสมองก็ได้ชวนเพื่อนนักวิทยาศาสตร์สาขาแขนงต่างๆมาอีกสี่คน เพื่อร่วมพิสูจน์และศึกษาการค้นพบครั้งนี้ของเธอ คือพอนางรู้ว่าตัวเองโดนสารอะไรรั่วเข้าร่างกาย นางก็ฉลาดขึ้น นางก็อ่านงานวิจัยของศาสตราจารย์แล้วจำได้หมด เลยติดต่อเข้าพบ เพราะสมองนางทำงานได้สูงมาก นางเลยอ่านและจำความรู้ทุกสิ่งอย่างบนโลกมนุษย์ได้หมดสิ้น นางเลยอยากอุทิศมันให้กับโลกใบนี้ ตอนที่นางกำลังจะถึง 100% ของการทำงานของสมอง เปรียบได้เหมือนพระพุทธเจ้ากำลังจะตรัสรู้ พระพุทธองค์คือบุคคลเดียวในโลกที่สมองสามารถทำงานได้ 100% ท่านสามารถหยั่งฌาณได้ทั่วในสากลพิภพและจักรวาล จักรวาลคือหนึ่งเดียว และเนื้อแท้คือความว่างเปล่า ช่วงที่พระองค์ตรัสรู้และจะเผยแผ่พระธรรมคำสอนนั้น พระภิกษุกลุ่มแรกที่ได้สดับรับฟังธรรมจากพระพุทธองค์มี 5 รูป รวมเรียกว่าปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ซึ่งก็คือนักวิยาศาสตร์ 5 คนในเรื่องนั่นเองครับ
ก่อนที่นางเอกสมองจะทำงานถึง 100% ก็มีตัวร้ายคือมิสเตอร์จางเข้ามาขัดขวาง อิมิสเตอร์จางก็เปรียบเสมือน ท้าววสวัตตีมารยกทัพมารเพื่อขัดขวางการตรัสรู้ของพระสิทธัตถะนั่นเองครับ
ศาสตราจารย์นอร์แมนในเรื่อง ก็เปรียบเสมือนพระอัญญาโกณฑัญญะ
พอนางเอกตรัสู้ นางก็ถึงนิพพาน คือหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไปเลย สิ่งที่หลงเหลือไว้คือความรู้ซึ่งนางส่งมอบให้กับศ.นอร์แมนและนักวิทยาศาสตร์ทั้งห้าออกมาในรูปของ thumbdrive ซึ่งก็เปรียบกับ"พระไตรปิฎก"นั่นเองครับ ใครอ่านสามเล่มข้างล่างนี้มาก่อน จะยิ่งดูสนุกและเข้าใจมากขึ้นครับ
สุดท้ายขออนุญาตบอกก่อนว่าไม่ได้เขียนเอง แต่เอามาจากเพจที่ทำกันหลายคน โดยหนึ่งในนั้นมีคุณหมอเอิร์ทด้วย
https://www.facebook.com/overhyp
[สปอยล์ละเอียดยิบ]ทำความเข้าใจง่ายๆกับ LUCY หนังแอ๊คชั่นที่มากกว่าแอ๊คชั่น กับข้อสงสัยในเชิงการแพทย์และศาสนา(CPH4มีจริง)
สมองคนเรา เขาเชื่อกันว่า เราใช้ทำงานแค่ 10% เอง ขนาดไอสไตน์ก็ใช้แค่นี้ ถ้ามันใช้ได้มากกว่า 10% มนุษย์จะฉลาดขนาดอภิมหาอัจฉริยะขนาดไหน หนังมันก็จับตรงนี้มาเล่น ให้ยาตัวนึงในร่างนางเอก มันก็เลยทำให้นางเอกฉลาดล้ำเกินคน อ่านหนังสือเป็นหมื่นเป็นล้านเล่มแล้วจำได้หมด คิดวิเคราะห์ประมวลผลทุกอย่างได้เร็ว ความรู้สึกดีเยี่ยม รู้สึกได้ถึงเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายที่ทำงาน เมื่อเวลาผ่านไปนางเอกก็ยิ่งฉลาดขึ้นๆ เพราะปริมาณยารั่วเข้าร่างกายมากขึ้น จาก 10 เป็น 20 เป็น 30 มากขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าถึงร้อยเมื่อไหร่ก็จะเปรียบได้กับการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คือรู้แจ้งเห็นจริงทุกอย่าง ถอดจิต ถอดวิญญาณ เดินทางข้ามผ่านกาลเวลาได้ ตามหลักทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์ E = mc2
CPH4 ในเรื่องนั้นมีจริง ในเรื่องเป็นชื่อสมมุติ
