วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 12:40 น. ข่าวสดออนไลน์
หนุ่มสวีเดนแทงวัยรุ่นไทยดับเมื่อ 2 ปีก่อน ล่าสุดถูกฆ่าตาย - ตร.สวีเดนสงสัยคนใกล้ชิด
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 31 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด เดินทางทางเข้าไปยังบ้านเลขที่ 508 ม. 2 ต. ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านของนายคมสันต์ และนางวาสนา นาสืบ พ่อและแม่ของ นายวสันต์ นาสืบ อายุ 18 ปี ที่ถูกเพื่อนสาวคือนางสาวจีรนันท์ อายุ 18 ปี พาไปยังโรงแรม แห่งหนึ่งในตัวเมืองสระแก้ว ก่อนถูกเพื่อนชายชาวสวีเดน ชื่อนายโจนิส มามูด อายุ 17 ปี แทงเสียชีวิตคาที่หน้าห้องพักของโรงแรมดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2555
ล่าสุดนายโจนิส มามูด หนุ่มสวีเดนเชื้อสายอิหร่าน มือมีด ถูกฆ่าตายแล้วที่เมืองสวีเดน โดยทางการของสวีเดนระบุการถูกฆาตกรรมของนายโจนัส สืบเนื่องมาจากการแก้แค้นของคนใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพ่อและแม่ของนายวสันต์พบว่าไม่มีใครอยู่บ้านประตูบ้านถูกปิดสนิท เมื่อสอบสอบถามชาวบ้านระแวกใกล้เคียง จึงทราบว่า นางวาสนา แม่ของนายวสันต์ จะนำข้าวไปถวายพระใกล้บ้านทุกๆ วัน หลังจากนายวสันต์ถูกฆ่าตาย เพื่ออุทิศบุญกุศลไปให้นายวสันต์
หลังนางวาสนากลับจากนำข้าวไปถวายพระแล้วผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามความเป็นอยู่โดยนางวาสนาบอกว่า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ จะผ่านมาถึง 2 ปีแล้วก็ตาม แต่ตนเองกับสามียังทำใจไม่ได้ ทุกวันพอฝนตกก็จะคิดถึงลูกอยู่ตลอดเวลา โดยนางวาสนาเล่าไปพร้อมกับน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เคยมีตำรวจเข้ามาบอกข่าวอะไรเลย ปล่อยเรื่องเงียบหายไปเฉยๆ
ส่วนนางสาวจีรนันท์ที่อยู่กับลูกชายในวันเกิดเหตุตำรวจบอกว่าไม่มีหลักฐานที่จะดำเนินคดีได้ทั้งๆที่เป็นคนมาพาลูกชายไปส่วนนายโจนัส ได้มาขึ้นศาล 3 วันคือวันที่ 13 , 14 และ 15 มีนาคม 2556 แล้วก็เงียบหายไปเลย ศาลได้นัดสืบพยานในวันที่ 17และ 18 แต่นายโจนัส ไม่มา แล้วศาลก็นัดอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มาอีกเลย โดยศาลบอกว่าจะออกหมายจับ แต่จนถึงบัดนี้ คดีก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนนางสาวจีรนันท์ ได้เดินทางไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2556 และไม่เคยกลับมาอีกเลย
นางวาสนายังพาผู้สื่อข่าวเดินไปดูเล้าหมู และเล้าเป็ดไก่ ที่ยังคงเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ แต่เลิกเลี้ยงแล้ว โดยนางวาสนาบอกว่า ลูกชายตอนมีชีวิตอยู่ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง ลูกชายจะช่วยลงมาดูหมูเห็ดเป็ดไก่ ตลอด ส่วนวันนี้ สามีของนางวาสนาไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของญาติที่จังหวัดจันทบุรี ส่วนด.ญ.วรรณรัตน์ นาสืบ น้องสาวคนเดียวของนายวสันต์ บอกว่าพี่ชายมาเข้าฝัน บอกว่ายังคิดถึงพี่ชายตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่านายโจนิส ที่แทงลูกชายเสียชีวิต นางวาสนา บอกว่าไม่ทราบเรื่องเลย และไม่ได้ติดใจผู้ต้องหาชายเท่าไร แต่ติดใจนางสาวจีรนันท์มากกว่า เพราะถ้านางจีรนันท์ไม่มาพาลูกชายไปลูกชายคงไม่ถูกฆ่าตาย พร้อมยืนยันว่า ทางครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนเพราะสถานะการเป็นอยู่ ก็พอมีพอกินเท่านั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไร คงไม่มีปัญญา และก็ไม่ได้มีจิตใจที่จะไปแก้แค้นแต่อย่างใด
ด้าน ร.ต.อ.ธรรมนูญ ภูเดช ร้อยเวรเจ้าของคดี สภ.เมืองสระแก้ว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้มีการสืบพยานคือตัวผู้ต้องหาแล้ว และผู้ต้องหาไม่ได้มาตามที่ศาลสระแก้วนัดอีก ศาลจึงออกหมายจับนายโจนิสไปแล้ว แต่นายโจนิสได้หลบหนี ส่วนการที่นายโจนัสหลบหนีออกไปนอกประเทศได้อย่างไรตนเองไม่ทราบเพราะตนเองได้ทำหนังสือไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแล้วว่านายโจนิสเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายยังไม่อนุญาตให้เดินทางกลับประเทศ
ข่าวจาก:
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09UUTJOREF5T1E9PQ%3D%3D&subcatid
