Lucy ลูซี่ สวยพิฆาต ผลงานของผู้กำกับ Luc Besson เล่าถึง Lucy นักศึกษาหญิงในไต้หวัน ที่ถูกบังคับโดยกลุ่มค้ายาชาวเกาหลี ให้เป็นคนลำเลียงสารเสพติดตัวใหม่ ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ชื่อ CPH4  พวกมาเฟียได้ผ่าท้องของลูซี่และยัดสารสังเคราะห์ซ่อนไว้ในท้องลูซี่เพื่อรอส่งมอบเป็นสินค้าต่อไป
    ระหว่างที่กำลังรอส่ง  CPH4 ที่ถูกยัดเข้าในท้องของเธอเกิดแตก ทำให้ CPH4 ซึมเขาสู่ร่างกาย ทำให้ลูซี่ได้รับความสามารถพิเศษ คือ ทำให้เธอใช้ประโยชน์สูงสุดในการทำงานของสมองได้ถึง 100% จากที่คนปกติทั่วๆไปที่ใช้ได้เพียง 10% เท่านั้น กลายเป็นดั่งยอดมนุษย์ สามารถควบคุมบังคับเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ สามารถควบคุมกลไก กระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ เช่น กระบวนการเมทาบอลึซึมในร่างกาย สามารถรับรู้สิ่งต่างๆรอบตัว ความคิดของรอบข้าง เป็นผู้มีพลังจิต โทรจิต ความรู้มหาศาล วัตถุสสารต่างๆ แถมเจ้าสารตัวนั้นมันคงปลุกพลังของเธอให้สูงขึ้นอีกเรื่อยๆ
           ลูซี่ต้องการพบตัว ดร.นอร์แมน ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านสมองของสัตว์ เพื่อที่จะให้ข้อมูลจากความสามารถพิเศษของเธอนำมาใช้ประโยชน์แกโลกต่อไป โดยมีสารวัตรปิแอร์ เดล ริโอ นายตำรวจฝรั่งเศสที่ยังมองเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวลูซี่ และคอยให้ควมช่วยเหลือให้เธอบรรลุเป้าหมาย


ประเด็นทางวิทยาศาสตร์  
       หากมองถึงข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์แล้ว มนุษย์มีวิวัฒนาการ มีการพัฒนาการมาโดยลำดับ มีกลไก กระบวนการควบคุมการทำงานของร่างกายอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว เพื่อคงภาวะธำรงดุล โดยมีระดับที่ปลอดภัยของสารต่าง ๆ ในการทำงานอยู่แล้ว ให้สามารถดำรงชีวิตและขยายพันธุ์สืบต่อๆ กันไป
     ไม่มียา หรือสารตัวไหนที่ทำให้มนุษย์สามารถควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกายของตนเอง หรือบุคคลอื่น รวมถึงสิ่งของ หรือวัตถุทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ เหมือนดั่งในหนังเรื่องนี้

       จากในภาพยนตร์ กล่าวว่าถ้าเราสามารถดึงพลังสมองของเรามาใช้ประโยชน์สูงสุดในการทำงานของสมองได้ถึง 100%  จากที่คนปกติทั่วๆไปที่ใช้ได้เพียง 10% เท่านั้น เราก็จะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการจดจำของเราให้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น แถมยังทำให้มีความสามารถทางจิตอันน่าอัศจรรย์เพิ่มขึ้นอีกหลายๆอย่าง จนบางครั้งเราอาจจะสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุได้เพียงแค่ใจคิดเท่านั้น
คนเราใช้สมองเพียงแค่ 10% จริงๆรึเปล่า และเมื่อสมองทำงานได้ถึง 100%  จะทำให้มีความสามารถทางอันน่าอัศจรรย์เพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ ?
สมอง คือ อวัยวะสำคัญในสัตว์หลายชนิดตามลักษณะทางกายวิภาค หรือที่เรียกว่า encephalon จัดว่าเป็นส่วนกลางของระบบประสาท คำว่า สมอง นั้นส่วนใหญ่จะเรียกระบบประสาทบริเวณหัวของสัตว์มีกระดูกสันหลัง คำนี้บางทีก็ใช้เรียกอวัยวะในระบบประสาทบริเวณหัวของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอีกด้วย
สมองมีหน้าที่ควบคุมและสั่งการการเคลื่อนไหว, พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล (homeostasis) เช่น การเต้นของหัวใจ, ความดันโลหิต, สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น หน้าที่ของสมองยังมีเกี่ยวข้องกับการรู้ (cognition) อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว (motor learning) และความสามารถอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้
        สมองประกอบด้วยเซลล์สองชนิด คือ เซลล์ประสาท และเซลล์เกลีย เกลียมีหน้าที่ในการดูแลและปกป้องนิวรอน นิวรอนหรือเซลล์ประสาทเป็นเซลล์หลักที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลในรูปแบบของสัญญาณไฟฟ้าที่เรียกว่า ศักยะงาน (action potential) การติดต่อระหว่างนิวรอนนั้นเกิดขึ้นได้โดยการหลั่งของสารเคมีชนิดต่าง ๆ ที่รวมเรียกว่า สารสื่อประสาท (neurotransmitter) ข้ามบริเวณระหว่างนิวรอนสองตัวที่เรียกว่า ไซแนปส์ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง เช่น แมลงต่าง ๆ ก็มีนิวรอนอยู่นับล้านในสมอง สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดใหญ่มักจะมีนิวรอนมากกว่าหนึ่งร้อยล้านตัวในสมอง สมองของมนุษย์นั้นมีความพิเศษกว่าสัตว์ตรงที่ว่ามีความซับซ้อนและใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับขนาดตัวของมนุษย์
    

สรุป  
       ดังนั้น ปกติคนปกติทั่ว ๆ ไป ก็ใช้ประโยชน์สูงสุดในการทำงานของสมอง 100 % อยู่แล้ว เราสามารถใช้สมอง 10% คือ ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการรู้ (cognition) อารมณ์ ความจำ การเรียนรู้การเคลื่อนไหว (motor learning) และความสามารถอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ และอีก 90% สมองมีหน้าที่ควบคุม และสั่งการการเคลื่อนไหว, พฤติกรรม และภาวะธำรงดุล (homeostasis) เช่น การเต้นของหัวใจ, ความดันโลหิต, สมดุลของเหลวในร่างกาย และอุณหภูมิ เป็นต้น เมื่อสมองมีการทำงานของสมอง 100 % ก็จะอยู่ในภาวะของคนปกติ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายวัตถุ ไม่มีอัศจรรย์เพิ่มขึ้นดั่งในเนื้อเรื่อง

อ้างอิง
ลาบสมอง/ 2015./คนเราใช้สมองกี่เปอร์เซนต์./ สืบค้นเมื่อวนัที่  กรกฎาคม 2561 ,/ จากเว็บไซต:์ /////// www.pharmacy.mahidol.ac.th
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี/ 2561./ สมอง/สืบค้นเมื่อวนัที่  กรกฎาคม 2561 ,/ จาก เว็บไซต:์ /  ////// https://th.wikipedia.org/wiki

Facebook : ธนพร ชุมวรฐายี


กระทู้นี้เป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะ์ภาพยนตร์ จากรายวิชา วิทยาศาสตร์ชีวภาพในสื่อ
ต้องการแยกความเป็นจริงทางชีววิทยาออกมาจากหนังค่ะ ขอบคุณที่ทุกคำติ ชมค่ะ