แต่ชื่อจริงๆในทางการแพทย์เรียกว่า Protocadherin-2 (Pcad-2) เริ่มสร้างในสัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์ในบริมาณย้อยมว้ากกก แต่จะตรวจพบได้ในเซลล์ประสาทบริเวณก้านสมอง (brain stem) ในสัปดาห์ที่ 8 และจะกระจายไปทั่วสมองทารกในสัปดาห์ที่ 11 พอสัปดาห์ที่ 18 ก็จะเริ่มพบในเส้นประสาทแล้วก็จะค่อยๆลดลงไปจนไม่เหลือ ว่าง่ายๆ สารตัวนี้สร้างมาในช่วงที่ระบบสมองและประสาทส่วนกลาง (central nervous system) ของทารกกำลังพัฒนา ทำให้การสื่อประสาทในเซลล์สมองดีขึ้น เส้นใยประสาทยาวขึ้น
The expression was hardly visible at the 6th week of pregnancy, and began to become visible along the nerve fiber in the brain stem at the 8th week, and spread over the entire brain at the 11th week. At the 18th week, however, expression in the nerve fascicles, which had been visible by that time, was no longer visible or had decreased. These results suggest that Pcad-2 appears relatively early in the critical stage of development of the fetal CNS, and is involved in the induction, fasciculation, and extension of axons.
ก่อนที่นางเอกจะมีสมองทำงานได้เต็มที่ลิมิต 100% ศาสตรจารย์นอร์แมนผู้ซึ่งศึกษาการทำงานของสมองก็ได้ชวนเพื่อนนักวิทยาศาสตร์สาขาแขนงต่างๆมาอีกสี่คน เพื่อร่วมพิสูจน์และศึกษาการค้นพบครั้งนี้ของเธอ คือพอนางรู้ว่าตัวเองโดนสารอะไรรั่วเข้าร่างกาย นางก็ฉลาดขึ้น นางก็อ่านงานวิจัยของศาสตราจารย์แล้วจำได้หมด เลยติดต่อเข้าพบ เพราะสมองนางทำงานได้สูงมาก นางเลยอ่านและจำความรู้ทุกสิ่งอย่างบนโลกมนุษย์ได้หมดสิ้น นางเลยอยากอุทิศมันให้กับโลกใบนี้ ตอนที่นางกำลังจะถึง 100% ของการทำงานของสมอง เปรียบได้เหมือนพระพุทธเจ้ากำลังจะตรัสรู้ พระพุทธองค์คือบุคคลเดียวในโลกที่สมองสามารถทำงานได้ 100% ท่านสามารถหยั่งฌาณได้ทั่วในสากลพิภพและจักรวาล จักรวาลคือหนึ่งเดียว และเนื้อแท้คือความว่างเปล่า ช่วงที่พระองค์ตรัสรู้และจะเผยแผ่พระธรรมคำสอนนั้น พระภิกษุกลุ่มแรกที่ได้สดับรับฟังธรรมจากพระพุทธองค์มี 5 รูป รวมเรียกว่าปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ซึ่งก็คือนักวิยาศาสตร์ 5 คนในเรื่องนั่นเองครับ
ก่อนที่นางเอกสมองจะทำงานถึง 100% ก็มีตัวร้ายคือมิสเตอร์จางเข้ามาขัดขวาง อิมิสเตอร์จางก็เปรียบเสมือน ท้าววสวัตตีมารยกทัพมารเพื่อขัดขวางการตรัสรู้ของพระสิทธัตถะนั่นเองครับ
ศาสตราจารย์นอร์แมนในเรื่อง ก็เปรียบเสมือนพระอัญญาโกณฑัญญะ
พอนางเอกตรัสู้ นางก็ถึงนิพพาน คือหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไปเลย สิ่งที่หลงเหลือไว้คือความรู้ซึ่งนางส่งมอบให้กับศ.นอร์แมนและนักวิทยาศาสตร์ทั้งห้าออกมาในรูปของ thumbdrive ซึ่งก็เปรียบกับ"พระไตรปิฎก"นั่นเองครับ ใครอ่านสามเล่มข้างล่างนี้มาก่อน จะยิ่งดูสนุกและเข้าใจมากขึ้นครับ
สุดท้ายขออนุญาตบอกก่อนว่าไม่ได้เขียนเอง แต่เอามาจากเพจที่ทำกันหลายคน โดยหนึ่งในนั้นมีคุณหมอเอิร์ทด้วย
https://www.facebook.com/overhyp