เห็นข่าว "หนุ่มสวีเดนแทงวัยรุ่นไทยดับเมื่อ2ปีก่อน ถูกฆ่าตาย" เวรกรรมติดจรวดจริงๆ
หนุ่มสวีเดนแทงวัยรุ่นไทยดับเมื่อ 2 ปีก่อน ล่าสุดถูกฆ่าตาย - ตร.สวีเดนสงสัยคนใกล้ชิด
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 31 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด เดินทางทางเข้าไปยังบ้านเลขที่ 508 ม. 2 ต. ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านของนายคมสันต์ และนางวาสนา นาสืบ พ่อและแม่ของ นายวสันต์ นาสืบ อายุ 18 ปี ที่ถูกเพื่อนสาวคือนางสาวจีรนันท์ อายุ 18 ปี พาไปยังโรงแรม แห่งหนึ่งในตัวเมืองสระแก้ว ก่อนถูกเพื่อนชายชาวสวีเดน ชื่อนายโจนิส มามูด อายุ 17 ปี แทงเสียชีวิตคาที่หน้าห้องพักของโรงแรมดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2555
ล่าสุดนายโจนิส มามูด หนุ่มสวีเดนเชื้อสายอิหร่าน มือมีด ถูกฆ่าตายแล้วที่เมืองสวีเดน โดยทางการของสวีเดนระบุการถูกฆาตกรรมของนายโจนัส สืบเนื่องมาจากการแก้แค้นของคนใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านพ่อและแม่ของนายวสันต์พบว่าไม่มีใครอยู่บ้านประตูบ้านถูกปิดสนิท เมื่อสอบสอบถามชาวบ้านระแวกใกล้เคียง จึงทราบว่า นางวาสนา แม่ของนายวสันต์ จะนำข้าวไปถวายพระใกล้บ้านทุกๆ วัน หลังจากนายวสันต์ถูกฆ่าตาย เพื่ออุทิศบุญกุศลไปให้นายวสันต์
หลังนางวาสนากลับจากนำข้าวไปถวายพระแล้วผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามความเป็นอยู่โดยนางวาสนาบอกว่า ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ จะผ่านมาถึง 2 ปีแล้วก็ตาม แต่ตนเองกับสามียังทำใจไม่ได้ ทุกวันพอฝนตกก็จะคิดถึงลูกอยู่ตลอดเวลา โดยนางวาสนาเล่าไปพร้อมกับน้ำตาว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เคยมีตำรวจเข้ามาบอกข่าวอะไรเลย ปล่อยเรื่องเงียบหายไปเฉยๆ
ส่วนนางสาวจีรนันท์ที่อยู่กับลูกชายในวันเกิดเหตุตำรวจบอกว่าไม่มีหลักฐานที่จะดำเนินคดีได้ทั้งๆที่เป็นคนมาพาลูกชายไปส่วนนายโจนัส ได้มาขึ้นศาล 3 วันคือวันที่ 13 , 14 และ 15 มีนาคม 2556 แล้วก็เงียบหายไปเลย ศาลได้นัดสืบพยานในวันที่ 17และ 18 แต่นายโจนัส ไม่มา แล้วศาลก็นัดอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มาอีกเลย โดยศาลบอกว่าจะออกหมายจับ แต่จนถึงบัดนี้ คดีก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนนางสาวจีรนันท์ ได้เดินทางไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้วเมื่อเดือนมีนาคม 2556 และไม่เคยกลับมาอีกเลย
นางวาสนายังพาผู้สื่อข่าวเดินไปดูเล้าหมู และเล้าเป็ดไก่ ที่ยังคงเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ แต่เลิกเลี้ยงแล้ว โดยนางวาสนาบอกว่า ลูกชายตอนมีชีวิตอยู่ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้อง ลูกชายจะช่วยลงมาดูหมูเห็ดเป็ดไก่ ตลอด ส่วนวันนี้ สามีของนางวาสนาไม่อยู่เนื่องจากเดินทางไปงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ของญาติที่จังหวัดจันทบุรี ส่วนด.ญ.วรรณรัตน์ นาสืบ น้องสาวคนเดียวของนายวสันต์ บอกว่าพี่ชายมาเข้าฝัน บอกว่ายังคิดถึงพี่ชายตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่านายโจนิส ที่แทงลูกชายเสียชีวิต นางวาสนา บอกว่าไม่ทราบเรื่องเลย และไม่ได้ติดใจผู้ต้องหาชายเท่าไร แต่ติดใจนางสาวจีรนันท์มากกว่า เพราะถ้านางจีรนันท์ไม่มาพาลูกชายไปลูกชายคงไม่ถูกฆ่าตาย พร้อมยืนยันว่า ทางครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนเพราะสถานะการเป็นอยู่ ก็พอมีพอกินเท่านั้นไม่ได้ร่ำรวยอะไร คงไม่มีปัญญา และก็ไม่ได้มีจิตใจที่จะไปแก้แค้นแต่อย่างใด
ด้าน ร.ต.อ.ธรรมนูญ ภูเดช ร้อยเวรเจ้าของคดี สภ.เมืองสระแก้ว บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้มีการสืบพยานคือตัวผู้ต้องหาแล้ว และผู้ต้องหาไม่ได้มาตามที่ศาลสระแก้วนัดอีก ศาลจึงออกหมายจับนายโจนิสไปแล้ว แต่นายโจนิสได้หลบหนี ส่วนการที่นายโจนัสหลบหนีออกไปนอกประเทศได้อย่างไรตนเองไม่ทราบเพราะตนเองได้ทำหนังสือไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองแล้วว่านายโจนิสเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตายยังไม่อนุญาตให้เดินทางกลับประเทศ
ข่าวจาก: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09UUTJOREF5T1E9PQ%3D%3D&subcatid