เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ขณะที่ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ คำสนิท พนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน รับแจ้งเหตุยนต์เก๋งตกจากภูทับเบิกบริเวณจุดชมวิว หมู่16 ต.วังบาน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก
ที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตกว้างประมาณ3 เมตร สำหรับให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าไปยังจุดกางเต็นท์ และชมวิวทะเลหมอก เป็นจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิก มีความสูงประมาณ 1,768 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งไม่อนุญาตให้นำรถทุกชนิดขึ้นไป โดยตรงจุดเกิดเหตุเป็นหน้าผาสูงประมาณ 180 -200 เมตร พบรั้วไม้กั้นริมหน้าผาพังเป็นช่อง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจึงใช้วิธีโรยตัวลงไปตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากรถ
ทั้งนี้การค้นหาและช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมืดประกอบกับสภาพป่าที่รกทึบ เปียกชื้น ต่อมาพบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฬ 490 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ก้นเหว สภาพรถพังยับเป็นเศษเหล็ก พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย ถูกอัดก็อปปี้ติดคาเบาะคนขับยังไม่ทราบชื่อซึ่งคาดว่าเป็นคนขับ และข้างคนขับพบศพ น.ส.มะลิจันทร์ อุ่นเพ็ง อายุ 33 ปี ชาว ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ถ.ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ยังพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 ราย ยังมาทราบชื่อ อายุราว 30 ปี ติดคาอยู่ที่เบาะหลัง อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำร่างคนเจ็บส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมเสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 3 ราย
สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงปรอยๆ และมีหมอกลงหนาจัด ได้มีรถคันดังกล่าวขับมาจอดที่บริเวณหน้าศูนย์วิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 150 เมตร จากนั้นมีคนลงมาสอบถามเรื่องที่พักกางเต็นท์ค้างแรม ซึ่งก็ได้บอกสถานที่กางเต็นท์ให้ทราบ สักครู่รถคันดังกล่าวได้ขับขึ้นไปตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนพุ่งชนรั้วกั้นหน้าผา ตกลงไปเบื้องล่าง เบื้องต้นคาดว่าคนขับอาจไม่ชำนาญพื้นที่ และอาจไม่เห็นป้ายห้ามนำรถขึ้นไปในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09UUTFORFkyTXc9PQ==&utm_source=twitterfeed&utm_medium=facebook
สลด สาวพยาบาล ขับเก๋งหาจุดกางเต็นท์ บนภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พลาดตกเหว ตรงจุดชมวิว - เสียชีวิตหมด 3 ศพ
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2557 ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ขณะที่ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ คำสนิท พนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน รับแจ้งเหตุยนต์เก๋งตกจากภูทับเบิกบริเวณจุดชมวิว หมู่16 ต.วังบาน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก
ที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตกว้างประมาณ3 เมตร สำหรับให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าไปยังจุดกางเต็นท์ และชมวิวทะเลหมอก เป็นจุดชมวิวสูงสุดของภูทับเบิก มีความสูงประมาณ 1,768 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งไม่อนุญาตให้นำรถทุกชนิดขึ้นไป โดยตรงจุดเกิดเหตุเป็นหน้าผาสูงประมาณ 180 -200 เมตร พบรั้วไม้กั้นริมหน้าผาพังเป็นช่อง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจึงใช้วิธีโรยตัวลงไปตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากรถ
ทั้งนี้การค้นหาและช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมืดประกอบกับสภาพป่าที่รกทึบ เปียกชื้น ต่อมาพบรถยนต์เก๋ง ฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ษฬ 490 กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ก้นเหว สภาพรถพังยับเป็นเศษเหล็ก พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 2 ราย ถูกอัดก็อปปี้ติดคาเบาะคนขับยังไม่ทราบชื่อซึ่งคาดว่าเป็นคนขับ และข้างคนขับพบศพ น.ส.มะลิจันทร์ อุ่นเพ็ง อายุ 33 ปี ชาว ต.อำนาจ อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ เป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ถ.ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ยังพบผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 ราย ยังมาทราบชื่อ อายุราว 30 ปี ติดคาอยู่ที่เบาะหลัง อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำร่างคนเจ็บส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชหล่มเก่า แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมเสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 3 ราย
สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงปรอยๆ และมีหมอกลงหนาจัด ได้มีรถคันดังกล่าวขับมาจอดที่บริเวณหน้าศูนย์วิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 150 เมตร จากนั้นมีคนลงมาสอบถามเรื่องที่พักกางเต็นท์ค้างแรม ซึ่งก็ได้บอกสถานที่กางเต็นท์ให้ทราบ สักครู่รถคันดังกล่าวได้ขับขึ้นไปตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนพุ่งชนรั้วกั้นหน้าผา ตกลงไปเบื้องล่าง เบื้องต้นคาดว่าคนขับอาจไม่ชำนาญพื้นที่ และอาจไม่เห็นป้ายห้ามนำรถขึ้นไปในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd09UUTFORFkyTXc9PQ==&utm_source=twitterfeed&utm_medium=facebook