อ่านกระทู้แนะนำ สถาบันการเงิน แบงคชาติ ในห้องสีลม ซาบซึ้งในระบบทุนนิยม ปลาใหญ่กินปลาเล็ก และ ไม่มีใครอยากช่วยเหลือใครจริงๆ ธนาคารและ สถาบันการเงินไทยตอนนี้ ก็เสือนอนกินดีๆนี่เอง อัตราดอกเบี้ย ผิดกฎหมาย ก็ใช้นักกฎหมายชั้นหัวกะทิ จากจุฬ่า ธรรมศาสตร์ สถาบันแห่งปัญญาชนเบี่ยงเบนเลี่ยงบาลีให้ไม่ผิดได้ วันก่อนเจอความเห็นจะสมัครนักกฎหมายแบงค์ ต้องหัวกะทิระดับเกียรตินิยมเท่านั้น เพื่อมาทำสิ่งนี้เนี่ยนะ ผมว่าคนในวงการการเงิน การธนาคาร และ วงการกฎหมาย รู้แก่ใจดีทุกคนอะ ว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ ที่เบี่ยงเบนเป็นค่าธรรมเนียมที่เก็บๆ กันอยู่ในปัจจุบัน เป็นการเลี่ยงบาลีกฎหมาย แต่ไม่มีใครสนใจที่จะลุกขึ้นมาไฝว้ กับ สถาบันการเงินเหล่านี้ให้ประชาชนหรอก ตราบใดที่ตนยังอยู่ดีกินดี หรือ ได้ดิบได้ดีกับระบบดังกล่าว
โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เขาให้บางอย่างคุณมา และ เอาบางอย่างจากคุณไป ไม่มีคนที่ทำอะไรเพื่อคุณโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทอดตาทั่วแผ่นดิน ไม่มี ต่อให้ที่คิดว่าใช่ก็ไม่ใช่ ล้วนเป็นระบบ Give and Take คือให้บางสิ่ง และเอาบางสิ่งไป จริงๆแล้วเราต้องชั่งใจเอาเองว่าคุ้ม หรือ ไม่คุ้ม
เคยสงสัยว่า แล้วทำไมไม่เชื่อในระบบที่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลโดยสังคมที่หลากหลาย บนพื้นฐานว่าทุกคนต่างเห็นประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และพวกพ้อง และสะท้อนเป็นความต้องการของสังคมอย่างซื้อสัตย์กับตนเอง พอสะท้อนออกมาเป็นสังคมโดยรวมมันก็จะถ่วงดุลไม่ให้ถูกลากไปด้านใดด้านหนึ่งเอง
แต่ทุกคนถูกสอนให้หวังว่าจะมีคนดีที่ทำเพื่อท่านอย่างจริงใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน มีแต่ Give ไม่มี Take อุดมคติอย่างนั้นทำไมคนไทยถึงได้เชื่อว่ามันมีอยู่จริงล่ะครับ ? หรือมันเป็นแค่ ศาสตร์แห่งการปกตรอง คนดีแค่ไหน พอมีเรื่องเกี่ยวกับ คนรัก ครอบครัว ลูกหลาน ญาติพี่น้อง กับคนกลุ่มอื่นๆ ก็ต้องเอาพวกตัวเองก่อนด้วยกันทั้งนั้น ถ้าจะยอมรับความจริงกันน่ะนะ
หรือจริงๆ ก็ไม่ได้มีความเชื่อแบบนั้นเช่นกัน แต่พอดีว่า อยู่ในจุดที่คิดว่าเป็นฝ่ายได้อยู่ก็เลย เลยตามเลยตามน้ำไป?
สังคมไทย ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ทุกอย่างเป็น Give and Take มือใครยาวสาวได้สาวเอา
โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ เขาให้บางอย่างคุณมา และ เอาบางอย่างจากคุณไป ไม่มีคนที่ทำอะไรเพื่อคุณโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ทอดตาทั่วแผ่นดิน ไม่มี ต่อให้ที่คิดว่าใช่ก็ไม่ใช่ ล้วนเป็นระบบ Give and Take คือให้บางสิ่ง และเอาบางสิ่งไป จริงๆแล้วเราต้องชั่งใจเอาเองว่าคุ้ม หรือ ไม่คุ้ม
เคยสงสัยว่า แล้วทำไมไม่เชื่อในระบบที่มีการตรวจสอบและถ่วงดุลโดยสังคมที่หลากหลาย บนพื้นฐานว่าทุกคนต่างเห็นประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และพวกพ้อง และสะท้อนเป็นความต้องการของสังคมอย่างซื้อสัตย์กับตนเอง พอสะท้อนออกมาเป็นสังคมโดยรวมมันก็จะถ่วงดุลไม่ให้ถูกลากไปด้านใดด้านหนึ่งเอง
แต่ทุกคนถูกสอนให้หวังว่าจะมีคนดีที่ทำเพื่อท่านอย่างจริงใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน มีแต่ Give ไม่มี Take อุดมคติอย่างนั้นทำไมคนไทยถึงได้เชื่อว่ามันมีอยู่จริงล่ะครับ ? หรือมันเป็นแค่ ศาสตร์แห่งการปกตรอง คนดีแค่ไหน พอมีเรื่องเกี่ยวกับ คนรัก ครอบครัว ลูกหลาน ญาติพี่น้อง กับคนกลุ่มอื่นๆ ก็ต้องเอาพวกตัวเองก่อนด้วยกันทั้งนั้น ถ้าจะยอมรับความจริงกันน่ะนะ
หรือจริงๆ ก็ไม่ได้มีความเชื่อแบบนั้นเช่นกัน แต่พอดีว่า อยู่ในจุดที่คิดว่าเป็นฝ่ายได้อยู่ก็เลย เลยตามเลยตามน้ำไป?